review: Hotel Transylvania 2
ไม่สนุก ไม่ผ่าน สิ่งที่ดีงามในภาคแรกหายไปเกือบหมดเลย แม้จะยังสื่อความรักของคุณพ่อที่มีต่อลูกหลานได้ค่อนข้างดี แต่การเล่าเรื่องโดยรวมถือว่าแย่มาก ไม่สนุก!
.
นี่คือแอนิเมชั่นภาคต่อของ Hotel Transylvania ภาคแรกที่ฉายเมื่อ 3 ปีก่อน เป็นเรื่องของ Count Dracula ที่เปิดปราสาทของตัวเองเป็นโรงแรมสำหรับเหล่าภูติผีและเพื่อปกป้องลูกสาวสุดที่รักของตนจากความโหดเหี้ยมของมนุษย์ แต่แล้วอยู่ ๆ ก็มีหนุ่มเกรียนคนนึงหลงเข้ามาพักที่โรงแรมและพบรักกับแวมไพร์สาวเข้า เรื่องวุ่น ๆ จึงเกิดขึ้น แล้วก็ลงเอยแบบแฮปปี้
.
ภาค 2 เล่าเรื่องต่อจากภาคแรกทันที เปิดมาด้วยฉากแต่งงานระหว่างเมวิสและโจนาธาน จนทั้งสองมีลูกชื่อ เดนนิส ... แดร็กคูล่าดีใจที่ได้มีหลาน และพยายามสุดตัวที่จะฝึกเจ้าหนูน้อยให้เป็นแวมไพร์ แต่ดูเหมือนว่าเดนนิสผู้น่ารักคนนี้จะไม่มีพลังปีศาจแบบคุณตาเลย ... ถ้าเดนนิสเป็นคนธรรมดา สักวันเขากับแม่ก็ต้องทิ้งปราสาท Dracula ไปอยู่กับมนุษย์แน่ ๆ เพราะฉะนั้นคุณตาแดร็กต้องปลุกความเป็นปีศาจในตัวหลานชายออกมาให้จงได้!!
.
ซึ่งคนที่มาช่วยปลุกสัญชาติญาณปีศาจก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็พวกลุง ๆ เพื่อนซี้ของป๋าแดร็กนั่นแหละ ... แฟรงเก้นสไตน์ มัมมี่ มนุษย์หมาป่า มนุษย์ล่องหน ... ปัญหาคือทักษะสยองของแต่ละตัวขึ้นสนิมกันหมดแล้ว ความน่ากลัวไม่มีเลย ออกจะฮาซะมากกว่า (โดยเฉพาะลุงมัมมี่ โผล่ทีไรฮาทุกฉาก)
.
ปัญหาใหญ่ของเรื่องนี้คือเดาง่าย และเล่าเรื่องได้เนิบนิ่งมาก ไม่พีค ไม่เศร้า ไม่อิน หาความสนุกแบบภาคแรกแทบไม่เจอ มีมุกตลกยิงมาให้ขำบ้างแต่ก็ขำแบบ หึๆ ไม่ได้ฮาลั่นอะไรมากมาย แถมมาไม่ถูกจังหวะด้วย ... บางมุกเป็นมุกตลกแบบฝรั่งที่ค่อนข้างลึก ซึ่งไม่ว่าจะแปลเป็นไทยยังไงมันก็ไม่ค่อยขำอยู่ดี
.
เหตุการณ์ในเรื่องดำเนินไปแบบเรื่อย ๆ ... อ้อ เหรอ แล้วยังไงต่อ อาฮะ อืม อือฮึ แล้วไง เมื่อไรจะสนุกอ่ะ? อ้อ แล้วยังไง เออ อาฮะ อาา งืมม โอเค อาา แค่นี้เหรอ เอ้อ อืมม นี่คือจะจบแล้วใช่ป่ะ เออ จบแล้วนะ บายยยย ...
.
มีตัวละครใหม่ที่ดูเหมือนจะมีอะไร แต่ก็ไม่มี ... ตัวสำคัญเลยก็คือ แวมไพร์วลาด พ่อของ Dracula ที่กว่าจะออกมาก็ท้ายเรื่องแล้ว แถมไม่มีจุดเด่นอะไรเลย เป็นตัวประกอบโคตร ๆ
.
กระนั้นก็ตาม สิ่งที่ยังคงสื่อได้ชัดเจนและทำให้ประทับใจเช่นเดียวกับภาคที่แล้ว คือความรักของ Dracula ที่มีให้กับลูกสาวอย่างเหลือล้น และภาคนี้ความรักนั้นได้ถูกส่งต่อมายังหลานชายตัวน้อยด้วย เหมาะสำหรับครอบครัวนั่งดูด้วยกันแล้วให้พ่อลูกได้กอดกัน ... แต่แนะนำว่ารอดูแผ่นที่บ้านดีกว่าครับ มาดูในโรงจะเสียดายตังค์เปล่า ๆ
.
มันขำ มันซึ้ง แต่พอเล่าเรื่องแบบเนิบ ๆ แล้วอารมณ์ไหนมันก็ไปไม่สุดสักอย่าง เหมือนเล่าเหตุการณ์แต่ละอย่างให้ผ่าน ๆ ไปโดยไม่มีชั้นเชิงอะไรเลย ภาคแรกสนุกกว่ามาก ๆ ๆ ๆ
.
แต่นอกจากความรักของพ่อที่เสนอได้โดดเด่นแล้ว อีกองค์ประกอบที่ชอบของเรื่องนี้คือ งานภาพที่สวยสุดยอด ... ไม่ได้ดูในระบบ 3D แต่รู้สึกเลยว่าภาพลึกและมีหลาย layer พอสมควร ฉากสวยสมจริงดี เราจะได้เห็นขุนเขาของทรานซิลเวเนียในมุมมองที่สวยสมจริงสุด ๆ ดูแล้วอยากไปเที่ยวเลย
.
สรุปคือไม่สนุก ไม่แนะนำ รอดูแผ่นหรือดูออนไลน์ดีกว่านะ
โดยนักวิจารย์รายเดิม Champ Christof
https://www.facebook.com/champ.christof?fref=ts
Review: Hotel Transylvania 2 (โรงแรมผี หนีไปพักร้อน 2)
ไม่สนุก ไม่ผ่าน สิ่งที่ดีงามในภาคแรกหายไปเกือบหมดเลย แม้จะยังสื่อความรักของคุณพ่อที่มีต่อลูกหลานได้ค่อนข้างดี แต่การเล่าเรื่องโดยรวมถือว่าแย่มาก ไม่สนุก!
.
นี่คือแอนิเมชั่นภาคต่อของ Hotel Transylvania ภาคแรกที่ฉายเมื่อ 3 ปีก่อน เป็นเรื่องของ Count Dracula ที่เปิดปราสาทของตัวเองเป็นโรงแรมสำหรับเหล่าภูติผีและเพื่อปกป้องลูกสาวสุดที่รักของตนจากความโหดเหี้ยมของมนุษย์ แต่แล้วอยู่ ๆ ก็มีหนุ่มเกรียนคนนึงหลงเข้ามาพักที่โรงแรมและพบรักกับแวมไพร์สาวเข้า เรื่องวุ่น ๆ จึงเกิดขึ้น แล้วก็ลงเอยแบบแฮปปี้
.
ภาค 2 เล่าเรื่องต่อจากภาคแรกทันที เปิดมาด้วยฉากแต่งงานระหว่างเมวิสและโจนาธาน จนทั้งสองมีลูกชื่อ เดนนิส ... แดร็กคูล่าดีใจที่ได้มีหลาน และพยายามสุดตัวที่จะฝึกเจ้าหนูน้อยให้เป็นแวมไพร์ แต่ดูเหมือนว่าเดนนิสผู้น่ารักคนนี้จะไม่มีพลังปีศาจแบบคุณตาเลย ... ถ้าเดนนิสเป็นคนธรรมดา สักวันเขากับแม่ก็ต้องทิ้งปราสาท Dracula ไปอยู่กับมนุษย์แน่ ๆ เพราะฉะนั้นคุณตาแดร็กต้องปลุกความเป็นปีศาจในตัวหลานชายออกมาให้จงได้!!
.
ซึ่งคนที่มาช่วยปลุกสัญชาติญาณปีศาจก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็พวกลุง ๆ เพื่อนซี้ของป๋าแดร็กนั่นแหละ ... แฟรงเก้นสไตน์ มัมมี่ มนุษย์หมาป่า มนุษย์ล่องหน ... ปัญหาคือทักษะสยองของแต่ละตัวขึ้นสนิมกันหมดแล้ว ความน่ากลัวไม่มีเลย ออกจะฮาซะมากกว่า (โดยเฉพาะลุงมัมมี่ โผล่ทีไรฮาทุกฉาก)
.
ปัญหาใหญ่ของเรื่องนี้คือเดาง่าย และเล่าเรื่องได้เนิบนิ่งมาก ไม่พีค ไม่เศร้า ไม่อิน หาความสนุกแบบภาคแรกแทบไม่เจอ มีมุกตลกยิงมาให้ขำบ้างแต่ก็ขำแบบ หึๆ ไม่ได้ฮาลั่นอะไรมากมาย แถมมาไม่ถูกจังหวะด้วย ... บางมุกเป็นมุกตลกแบบฝรั่งที่ค่อนข้างลึก ซึ่งไม่ว่าจะแปลเป็นไทยยังไงมันก็ไม่ค่อยขำอยู่ดี
.
เหตุการณ์ในเรื่องดำเนินไปแบบเรื่อย ๆ ... อ้อ เหรอ แล้วยังไงต่อ อาฮะ อืม อือฮึ แล้วไง เมื่อไรจะสนุกอ่ะ? อ้อ แล้วยังไง เออ อาฮะ อาา งืมม โอเค อาา แค่นี้เหรอ เอ้อ อืมม นี่คือจะจบแล้วใช่ป่ะ เออ จบแล้วนะ บายยยย ...
.
มีตัวละครใหม่ที่ดูเหมือนจะมีอะไร แต่ก็ไม่มี ... ตัวสำคัญเลยก็คือ แวมไพร์วลาด พ่อของ Dracula ที่กว่าจะออกมาก็ท้ายเรื่องแล้ว แถมไม่มีจุดเด่นอะไรเลย เป็นตัวประกอบโคตร ๆ
.
กระนั้นก็ตาม สิ่งที่ยังคงสื่อได้ชัดเจนและทำให้ประทับใจเช่นเดียวกับภาคที่แล้ว คือความรักของ Dracula ที่มีให้กับลูกสาวอย่างเหลือล้น และภาคนี้ความรักนั้นได้ถูกส่งต่อมายังหลานชายตัวน้อยด้วย เหมาะสำหรับครอบครัวนั่งดูด้วยกันแล้วให้พ่อลูกได้กอดกัน ... แต่แนะนำว่ารอดูแผ่นที่บ้านดีกว่าครับ มาดูในโรงจะเสียดายตังค์เปล่า ๆ
.
มันขำ มันซึ้ง แต่พอเล่าเรื่องแบบเนิบ ๆ แล้วอารมณ์ไหนมันก็ไปไม่สุดสักอย่าง เหมือนเล่าเหตุการณ์แต่ละอย่างให้ผ่าน ๆ ไปโดยไม่มีชั้นเชิงอะไรเลย ภาคแรกสนุกกว่ามาก ๆ ๆ ๆ
.
แต่นอกจากความรักของพ่อที่เสนอได้โดดเด่นแล้ว อีกองค์ประกอบที่ชอบของเรื่องนี้คือ งานภาพที่สวยสุดยอด ... ไม่ได้ดูในระบบ 3D แต่รู้สึกเลยว่าภาพลึกและมีหลาย layer พอสมควร ฉากสวยสมจริงดี เราจะได้เห็นขุนเขาของทรานซิลเวเนียในมุมมองที่สวยสมจริงสุด ๆ ดูแล้วอยากไปเที่ยวเลย
.
สรุปคือไม่สนุก ไม่แนะนำ รอดูแผ่นหรือดูออนไลน์ดีกว่านะ
โดยนักวิจารย์รายเดิม Champ Christof https://www.facebook.com/champ.christof?fref=ts