สอบถาม คุณพ่อคุณแม่ที่ให้ลูกเรียน รร.อนุบาลฤทธิยะ EC และสารสาส สายไหม ค่ะ

กระทู้คำถาม
1.ผลตอบรับด้านภาษาน้องดีไหมค่ะ (คืออนาคตกะจะยิงยาวต่อประถม EC ที่นี่ค่ะ ) หากเทียบกับสารสาส สายไหม ที่ไหน ดีกว่ากันค่ะ??
2.จบ อ.3 แล้วไปต่อประถมฤทธิยะ EC ได้เลยหรือไม่ค่ะ หรือต้องเริ่มสมัครรอลุ้นว่าห้องจะเต็มหรือเปล่าค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เข้ามาตอบ เพราะลูกสาว 2 คน เรียนจบจาก EC อนุบาลฤทธิยะวรรณาลัย และกำลังเรียนอยู่ในภาค EP ของโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย (ประถม) ป.5 และ ป. 6 พอดีค่ะ ทั้ง 2 โรงเรียนไม่มีอะไรเกี่ยวโยงกันโดยตรงนะคะ ขอสรุปให้ดังนี้ ค่ะ
1. อนุบาลฤทธิยะะวรรณาลัยที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ รพ.ภูมิพลฯ เป็นโรงเรียนเอกชนสังกัดกรมยุทธศึกษา กองทัพอากาศ เปิดสอนในระดับ เตรียมอนุบาล - อนุบาล 3 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ห้องเรียน EC เรียนห้องปรับอากาศ มีครูดูแล 1 คน และครูผุ้ช่วย 1 คน และมี Teacher เข้าสอนทุกวัน กลุ่มที่ 2 เป็นแบบเรียนไทยปกติเรียนห้องพัดลม ครู 1 ครูผู้ช่วย 1
2.ผลตอบรับด้านภาษาน้องดีไหม : ในระดับชั้นอนุบาลเด็กๆ ที่นี่จะได้รับการฝึกฝนทักษะตามวัย เน้นเรื่องความกล้าในการสื่อสาร การแสดงออก ทักษะก็ไม่ได้เข้มข้นมากมาย แต่ก็คุ้นชินกับการสื่อสารเบื้องต้น เอาจริงๆ แล้ว ผปค.ก็ต้องเข้ามาช่วยต่อยอดให้ลูกๆ ด้วยนะคะ ทั้งในส่วนของการฝึกฝน การท่องศัพท์พื้นฐาน การทักทายให้เป็นกิจวัตร
3.ต่อเนื่องจากข้อ 2 เมื่อลูกเรียนจบจาก อนุบาลฤทธิยะวรรณาลัยแล้ว ก็เตรียมตัวน้องเพื่อไปสมัครเข้าเรียนต่อที่ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย (ประถม) ซึ่งเป็น รร.ที่สังกัด กทม.ค่ะ ที่นี่ก็มีหลักสูตร แบบห้องธรรมดา (ฟรี)  ห้อง EC (มี คชจ.บางส่วน) ห้อง EP  (ฟรี) ห้อง EC แตกต่างจาก EP อย่างไร อธิบายดังนี้ค่ะ
   - ห้อง EC เด็กๆ ก็เรียนภาคไทยปกติแหละค่ะ แต่ ด้วย ผปค.มีความประสงค์จะให้ลูกได้รับการฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษ ต่อเนื่องจากอนุบาล จึงต้องมี คชจ.เพื่อให้ รร.นำไปจัดจ้าง Teacher มาสอนภาษา E ทุกวัน (ไม่แน่ใจว่ามีกี่ห้องในแต่ละระดับชั้นนะคะ) กรณีไม่เรียน EC เด็กๆ จะได้รับการเรียนภาษาอังกฤษแบบพื้นฐานมากๆ ไม่แน่ใจนะคะว่า เริ่มเรียนกัน ป.อะไร ทราบเพียงว่า เนื้อหาจะยังไม่เข้มข้นค่ะ
    - ห้อง EP ในส่วนนี้ลูกสาวเรียนอยู่ค่ะ เด็กที่จะเรียนต่อในห้อง EP จะต้องสอบคัดเลือก 3 รอบค่ะ รอบแรกสอบภาคไทยเนื้อหาทั่วไป อันต้องเตรียมตัวนะคะต้องติว หาหนังสือเตรียมสอบมาฝึกฝนทำไปเรื่อยๆ เลย วิชาทั่วไปค่ะ พวกเลข ภาษาไทย สังคม ทั่วไป รอบ 2 สอบภาษาอังกฤษล้วนๆ เลยค่ะ รอบ 3 สัมภาษณ์ ทั้งเด็ก และ ผปค.ค่ะ บอกได้เลยว่า เด็กๆ ห้อง EP เรียนหนักนะคะ เพราะต้องเรียน 2 หลักสูตรไปพร้อมๆ กัน เด็กห้องไทยเรียนอะไร เด็ก EP ก็ต้องเรียนเหมือนเด็กไทย แต่ จะต้องเรียนในภาคภาษาอังกฤษอีก 5 วิชา ได้แก่ Math, Science, Health, Art, English (เหนื่อยมาก) อ้อ ในเด็ฏไทยยังมีห้องคิงส์อีกนะคะ กลุ่มนี้เก่งจริงๆ มีการสอบวัดระดับ คัดเข้า คัดออกทุกปีที่เลื่อนชั้น ใครไม่อยู่ในมาตรฐานสามารถตกมาอยู่ห้องไทยธรรมดาได้ทุกเมื่อ เด็กๆ ห้องคิงส์จึงเป็นเด็กที่เรียหนัก ถูกฝึกฝน เคี่ยวกรำหนักมาก เพราะเป็นเด็กกลุ่มที่จะต้องไปสอบชิงทุน กทม.หรือสอบในสนามต่างๆ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ โรงเรียนด้วยค่ะ
     - เด็ก EP จะมีเวลาพักทานอาหารกลางวันแค่ครึ่ง ชม. เพราะต้องรีบขึ้นมาเรียนเสริมภาคไทยให้ครบคาบเรียนตามหลักสูตร และจะต้องเรียนเสริมอีก ครึ่ง ชม.ในขณะที่เด็กภาคไทยเลิกเรียนกลับบ้านไปแล้ว แต่สิ่งที่เด็กกลุ่มนี้ได้รับ คือ ทักษะทางด้านภาษา ที่จะได้ พูด ฟัง อ่าน เขียน กับ Teacher ชาวฟิลิปินส์ล้วนๆ นะคะ ไม่มี Native ปนเลย เพราะ ฟรีค่ะ ย้ำๆๆเลยว่า กทม.จัดให้ฟรีไม่มี คชจ. หนังสือเรียนทั้งหมดในภาค EP ก็ฟรีนะคะไม่เสีย คชจ.เลย แถมมีอาหารเช้า อาหารกลางวันให้ฟรีด้วย เปิดสอน 4 ห้อง จาก ทั้งหมดประมาณ 18 ห้อง (เยอะมากกกกนะ)
3. เทียบกับ โรงเรียนสารสาสน์สายไหมได้ไหม ดิฉันไม่แน่ใจนะคะ เพราะสารสาสน์เป็นโรงเรียนเอกชน ผปค.ต้องเสีย คชจ. ยิ่งเรียนสองภาษาด้วยค่าเทอมคงไม่ต่ำกว่า 25000 บาทต่อเทอมคุณแม่ลองหาข้อมูลดูนะคะ จำนวนเด็กในห้องอีกก็ไม่แน่ใจว่าสารสาสน์จัดให้ห้องละกี่คน แต่ที่ EP  ฤว.มีจำนวน นร. ไม่เกิน 30 คนค่ะ ก็ไม่แออัด แต่ถ้าเด็กภาคไทยนี่น่าจะ 40 กว่าคน ขนาดห้องเท่ากัน แต่เด็กมากกว่ากันค่ะ
4. เด็ก EP การบ้านเยอะ ชิ้นงานก็เยอะมาก ทำกันแทบจะทุกวัน พ่อ แม่ เหนื่อยหน่อยต้องคอยช่วยลูกๆ ตามงานอย่าให้หลุดนะคะ ไม่งั้น สะสมพอกพูนเยอะมากๆ กระเป๋าที่แบกไปเรียนทุกวันหนักมาก ไหนจะภาคไทย ไหนจะภาค Ep
5. วกกลับมาเรื่องคุณภาพ และทักษะทางภาษา ถ้าเราใส่ใจลูก ฝึกฝนลูก ที่นี่ก็ไม่น้อยหน้าใครนะคะ ในส่วนของ คชจ.สามารถผ่อนเบาภาระให้ ผปค.ได้เยอะมากทีเดียว สำหรับที่บ้านเอง ก็นำงบประมาณที่ควรจะจ่ายค่าเทอมใน รร.เอกชน มาเสริมทักษะด้านอื่นๆ ให้ลูกแทนค่ะ เพราะ ถ้าคุณแม่ไม่คิดว่าจะให้ลูกต่อ EP ในระดับ มัธยม คุณแม่ต้องเสริมทักษะวิชาการในภาคไทยให้ลูกนะคะ ยิ่งถ้าต้องไปสอบแข่งขันในชั้น ม.1 แข่งกับเด็ฏห้องคิงส์ เด็กห้องไทยธรรมดาด้วยอีก เด็ก EP จะอ่อนกว่าค่ะ ในรายที่เก่งอยู่แล้ว พ่อแม่ใส่ใจดี ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
6. เด็กๆ ที่บ้านจึงต้องเรียนพิเศษเสริมในรายวิชาพื้นฐานที่จะสอบเข้า ม.1 คือ เลข วิทย์ ไทย สังคม ส่วนภาษาอังกฤษ เด็ก EP ค่อนข้างจะมีทักษะดีพอสมควร เพราะเรียนหนักมาตลอด 6 ปีแล้ว ส่วนหนึ่งก็จัดให้ลูกๆ ได้เดินทางไปท่องเที่ยว ตปท.ทุกปีตามสมควรเพื่อฝึกฝนให้ลูกมี ปสก.ได้สื่อสารกับชาวต่างชาติ ปสก.ในการเดินทางที่อาจจะมองไม่เห็นในวันนี้แต่แม่หวังว่าจะสะสมในตัวลูกไปเรื่อยๆ จนเกิดมุมมองในโลกกว้างต่อยอดไปในอนาคต อันนี้แล้วแต่มุมมองแต่ละบ้านนะคะ
     คงให้ข้อมูลได้ประมาณนี้ค่ะ หวังว่าจะทำให้ คุณพ่อ คุณแม่ได้เป็นข้อมูลพอสังเขปนะคะ สังสัยด้านอื่นๆ สอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ ตอนนี้นึกออกแค่นี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่