สวัสดีทุกคนนะครับ ขอบคุณที่เข้ามาช่วยอ่านเรื่องของผม ผมมีเรื่องราวที่ยังทำให้ผมหาความสุขไม่ได้ในชีวิตมาถึงตอนนี้ อย่างน้อยการที่ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา มันก็เป็นการที่ผมได้ระบายสิ่งที่มันจุกแน่นอยู่ในใจ ผมอยากให้ทุกคนที่อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกสงสาร หรือสมน้ำหน้าผม ช่วยแชร์กระทู้นี้ต่อนะครับ เผื่อวันนึงเธอจะได้อ่านมัน ผมเชื่อว่าเธอต้องจำผมได้แน่นอน เริ่มกันเลยนะครับ ....
เรื่องมันเริ่มจากการที่ผมเข้าเรียนต่อปวช.ในวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งของหาดใหญ่ ทำให้ผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนนึงเธอเป็นรุ่นพี่ในสาขาของผมครับ อยู่ปวช.2 แต่เราเกิดปีเดียวกัน เธอเรียนห้องเดียวกันกับพี่รหัสของผม ทำให้ผมรู้ว่าเธอชอบและสนใจในตัวผม เธอกดติดตามและชอบเข้ามาไลค์โพสผมในเฟสครับ ผมเลยแอดเฟสเธอไป จนเราคุยกันได้ประมาณเดือนนึง เราเลยตัดสินใจคบกัน ช่วงแรกๆความรักของเราก็เหมือนคู่วัยรุ่นหนุ่มสาวทั่วไปครับ มีงอนกันบ้างตามประสา พอเข้าประมาณเดือนที่สามเราเลิกกันครับ แต่แค่สองสามวันผมก็ไปง้อขอคืนดีเธอ เราเป็นแบบนี้ประจำครับ เหตุผลหลักๆก็มาจากตัวผมนี่แหละครับ เกเร ติดเพื่อนบ้าง แต่ผู้หญิงคนอื่นบ้าง เลิกกันแต่ไม่เกินสามวันผมก็ไปง้อเธอทุกครั้ง ยิ่งคบกัน ยิ่งศึกษากัน ก็ดูเหมือนว่าเราจะไปกันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงประมาณเดือนที่ 9 ครับ ผมกับเธอเลิกกันอีกครั้ง เลิกกันได้ 3 วัน ผมมีแฟนใหม่เลยครับ เป็นรุ่นพี่ในวิทยาลัย เรียนปวส2 อายุห่างกัน4ปี เธอก็พยายามมาง้อ แต่ตอนนั้นไม่รู้เป็นเพราะอะไร ผมหลงผู้หญิงอีกคนมาก ไม่แคร์ความรู้สึกเธอเลย จนเธอมีแฟนใหม่ ตอนนั้นทำให้ผมคิดได้ ว่าคนที่เหมาะสมและผมต้องการ มีแค่เธอเท่านั้น ผมจึงพยายามทักแชทเธอ โทรหาเธอ แรกๆเธอก็ไม่ตอบ ตอนผมตื้อเธอหนักมาก จนเราได้คุยกัน คืนนั้นผมบอกเธอว่าขอเจอเธอเป็นครั้งสุดท้ายได้มั๊ย เธอจึงยอมออกมาหาผม เรานัดเจอกันที่เงียบๆที่นึงครับ ไปถึงต่างฝ่ายต่างนั่งเงียบไม่ใครคุยไรกัน จนผมเอ่ยปากถามเธอ ว่าสบายดีมั๊ย เธอก็ตอบประชดผม คุยๆไปสักพัก น้ำตาผมมันก็ไหลออกมาครับ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมยอมเสียน้ำตาให้ ผมร้องขอโอกาสจากเธออีกครั้ง เธอให้โอกาสผม ผมสัญญาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย คืนนี้เรานั่งกอดกัน ร้องไห้กันนานมาก ... หลังจากคืนนั้นผมพยายามตีตัวออกห่างจากผู้หญิงที่ผมคบด้วยครับ เธอก็ใช้วิธีนี้กับคนของเธอเหมือนกัน จนในที่สุดเราก็ได้กลับมาคบกัน ครั้งนี้ผมเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ไม่เคยหันมองผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากเธอ พาเธอไปรู้จักญาติๆผู้ใหญ่ทุกคนในบ้าน ครอบครัวผมค่อนข้างใหญ่ครับ ทุกคนในบ้านทั้งพี่ ป้า น้า อา พ่อ (พ่อกับแม่เลิกกัน) น้องๆ หลานๆ รักเธอและเอ็นดูเธอมากครับ โดยเฉพาะย่าของผม ท่านรักของท่านมาก เวลาเราทะเลาะกันแล้วท่านทราบ ท่านก็จะดุผม ทุกครั้งที่ผมกลับไปบ้าน (ผมอยู่หอพัก) ท่านก็จะถามทุกครั้งว่าทำไมไม่พาเธอมาด้วย เวลาที่ผมดื้อ เกเร (เที่ยว กินเหล้า มีปัญหาที่วิทยาลัย) เธอกับครอบครัวก็จะแท็คทีมกันจัดการผม ชีวิตช่วงนั้นผมมีความสุขมากๆครับ เป็นความสุขที่แท้จริงที่ผมไม่เคยได้รับ (ผมเหมือนจะเป็นเด็กขาดความอบอุ่นตั้งแต่เด็ก)
เรื่องดูเหมือนจะแฮปปี้ใช่มั๊ยครับ ปัญหามันอยู่ที่ผมมันดันซวยที่เกิดมาจนครับ พ่อผมเป็นแค่ ร.ป.ภ.ต้องทำงานคนเดียวเลี้ยงลูกสองคน แต่เธอก็ไม่เคยรังเกียจข้อนี้ของผมเลย ผมต้องทำงานหาได้พิเศษหลังเลิกเรียน เลิกงานก็ห้าทุ่ม กว่าจะกลับถึงหอ อาบน้ำ เสร็จ ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน แต่เธอก็รอที่จะให้ผมโทรหา แล้วคุยกันทุกคืน เสาร์ อาทิตย์ผมก็ทำตั้งแต่ 8 โมงจนถึงประมาณ ทุ่มครึ่ง หลังเลิกงานนั่นแหละครับ เราถึงจะมีเวลาด้วยกัน ตอนอยู่โรงเรียนเราก็ไม่ได้อะไรกันมาก เพราะผมเป็นประธานนักเรียน (เรื่องชู้สาวในวิทยาลัยผมร้ายแรงมาก บางคู่ถึงขั้นไล่ออก) จะดูหนังสักเรื่องก็ต้องรอผมว่าง รอผมเก็บตังค์ ชีวิตเราออกเดทกันตามร้านข้างถนนครับ อีกข้อคือตัวผมมันไม่แมนครับ ในที่นี้หมายถึงลักษณะนะครับ ข้อนี้ผมรู้ตัวดี เธอมักจะโดนคนรอบข้างที่ไม่รู้จักผมดีพูดใส่เธอเสมอว่าผมเป็นเกย์ แต่ผมยืนยันนะครับ ว่าผมเป็นผู้ชาย ชอบผู้หญิง ไม่เคยชอบผู้ชายด้วยกันเลยสักนิด ทุกคนที่อ่านลองนึกดูนะครับว่าผู้หญิงคนนึงที่ต้องแบกรับ ต้องอดทนกับหลายๆเรื่องมากมาย ทำให้ผมมั่นใจครับ ว่าเธอรักผมมาก
ผมรักเธอมากและสงสารเธอมากเช่นกันครับ มีหลายครั้งนะครับ ที่ผมไล่เธอให้ออกไปจากชีวิต แต่เธอก็ไม่เคยไปไหนเลยครับ ทุกครั้งที่ผมเครียดกับปัญหาชีวิต หันไปก็จะเจอเธอคนแรกเสมอ จนช่วงที่ผมเจอวิกฤติหนัก ผมต้องหักโหมทำงานมากขึ้น จนไม่มีเวลาให้เธอเลยครับ สัปดาห์นึงคุยโทรศัพท์กันไม่ถึงชั่วโมง เสาร์อาทิตย์ผมควบงานสองกะ แต่เธอก็ทน จนวันนึง ตอนนั้นเราคบกันมาประมาณปีนึงกับอีกประมาณสี่เดือน ผมทนไม่ได้ที่เห็นคนที่ผมรักมาก ต้องทนอยู่ในสภาพที่ไม่มีความสุขอีกแล้ว เราโทรคุยกัน ผมขอเลิกกับเธอ สิ่งที่เธอขอผมคือ ขอให้ผมอย่าวางสาย เธอกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้คุยกันอีก ในสายมีแต่เสียงร้องไห้ครับ จนสายมันตัด ผมแทบขาดใจ นอนร้องไห้จนเช้า ...
ผมพยายามทำตัวเองให้เข้มแข็งครับ ทุกครั้งที่เจอกันที่วิทยาลัย สายตาเราที่มองกันมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความเศร้า ความอาลัยอาวร ความคิดถึง ... ปัญหาก็ตามมาอีก ตอนนั้นชีวิตผมเข้าขั้นวิกฤติหนัก ค่าเทอม ค่าหอ ค่าผ่อนรถ หนี้สินทางบ้าน ผมได้รู้จักกับเกย์คนนึงครับ เค้ายื่นข้อเสนอให้ผมไปกินข้าว ไปดูหนัง กับเค้า เค้าบอกว่าเค้าชอบผมมาก ตอนนั้นผมไม่ได้คิดจะเอาเงินเค้าหรอกนะครับ แต่ที่ไปเพราะผมไม่มีตังค์กินข้าว หลังจากกินข้าวเสร็จ เค้าก็ยื่นตังค์ให้ผม ตอนแรกก็ลังเล แต่ผมไม่มีทางเลือกจริงๆครับ หลังจากมีครั้งแรกก็มีครั้งต่อมาเรื่อยๆ ผมไม่เคยขอเงินเค้านะครับ เค้ายื่นมาเองตลอด นอกจากกินข้าวดูหนัง ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรกับเค้าเลย เพราะผมยืนยันตรงนี้อีกครั้ง ว่าผมไม่ได้ชอบผู้ชาย เวลาไปกินข้าวดูหนัง ผมก็พยายามหลบสายตาคนอื่นตลอด แต่ความรักไม่มีในโลกนี่ครับ วันนึงเรื่องก็เข้าหูเธอจนได้ เธอโพสกระแทกผมในเฟสสารพัด เจอกันก็มีแต่สายตาเรียบเฉย ไร้ความรู้สึก เพื่อนๆของเธอก็พากันรุมเกลียดผม ตอนนั้นผมทรมานมากครับ ไม่รู้จะทำไงดี จนเธอมีแฟนใหม่ แฟนใหม่เธอดีกว่าผมทุกอย่างครับ หล่อกว่า รวยกว่า มีเวลาให้เธอ มอบความสุขให้เธอได้ทุกอย่าง ตอนนั้นผมรู้ตัวว่าไม่มีสิทธิอะไรอีกแล้วเสียใจมากครับ แต่ก็ต้องบอกตัวเองว่านี่คือสิ่งที่ผมต้องการตั้งแต่แรก ... กลับมาที่เรื่องเกย์คนนั้นต่อนะครับ หลังจากที่ผมไปไหนมาไหนกับเค้าบ่อยขึ้น เค้าก็เริ่มทำตัวเป็นเจ้าของผม จนผมทนไม่ได้ และรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ มันบาป ไม่ถูกต้อง จึงหาทางออกมา จนสำเร็จ ... หลังจากนั้นผมก็ใช้ชีวิตคนเดียวครับ ไม่คิดจะหาแฟนใหม่ เพราะผมไม่เคยคิดจะลืมเธอเลย และแอบมีความหวังอยู่เล็กๆ ว่าสักวันนึง เราคงได้กลับมาคบกันอีก
ผ่านไปประมาณครึ่งปี หลังจากเลิกกับเธอ ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมครับ ผมต้องออกฝึกงานที่บริษัททัวร์แห่งหนึ่ง จนถึงวันเกิดผมตอนนั้นผมออกทัวร์อยู่ภาคกลาง (21 มีนา ปีที่ผ่านมาเธอยกเค้กมาให้ผมเป่า เป็นเค้กวันเกิดก้อนแรกในชีวิต) ปีนี้ผมได้เป่าเค้กเยอะมากจากพี่ๆไกด์ ลูกทัวร์ เรียกว่าเป่ากันปากเปื่อยเลยครับ แต่สิ่งที่ผมรอคอย คือคำเบิร์ดเดย์จากเธอเท่านั้น ตลอกทั้งวันไม่มีสมาธิในการทำงานเลยครับ จนเหลือห้านาทีสุดท้ายก่อนจะผ่านวันเกิดผมไป ผมนั่งจ้องโทรศัพท์และก็มีสายนึงเข้ามา ผมดีใจจนมือสั่น รับสายเธอ เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่เราได้คุยกัน มันคือของขวัญที่มีค่าที่สุด
หลังจากวันนั้น ผมก็พยายามหาทางคุยกับเธอ จนมีโอกาสได้ไปรับเธอหลังเธอเลิกงาน (เธอรับจ็อบช่วงปิดเทอม) เพราะช่วงปิดเทอมแฟนเธอต้องกลับบ้านต่างจังหวัด เราได้กลับมาใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้งครับ ได้ไปในที่ๆเคยไปด้วยกัน ตอนนั้นผมเหมือนจะมีความสุขครับ แต่มันก็เป็นความทรมานมากเช่นกัน เพราะทุกครั้งที่แฟรเธอโทรมา ผมต้องเงียบห้ามส่งเสียงให้แฟนเธอรู้ ตอนนั้นเรามีโอกาสได้เปิดอกคุยกันในเรื่องที่ยังค้างคาใจ ผมอธิบายความจริงทุกอย่างว่าทำไมผมต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเกย์คนนั้น เธอก็บอกความจริงว่าตอนแรกที่เธอตัดสินใจคบกับคนใหม่ แค่เพื่อประชด แต่เค้าดีกับเธอมาก จนเธอแพ้ใจเค้า ... ช่วงเวลานั้นเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันครับ ในสถานะที่คนคิดถึงกัน แต่ไม่ได้เป็นแฟนกัน จนใกล้จะเปิดเทอม ผมรู้เลยครับว่าเวลาของผมใกล้จะหมดลง จนผมขอเธอว่ากลับมาคบกับผมได้มั๊ย เธอส่งเพลง "ทำไมไม่คิดดีๆ" มาให้ผมฟังแทนคำตอบครับ เธอบอกว่าแค่นี้เธอก็รู้สึกผิดกับแฟนเธอมากแล้ว ผมหมดโอกาสครับ แต่ผมขอเธอไว้อย่างนึงคือ วันใดที่เธอไม่มีเค้า ขอให้นึกถึงผมคนแรก ผมสัญญาว่าผมจะรอวันนั้น เธอบอกว่าอย่ารอเธอเลย ... หลังจากวันนั้น ชีวิตผมเละเทะมากครับ เฮิร์ตหนัก เมาเละเทะ กว่าจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ก็เป็นเดือนครับ ...
จนช่วงเดือนมิถุนา ก่อนถึงวันเกิดเธอสามวัน เธอโพสในเฟสว่าเลิกกับแฟน ผมรวบรวมความกล้าโทรหาเธอ ปลอบเธอ เธอด่ากลับมาครับ แต่ผมก็ทน จนเธอสงบลง ขอโทษที่ผมแพ้แล้วพาล จึงยอมเล่าให้ฟังว่าเลิกกันเพราะอะไร แค่ได้ฟังผมก้รู้เลยครับ ว่านี่คือแผนเซอไพรซ์วันเกิดให้เธอแน่ๆ แต่ผมก็ยังโทรหาเธอ ปลอบเธอ คุยเป็นเพื่อน จนประมาณ 2 ชม ก่อนวันเกิดเธอ ผมโทรหาเธอ แล้วอวยพรวันเกิดให้ เพราะรู้ผมจะไม่มีโอกาสบอกเธอแน่ถ้ารอให้ถึงวันเกิดเธอ เธอถามว่าทำไมรีบจัง ผมบอกว่าอยากอวยพรเป็นคนแรก นั้นคือครั้งสุดท้ายที่ผมได้คุยกับเธอครับ และแล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่ผมคาดไว้ครับ หลังจากเธอฉลองวันเกิดอย่างมีความสุข แฟนเธอก็โพสว่าผมในเฟส ประมาณว่า ผมโง่ ไม่ทันเกมเค้า ผมก็เฉยๆครับ อยู่ในที่ๆผมสมควรอยู่
ตลอดเวลาปีนึงที่เราเลิกกัน ไม่มีวันไหนเลยครับ ที่ผมจะไม่เข้าไปส่องเฟสเธอ แต่ก็ได้แค่ส่องครับ ไม่เคยได้คุยกัน (ยกเว้นช่วงฝึกงานตามที่เล่า) ผมใช้ชีวิตอย่างทรมานมากครับ ไม่สามารถเล่าหรือบอกอะไรใครได้ ผมพยายามจะเริ่มต้นใหม่กับใครแต่ก็ทำไม่ได้เลยสักครั้ง ทุกคืนผมต้องนอนไปด้วยความเหนื่อยล้าของร่างกายเท่านั้น ไม่เคยหลับลงอย่างมีความสุขเลย ผมชอบมองดวงจันทร์แล้วคิดถึงเธอครับ ชื่อเธอแปลว่าดวงจันทร์ ทุกครั้งที่อยู่คนเดียวผมจะเปิดรูปเก่าๆขึ้นมาดู แล้วนั่งร้องไห้เงียบๆ แม้แต่ตอนพิมพ์กระทู้นี่ น้ำตาผมยังไหลเลยครับ ...
เรื่องที่เล่ามามันอาจจะโคตรน้ำเน่า เหมือนกับละครไทย แต่มันคือความจริงที่เกิดขึ้นกับคนๆนึงจริงๆ เรื่องทุกอย่างที่ทำให้ผมทรมานมาถึงทุกวันนี้ ต้นเหตุมันมาจากตัวผมทั้งนั้น ผม "ควาย" ใช่มั๊ยครับ ???
ทุกท่านที่อ่านมาถึงตอนนี้ แล้วรู้สึกสงสาร หรือสมน้ำหน้าผม ช่วยกันแชร์เรื่องนี้ต่อๆกันไป วันนึงเธอได้อ่านมัน ผมเชื่อว่าเธอจะยังจำมันได้ ผมอยากจะบอกว่า สัญญาที่ให้ไว้มันยังเหมือนเดิม ผมยังรอเธออยู่ทุกวัน และ ตลอดไป ...
ลองอ่านเรื่องต่อไปนี้ แล้วช่วยตัดสินว่าผม ควาย หรือเปล่า ???
เรื่องมันเริ่มจากการที่ผมเข้าเรียนต่อปวช.ในวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งของหาดใหญ่ ทำให้ผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนนึงเธอเป็นรุ่นพี่ในสาขาของผมครับ อยู่ปวช.2 แต่เราเกิดปีเดียวกัน เธอเรียนห้องเดียวกันกับพี่รหัสของผม ทำให้ผมรู้ว่าเธอชอบและสนใจในตัวผม เธอกดติดตามและชอบเข้ามาไลค์โพสผมในเฟสครับ ผมเลยแอดเฟสเธอไป จนเราคุยกันได้ประมาณเดือนนึง เราเลยตัดสินใจคบกัน ช่วงแรกๆความรักของเราก็เหมือนคู่วัยรุ่นหนุ่มสาวทั่วไปครับ มีงอนกันบ้างตามประสา พอเข้าประมาณเดือนที่สามเราเลิกกันครับ แต่แค่สองสามวันผมก็ไปง้อขอคืนดีเธอ เราเป็นแบบนี้ประจำครับ เหตุผลหลักๆก็มาจากตัวผมนี่แหละครับ เกเร ติดเพื่อนบ้าง แต่ผู้หญิงคนอื่นบ้าง เลิกกันแต่ไม่เกินสามวันผมก็ไปง้อเธอทุกครั้ง ยิ่งคบกัน ยิ่งศึกษากัน ก็ดูเหมือนว่าเราจะไปกันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงประมาณเดือนที่ 9 ครับ ผมกับเธอเลิกกันอีกครั้ง เลิกกันได้ 3 วัน ผมมีแฟนใหม่เลยครับ เป็นรุ่นพี่ในวิทยาลัย เรียนปวส2 อายุห่างกัน4ปี เธอก็พยายามมาง้อ แต่ตอนนั้นไม่รู้เป็นเพราะอะไร ผมหลงผู้หญิงอีกคนมาก ไม่แคร์ความรู้สึกเธอเลย จนเธอมีแฟนใหม่ ตอนนั้นทำให้ผมคิดได้ ว่าคนที่เหมาะสมและผมต้องการ มีแค่เธอเท่านั้น ผมจึงพยายามทักแชทเธอ โทรหาเธอ แรกๆเธอก็ไม่ตอบ ตอนผมตื้อเธอหนักมาก จนเราได้คุยกัน คืนนั้นผมบอกเธอว่าขอเจอเธอเป็นครั้งสุดท้ายได้มั๊ย เธอจึงยอมออกมาหาผม เรานัดเจอกันที่เงียบๆที่นึงครับ ไปถึงต่างฝ่ายต่างนั่งเงียบไม่ใครคุยไรกัน จนผมเอ่ยปากถามเธอ ว่าสบายดีมั๊ย เธอก็ตอบประชดผม คุยๆไปสักพัก น้ำตาผมมันก็ไหลออกมาครับ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมยอมเสียน้ำตาให้ ผมร้องขอโอกาสจากเธออีกครั้ง เธอให้โอกาสผม ผมสัญญาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย คืนนี้เรานั่งกอดกัน ร้องไห้กันนานมาก ... หลังจากคืนนั้นผมพยายามตีตัวออกห่างจากผู้หญิงที่ผมคบด้วยครับ เธอก็ใช้วิธีนี้กับคนของเธอเหมือนกัน จนในที่สุดเราก็ได้กลับมาคบกัน ครั้งนี้ผมเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ไม่เคยหันมองผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากเธอ พาเธอไปรู้จักญาติๆผู้ใหญ่ทุกคนในบ้าน ครอบครัวผมค่อนข้างใหญ่ครับ ทุกคนในบ้านทั้งพี่ ป้า น้า อา พ่อ (พ่อกับแม่เลิกกัน) น้องๆ หลานๆ รักเธอและเอ็นดูเธอมากครับ โดยเฉพาะย่าของผม ท่านรักของท่านมาก เวลาเราทะเลาะกันแล้วท่านทราบ ท่านก็จะดุผม ทุกครั้งที่ผมกลับไปบ้าน (ผมอยู่หอพัก) ท่านก็จะถามทุกครั้งว่าทำไมไม่พาเธอมาด้วย เวลาที่ผมดื้อ เกเร (เที่ยว กินเหล้า มีปัญหาที่วิทยาลัย) เธอกับครอบครัวก็จะแท็คทีมกันจัดการผม ชีวิตช่วงนั้นผมมีความสุขมากๆครับ เป็นความสุขที่แท้จริงที่ผมไม่เคยได้รับ (ผมเหมือนจะเป็นเด็กขาดความอบอุ่นตั้งแต่เด็ก)
เรื่องดูเหมือนจะแฮปปี้ใช่มั๊ยครับ ปัญหามันอยู่ที่ผมมันดันซวยที่เกิดมาจนครับ พ่อผมเป็นแค่ ร.ป.ภ.ต้องทำงานคนเดียวเลี้ยงลูกสองคน แต่เธอก็ไม่เคยรังเกียจข้อนี้ของผมเลย ผมต้องทำงานหาได้พิเศษหลังเลิกเรียน เลิกงานก็ห้าทุ่ม กว่าจะกลับถึงหอ อาบน้ำ เสร็จ ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน แต่เธอก็รอที่จะให้ผมโทรหา แล้วคุยกันทุกคืน เสาร์ อาทิตย์ผมก็ทำตั้งแต่ 8 โมงจนถึงประมาณ ทุ่มครึ่ง หลังเลิกงานนั่นแหละครับ เราถึงจะมีเวลาด้วยกัน ตอนอยู่โรงเรียนเราก็ไม่ได้อะไรกันมาก เพราะผมเป็นประธานนักเรียน (เรื่องชู้สาวในวิทยาลัยผมร้ายแรงมาก บางคู่ถึงขั้นไล่ออก) จะดูหนังสักเรื่องก็ต้องรอผมว่าง รอผมเก็บตังค์ ชีวิตเราออกเดทกันตามร้านข้างถนนครับ อีกข้อคือตัวผมมันไม่แมนครับ ในที่นี้หมายถึงลักษณะนะครับ ข้อนี้ผมรู้ตัวดี เธอมักจะโดนคนรอบข้างที่ไม่รู้จักผมดีพูดใส่เธอเสมอว่าผมเป็นเกย์ แต่ผมยืนยันนะครับ ว่าผมเป็นผู้ชาย ชอบผู้หญิง ไม่เคยชอบผู้ชายด้วยกันเลยสักนิด ทุกคนที่อ่านลองนึกดูนะครับว่าผู้หญิงคนนึงที่ต้องแบกรับ ต้องอดทนกับหลายๆเรื่องมากมาย ทำให้ผมมั่นใจครับ ว่าเธอรักผมมาก
ผมรักเธอมากและสงสารเธอมากเช่นกันครับ มีหลายครั้งนะครับ ที่ผมไล่เธอให้ออกไปจากชีวิต แต่เธอก็ไม่เคยไปไหนเลยครับ ทุกครั้งที่ผมเครียดกับปัญหาชีวิต หันไปก็จะเจอเธอคนแรกเสมอ จนช่วงที่ผมเจอวิกฤติหนัก ผมต้องหักโหมทำงานมากขึ้น จนไม่มีเวลาให้เธอเลยครับ สัปดาห์นึงคุยโทรศัพท์กันไม่ถึงชั่วโมง เสาร์อาทิตย์ผมควบงานสองกะ แต่เธอก็ทน จนวันนึง ตอนนั้นเราคบกันมาประมาณปีนึงกับอีกประมาณสี่เดือน ผมทนไม่ได้ที่เห็นคนที่ผมรักมาก ต้องทนอยู่ในสภาพที่ไม่มีความสุขอีกแล้ว เราโทรคุยกัน ผมขอเลิกกับเธอ สิ่งที่เธอขอผมคือ ขอให้ผมอย่าวางสาย เธอกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้คุยกันอีก ในสายมีแต่เสียงร้องไห้ครับ จนสายมันตัด ผมแทบขาดใจ นอนร้องไห้จนเช้า ...
ผมพยายามทำตัวเองให้เข้มแข็งครับ ทุกครั้งที่เจอกันที่วิทยาลัย สายตาเราที่มองกันมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความเศร้า ความอาลัยอาวร ความคิดถึง ... ปัญหาก็ตามมาอีก ตอนนั้นชีวิตผมเข้าขั้นวิกฤติหนัก ค่าเทอม ค่าหอ ค่าผ่อนรถ หนี้สินทางบ้าน ผมได้รู้จักกับเกย์คนนึงครับ เค้ายื่นข้อเสนอให้ผมไปกินข้าว ไปดูหนัง กับเค้า เค้าบอกว่าเค้าชอบผมมาก ตอนนั้นผมไม่ได้คิดจะเอาเงินเค้าหรอกนะครับ แต่ที่ไปเพราะผมไม่มีตังค์กินข้าว หลังจากกินข้าวเสร็จ เค้าก็ยื่นตังค์ให้ผม ตอนแรกก็ลังเล แต่ผมไม่มีทางเลือกจริงๆครับ หลังจากมีครั้งแรกก็มีครั้งต่อมาเรื่อยๆ ผมไม่เคยขอเงินเค้านะครับ เค้ายื่นมาเองตลอด นอกจากกินข้าวดูหนัง ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรกับเค้าเลย เพราะผมยืนยันตรงนี้อีกครั้ง ว่าผมไม่ได้ชอบผู้ชาย เวลาไปกินข้าวดูหนัง ผมก็พยายามหลบสายตาคนอื่นตลอด แต่ความรักไม่มีในโลกนี่ครับ วันนึงเรื่องก็เข้าหูเธอจนได้ เธอโพสกระแทกผมในเฟสสารพัด เจอกันก็มีแต่สายตาเรียบเฉย ไร้ความรู้สึก เพื่อนๆของเธอก็พากันรุมเกลียดผม ตอนนั้นผมทรมานมากครับ ไม่รู้จะทำไงดี จนเธอมีแฟนใหม่ แฟนใหม่เธอดีกว่าผมทุกอย่างครับ หล่อกว่า รวยกว่า มีเวลาให้เธอ มอบความสุขให้เธอได้ทุกอย่าง ตอนนั้นผมรู้ตัวว่าไม่มีสิทธิอะไรอีกแล้วเสียใจมากครับ แต่ก็ต้องบอกตัวเองว่านี่คือสิ่งที่ผมต้องการตั้งแต่แรก ... กลับมาที่เรื่องเกย์คนนั้นต่อนะครับ หลังจากที่ผมไปไหนมาไหนกับเค้าบ่อยขึ้น เค้าก็เริ่มทำตัวเป็นเจ้าของผม จนผมทนไม่ได้ และรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ มันบาป ไม่ถูกต้อง จึงหาทางออกมา จนสำเร็จ ... หลังจากนั้นผมก็ใช้ชีวิตคนเดียวครับ ไม่คิดจะหาแฟนใหม่ เพราะผมไม่เคยคิดจะลืมเธอเลย และแอบมีความหวังอยู่เล็กๆ ว่าสักวันนึง เราคงได้กลับมาคบกันอีก
ผ่านไปประมาณครึ่งปี หลังจากเลิกกับเธอ ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมครับ ผมต้องออกฝึกงานที่บริษัททัวร์แห่งหนึ่ง จนถึงวันเกิดผมตอนนั้นผมออกทัวร์อยู่ภาคกลาง (21 มีนา ปีที่ผ่านมาเธอยกเค้กมาให้ผมเป่า เป็นเค้กวันเกิดก้อนแรกในชีวิต) ปีนี้ผมได้เป่าเค้กเยอะมากจากพี่ๆไกด์ ลูกทัวร์ เรียกว่าเป่ากันปากเปื่อยเลยครับ แต่สิ่งที่ผมรอคอย คือคำเบิร์ดเดย์จากเธอเท่านั้น ตลอกทั้งวันไม่มีสมาธิในการทำงานเลยครับ จนเหลือห้านาทีสุดท้ายก่อนจะผ่านวันเกิดผมไป ผมนั่งจ้องโทรศัพท์และก็มีสายนึงเข้ามา ผมดีใจจนมือสั่น รับสายเธอ เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่เราได้คุยกัน มันคือของขวัญที่มีค่าที่สุด
หลังจากวันนั้น ผมก็พยายามหาทางคุยกับเธอ จนมีโอกาสได้ไปรับเธอหลังเธอเลิกงาน (เธอรับจ็อบช่วงปิดเทอม) เพราะช่วงปิดเทอมแฟนเธอต้องกลับบ้านต่างจังหวัด เราได้กลับมาใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้งครับ ได้ไปในที่ๆเคยไปด้วยกัน ตอนนั้นผมเหมือนจะมีความสุขครับ แต่มันก็เป็นความทรมานมากเช่นกัน เพราะทุกครั้งที่แฟรเธอโทรมา ผมต้องเงียบห้ามส่งเสียงให้แฟนเธอรู้ ตอนนั้นเรามีโอกาสได้เปิดอกคุยกันในเรื่องที่ยังค้างคาใจ ผมอธิบายความจริงทุกอย่างว่าทำไมผมต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเกย์คนนั้น เธอก็บอกความจริงว่าตอนแรกที่เธอตัดสินใจคบกับคนใหม่ แค่เพื่อประชด แต่เค้าดีกับเธอมาก จนเธอแพ้ใจเค้า ... ช่วงเวลานั้นเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันครับ ในสถานะที่คนคิดถึงกัน แต่ไม่ได้เป็นแฟนกัน จนใกล้จะเปิดเทอม ผมรู้เลยครับว่าเวลาของผมใกล้จะหมดลง จนผมขอเธอว่ากลับมาคบกับผมได้มั๊ย เธอส่งเพลง "ทำไมไม่คิดดีๆ" มาให้ผมฟังแทนคำตอบครับ เธอบอกว่าแค่นี้เธอก็รู้สึกผิดกับแฟนเธอมากแล้ว ผมหมดโอกาสครับ แต่ผมขอเธอไว้อย่างนึงคือ วันใดที่เธอไม่มีเค้า ขอให้นึกถึงผมคนแรก ผมสัญญาว่าผมจะรอวันนั้น เธอบอกว่าอย่ารอเธอเลย ... หลังจากวันนั้น ชีวิตผมเละเทะมากครับ เฮิร์ตหนัก เมาเละเทะ กว่าจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ก็เป็นเดือนครับ ...
จนช่วงเดือนมิถุนา ก่อนถึงวันเกิดเธอสามวัน เธอโพสในเฟสว่าเลิกกับแฟน ผมรวบรวมความกล้าโทรหาเธอ ปลอบเธอ เธอด่ากลับมาครับ แต่ผมก็ทน จนเธอสงบลง ขอโทษที่ผมแพ้แล้วพาล จึงยอมเล่าให้ฟังว่าเลิกกันเพราะอะไร แค่ได้ฟังผมก้รู้เลยครับ ว่านี่คือแผนเซอไพรซ์วันเกิดให้เธอแน่ๆ แต่ผมก็ยังโทรหาเธอ ปลอบเธอ คุยเป็นเพื่อน จนประมาณ 2 ชม ก่อนวันเกิดเธอ ผมโทรหาเธอ แล้วอวยพรวันเกิดให้ เพราะรู้ผมจะไม่มีโอกาสบอกเธอแน่ถ้ารอให้ถึงวันเกิดเธอ เธอถามว่าทำไมรีบจัง ผมบอกว่าอยากอวยพรเป็นคนแรก นั้นคือครั้งสุดท้ายที่ผมได้คุยกับเธอครับ และแล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่ผมคาดไว้ครับ หลังจากเธอฉลองวันเกิดอย่างมีความสุข แฟนเธอก็โพสว่าผมในเฟส ประมาณว่า ผมโง่ ไม่ทันเกมเค้า ผมก็เฉยๆครับ อยู่ในที่ๆผมสมควรอยู่
ตลอดเวลาปีนึงที่เราเลิกกัน ไม่มีวันไหนเลยครับ ที่ผมจะไม่เข้าไปส่องเฟสเธอ แต่ก็ได้แค่ส่องครับ ไม่เคยได้คุยกัน (ยกเว้นช่วงฝึกงานตามที่เล่า) ผมใช้ชีวิตอย่างทรมานมากครับ ไม่สามารถเล่าหรือบอกอะไรใครได้ ผมพยายามจะเริ่มต้นใหม่กับใครแต่ก็ทำไม่ได้เลยสักครั้ง ทุกคืนผมต้องนอนไปด้วยความเหนื่อยล้าของร่างกายเท่านั้น ไม่เคยหลับลงอย่างมีความสุขเลย ผมชอบมองดวงจันทร์แล้วคิดถึงเธอครับ ชื่อเธอแปลว่าดวงจันทร์ ทุกครั้งที่อยู่คนเดียวผมจะเปิดรูปเก่าๆขึ้นมาดู แล้วนั่งร้องไห้เงียบๆ แม้แต่ตอนพิมพ์กระทู้นี่ น้ำตาผมยังไหลเลยครับ ...
เรื่องที่เล่ามามันอาจจะโคตรน้ำเน่า เหมือนกับละครไทย แต่มันคือความจริงที่เกิดขึ้นกับคนๆนึงจริงๆ เรื่องทุกอย่างที่ทำให้ผมทรมานมาถึงทุกวันนี้ ต้นเหตุมันมาจากตัวผมทั้งนั้น ผม "ควาย" ใช่มั๊ยครับ ???
ทุกท่านที่อ่านมาถึงตอนนี้ แล้วรู้สึกสงสาร หรือสมน้ำหน้าผม ช่วยกันแชร์เรื่องนี้ต่อๆกันไป วันนึงเธอได้อ่านมัน ผมเชื่อว่าเธอจะยังจำมันได้ ผมอยากจะบอกว่า สัญญาที่ให้ไว้มันยังเหมือนเดิม ผมยังรอเธออยู่ทุกวัน และ ตลอดไป ...