‘ไม่มีบทพูด ไม่มีซับไทเทิล’ คือคำโปรยที่หนังยูเครนต้อนรับคนดูให้เตรียมพร้อมรับการเล่าเรื่องผ่านภาษามือและร่างกายล้วน เปลี่ยนฟีลจากนั่งไล่อ่านคำบรรยายแล้วย้ายสายตามาจับจ้องภาพเคลื่อนไหวแทน
หนุ่มน้อยย้ายเข้าโรงเรียนสำหรับคนใบ้ สิ่งเดียวที่ต่างจากโรงเรียนปกติคือทุกคนใช้ภาษามือสื่อสาร ถ้าคิดว่าหนังจะเรียกร้องความเมตตาน่าสงสารของชีวิตผู้พิการที่คุ้นชิน คุณคิดผิดถนัดจ้ะ
หอพักนักเรียนประจำคือพื้นที่กระทำตำบอน ไร้การดูแลจากผู้ใหญ่สภาพคล้ายรังโจร เด็กหนุ่มสาวหล่อสวยกลุ่มใหญ่ตั้งแก๊งอบายมุข ขายยา ค้าประเวณี จี้ปล้น พระเอกเป็นเด็กใหม่ได้รับตำแหน่งแมงดาพาเพื่อนร่วมชั้นสองสาวที่กลางคืนกลายร่างเป็น curry รถบรรทุก #จ้ะ ดาร์คจนคิดว่า ห๊ะ! อะไรคือแรงจูงใจให้ทุกคนทำสิ่งชั่วร้ายราวกับกฎหมายไม่มีในบ้านเมือง เข้าใจว่าอยากเสนอมุมมืดของคนพิการแต่ยัดเยียดความรุนแรงพร่ำเพรื่อเกินจนเฝือเป็นโลกใต้ดินแฟนตาซี
ผู้ชมถูกท้าทายให้ตั้งใจดูตลอดสองชั่วโมงกว่าโดยใช้จินตนาการเติมคำในช่องว่างเองจากอวัจนภาษาที่ปรากฏบนจอ อาจเข้าใจไม่หมดแต่ถ้าสติไม่หลุดก็ไม่ยากเกินจะต่อติด มโนคิดเองก็ได้ตามใจชอบ ลุ้นกับตัวเองดีด้วยว่านี่กรูมาถูกทางแล้วใช่มะ
ชอบการนำเสนอจุดบอดของคนหูหนวกอย่างแนบเนียนด้วยรายละเอียดเล็กน้อยที่อาจมองข้ามในแวบแรกจนเมื่อผ่านไปสามวิค่อยคิดออกว่า อ๋อ! เพราะเค้าไม่ได้ยินเสียงไงเลยเกิดเหตุการณ์นั้นนี้ที่ดูงงสำหรับคนหูดี เช่น การใช้แสงสื่อแทนเสียง หรือผลร้ายถึงตายจากการขาดประสาทสัมผัสการได้ยินในสองฉากสำคัญ
แต่รำคาญหนักที่หนังทำตัวเหมือนเด็กเรียกร้องความสนใจ ให้ดูว่าหนูเก๋ เท่ชิป๊ะล่ะ! กับการใช้การลองเทคที่เป้าหมายคือสร้างความอึดอัดให้คนดูซึ่งก็บรรลุสมใจหวัง ทั้งฉากฟีจเจอริ่งสิบกระบวนท่า ฉากสูตินรีเวชที่อุปกรณ์หลายสิ่งถูกแยงเข้าจุดสำคัญเหมือนฝังเข็มจนเกือบหลุดขำ (ชั้นจะให้เห็นความเหี้ยมโหดต่างหากเล่า! /หนังกล่าวเถียง) หรือกระทั่งแช่กล้องส่องนางเอกนั่งฉี่ เพื่อ! คือไม่ต้องก็ได้มั้ย เกรงใจนะยูว์
หนังเป็นเหมือนแบบฝึกหัดการเล่าเรื่องโดยไร้เสียง ซึ่งจริง ๆ มีมาตั้งแต่จุดกำเนิดภาพยนตร์คือหนังเงียบ (ที่มีคำบรรยายมาประกอบ ซึ่งถ้า The Tribe ใช้ น่าจะได้งานที่สมบูรณ์ขึ้น) ท้าทายมั้ย ก็ใช่ แต่เราในฐานะคนดูเป็นผู้ตรวจข้อสอบ ขอมอบเกรดเอให้ความพยายาม แต่ผลลัพธ์ค่อนไปทางอึ้งกับความรู้สึกแบบ WTF? เหมือนโดนผกก.ยกตู้มาทุบกบาลจนเดินใบ้รับประทานออกมาจากโรง
คิดว่าความรุนแรงที่ไร้เสียงสามารถนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้คนดูเข้าใจ อินได้มากกว่านี้อีก เฉกเช่นสุดยอดงานถ่ายทอดการไล่ฆ่าของสองเผ่าพันธุ์ ...การ์ตูนสั้น Tom & Jerry นั่นเอง #บัย
---
The Tribe ฉายรอบปกติในเครือเมเจอร์ตั้งแต่วันพฤหัสที่ 1 ต.ค. พิสูจน์การเล่าเรื่องสุดท้าทายในโลกใบ้ใจมืดบอดได้ด้วยตัวคุณเองจ้ะ พูดคุยเรื่องหนังกันได้ที่
https://www.facebook.com/jijabanang ทั้งหนังอาร์ตหนังตลาดเม้าได้หมดแจ้
แถม กระทู้หนังงาน Elle Men อีกเรื่อง -> The Salt of the Earth สารคดีที่คนรักภาพถ่ายต้องกรีดร้อง งดงามตามท้องนามาก ชอบ
http://ppantip.com/topic/34234310
รีวิว | The Tribe (2015) | แก๊งใบ้ ใจบอด | หนังภาษามือ สื่อด้วยภาพ
‘ไม่มีบทพูด ไม่มีซับไทเทิล’ คือคำโปรยที่หนังยูเครนต้อนรับคนดูให้เตรียมพร้อมรับการเล่าเรื่องผ่านภาษามือและร่างกายล้วน เปลี่ยนฟีลจากนั่งไล่อ่านคำบรรยายแล้วย้ายสายตามาจับจ้องภาพเคลื่อนไหวแทน
หนุ่มน้อยย้ายเข้าโรงเรียนสำหรับคนใบ้ สิ่งเดียวที่ต่างจากโรงเรียนปกติคือทุกคนใช้ภาษามือสื่อสาร ถ้าคิดว่าหนังจะเรียกร้องความเมตตาน่าสงสารของชีวิตผู้พิการที่คุ้นชิน คุณคิดผิดถนัดจ้ะ
หอพักนักเรียนประจำคือพื้นที่กระทำตำบอน ไร้การดูแลจากผู้ใหญ่สภาพคล้ายรังโจร เด็กหนุ่มสาวหล่อสวยกลุ่มใหญ่ตั้งแก๊งอบายมุข ขายยา ค้าประเวณี จี้ปล้น พระเอกเป็นเด็กใหม่ได้รับตำแหน่งแมงดาพาเพื่อนร่วมชั้นสองสาวที่กลางคืนกลายร่างเป็น curry รถบรรทุก #จ้ะ ดาร์คจนคิดว่า ห๊ะ! อะไรคือแรงจูงใจให้ทุกคนทำสิ่งชั่วร้ายราวกับกฎหมายไม่มีในบ้านเมือง เข้าใจว่าอยากเสนอมุมมืดของคนพิการแต่ยัดเยียดความรุนแรงพร่ำเพรื่อเกินจนเฝือเป็นโลกใต้ดินแฟนตาซี
ผู้ชมถูกท้าทายให้ตั้งใจดูตลอดสองชั่วโมงกว่าโดยใช้จินตนาการเติมคำในช่องว่างเองจากอวัจนภาษาที่ปรากฏบนจอ อาจเข้าใจไม่หมดแต่ถ้าสติไม่หลุดก็ไม่ยากเกินจะต่อติด มโนคิดเองก็ได้ตามใจชอบ ลุ้นกับตัวเองดีด้วยว่านี่กรูมาถูกทางแล้วใช่มะ
ชอบการนำเสนอจุดบอดของคนหูหนวกอย่างแนบเนียนด้วยรายละเอียดเล็กน้อยที่อาจมองข้ามในแวบแรกจนเมื่อผ่านไปสามวิค่อยคิดออกว่า อ๋อ! เพราะเค้าไม่ได้ยินเสียงไงเลยเกิดเหตุการณ์นั้นนี้ที่ดูงงสำหรับคนหูดี เช่น การใช้แสงสื่อแทนเสียง หรือผลร้ายถึงตายจากการขาดประสาทสัมผัสการได้ยินในสองฉากสำคัญ
แต่รำคาญหนักที่หนังทำตัวเหมือนเด็กเรียกร้องความสนใจ ให้ดูว่าหนูเก๋ เท่ชิป๊ะล่ะ! กับการใช้การลองเทคที่เป้าหมายคือสร้างความอึดอัดให้คนดูซึ่งก็บรรลุสมใจหวัง ทั้งฉากฟีจเจอริ่งสิบกระบวนท่า ฉากสูตินรีเวชที่อุปกรณ์หลายสิ่งถูกแยงเข้าจุดสำคัญเหมือนฝังเข็มจนเกือบหลุดขำ (ชั้นจะให้เห็นความเหี้ยมโหดต่างหากเล่า! /หนังกล่าวเถียง) หรือกระทั่งแช่กล้องส่องนางเอกนั่งฉี่ เพื่อ! คือไม่ต้องก็ได้มั้ย เกรงใจนะยูว์
หนังเป็นเหมือนแบบฝึกหัดการเล่าเรื่องโดยไร้เสียง ซึ่งจริง ๆ มีมาตั้งแต่จุดกำเนิดภาพยนตร์คือหนังเงียบ (ที่มีคำบรรยายมาประกอบ ซึ่งถ้า The Tribe ใช้ น่าจะได้งานที่สมบูรณ์ขึ้น) ท้าทายมั้ย ก็ใช่ แต่เราในฐานะคนดูเป็นผู้ตรวจข้อสอบ ขอมอบเกรดเอให้ความพยายาม แต่ผลลัพธ์ค่อนไปทางอึ้งกับความรู้สึกแบบ WTF? เหมือนโดนผกก.ยกตู้มาทุบกบาลจนเดินใบ้รับประทานออกมาจากโรง
คิดว่าความรุนแรงที่ไร้เสียงสามารถนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้คนดูเข้าใจ อินได้มากกว่านี้อีก เฉกเช่นสุดยอดงานถ่ายทอดการไล่ฆ่าของสองเผ่าพันธุ์ ...การ์ตูนสั้น Tom & Jerry นั่นเอง #บัย
The Tribe ฉายรอบปกติในเครือเมเจอร์ตั้งแต่วันพฤหัสที่ 1 ต.ค. พิสูจน์การเล่าเรื่องสุดท้าทายในโลกใบ้ใจมืดบอดได้ด้วยตัวคุณเองจ้ะ พูดคุยเรื่องหนังกันได้ที่ https://www.facebook.com/jijabanang ทั้งหนังอาร์ตหนังตลาดเม้าได้หมดแจ้
แถม กระทู้หนังงาน Elle Men อีกเรื่อง -> The Salt of the Earth สารคดีที่คนรักภาพถ่ายต้องกรีดร้อง งดงามตามท้องนามาก ชอบ http://ppantip.com/topic/34234310