(ย้อนรอยละครช่อง7)รักได้ไหมถ้าหัวใจไม่เพี้ยน ละครดังโดนใจวัยรุ่นและแจ้งเกิดนักแสดงในเรื่องมากมาย



รักได้ไหมถ้าหัวใจไม่เพี้ยน
บทประพันธ์ พามิลา
บทโทรทัศน์ ภาวิต
กำกับการแสดง สิทธิวัชร์ ทับแป้น
ผลิตโดย บริษัท ดาราวีดิโอ จำกัด
ออกอากาศ ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา20.20น.
นำแสดงโดย
เขตต์ ฐานทัพ รับบทแสดงเป็น ธาวัน / หนึ่ง
น้ำ รพีภัทร์ เอกพันธ์กุล รับบทแสดงเป็น ธัญธร / สอง
เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ รับบทแสดงเป็น ปั้นดาว / คุณแพน
ปู ไปรยา(ขณะนั้นใช่ชื่อ นาตยา)สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก รับบทแสดงเป็น ไข่แก้ว
ฟาง พิชญา เชาวลิต รับบทแสดงเป็น ธัญมล / สาม
ปลา ปาลิตา โกศลศักดิ์ รับบทแสดงเป็น เจนนี่
ร็อคกี้ สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ รับบทแสดงเป็น พีรพล
น้ำฝน พัชรินทร์ จัดกระบวนพล รับบทแสดงเป็น พิไลพร / พร
วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ รับบทแสดงเป็น สุรยุทธ
คนางค์ ดำรงหัด รับบทแสดงเป็น คุณหญิงใหญ่
อนุสรณ์ เดชะปัญญา รับบทแสดงเป็น พ่อปั้นดาว
นวลปรางค์ ตรีชิต รับบทแสดงเป็น แม่ปั้นดาว
พงษ์ประยูร ราชอาภัย รับบทแสดงเป็น เพชร
กรองทอง รัชตะวรรณ รับบทแสดงเป็น ช่อแก้ว
แวร์ โซว รับบทแสดงเป็น กนกเรขา
มณฑานี ตันติสุข รับบทแสดงเป็น วีรวัลย์
เรื่องย่อ
...ดอนเมือง ไข่แก้ว ชะเง้อคอมองหาเพื่อนรักจนเจอ แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดด้วยความดีใจเมื่อ ปั้นดาว เดินหน้าตูมออกมาจากห้องผู้โดยสารขาเข้า
ปั้นดาว หรือ แพน เดินทางกลับเมืองไทยเพื่อมาหาข้อมูลเกี่ยวกับเพลงลูกทุ่งของไทยในเชิงเปรียบเทียบกับลูกทุ่งตะวันตก หล่อนเป็นคนมีรสนิยมดีก็จริง แต่ก็เป็นคนทำอะไรง่ายๆ เอาสะดวกเข้าว่าด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องแต่งตัว อย่างเช่นการเดินทางกลับมาเมืองไทยคราวนี้ หล่อนนั่งเครื่องบินกลับมาด้วยการสวมเสื้อที - เชิตร์ทับด้วยแจ็กเก็ตหนังและกางเกงยีนส์เก่าๆ แล้วหล่อนก็ชอบสวมหมวกแก๊ปเสมอ คนจึงไม่ค่อยเห็นผมยาวสลวยครึ่งหลังของหล่อน ปั้นดาวไม่ชอบปล่อยผมสยายเหมือนผู้หญิงบางคน จะถักเปียเดียวไว้ตลอดเวลาถ้าไม่ออกงานเป็นเรื่องเป็นราว และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือแว่นกันแดด สไตล์สปอร์ตที่ต้องใส่เป็นประจำเพราะติดเสียแล้ว
แต่หล่อนก็ไม่ได้แต่งตัวแบบนี้เพราะอยากเป็นผู้ชาย เพียงแต่ชอบความสบายและคล่องตัวเท่านั้น หล่อนเป็นคนเดินตัวตรง ก้าวยาวอย่างคนที่มีความมั่นใจเต็มร้อย
ไข่แก้วลากปั้นดาวที่กำลังเหนื่อยและเบลอ และกำลังปวดท้องเพราะโรคกระเพาะ ไปขึ้นรถและพาไปขึ้นรถทัวร์ต่อทันทีเลยเพราะนัดกันไว้แล้วว่าจะไปหัวหินต่อ เนื่องจากไข่แก้วได้รางวัลจากบัตรเครดิตให้ไปหัวหินได้สองที่เป็นเวลาสองคืนสองวัน หล่อนก็เลยคิดจะไปฉลองการกลับมาของเพื่อนรักไปด้วย และที่ที่พวกได้รับรางวัลถูกนัดให้ไปขึ้นรถทัวร์ก็คือหน้าโรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงแล้วปั้นดาวก็ขอนั่งหลับรออยู่ในรถของไข่แก้วที่มีคนขับๆ มาให้จนกว่าไข่แก้วจะจัดการเรื่องกระเป๋าและที่นั่งเสร็จ
ในจำนวนผู้ที่ได้รางวัลนี้ก็มีสองหนุ่มตาสะอาดมาดเท่ห์รวมอยู่ด้วย ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน วัยที่ห่างกันหนึ่งปีทำให้สนิทกันเหมือนเพื่อน คนพี่ชื่อ หนึ่ง หรือ ธัญชร รามรุจา วางมาดขรึมตลอดเวลา แต่งตัวเท่ห์บ่งบอกรสนิยมทุกกระเบียดนิ้ว เขาไม่ค่อยอยากไปเที่ยวสักเท่าไหร่ แต่ถูกน้องชายเซ้าซี้ให้มาด้วยก็เลยต้องมาอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนัก ส่วน สอง หรือ ธาวัน น้องชายก็เท่ห์ไม่แพ้พี่ชายแม้จะอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นแค่เข่า เขาเป็นคนขี้เล่นรื่นเริงและคุยสนุก หน้าตาระรื่นแบบคนไม่มีทุกข์ ผิดกับพี่ชายมากก็ตรงนี้
เมื่อขึ้นไปนั่งบนรถทัวร์ได้ปั้นดาวก็ไม่ฟังเสียง ดึงหมวกหรุบลงปิดหน้าแล้วหลับไปตลอดทางปล่อยให้ไข่แก้วพูดคุยกับเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ ตามสบาย โดยไข่แก้วหารู้ไม่ว่าได้ตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครหลายคน เพราะหล่อนจัดว่าเป็นคนสวยมากคนหนึ่งทีเดียว แต่ที่ไม่มีหนุ่มไหนเข้ามาวอแวเพราะไม่แน่ใจว่าผู้หญิงอีกคนที่มาด้วยเป็น “ คู่ทอม ” ของหล่อนหรือเปล่า เนื่องจากเห็นไข่แก้วคอยดูแลเอาอกเอาใจอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวๆ ก็เห็นหล่อนชะโงกหน้าเข้าไปดูปั้นดาวจนชิด เดี๋ยวๆ ก็เอามือไปแตะที่หน้าปั้นดาวอีกแล้ว ส่วนปั้นดาวก็เอาแต่หลับอย่างเดียวจนใครก็เดาอะไรไม่ออก หนำซ้ำไข่แก้วยังเรียกปั้นดาวว่า “ คุณแพน ” ทุกครั้งอีกด้วย ทำให้คนฟังแล้วรู้สึกว่าไข่แก้วนั้นทั้งเกรงและยกย่อง ” คู่ ” ของหล่อนมาก
เมื่อไปถึงหัวหิน ปั้นดาวก็เข้าห้องพักนอนต่ออีก ไข่แก้วไม่รู้จะทำอะไรก็ลงไปว่ายน้ำเล่น หล่อนได้พบกับหนึ่งและสองที่บริเวณสระน้ำ สองถือโอกาสเข้ามาทำความรู้จักให้มากขึ้นอีก พอเลียบๆ เคียงๆ ถามถึงเพื่อนของหล่อน ก็ไม่รู้ว่าไข่แก้วตอบยังไงถึงทำให้สองปักใจเชื่อสนิทว่าไข่แก้วชอบผู้หญิงด้วยกันแน่นอน
อาหารค่ำวันนั้นทางโรงแรมจัดให้เป็นบาร์ บี คิว และบุฟเฟ่ที่ชายหาด ไข่แก้วซึ่งเป็นคนอ่อนหวานช่างเอาอกเอาใจคนอื่นอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักไม่ค่อยสบายก็ยิ่งเอาใจมากขึ้น คนอื่นก็เลยคิดไปด้วยว่าคู่นี้ต้องเป็น “ ทอมกับดี้ ” จริงๆ ยิ่งเห็นปั้นดาวนุ่งกางเกงยีนส์กับที - เชิร์ต นั่งหน้าขรึมไม่ค่อยพูดค่อยจายิ่งไปกันใหญ่ และทั้งคู่ก็เลยตกเป็นเป้าให้กลุ่มของหนึ่งและสองซึ่งนัดเพื่อนจากกรุงเทพฯ ให้ตามมาสมทบด้วยนินทากันอย่างสนุกปาก แล้วในจำนวนนี้ก็มี ช่อเพชร สาวเปรี้ยวซึ่งหมายตาหนึ่งรวมอยู่ด้วย หล่อนจะเคลียคลออยู่กับหนึ่งตลอดเวลา แต่ไม่มีใครว่าอะไรเพราะเห็นว่าหนึ่งไม่มีท่าทีรังเกียจหรือปฏิเสธการกระทำของหล่อน
ช่วงเวลานี้เองที่ทุกคนมีโอกาสรู้จักกันอย่างทั่วถึง แต่ปั้นดาวก็ไม่มีโอกาสได้พูดอะไรกับใครอยู่ดี ไม่ใช่เพราะฟอร์มจัด แต่ว่าปวดท้องไม่หาย แถมยังรำคาญช่อเพชรที่คอยกระแนะกระแหนไข่แก้วอยู่เรื่อยนั่นเอง ปั้นดาวชำเลืองไปทางกลุ่มของหนึ่งด้วยความไม่พอใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมหนึ่งถึงมองหล่อนเหยียดๆ แล้วช่อเพชรทำไมถึงต้องคอยพูดกระทบหล่อนกับไข่แก้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปปั้นดาวก็เริ่มเข้าใจอะไรๆ ได้ แม้ว่าจะยังไม่ปักใจนักแต่ก็คิดว่าหล่อนไม่น่าจะเข้าใจผิด มันก็เลยทำให้นึกอยากแกล้งขึ้นมา
เพราะงั้น วันต่อมา รายการเที่ยวของทัวร์ที่จัดไว้คือไปปืนเขาตะเกียบและไปไหว้พระในตอนเช้าปั้นดาวก็เลยทำเหมือนเป็นคู่ทอมของไข่แก้วเสียเลยโดยที่ไข่แก้วให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ทั้งคู่มีเรื่องหัวเราะกันเองสองคนไม่ได้หยุดเมื่อเห็นสีหน้าของหนึ่งและสอง
ช่อเพชรกรี๊ดกร๊าดให้หนึ่งช่วยจับช่วยดึงเวลาขึ้นเขา ซึ่งหนึ่งก็ช่วยไปตามมรรยาท สองเดินเข้ามาหาปั้นดาวและไข่แก้วเมื่อเห็นทั้งคู่นั่งพักเหนื่อยอยู่ข้างทาง ถึงแม้จะรู้ว่าไข่แก้วชอบผู้หญิงด้วยกันเขาก็ยังอดเสียดายไม่ได้และคิดหาทางเปลี่ยนความคิดของหล่อนเสียใหม่ให้ได้
เมื่อได้คุยกันจริงๆ ปั้นดาวรู้สึกว่าสองเป็นคนน่ารัก คุยสนุกคนหนึ่ง ผิดกับพี่ชายของเขามาก หล่อนก็เลยพูดดีกับเขา แต่ก็ยังแกล้งทำเป็น ” คู่ทอม ” ของไข่แก้วอยู่ ซึ่งเมื่อหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเข้าก็ไม่พอใจน้องชายมาก รีบเรียกให้เดินไปด้วยกันทันที
ตกเย็นปั้นดาวชวนไข่แก้วไปเที่ยวงานวัด ไปดูนักร้องลูกทุ่งชื่อดังที่มาเปิดการแสดงที่นั่น แล้วในงานวัดนี่เองที่จิ๊กโก๋กลุ่มหนึ่งเกิดมาติดใจสองสาวเมืองกรุงเข้า เมื่อดนตรีเลิกก็ตามออกมาถึงตลาด คนหนึ่งเข้ามาลวนลามไข่แก้ว เมื่อปั้นดาวปกป้องตามประสาคนไม่กลัวใครก็พอดีหนึ่งกับสองมาพบเข้าแล้วก็เลยเกิดเรื่องชกต่อยกับพวกจิ๊กโก๋ ปั้นดาวก็ช่วยด้วยโดยมีไข่แก้วหลบอยู่ข้างหลัง ปั้นดาวคว้าไม้มาได้ท่อนหนึ่งแล้วก็หวดซ้ายป่ายขวาตามแบบหนังจีนที่เคยดมาแล้ว หล่อนก็ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าหล่อนสามารถทำได้ดีอย่างน่าทึ่ง และความน่าทึ่งนั้นก็ยิ่งทำให้หนึ่งเชื่อสนิทไปกว่าเดิมว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่อยากเป็นผู้ชาย การชกต่อยเกิดขึ้นไม่นานตำรวจก็มาถึง พวกจิ๊กโก๋หนีเตลิดสกันไปหมด หนึ่งและสองเจ็บตัวกันเล็กน้อย ไข่แก้วเข้าไปขอบคุณสองหนุ่ม แต่ถูกหนึ่งพูดกระทบกลับมา ปั้นดาวก็เลยลากไข่แก้วจากไปเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงด้วยอีกเพราะเพิ่งจะเกิดเรื่องระทึกขวัญไปสดๆ ร้อนๆ
เมื่อกลับกรุงเทพฯ แล้วปั้นดาวก็เก็บตัวอยู่แต่ที่บ้าน เอาแต่นั่งดูมิวสิควีดีโอเพลงลูกทุ่งต่างๆ อย่างสนใจ เพราะอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าจะไม่มีเวลาอย่างนี้อีก หล่อนจะต้องไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษที่มหาวิทยาลัยที่ไข่แก้วเป็นอาจารย์สอนอยู่ตามที่ไข่แก้วจัดการให้ พ่อแม่ของหล่อนก็ดีใจที่หล่อนอยู่บ้านให้ชื่นใจนานๆ แม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมลูกสาวถึงลุกขึ้นมาฟังเพลงลูกทุ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย หนำซ้ำบางทียังลุกขึ้นร้องขึ้นเต้นอย่างเอาจริงเอาจังอีกด้วย
แต่ถึงจะพยายามเก็บตัวเงียบแค่ไหน การเป็นลูกสาวตระกูลไฮโซก็ทำให้ข่าวหลุดไปถึงคอลัมภ์นิสชื่อดังให้เอาไปเขียนจนได้ว่าหล่อนกลับมาเมืองไทยแล้ว แต่ซุ่มทำวิทยานิพนธ์อยู่ที่บ้านเงียบๆ
ส่วนหนึ่งที่ทำงานอยู่บริษัทโฆษณาก็ยังควงกับวิไลเลขาออกงานตามปกติ
ช่อเพชรอ่านข่าวการกลับมาของปั้นดาวด้วยความหมั่นไส้เพราะไม่ชอบคนที่สวยกว่าและเด่นกว่า โดยหารู้ไม่ว่าหล่อนเคยเห็นปั้นดาวมาแล้ว ในนามของแพน และหล่อนก็เอามาค่อนขอดให้หนึ่งฟังดังเช่นทุกครั้งเหมือนดังเช่นที่เคยอ่านข่าวของสาวไฮโซคนอื่นๆ
วันหนึ่ง สาม หรือ ธัญมน น้องสาวสุดท้องของหนึ่งและสองซึ่งเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสองกลับมาเล่าให้พี่ชายรวมทั้งพ่อแม่ฟังด้วยความตื่นเต้นว่ามีอาจารย์สอนพิเศษมาสอนวรรณคดีต่างประเทศที่คณะ เป็นอาจารย์ที่สวยและเก่งมาก ช่อเพชรซึ่งมาหาหนึ่งที่บ้านก็เริ่มค่อนขอดอีกจนเกิดมีปากเสียงกับสามจนหนึ่งต้องห้ามทัพเตือนน้องสาวให้ลองเรียนกับอาจารย์คนนี้ไปสักพักก่อนแล้วค่อยมาเล่าใหม่ว่าเป็นยังไง เพราะอาจจะสอนไม่เก่งดีแต่สวยอย่างเดียวก็ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สามก็กลับมาเล่าถึงอาจารย์ปั้นดาวอยู่เรื่อยๆ จนหนึ่งเบื่อฟัง มีแต่พ่อแม่และสองเท่านั้นก็ดีใจเมื่อเห็นว่าสามสนใจการเรียนมากขึ้นเพราะอาจารย์พิเศษคนนี้
แต่สองจอมเจ้าชู้ไม่ได้แค่ดีใจ เขายังสนใจอาจารย์ของน้องสาวมากอีกด้วย มากจนถึงกับแอบทำเป็นพี่ชายใจดีไปรับน้องสาวถึงคณะ เขาได้เห็นปั้นดาวสองสามครั้ง แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยพบกันมาแล้ว เพราะปั้นดาวนุ่งกระโปรง แต่งตัวสวย มีแต่ผมเท่านั้นที่รวบตึงหรือไม่ก็ถักเป็นเปียเดียวอยู่ ไม่ยาวปล่อยสยายยาวเหมือนคนอื่น
ทว่าครั้งหลังสุดสองก็เกิดได้พบไข่แก้วเข้าอย่างจัง สองดีใจมาก เลิกสนใจปั้นดาวหันกลับมาสนใจไข่แก้วใหม่ และต่อว่าไข่แก้วด้วยเรื่องที่หล่อนเคยบอกเขาว่าหล่อนเป็นครู แต่จริงๆ แล้วเป็นถึงอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย และไข่แก้วก็ไม่ได้บอกให้สองรู้ว่าแพนคือปั้นดาวที่ใครๆ คิดว่าเป็นคู่ทอมของหล่อน
ปั้นดาวเริ่มออกไปพบปะเพื่อนฝูงบ่อยขึ้นเพราะทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว จึงได้พบกับหนึ่งและช่อเพชรบ้าง หล่อนยังคงนุ่งกางเกงยีนส์กับที - เชิร์ตไปทั่วกรุง ซึ่งส่วนมากมักจะพบกันที่ผับของเพื่อนสนิทของหล่อนและไข่แก้วซึ่งเป็นผับดัง มีลูกค้าระดับไฮโซไปชุมนุมกันมากมาย หนึ่งจะมองหล่อนอย่างรังเกียจและดูถูกเหมือนเดิม และบอกให้พวกเพื่อนๆ ที่รู้จักกับหล่อนรู้ว่าเขาไม่ชอบพวกผิดธรรมชาติ ซึ่งคนฟังก็มักจะฟังด้วยความไม่เข้าใจว่าหนึ่งหมายความว่าอะไรหรือหมายความถึงใคร
ส่วนไข่แก้วนั้น พักหลังไม่ค่อยได้ไปไหนกับปั้นดาวเพราะว่างไม่ตรงกัน สองจึงสรุปเอาว่าหล่อนเลิกกับแฟนทอมของหล่อนแล้ว เขาจึงเริ่มตามจีบไข่แก้วอย่างเอาจริงเอาจังจนคุ้นเคยกันในเวลาต่อมา จนวันหนึ่งไข่แก้วชวนให้สองไปบ้านเพื่อนเพราะหล่อนมีธุระต้องไปคุยเล็กน้อย สองยินดีไปส่งให้ เมื่อไปถึงเขารู้สึกทึ่งในความใหญ่โตของบ้านเพื่อนของไข่แก้วมาก และงงมากเมื่อได้ยินเสียงเพลงลูกทุ่งดังลั่นออกมาจากภายใน
ที่นี่เองที่สองได้พบกับปั้นดาวอีกครั้ง
ปั้นดาวในชุดกางเกงยีนส์เสื้อยืด ถักเปียเดียวไว้ข้างหลัง ท่าทางทะมัดทะแมงหล่อนกำลังนั่งดูเอ็ม . วี . เพลงลูกทุ่งของไชยา มิตรชัย พร้อมกับร้องตามอย่างสนุกสนาน
สองเดินตามไข่แก้วเข้าไปในบ้าน พอเห็นหน้าคนร้องเพลงซึ่งเป็นเพื่อนของไข่แก้วเขาก็ทั้งผิดหวังและแปลกใจ
ผิดหวังที่เพื่อนของไข่แก้วคือ “ คุณแพน ”
แปลกใจที่เพิ่งเคยเห็นแพนที่วันนี้ไม่ใส่หมวกแก๊ปเพราะอยู่บ้าน หล่อนสวยจนเขาตะลึง สวยทั้งๆ ที่ไม่ได้แต่งหน้าเลยแม้แต่น้อย
เดี๋ยวมาต่อให้จบนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่