ก่อนอื่นขอบอกว่านี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งค่ะถ้าผิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ ที่มาตั้งกระทู้ส่วนหนึ่งเพราะอยากจะขอคำปรึกษาค่ะ อยากจะฟังความเห็นของแต่ละคนว่าถ้าเป็นพวกคุณจะทำอย่างไรกัน อีกส่วนหนึ่งคืออยากจะเล่าประสบการณ์ที่ได้พบเจอในตอนที่ตัดสินใจเลือคณะค่ะ เผื่อว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์แก่หลายๆคนค่ะ
ตรงส่วนนี้เป็นประสบการณ์ของเราตอนม.6ค่ะ เป็นช่วงที่กำลังเคว้งคว้างไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตตัวเองดี สิ่งที่เราทำและตัดสินใจไปอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องหรือดีที่สุดนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เวลาทุกคนขึ้นม.ปลายแต่ละคนก็จะเริ่มคิดแล้วใช่ไหมคะว่าอนาคตจบม.6แล้วจะเข้าเรียนคณะอะไรดี ในอนาคตเราอยากจะทำงานอะไร บางคนก็สามารถกำหนดได้เลยว่าอยากจะทำอะไรในอนาคต จะเรียนคณะอะไร แต่ก็จะมีคนบางส่วนที่ยังไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดีใช่ไหมคะ ถามว่าผิดไหมอยากบอกว่าไม่ผิดเลยค่ะเราก็เป็นคนหนึ่งค่ะที่ตัดสินใจไม่ถูก มันมีหลายอย่างที่อยากทำมากเกินไปจนไม่รู้ความตั้งใจจริงของตนเองว่าอะไรที่เหมาะกับเรากันแน่
แล้วเราแก้ปัญหานี้ยังไง? คำตอบคือ ต้องตัดสินใจค่ะเพราะเราสามารถเข้าเรียนได้แค่คณะเดียว (ไม่นับมหาลัยเปิดนะคะ) ตอนของเราใช้วิธีตัดคณะค่ะ ไล่มาเลยทั้งหมดว่าในประเทศมีคณะอะไรบ้างที่เปิดสอน เขียนมาเลยค่ะ แล้วมานั่งดู อืมมมม เราเรียนสายวิทย์-คณิตเพราะอยากหนีภาษาดังนั้นคณะจำพวกภาษานี่ตัดออกไปเลยค่ะ (พวกอักษรไรงี้) ถัดมาเราเกลียดเคมีเข้าเส้นไม่รู้เรื่องอะไรเลยทำข้อสอบทีก็มั่วเลยแบบไม่คิดอ่านโจทย์เพราะฉะนั้นเภสัชศาสตร์จึงเป็นคณะแรกๆที่ตัดออกแบบไม่ต้องคิดกันเลยทีเดียวเราก็ตัดไปตัดมานี่ไม่เอานู่นไม่น่าสน แต่ตัวเลือกที่เหลือก็ยังคลุมเคลืออยู่ดีเพราะมันคนละแนวกัน มาถึงจุดนี้ก็เหลืออยู่แค่วิธีเดียวค่ะ คือไปopen house ไปดูเลยค่ะคณะที่เหลือเป็นยังไง ไปถามรุ่นพี่ดูว่าเรียนอะไรบ้าง เราก็ไปค่ะไปหมดทั้งของจุฬา มหิดล เกษตร ฯลฯ ทีนี้ขณะที่เราชมบูธของแต่ละคณะอยู่เราไปสะดุดตากับบูธคณะนี้ค่ะ 'คณะทันตแพทย์ศาสตร์' เราก็ลองเข้าไปอุดฟัน กรอฟัน มันแบบว่า เฮ้ย โดนอ่ะ ชอบ สนุก ความรู้สึกคือมันโอเคมากๆเลยค่ะ เราเลยมุ่งมั่นที่จะสอบเข้าในคณะนี้ค่ะ แน่นอนว่ามันยากและคนอยากเข้าเยอะแถมจำนวนรับก็จัดว่าน้อยอีก เราก็ทำอะไรไม่ได้เนอะ ผลปรากฏว่าคะแนนเราออกมาน้อยถ้าเทียบกับคนอื่นๆ เราไม่ติดแน่นอนนน เกรดเราก็ไม่ดีโอเน็ตก็ไม่เวิค (จบม.6ด้วยเกรด3ต้นๆค่ะ) ความฝันฝันได้แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะไปถึงฝันนั้น เราเป็นคนนึงที่ปีกหัก TT ทำยังไงดีล่ะทีนี้..... ตอนระหว่างรอผลนั้นคิดว่าขอที่เรียนซักที่ก่อนเถอะเพื่อนมันก็ได้กันแล้วแต่เรายังไม่มีเลย ด้วยเหตุนี้ค่ะเราเลยสอบมันทุกคณะค่ะ (ยกเว้นภาษานะเออ) ก็ผิดหวังบ้างอะไรบ้างมาเรื่อยๆค่ะ เพราะเกรดเราไม่ได้สูงขนาดนั้นเราเลยมีทางเลือกไม่มาก (จำไว้นะเด็กม.ปลายทั้งหลายตั้งใจเรียนและเก็บเกรดให้สูงๆเข้าไว้นะคะ จะได้มีทางเลือกเยอะๆเพราะหลายๆคณะเค้ากำหนดเกรดขั้นต่ำเอาไว้ค่ะ) เราเคว้งคว้างมาเรื่อยๆค่ะ พ่อแม่ก็ถามอยากเข้าอะไรเราก็ไม่กล้าพูดอ่ะค่ะ เคยบอกไปครั้งนึงก็โดนแสกหน้ากลับมาว่าสมองแบบเราไม่ไหวหรอก (ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆT^T)
แอดมิชชั่น สุดยอดแห่งความระทึกค่ะ บางครั้งมันก็อาจเป็นสนามสุดท้ายนะคะเพราะบางคณะไม่มีเปิดรอบหลังแอดคะแนนเราบอกตามตรงค่ะน้อย 16,XXX เองมั้ง มาละค่ะปัญหาใหญ่ จะเลือกอะไรดีเนี่ยย!!! เราปรึกษากับผู้ปกครอง แม่อยากให้เรียนพยาบาลค่ะ ส่วนพ่ออยากให้เรียนบัญชี เราเลยเลือกไปแบบนี้ค่ะ
1.แพทย์แผนไทยประยุกต์ มหิดล คณะนี้เราแอบสนใจค่ะอยู่กับสมุนไพร แต่พ่อไม่เห็นด้วย อนึ่งคณะนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายเพราะคนส่วนมากมันคิดว่าจบมาทำได้แค่เป็นหมอนวด ซึ่งมันไม่ใช่แค่นั้นเนอะ
2.เทคโนโลยีแพทย์ศาสตร์ มหิดล ตอนนั้นคะแนนคณะนี้น้อยค่ะ เราเองก็ชอบวาดรูปชอบชีวะ มันลงตัวดีเหมือนกันนะคะ ได้ทั้ง2อย่างที่เราชอบเลย
3.บัญชี เกษตร
4.การจัดการ มหิดลค่ะ
สรุปตอนประกาศผลเราได้บัญชีค่ะ ดีใจมากนึกว่าจะหลุดหมดซะอีกค่ะ ก็ไปสอบสัมพาดซื้อชุด หาเพื่อนค่ะ เพื่อนดีมากเป็นกันเองสุดๆเลยประทับใจสุดๆค่ะ
***จุดพีคของชีวิตจะเริ่มแล้วนะคะ*** หลังจากนี้จะเป็นสิ่งที่เราเจอซึ่งเราอยากจะระบายและขอคำแนะนำค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถึงเราจะติดบัญชีเกษตรไปแล้วแต่เราก็ลองหาดูรอบหลังแอดดูค่ะว่ามีอะไรเปิดบ้าง แพทย์แผนไทยมหิดลก็เปิดนะแต่ไม่กล้ายื่นอ่ะคะ คนที่ไปยื่นคะแนนร่วม2หมื่นเลยไม่เอาดีกว่า จนมาเจอนี่ค่ะ คณะเภสัชศาสตร์ ของม.เอกชนแห่งนึง เราตัดสินใจมาลองสอบเภสัชดูค่ะ เราถามพี่สาวที่เป็นญาติดูเพราะเค้าจบคณะนี้จากที่นี่ พี่เค้าก็มาติวให้เราค่ะ เค้าอยากให้เราเรียน เราบอกกับพ่อว่าอย่าหวังมากนะ เพราะเราก็เชื่อว่าเราไม่ติดหรอก แถมเราไม่ค่อยชอบเคมีด้วย (สารภาพเลยเคยสอบตกด้วยค่ะ) ที่นี้สอบแล้วประกาศผลเลยนะคะ เราออกมานี่แทบลมจับค่ะ พาทเคมีมั่นใจแค่การหาครึ่งชีวิต.. ที่ทำได้ก็คือประวัติเภสัชกับการคำนวณยาที่พี่ติวให้ค่ะ ตอนแรกเราว่าจะกลับเลยเพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ได้แน่ คนอื่นนี่บอกว่าได้แน่ แต่ผลกลับผลิกค่ะ เราติด!?? เรางงมากทั้งที่ทำไม่ได้เลย พ่อก็ดีใจสิคะ แต่เรานี่เครียดเลย เราถามแม่ว่าเอายังไงดีแม่บอกให้เอาเภสัชค่ะ แม่จบบัญชีมาแม่ไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะเรียนบัญชี เอายังไงดีอ่า ถ้าคิดถึงตอนเรียนจบยังไงเภสัชก็ดีกว่าใช่ไหมล่ะคะ เราคิดว่าถ้าเราเลือกเภสัชเรายังได้เรียนวิทย์อยู่อาจเอาความรู้ไปสอบซิ่วได้อีก ในตอนนั้นคิดแค่จะซิ่วค่ะเลยคิดแค่ว่าจะเรียนเภสัชเพราะจะเอาความรู้เพื่อไปสอบใหม่เพราะเราไม่ได้ชอบคณะนี้เลยตอนรับน้องมันทำให้เราได้รู้ว่าร้อยละ95ของคนที่อยู่คณะนี้ที่นี่คือคนที่ซิ่วมาหรือไม่ก็จบไปแล้วและเป็นเด็กต่างจังหวัดร้อยละ97ซึ่งพวกเค้าอยู่หอกันค่ะ แต่เราไป-กลับนะ นั่นทำให้เราไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนค่ะ เพื่อนเค้าแบ่งกันเป็นกลุ่มๆและไม่ค่อยต้อนรับเราซักเท่าไหร่ทำเหมือนเราเป็นคนนอกเลยค่ะ ที่น่าทึ่งอีกอย่างคือ กิจกรรมเยอะมากกกกกกกกก ซ้อมสแตนหนักมาก สันทนาการ ร้องเพลง บูม รวมระยะเวลาการรับน้องประมาณ6-7ดือนค่ะ (พ.ค.- พ.ย.) สังคมเป็นแบบโซตัสในช่วงรับน้อง และมีการแบ่งสายรหัสอย่างสันโดดค่ะ ใครไม่มีสายรหัส ไม่มีการรันรหัสน้องที่ไม่มีพี่มาให้พี่ที่ไม่มีน้องนะคะ ใครไม่มีคือไม่มีนั่นทำให้ไม่ได้ของจากคณะค่ะ(พวกเอกสารการแนะนำการลงทะเบียน) จะไม่ได้แนวข้อสอบอะไรพวกนี้ด้วยนะคะ เราเองก็ไม่มีสายเลยค่ะตั้งแต่ปี2-ปี6 โดดเดี่ยวจริงๆค่ะ ไปถามพี่คนอื่นว่าพอจะมีเอกสารหรือพอจะแนะนำหนังสือหรือการลงทะเบียนเรียนให้หนูบ้างได้ไหม ผลก็คือ ไม่ค่ะ 'พี่ให้น้องรหัสพี่ไปแล้วอ่ะไปขอเองละกันนะ' 'เดี๋ยวพี่ไปดูของน้องพี่ก่อนหนูทำไปเองก่อนนะ' คือมันแบ่งแยกไปไหม?? ตอนลงทะเบียนเทอม2เราต้องมั่วเองเลยค่ะทำเองคนเดียว กลายเป็นได้เรียนกับคณะอื่นหลายวิชาเลย แล้วมันก็แฮปปี้มากค่ะ อ.สอนดีกว่าคาบที่เรียนเฉพาะเภสัช สอนลึกกว่า ไม่ข้ามๆ ตอนเรียนกับคณะพวกเพื่อนจะชอบขอให้ปล่อยไวๆ อยากไปทำกิจกรรมจนถึงขนาดขอยกคลาสเลยนะคะ คือกิจกรรมเยอะมากกว่าที่คิดไว้แถมมีการเช็คชื่อหักคะแนนรุ่นเราก็ไม่กล้าโดดเพราะมีเพื่อนคนนึงโดดไป เพื่อนที่มาถึงขนาดจะดักตบเลยค่ะ ใครไม่มาโดนแบนแบบนี้เลยค่ะ สุดท้ายเราเลยไม่ได้ซิ่วค่ะ ไม่มีเวลาอ่านหนังสือเพราะกิจกรรมเยอะมากเรียนยังแทบไม่ได้เรียนเลยค่ะ แถมยังตรงกับวันสอบของมหาลัยเลยดับฝันไปเลยค่ะ เราจบปีหนึ่งมาด้วยเกรด3 ซึ่งน้อยมากถ้าเทียบกับเพื่อนนะคะ คนอื่นได้เกือบๆ4กัน เราพยายามคิดว่าคงไหวมั้งคงเรียนได้ จนพอขึ้นปี2.....
ปี2มีเรียนวิชาคณะเยอะค่ะ เรารู้ตัวเลยทันทีว่าเราไม่ไหวแน่ๆเราไม่ชอบเคมี แล้วมันต้องเจอเยอะมาก อ.ก็เรียกถามรายคนแล้วเราตอบไม่ได้ค่ะ เราก็โดนหัวเราะ ความรู้สึกตอนนั้นคือเฟลมากค่ะ ไม่อยากมาเรียนเลย แล้วยังมีเรื่องตอนปิดเทอมด้วยค่ะ เพื่อนมีนัดมาประชุมงานรับน้องกันทุกวันเป็นเวลา1-3เดือนค่ะ ตอนนั้นเราไม่สามารถมาได้เราก็บอกไปนะคะว่าเราไม่ไปที่ม.ได้ไหม เราขอเอางานกลับมาทำแทน พวกงานเอกสารหรืออุปกรณ์อะไรก็ได้ เพื่อนก็ตกลงนะคะ คือบ้านเราไปม.ต้องนั่งรถเมล์ราวๆ2ชม.ค่ะ ก็มีมาให้พิมพ์หนังสือคณะนะคะ ขอบอกก่อนเลยว่าเราเองก็ไปช่วยในวันจริงเหมือนกันนะคะ ไม่ใช่ไม่ได้ไปช่วยเลย เช่น วันรับน้องที่ให้น้องมาทำกิจกรรมกับเพื่อนร่วมรุ่นครั้งแรกน่ะค่ะ,วันที่น้องรายงานตัววันนี้จะมีให้น้องสั่งซื้อเครื่องแบบรุ่นพี่จะไปซื้อให้(เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องซื้อให้น้องเหมือนกันค่ะตามปกติเด็กอย่างเราต้องขวนขวายซื้อเอง เรื่องนี้เลยงงๆค่ะแต่ออกความเห็นไม่ได้เดี๋ยวโดนด่า 555) เราเองก็ลางานมาช่วยขาย ช่วยไปซื้อของให้เหมือนกันค่ะ แต่สุดท้ายเราก็โดนหาว่าไม่ช่วยงานค่ะ มีเพื่อนมาบอกว่าทำไมไม่ลาออกแล้วมาช่วยกันทำงาน....อืม....ที่คณะนี้จะมีการเช็คชื่อทุกงานนะคะซึ่งจะมีผลกับการรับป้ายชื่อหลังเฟรชชี่ ของมหาลัยอื่นไม่แน่ใจนะคะแต่มีเพื่อนบอกได้ตั้งแต่ปี1ตอนจบเฟรชชี่แล้ว ของเราได้ปี2หลังเฟรชชี่ค่ะ ต้องได้คะแนนรวมเกิน80คะแนน เราไม่ถึงค่ะ เพราะมีการให้เพื่อนประเมินเพื่อนคิดว่าน่าจะขาดจากตรงนี้(เพราะได้ยินเสียงลำไลมาว่ากูไม่ให้มัน ฮือ) รุ่นพี่พาคนที่คะแนนไม่ถึงไปคุยกับอ.ค่ะ อ.ทราบเรื่องแล้วบอกว่าไม่เป็นไรอ.เข้าใจเพราะเราไม่ได้อยู่หอมันไม่สะดวกที่จะมาทุกวันอยู่แล้วอีกอย่างคือการนับคะแนนดันไม่ได้นับเป็นชม.เลยไม่ค่อยเวิคเท่าไหร่ค่ะ อ.ขอให้เรามาช่วยงานของมหาลัยทั้งหมด4งานหรือมากกว่านั้นแทนค่ะ ก็เป็นอันสรุปว่าเราได้ค่ะ นั่นแหละค่ะปัญหามาเลย.... เพื่อนไม่ยอมค่ะ จะปรับเงินเรา5800หรือมากกว่านั้นตอนนั้นมีการเรียกประชุมชั้นปีเราเรียนติดต่อมา4ชม.เลยขอไปเข้าห้องน้ำค่ะ ไปพร้อมกับอีกคนพอกลับมาก็เดินออกจากห้องกันแล้วเราก็ถามไม่ประชุมแล้วหรอก็บอกกลับมาว่าจะกลับกันแล้วเราก็รอพักนึงก็ไม่มีอะไรเลยกลับพร้อมคนอื่นๆค่ะ เท่านั้นแหละตามด่าในไลน์เลยค่ะกลางไลน์กลุ่มเลย ว่าเราไม่สำนึกบ้าง สารพัดคำด่าเลยค่ะ เราเลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของเราเลยค่ะ เราไม่อยากอยู่ที่นี่ไม่อยากเจอเพื่อนร่วมรุ่นมันไม่โอเคเลย ตอนจับกลุ่มทำแลปเรากลายเป็นเศษค่ะไม่มีใครรับเราเข้ากลุ่ม มันลำบากมากเพราะต้องทำแลปร่วมกันอีกเป็นสิบแลปเลย
เราตัดสินใจจะดรอปค่ะ ดรอปอ่านหนังสือแล้วสอบใหม่ เอาที่อื่นที่ไม่ใช่ที่นี่ แต่......แม่ไม่ให้ค่ะ โฮ
เราเลยเลือกที่จะถอนรายวิชาแลปออกยอมเรียนช้ากว่าคนอื่น ไปเรียนกับคณะอื่นแทนหรือเรียนกับรุ่นน้องอาจจะดีกว่า
คิดว่าเราทำถูกรึเปล่าคะ?? ใจเรามันไม่โอเคไปแล้วอ่ะค่ะ เดิมทีเราก็ไม่อยากเรียนเภสัชอยู่แล้วเราแค่ทำตามความคาดหวังของคนรอบข้างซึ่งมันทำให้เราไม่มีความสุขเลย พอคุยกัยผู้ปกครองเค้าก็อยากให้เราเรียนต่อเพราะเค้าเสียดาส เราก็เสียดายเหมือนกันแหละค่ะ เราควรทำยังไงดีคะ อยากได้คำแนะนำค่ะ ยินดีรับฟังทุกๆความเห็นค่ะ ขอบคุณค่ะ
สำหรับคนไม่อยากแบบเต็มๆจะสรุปย่อให้นะคะ
เราไม่ชอบคณะเภสัชค่ะแต่เราดันสอบติดเภสัชเอกชนแห่งหนึ่งและที่บ้านอยากให้เรียนค่ะ เราคิดว่าเราจะซิ่วเราเลยเลือกเภสัชเพราะตอนแอดเราติดบัญชีรายวิชาที่เรียนจะเอาความรู้ไปซิ่วได้ยากกว่า (เรากลัวลืมวิชาทางวิทย์ไปก่อนน่ะค่ะ) แต่พอมาเรียนคณะนี้ผลคือกิจกรรมเยอะมากและเขาไม่ให้โดดใครขาดคนที่เหลือโดนนั่นทำให้โดนแบนและโดนเพื่อนต่อว่าจนจะโดนตบค่ะ ความรู้ที่คิดจะตักตวงก็กลายเป็นไม่ได้เพราะเพื่อนขอยกคลาสไปซ้อมกิจกรรมกันค่ะ อีกทั้งวันสอบยังตรงกับของมหาลัยสุดท้ายเลยไม่ได้ซิ่วค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าถ้าทำใจให้ชอบได้คงเรียนไหวแต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้นค่ะ เรายิ่งไม่ชอบลั้งท้ายคนอื่นแถมโดนเสียดสี สังคมที่นี่ก็ไม่ดีค่ะค่อนข้างตัวใครตัวมัน ใจเรามันไม่รู้สึกอยากจะเรียนร่วมกับเพื่อนแล้วค่ะเพราะโดนอะไรหลายๆอย่าง จนไม่อยากมาเรียนเลยเลย เราอยากซิ่วแต่แม่อยากให้เรียนต่อ เราวางแผนอนาคตไม่ถูกเลยค่ะ ว่าควรจะทุ่มไปกับอะไร ตอนนี้เราถอนวิชาที่เป็นแลปออกเพราะเราหากลุ่มไม่ได้ เราเลยอยากจะขอคำแนะนำค่ะ
สุดท้ายนี้ ขอฝากถึงน้องๆทุกๆคนค่ะ อย่าเลือกหรือตัดสินใจอะไรแค่เพราะคนรอบข้างคาดหวังให้ทำแบบนั้น ขอให้เลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบและเป็นคนตัดสินใจเองนะคะ เพราะการฝืนทำในสิ่งที่ไม่ชอบมากๆก็รังแต่จะทำให้ไม่มีความสุขค่ะ
ผลของการเลือกในสิ่งที่ไม่ชอบ/ถ้าเป็นคุณจะทำยังไงกัน?
ตรงส่วนนี้เป็นประสบการณ์ของเราตอนม.6ค่ะ เป็นช่วงที่กำลังเคว้งคว้างไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตตัวเองดี สิ่งที่เราทำและตัดสินใจไปอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องหรือดีที่สุดนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
***จุดพีคของชีวิตจะเริ่มแล้วนะคะ*** หลังจากนี้จะเป็นสิ่งที่เราเจอซึ่งเราอยากจะระบายและขอคำแนะนำค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับคนไม่อยากแบบเต็มๆจะสรุปย่อให้นะคะ
เราไม่ชอบคณะเภสัชค่ะแต่เราดันสอบติดเภสัชเอกชนแห่งหนึ่งและที่บ้านอยากให้เรียนค่ะ เราคิดว่าเราจะซิ่วเราเลยเลือกเภสัชเพราะตอนแอดเราติดบัญชีรายวิชาที่เรียนจะเอาความรู้ไปซิ่วได้ยากกว่า (เรากลัวลืมวิชาทางวิทย์ไปก่อนน่ะค่ะ) แต่พอมาเรียนคณะนี้ผลคือกิจกรรมเยอะมากและเขาไม่ให้โดดใครขาดคนที่เหลือโดนนั่นทำให้โดนแบนและโดนเพื่อนต่อว่าจนจะโดนตบค่ะ ความรู้ที่คิดจะตักตวงก็กลายเป็นไม่ได้เพราะเพื่อนขอยกคลาสไปซ้อมกิจกรรมกันค่ะ อีกทั้งวันสอบยังตรงกับของมหาลัยสุดท้ายเลยไม่ได้ซิ่วค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าถ้าทำใจให้ชอบได้คงเรียนไหวแต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้นค่ะ เรายิ่งไม่ชอบลั้งท้ายคนอื่นแถมโดนเสียดสี สังคมที่นี่ก็ไม่ดีค่ะค่อนข้างตัวใครตัวมัน ใจเรามันไม่รู้สึกอยากจะเรียนร่วมกับเพื่อนแล้วค่ะเพราะโดนอะไรหลายๆอย่าง จนไม่อยากมาเรียนเลยเลย เราอยากซิ่วแต่แม่อยากให้เรียนต่อ เราวางแผนอนาคตไม่ถูกเลยค่ะ ว่าควรจะทุ่มไปกับอะไร ตอนนี้เราถอนวิชาที่เป็นแลปออกเพราะเราหากลุ่มไม่ได้ เราเลยอยากจะขอคำแนะนำค่ะ
สุดท้ายนี้ ขอฝากถึงน้องๆทุกๆคนค่ะ อย่าเลือกหรือตัดสินใจอะไรแค่เพราะคนรอบข้างคาดหวังให้ทำแบบนั้น ขอให้เลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบและเป็นคนตัดสินใจเองนะคะ เพราะการฝืนทำในสิ่งที่ไม่ชอบมากๆก็รังแต่จะทำให้ไม่มีความสุขค่ะ