หลังจากที่มีการพัฒนาและทดลองโปรแกรมเบต้ามานานหลายเดือน ล่าสุด Samsung Pay ระบบใช้จ่ายเงินแทนเงินสดเช่นเดียวกับ Apple Pay ก็พร้อมใช้งานแล้ววันนี้ แต่เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
หลังจากที่ปล่อยให้ กูเกิล ส่ง Android Pay ออกมาแทนที่ Google Wallet สำหรับการทำธุรกรรมในร้านค้าได้ไม่ถึงเดือน Samsung Pay ก็เปิดให้สามารถใช้ชำระเงินแทนเงินสดได้แล้ว โดยซัมซุงคาดว่า Samsung Pay จะเป็นที่แพร่หลายมากที่สุดในบรรดาทั้งสามแบรนด์ที่กล่าวมา เนื่องจากเมื่อช่วงประมาณต้นปีที่ผ่านมา ซัมซุง ได้ทำการเข้าซื้อกิจการ LoopPay บริษัทซอฟท์แวร์ที่ช่วยพัฒนาเทคโนโลยี Magnetic Source Transmission หรือ MST ซึ่งเป็นแม่เหล็กชนิดเดียวกันกับที่ใช้บนบัตรเครดิตและบัตรเดบิตทำให้ง่ายต่อการใช้จ่าย เพียงแค่ลงทะเบียนด้วยตนเองเท่านั้น แตกต่างจากของแอปเปิลและกูเกิลที่ใช้งานด้วยระบบเอ็นเอฟซี ที่ยังไม่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายนัก
สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ Samsung Pay นั้น ได้แก่สมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy Note 5, S6, S6 Edge และ S6 Edge+ โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Samsung Pay ได้แล้ววันนี้ แต่น่าเสียดายที่รุ่นก่อนหน้านี้ จะยังไม่สามารถใช้งานได้ จนกว่าทางซัมซุงจะมีการปรับแต่งระบบการป้องกันความปลอดภัยในรุ่นเก่าก่อน
แม้ว่า Samsung Pay จะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมากกว่าของแอปเปิลและกูเกิล แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของการยังไม่ได้รับความร่วมมือจากธนาคารต่างๆ โดยการใช้ Samsung Pay บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตจาก Visa, MasterCard หรือ American Express เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตจาก Bank of America, Citi, American Express และ US Bank จะต้องใช้ควบคู่กับบัตรเท่านั้น แต่ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่าจะมีการรองรับที่เพิ่มขึ้นในอนาคต และโชคดีที่เครือข่ายผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ๆในสหรัฐฯ ต่างให้การสนับสนุน Samsung Pay เกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียง Verizon เท่านั้น
ที่มา
TechSpot
ข่าวดี สามารถใช้ Samsung Pay ชำระเงินแทนเงินสดได้แล้ววันนี้ ยกเว้นเครือข่าย Verizon
หลังจากที่มีการพัฒนาและทดลองโปรแกรมเบต้ามานานหลายเดือน ล่าสุด Samsung Pay ระบบใช้จ่ายเงินแทนเงินสดเช่นเดียวกับ Apple Pay ก็พร้อมใช้งานแล้ววันนี้ แต่เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
หลังจากที่ปล่อยให้ กูเกิล ส่ง Android Pay ออกมาแทนที่ Google Wallet สำหรับการทำธุรกรรมในร้านค้าได้ไม่ถึงเดือน Samsung Pay ก็เปิดให้สามารถใช้ชำระเงินแทนเงินสดได้แล้ว โดยซัมซุงคาดว่า Samsung Pay จะเป็นที่แพร่หลายมากที่สุดในบรรดาทั้งสามแบรนด์ที่กล่าวมา เนื่องจากเมื่อช่วงประมาณต้นปีที่ผ่านมา ซัมซุง ได้ทำการเข้าซื้อกิจการ LoopPay บริษัทซอฟท์แวร์ที่ช่วยพัฒนาเทคโนโลยี Magnetic Source Transmission หรือ MST ซึ่งเป็นแม่เหล็กชนิดเดียวกันกับที่ใช้บนบัตรเครดิตและบัตรเดบิตทำให้ง่ายต่อการใช้จ่าย เพียงแค่ลงทะเบียนด้วยตนเองเท่านั้น แตกต่างจากของแอปเปิลและกูเกิลที่ใช้งานด้วยระบบเอ็นเอฟซี ที่ยังไม่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายนัก
สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ Samsung Pay นั้น ได้แก่สมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy Note 5, S6, S6 Edge และ S6 Edge+ โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Samsung Pay ได้แล้ววันนี้ แต่น่าเสียดายที่รุ่นก่อนหน้านี้ จะยังไม่สามารถใช้งานได้ จนกว่าทางซัมซุงจะมีการปรับแต่งระบบการป้องกันความปลอดภัยในรุ่นเก่าก่อน
แม้ว่า Samsung Pay จะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมากกว่าของแอปเปิลและกูเกิล แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของการยังไม่ได้รับความร่วมมือจากธนาคารต่างๆ โดยการใช้ Samsung Pay บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตจาก Visa, MasterCard หรือ American Express เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตจาก Bank of America, Citi, American Express และ US Bank จะต้องใช้ควบคู่กับบัตรเท่านั้น แต่ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่าจะมีการรองรับที่เพิ่มขึ้นในอนาคต และโชคดีที่เครือข่ายผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ๆในสหรัฐฯ ต่างให้การสนับสนุน Samsung Pay เกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียง Verizon เท่านั้น
ที่มา TechSpot