ม็อกค่าปาท่องโก๋ : “ไม่ใช่แค่น้ำครึ่งแก้ว นักแสดงต้องเป็นแก้วเปล่า” {สัมภาษณ์ แม็กกี้-อาภา ภาวิไล}

สวัสดีครับ

      ขออนุญาต นำคอลัมน์ "ม็อกค่าปาท่องโก๋" ที่ผมเขียนประจำในเนชั่นสุดสัปดาห์นั้น มาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน เพื่อขอคำแนะนำ คำติชม เพื่อปรับปรุงงานเขียนต่อไปในอนาคตเรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ

เนชั่นสุดสัปดาห์ เล่มที่ 1216 ประจำวันที่ 18 กันยายน 2558


     ม็อคค่าปาท่องโก๋ สัปดาห์นี้ จะพาท่านไปรู้จักกับนักแสดงสาวรุ่นใหม่ ที่มีผลงานหลากหลายไม่ธรรมดา “แม็กกี้” อาภา ภาวิไล ที่รับบทเป็น “โกสุม” ในหนังไทย “แม่เบี้ย” เวอร์ชั่นล่าสุด ผลงานการกำกับของ “หม่อมน้อย”

Mr. Coffee : มาเล่น “แม่เบี้ย” ได้อย่างไร

แม็กกี้ : แม็กกี้เรียนการแสดงกับหม่อมน้อยอยู่แล้วค่ะ ได้เรียนต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วง “เธอ เขา เรา ผี” ตอนที่ไปเรียน หม่อมก็บอกว่า มีบทนึง บทคุณโกสุม เป็นบทที่ยากมาก บทสำคัญที่สุดของเรื่อง สนใจไหม


Mr. Coffee : บท “คุณโกสุม” เป็นอย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับบทที่เคยเล่นในหนังเรื่องก่อนๆ

แม็กกี้ : ยากมากค่ะ เพราะว่ามันมีหลายสิ่งที่ใหม่ขึ้นมาเยอะ การพลิกบทบาทมาแต่งองค์ทรงเครื่องเล่นบทพีเรียด ยากกว่าบทคนใบ้ใน “ผีห่าอโยธยา” ด้วยค่ะ ท้าทายมากค่ะ จะได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเล่นเลยมาก่อน


Mr. Coffee : หนักใจกับบทนี้หรือไม่ เพราะหนังเรื่องนี้กำกับโดยหม่อมน้อย ซึ่งเป็นไปได้ที่จะต้องแสดงฉากเลิฟซีน

แม็กกี้ : ตัดสินใจภายในไม่กี่วินาทีค่ะ พอหม่อมถามมา แม็กกี้ก็บอกเลยทันทีว่า “เล่นค่ะ” เพราะเป็นหนังของหม่อมน้อย ท่านเป็นครูบาอาจารย์ของเราเอง มีความเชื่อใจกัน ไว้ใจกัน ส่วนบทเลิฟซีน แม็กกี้ถือว่าการได้ร่วมงานกับครู เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ หลายคนไขว่คว้ามาก ต่อสู้แย่งชิง แต่เรากลับได้มันมา เราก็อยากจะสนองตรงนี้ให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการรับบทนี้ค่ะ


Mr. Coffee : การที่เราไม่ต้องแคสติ้ง แล้วหม่อมน้อยเลือกเราเลย ท่านบอกไหมว่าเลือกเราเพราะอะไร

แม็กกี้ : หม่อมน้อยท่านเป็นคนที่เหมือนมีตาทิพย์นะคะ สามารถมองคนออกว่า ใครสามารถที่จะไปได้ คิดว่าท่านคงเห็นแวว ถ้าชี้แนะให้ถูกทางก็น่าจะไปได้ดี และอาจจะมองเห็นว่าแม็กกี้แต่งชุดไทยแล้วออกมาได้ดีด้วย และจริงค่ะ แม็กกี้ไม่รู้ตัวเองว่าเป็นคนที่แต่งองค์ทรงเครื่องไทย แล้วจะขึ้นขนาดนี้ แต่พออกมามันดีมาก และหม่อมก็บอกว่าไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะออกมาได้ดีขนาดนี้


Mr. Coffee : มีคนบอกว่า แม็กกี้ เป็นนักแสดงพันหน้า คือแต่ละเรื่องไม่เหมือนกันเลย คนจำไม่ได้ คิดอย่างไร

แม็กกี้ : ดีใจค่ะที่ไม่ได้ถามว่าทำไมคนจำไม่ได้ คำถามนี้ฟังดูดีกว่าเยอะ จริงๆ ไม่ใช่แค่น้ำครึ่งแก้ว นักแสดงต้องเป็นแก้วเปล่า คือจบเรื่องเก่าก็ต้องล้างทุกอย่างออกให้หมด เพราะเมื่อเล่นเรื่องใหม่ เราก็ต้องใส่ตัวละครตัวใหม่เข้ามา แม็กกี้ก็จะค้นหาตัวละครตัวใหม่ ให้ลึกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


Mr. Coffee : ใจจริงแล้ว ส่วนตัวชอบงานหนัง หรือละคร มากกว่ากัน

แม็กกี้ : จริงๆ แม็กกี้เลือกจากบทบาทมากกว่าค่ะ ชอบบทบาทที่ท้าทาย แต่ในเรื่องของระบบการทำงาน การถ่ายทำ หนังกับละครมันแตกต่างกันอยู่แล้ว หนังค่อนข้างที่จะ Real มากกว่า แต่ละครจะค่อนข้างทำตามใจคนดู เป็นตัวของตัวเองได้น้อยกว่า ต้องเอาใจกลุ่ม Target แต่หนังเราสามารถคิดว่าเป็นตัวละครนั้นๆ ได้เต็มร้อย รวมถึงด้าน Production วิธีการทำงาน การถ่ายทำ จะค่อนข้างแตกต่าง หนังจะมีความสมจริงและมีความสวยงามในเรื่องของภาพ แต่ในแง่การเริ่มต้น เริ่มจากหนังจะดีกว่าค่ะ เพราะ Acting ของหนัง จะมีบางอย่างที่แตกต่างจากละครอย่างเห็นได้ชัด แม็กกี้คิดว่าการที่เริ่มจากหนังแล้วค่อยไปลงละครจะดีกว่า มันจะเป็นความแตกต่างได้เลยว่า คนนี้มาจากหนัง คนนี้มาจากละคร Acting จะแตกต่างกันโดยธรรมชาติ คือเราจะมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าคนอื่นที่เริ่มจากละคร  ละครโฟกัสในเรื่องของ Blocking เรื่องของคิว ส่วนหนังโฟกัสในเรื่องของ Character เป็นอันดับแรก แล้วปล่อยให้เป็นธรรมชาติ เราก็จะเล่นออกมาเป็นธรรมชาติ แต่บางคนที่เล่นละครมามาก แล้วกลับมาเล่นหนัง ก็จะติดภาพละคร หันหน้าเข้ากล้อง ในเรื่องนี้ก็มีคนถูกว่าหลายคนเหมือนกัน ว่า “ไม่ใช่ละคร” คือต้องเล่นเป็นธรรมชาติ คือจริงๆ เราแค่หันหลัง เรารู้สึก คนดูรู้สึกได้แล้ว หากเรารู้สึกจริงๆ มันจะมีรังสีออกมาเอง


Mr. Coffee : หนังแนวไหนที่อยากเล่นอีกบ้าง

แม็กกี้ : Psycho-Thriller อย่าง คน-โลก-จิต ก็เล่นแล้ว Comedy สูบคู่กู้โลก ก็เล่นแล้ว ผี-ตลก ก็ ปอบหน้าปลวก สยองขวัญ-พีเรียด ผีห่าอโยธยา ก็เล่นมาแล้ว ละครก็ได้เล่นเรื่อง แฝดล่องหน ได้เล่นเป็นฝาแฝดที่มีบุคลิกแตกต่างกัน ส่วนในผีห่าอโยธยา เล่นเป็นใบ้ ก็ได้เล่นแล้ว จริงแล้วหนูเป็นคนที่โชคดีมากค่ะที่ได้เล่นมาหลากหลาย อย่างบทคนใบ้ใน “ผีห่าอโยธยา” จริงๆ ตอนเริ่มแรกยังไม่มี แต่คุณชายอดัมเห็นว่าแม็กกี้เล่นมาหลายบทบาทมากแล้ว อยากให้ได้บทที่ยากขึ้นกว่านี้ ก็เลยจัดบทคนใบ้มาให้ ส่วนเรื่องนี้บทคุณโกสุมก็ใหม่เหมือนกัน ส่วนบทที่อยากเล่น ก็คงอยากจะเล่น Sci-Fi แล้วล่ะค่ะ แต่สำหรับประเทศไทยก็คงจะยากหน่อย ใช้จินตนาการเยอะๆ แต่ในเรื่องนี้ก็ต้องใช้จินตนาการเล่นกับงูเหมือนกันเพราะงูเป็น CG และตัวใหญ่มาก


Mr. Coffee : แนวหนังที่ชอบ

แม็กกี้ : ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีเวลาได้ดูหนังเลยค่ะ ก็เลยต้องซื้อแผ่นมาดู หรือดูในรอบ Press ส่วนแนวหนังที่ชอบ ก็เป็นแนว Fantasy / Drama / Psycho-Thriller ก็ชอบมากค่ะ เพราะดูแล้วได้คิดตาม ได้สังเกตคน ดูพฤติกรรมอะไรใหม่ของมนุษย์ อย่างเรื่อง Gone Girl ดูแล้วก็หดหู่ แต่ก็ชอบนะคะ เราชอบเรียนรู้ตัวละคร ชอบสังเกตตัวละครว่ามีวิธีการสื่อสารอย่างไร ส่วนหนังไทยชอบ อุโมงค์ผาเมือง ชอบบท ชอบการแสดง เนื้อเรื่องสะเทือนใจดี นักแสดงสื่อสารได้ชัดเจน แม็กกี้ ชอบเก็บข้อมูล ชอบสังเกต ดูหนังก็จะดู สังเกต ดู Production ไม่ได้ดูไปเรื่อย อาจจะเป็นเพราะส่วนหนึ่งเราเห็นคุณพ่อ (อรุณ ภาวิไล) ทำงานด้วย โดนสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก ให้รู้หน้าที่ อยู่ในฐานะนักแสดง ต้องสื่อสารสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับคนดู อย่างตัวละครในเรื่องนี้ เราก็รู้สึกภูมิใจว่าเราได้ถ่ายทอดตัวละครที่ได้สอนคนดู ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่ทำบาป มีกิเลสตัณหามาก เหมือนเป็นการทำบุญอีกทางหนึ่ง การเป็นนักแสดงถ้าใช้ให้ถูกทางจะได้บุญมาก เพราะเป็นการบอกต่อคนดูเป็นล้าน บอกบุญได้มาก


Mr. Coffee : ฝากผลงานอื่นๆ

แม็กกี้ : ฝากละครเรื่อง แม่ดอกรักเร่ เป็นสาวแก่น ขี่ควาย เรื่อง แฝดล่องหน เล่นเป็นฝาแฝด ทั้งตัวดีและร้าย และ เจ้าบ่าวกลัวฝน แนวเกาหลี รอมคอม เล่นกับทางช่อง 7 ทั้งหมดค่ะ และก็จะมีเปิดกล้องอีกค่ะ ส่วนหนังจะมีหนังที่ได้ไปร่วมงานกับทางเกาหลีค่ะ


Mr. Coffee : อยากฝากอะไรถึงคนดูหนังไทย

แม็กกี้ : การเปลี่ยนทัศนคติของคนไทยค่อนข้างยาก ในฐานะที่เป็นคนทำงานได้เห็นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของหนังไทย แม็กกี้ได้เห็นความทุ่มเท ความเหนื่อย ความสามัคคี การสร้างสรรค์สิ่งที่ดี การสร้างหนังแต่ละเรื่องใช้ทุนมาก ยากมาก เราดีในแบบฉบับของเรา เราสื่อความเป็นไทย ความงามศีลธรรม อย่างแม่เบี้ยก็ส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย รวมทั้งบาปบุญคุณโทษ สิงศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อ ส่วนคนที่ไม่ดูหนังไทย คุณพลาดมาก หนังไทยมีดีหลายอย่าง อยากให้มาดูกันว่าฝีมือของคนไทยว่าก้าวไปถึงไหนแล้ว กำกับโดยครูบาอาจารย์ เรื่องนี้ทุกคนพร้อมจะเป็นตัวย่างของคนบาป กิเลสตัณหา หนังเรื่องนี้จะสะท้อนให้เรากลับมาดูตัวเองและคนรอบข้างว่า คุณใช้ความรักไปถูกทางหรือเปล่า?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่