กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา ยาวหน่อยนะคะแต่อยากจะขอคำแนะำ ถ้าผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยนะคะ
เวลาที่เราต้องอยู่ในสถานการณ์ที่มีคนเยอะๆ เราจะรู้สึกประหม่ามากและพยายามหลีกเลี่ยงออกจากที่ตรงนั้น เราจะคิดอยู่ตลอดเวลามามีสายตาคนอื่นจับจ้องอยู่ เราเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนประถมปลาย เนื่องจากบ้านเราเป็นร้านค้า หน้าบ้านจะมีคนเยอะอยู่ตลอดเวลา และส่วนใหญ่จะเป็นแก๊งวัยรุ่น เราจะรู้สึกไม่กล้าออกมาหน้าบ้าน จะอยู่แต่ในบ้านตลอด พอก้าวออกมาจากบ้านก็จะมีสายตาของคนอื่นจ้องมองมาที่เรา ทำให้เรารู้สึกอาย อายจนกระทั่งแม้แต่เดินมาปิดประตูที่หน้าบ้านยังไม่กล้า เลยเป็นคนไม่ออกไปไหนในระแวกบ้านเลยตั้งแต่เด็กๆ
พอเข้ามหาลัย ก็รู้สึกเกลียดการทำกิจกรรมมาก โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีคนเยอะๆ
- กลัวการที่จะต้องแนะนำตัวทีละคน ออกไปพูดหรือทำท่าประจำตัวแบบตลกๆ ต่อหน้ารุ่นพี่และเพื่อนๆ
- เวลาไปเรียนห้องเลคเชอร์ ที่มีคน เป็นร้อย เราจะเดินก้มหน้าเข้าห้องตลอดจนกว่าจะถึงที่นั่งเพราะรู้สึกว่ามีคนมองยิ่งถ้าไปสาย อาจารย์เริ่มสอนแล้ว พอเราเปิดประตูเข้าไปก็จะดึงความสนใจจากสายตาทุกคนมาที่เรา เราเลยกลัวจนถึงขั้นเดินวนไปวนมาหน้าห้องแต่ไม่กล้าเข้าไป และโดดเรียนกลับหอเลยก็มี
- เวลาไปเรียนเราจะเลือกที่นั่งเกือบๆ หลังสุด เพราะถ้านั่งข้างหน้าเราจะรู้สึกเกร็งมาก ไม่กล้าขยับตัว เพราะกลัวเป็นเป้าสายตา กลัวคนข้างหลังจะมอง
- เวลาพักเที่ยง ไม่ชอบไปกินข้าวที่โรงอาหารกับเพื่อน จะชอบซื้อไปกินที่หอคนเดียวตลอด เพราะโรงอาหารคนเยอะ เวลาเดินเข้าไปกลัวคนมอง กลัวเดินสะดุดอะไรหรือทำอะไรเปิ่นๆ แล้วคนที่เห็นเค้าจะหัวเราะเรา ปกติเราเป็นคนซุ่มซ่าม ชอบเดินสะดุด โน่นนี่ ตั้งแต่ปี 1 ถึง ปี 4 เรากินข้าวโรงอาหารไม่น่าจะถึง 20 ครั้ง เรารู้สึกว่าการกินข้าวที่ห้องมันเป็นอะไรที่สบายใจและมีความสุขมาก แม้ว่าหอมันจะไกลกับตึกที่เรียนมาก เราก็ยังกลับมากินคนเดียว
- กลัวการ present งานหน้าชั้น จะกังวลและประหม่า แต่พอถึงเวลาไปยืนอยู่หน้าชั้น เราจะทำตัวเหมือนมั่นใจสุดๆ เพื่อกลบเกลื่อนความกลัวของตัวเอง
พอเรียนจบมา ต้องไปสัมภาษณ์งาน
- เจอคนนั่งรอเยอะๆ จะรู้สึกเกร็งมากถึงมากที่สุด เมื่อเราเดินเข้าไปทีหลัง แล้วคนที่นั่งรออยู่ก่อน ทุกคนหันมามองเรา จนบางครั้งเราก็ทำเป็นหยิบมือถือขึ้นมาเหมื่อนกำลังโทรไปหาใครบางคน บางทีเราก็แอบไปนั่งอยู่ในห้องน้ำ เพราะรู้สึกว่ามันส่วนตัวมากๆ ในสถานการณ์นั้น นั่งเล่นมือถือบนฝาชักโครก เป็น ชั่วโมงๆ แต่หลังๆพอเราอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เราจะมองหาคนที่ดูเหมือนมาคนเดียวเหมือนกัน แล้วเข้าไปชวนคุย เพื่อให้รู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียวและไม่ประหม่า ทั้งที่ฝืนใจมากเพราะในใจจริงๆ แล้วเราไม่ได้อยากทำความรู้จักใครก่อนเลย
- คิดว่าการปิดตัวและไม่เป็นมิตรจะทำให้เราดูเป็นคนมีปมเป็นคนมีปัญหาเราอาจจะถูกจับจ้องถูกนินทา เลยทำให้เราดูเหมือนเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี ทั้งที่จริงๆแล้วเราไม่อยากเป็น ไม่อยากคุยอะไรกับใครเลย
- เวลาขึ้นลิฟท์ที่มีคนเยอะๆ เราจะรู้สึกอึดอัดที่ต้องยืนชิดๆ กับคนอื่นหลายๆคน รู้สึกว่าทำตัวไม่ถูก
- ขี้อายมากๆ แต่บางครั้งเราก็บ้าและรั่วมากๆ
- เวลาไปกินข้าวตามร้านอาหาร จะเลือกร้านที่คนน้อยสุดเป็นอันดับแรก และจะเลือกนั่งโต๊ะที่จะนั่งหันหน้าเข้าผนัง หรือที่ๆ จะสบตากับคนอื่นน้อยที่สุด
- เวลานั่งรถสาธารณะจะชอบใส่หูฟังเหมือนฟังเพลงซึ่งบางที เราก็ไม่ได้เปิดเพลง แต่แค่อยากทำให้ดูเหมือนยุ่งๆ เพื่อลดการเผชิญหน้ากับคนอื่น
- ไม่กล้าบอกให้รถจอดตรงที่เราจะลง ยอมเดินย้อนกลับมา เพราะถ้าเราตะโกนบอกเราจะรู้สึกอายคนอื่น
*** เราไม่รู้ว่าอาการเหล่านี้คนทั่วๆไปเป็นกันมั้ย แต่เรารู้สึกไม่ชอบในสิ่งที่เราเป็นอย่างมาก เลยอยากจะขอคำแนะนำหรือประสบการณ์จากคนอื่นๆ ดูค่ะ ขอบคุณค่ะ
อาการแบบนี้ ถือว่าผิดปกติหรือมีปัญหาทางจิตมั้ยคะ???
เวลาที่เราต้องอยู่ในสถานการณ์ที่มีคนเยอะๆ เราจะรู้สึกประหม่ามากและพยายามหลีกเลี่ยงออกจากที่ตรงนั้น เราจะคิดอยู่ตลอดเวลามามีสายตาคนอื่นจับจ้องอยู่ เราเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนประถมปลาย เนื่องจากบ้านเราเป็นร้านค้า หน้าบ้านจะมีคนเยอะอยู่ตลอดเวลา และส่วนใหญ่จะเป็นแก๊งวัยรุ่น เราจะรู้สึกไม่กล้าออกมาหน้าบ้าน จะอยู่แต่ในบ้านตลอด พอก้าวออกมาจากบ้านก็จะมีสายตาของคนอื่นจ้องมองมาที่เรา ทำให้เรารู้สึกอาย อายจนกระทั่งแม้แต่เดินมาปิดประตูที่หน้าบ้านยังไม่กล้า เลยเป็นคนไม่ออกไปไหนในระแวกบ้านเลยตั้งแต่เด็กๆ
พอเข้ามหาลัย ก็รู้สึกเกลียดการทำกิจกรรมมาก โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีคนเยอะๆ
- กลัวการที่จะต้องแนะนำตัวทีละคน ออกไปพูดหรือทำท่าประจำตัวแบบตลกๆ ต่อหน้ารุ่นพี่และเพื่อนๆ
- เวลาไปเรียนห้องเลคเชอร์ ที่มีคน เป็นร้อย เราจะเดินก้มหน้าเข้าห้องตลอดจนกว่าจะถึงที่นั่งเพราะรู้สึกว่ามีคนมองยิ่งถ้าไปสาย อาจารย์เริ่มสอนแล้ว พอเราเปิดประตูเข้าไปก็จะดึงความสนใจจากสายตาทุกคนมาที่เรา เราเลยกลัวจนถึงขั้นเดินวนไปวนมาหน้าห้องแต่ไม่กล้าเข้าไป และโดดเรียนกลับหอเลยก็มี
- เวลาไปเรียนเราจะเลือกที่นั่งเกือบๆ หลังสุด เพราะถ้านั่งข้างหน้าเราจะรู้สึกเกร็งมาก ไม่กล้าขยับตัว เพราะกลัวเป็นเป้าสายตา กลัวคนข้างหลังจะมอง
- เวลาพักเที่ยง ไม่ชอบไปกินข้าวที่โรงอาหารกับเพื่อน จะชอบซื้อไปกินที่หอคนเดียวตลอด เพราะโรงอาหารคนเยอะ เวลาเดินเข้าไปกลัวคนมอง กลัวเดินสะดุดอะไรหรือทำอะไรเปิ่นๆ แล้วคนที่เห็นเค้าจะหัวเราะเรา ปกติเราเป็นคนซุ่มซ่าม ชอบเดินสะดุด โน่นนี่ ตั้งแต่ปี 1 ถึง ปี 4 เรากินข้าวโรงอาหารไม่น่าจะถึง 20 ครั้ง เรารู้สึกว่าการกินข้าวที่ห้องมันเป็นอะไรที่สบายใจและมีความสุขมาก แม้ว่าหอมันจะไกลกับตึกที่เรียนมาก เราก็ยังกลับมากินคนเดียว
- กลัวการ present งานหน้าชั้น จะกังวลและประหม่า แต่พอถึงเวลาไปยืนอยู่หน้าชั้น เราจะทำตัวเหมือนมั่นใจสุดๆ เพื่อกลบเกลื่อนความกลัวของตัวเอง
พอเรียนจบมา ต้องไปสัมภาษณ์งาน
- เจอคนนั่งรอเยอะๆ จะรู้สึกเกร็งมากถึงมากที่สุด เมื่อเราเดินเข้าไปทีหลัง แล้วคนที่นั่งรออยู่ก่อน ทุกคนหันมามองเรา จนบางครั้งเราก็ทำเป็นหยิบมือถือขึ้นมาเหมื่อนกำลังโทรไปหาใครบางคน บางทีเราก็แอบไปนั่งอยู่ในห้องน้ำ เพราะรู้สึกว่ามันส่วนตัวมากๆ ในสถานการณ์นั้น นั่งเล่นมือถือบนฝาชักโครก เป็น ชั่วโมงๆ แต่หลังๆพอเราอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เราจะมองหาคนที่ดูเหมือนมาคนเดียวเหมือนกัน แล้วเข้าไปชวนคุย เพื่อให้รู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียวและไม่ประหม่า ทั้งที่ฝืนใจมากเพราะในใจจริงๆ แล้วเราไม่ได้อยากทำความรู้จักใครก่อนเลย
- คิดว่าการปิดตัวและไม่เป็นมิตรจะทำให้เราดูเป็นคนมีปมเป็นคนมีปัญหาเราอาจจะถูกจับจ้องถูกนินทา เลยทำให้เราดูเหมือนเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี ทั้งที่จริงๆแล้วเราไม่อยากเป็น ไม่อยากคุยอะไรกับใครเลย
- เวลาขึ้นลิฟท์ที่มีคนเยอะๆ เราจะรู้สึกอึดอัดที่ต้องยืนชิดๆ กับคนอื่นหลายๆคน รู้สึกว่าทำตัวไม่ถูก
- ขี้อายมากๆ แต่บางครั้งเราก็บ้าและรั่วมากๆ
- เวลาไปกินข้าวตามร้านอาหาร จะเลือกร้านที่คนน้อยสุดเป็นอันดับแรก และจะเลือกนั่งโต๊ะที่จะนั่งหันหน้าเข้าผนัง หรือที่ๆ จะสบตากับคนอื่นน้อยที่สุด
- เวลานั่งรถสาธารณะจะชอบใส่หูฟังเหมือนฟังเพลงซึ่งบางที เราก็ไม่ได้เปิดเพลง แต่แค่อยากทำให้ดูเหมือนยุ่งๆ เพื่อลดการเผชิญหน้ากับคนอื่น
- ไม่กล้าบอกให้รถจอดตรงที่เราจะลง ยอมเดินย้อนกลับมา เพราะถ้าเราตะโกนบอกเราจะรู้สึกอายคนอื่น
*** เราไม่รู้ว่าอาการเหล่านี้คนทั่วๆไปเป็นกันมั้ย แต่เรารู้สึกไม่ชอบในสิ่งที่เราเป็นอย่างมาก เลยอยากจะขอคำแนะนำหรือประสบการณ์จากคนอื่นๆ ดูค่ะ ขอบคุณค่ะ