ผมไม่ทราบนะครับว่า การศึกษาบ้านเรามีการสั่งสอนเด็กในเรื่องนี้หรือไม่ แต่ผมเองเมื่อตอนเป็นครูผมสอนเรื่องนี้ และเน้นย้ำเรื่องนี้กับนักเรียนที่เรียนกับผมในวิชาสังคมพื้นฐาน และ ประวัติศาสตร์โลกมาก เพราะ plagiarism หรือ การโจรกรรมทางวรรณกรรมนั้น ฝรั่งถือเรื่องนี้มาก (ผมเองนอกจากสอนหนังสือเด็กมัธยม 6 แล้ว เป็นผู้ช่วยวิจัยให้อาสะใภ้ด้วย คุณอาซีเรียสเรื่องนี้มาก คือสำหรับคุณอานั้น ทุกอย่างที่ผมอ้างขึ้นในงานวิจัย หรือ บทความที่เขียนร่วมกับคุณอา แกจะถามผมว่าเอาหลักฐานมาจากหนังสือเล่มไหน หน้าที่เท่าไร ใครแต่ง) และการโจรกรรมทางวรรณกรรมนั้น เป็นอันตรายในวงการวิชาการ และเรื่องนี้มันใหญ่มากถึงขั้นที่เด็กคนหนึ่งจะถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยได้เลยหากถูกจับได้ และมันจะเป็นอันตรายกับการศึกษาไทยอย่างมาก
อะไรคือการโจรกรรมทางวรรณกรรมในระดับเด็กๆมัธยม ที่ผมสอน ? คำตอบคือ การที่นักเรียนคัดลอกที่มีผู้เขียนไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ ตำรา หรือ อินเตอร์เน็ต ไม่ว่าเว็บไซต์ใดๆ ก็ตาม โดยไม่ให้เครดิตแก่สถานที่ที่ไปเอามา หรือ การที่เขาลอกมาทั้งหมดมาส่งอาจารย์โดยไม่รู้จักวิธีที่จะเรียบเรียง หรือ สังเคราะห์ข้อมูลที่หามาเป็นคำพูดหรือการเขียนของตัวเอง ซึ่งผมหงุดหงิดเสมอเวลาตรวจรายงานเพราะจะเจอแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ทั้งงานเดี่ยว งานกลุ่ม (คือใครจะว่าผมเรื่องมาก หรือ จุกจิกก็เถอะ แต่วิธีการตรวจรายงานของผมไม่เหมือนชาวบ้านเขาครับ คือผมไม่ได้อ่านแค่ content แล้วให้คะแนน พอเขาพรีเซนต์จบ ผมจะถามว่าเขาค้นคว้ามาอย่างไร ในกรณีที่เขาไม่ได้เขียนให้เครดิตหนังสือ หรือเว็บไซต์ และเด็กที่ลอกมาไม่มีทางตอบได้ครับ และผมจะบอกหมดว่า เขาเอามาเว็บไซต์ชื่ออะไร หนือหนังสือชื่ออะไร บทที่เท่าไร เพราะก่อนสั่งรายงานผมอ่านหนังสือและเว็บไซต์พวกนี้มาหมดแล้ว ผมจึงจำได้ว่าข้อความนั้นๆมาจากที่ไหน.) และผมไม่เคยให้คะแนนเด็กที่ Copy paste จากเว็บไซต์มาส่งดีเลยสักคน เพราะผมถือว่าเป็นงานขั้น "ขยะ" ถ้าผมใจดีผมอาจจะให้คะแนนแค่ 30 เปอร์เซนต์ เป็นค่าปริ้นท์
แต่ปัญหาที่พบก็คือ คุณครูส่วนใหญ่ไม่เคยสอนเรื่องนี้จริงจังด้วยซ้ำ คือผมมองว่า เรื่องนี้จำเป็นที่ต้องให้เด็กรู้ว่า การ Copy-paste ข้อมูลมาส่งเป็นรายงานให้อาจารย์ มันไม่ทำให้เด็กเรียนรู้มากขึ้น การเรียนรู้สำหรับเด็กช่วงชั้นที่ 4 คือ คุณควรรู้จักเรียบเรียงรายงานเอง ซึ่งมันจะมีผลเมื่อเขาเข้ามหาวิทยาลัย และข้อสอบอัตนัยต้องอาศัยการเรียบเรียง ซึ่งเด็กที่เอาแต่ลอกข้อมูลมาส่งเป็นรายงานไม่มีทางที่จะเขียนได้ดีหรอกครับ ถึงเขาจะมีข้อมูลมากแค่ไหนก็ตาม
สุดท้ายนี้ขอให้อาจารย์ทุกท่านพยายามสอดส่องด้วยครับ เพราะการอ่านแค่ Content แล้วให้คะแนน โดยไม่อ่านเนื้อใน มันไม่ช่วยให้การศึกษาดีขึ้นแน่ๆ และคำถามที่ฝากไว้คือ "เราควรจะปลูกฝังเด็กนักเรียนเรื่องนี้อย่างไร"
เราควรจะสอนให้เด็กนักเรียนมีจิตสำนึกเรื่อง Plagiarism อย่างไร
อะไรคือการโจรกรรมทางวรรณกรรมในระดับเด็กๆมัธยม ที่ผมสอน ? คำตอบคือ การที่นักเรียนคัดลอกที่มีผู้เขียนไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ ตำรา หรือ อินเตอร์เน็ต ไม่ว่าเว็บไซต์ใดๆ ก็ตาม โดยไม่ให้เครดิตแก่สถานที่ที่ไปเอามา หรือ การที่เขาลอกมาทั้งหมดมาส่งอาจารย์โดยไม่รู้จักวิธีที่จะเรียบเรียง หรือ สังเคราะห์ข้อมูลที่หามาเป็นคำพูดหรือการเขียนของตัวเอง ซึ่งผมหงุดหงิดเสมอเวลาตรวจรายงานเพราะจะเจอแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ทั้งงานเดี่ยว งานกลุ่ม (คือใครจะว่าผมเรื่องมาก หรือ จุกจิกก็เถอะ แต่วิธีการตรวจรายงานของผมไม่เหมือนชาวบ้านเขาครับ คือผมไม่ได้อ่านแค่ content แล้วให้คะแนน พอเขาพรีเซนต์จบ ผมจะถามว่าเขาค้นคว้ามาอย่างไร ในกรณีที่เขาไม่ได้เขียนให้เครดิตหนังสือ หรือเว็บไซต์ และเด็กที่ลอกมาไม่มีทางตอบได้ครับ และผมจะบอกหมดว่า เขาเอามาเว็บไซต์ชื่ออะไร หนือหนังสือชื่ออะไร บทที่เท่าไร เพราะก่อนสั่งรายงานผมอ่านหนังสือและเว็บไซต์พวกนี้มาหมดแล้ว ผมจึงจำได้ว่าข้อความนั้นๆมาจากที่ไหน.) และผมไม่เคยให้คะแนนเด็กที่ Copy paste จากเว็บไซต์มาส่งดีเลยสักคน เพราะผมถือว่าเป็นงานขั้น "ขยะ" ถ้าผมใจดีผมอาจจะให้คะแนนแค่ 30 เปอร์เซนต์ เป็นค่าปริ้นท์
แต่ปัญหาที่พบก็คือ คุณครูส่วนใหญ่ไม่เคยสอนเรื่องนี้จริงจังด้วยซ้ำ คือผมมองว่า เรื่องนี้จำเป็นที่ต้องให้เด็กรู้ว่า การ Copy-paste ข้อมูลมาส่งเป็นรายงานให้อาจารย์ มันไม่ทำให้เด็กเรียนรู้มากขึ้น การเรียนรู้สำหรับเด็กช่วงชั้นที่ 4 คือ คุณควรรู้จักเรียบเรียงรายงานเอง ซึ่งมันจะมีผลเมื่อเขาเข้ามหาวิทยาลัย และข้อสอบอัตนัยต้องอาศัยการเรียบเรียง ซึ่งเด็กที่เอาแต่ลอกข้อมูลมาส่งเป็นรายงานไม่มีทางที่จะเขียนได้ดีหรอกครับ ถึงเขาจะมีข้อมูลมากแค่ไหนก็ตาม
สุดท้ายนี้ขอให้อาจารย์ทุกท่านพยายามสอดส่องด้วยครับ เพราะการอ่านแค่ Content แล้วให้คะแนน โดยไม่อ่านเนื้อใน มันไม่ช่วยให้การศึกษาดีขึ้นแน่ๆ และคำถามที่ฝากไว้คือ "เราควรจะปลูกฝังเด็กนักเรียนเรื่องนี้อย่างไร"