สวัสดีครับทุกๆท่าน
เนื่องจากเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสไปทำงานที่จังหวัดบุรีรัมย์มา ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เคยไปเลยครับ
หลังจากทำงานเสร็จ ทีมงานที่จังหวัดบุรีรัมย์ได้ชวนทีมงานจากกรุงเทพฯไปเที่ยวปราสาทพนมรุ้งต่อ ซึ่งในเวลาที่จะไปนั้นก็ประมาณ 4 โมงเย็นแล้ว
โดยพี่เขาได้บอกว่า นั่งรถไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง(เกือบ 100 กิโลเมตร) พอทุกคนได้ยินว่าต้องนั่งรถไปอีกไกล หลายคนจึงขอบาย
ผมซึ่งไม่เคยมาบุรีรัมย์มาก่อน พอได้ยินว่าพี่เขาจะพาไปเที่ยวต่อก็ไม่รีรอเลยครับ คว้ากล้องกระโดดขึ้นรถตู้ไปในทันที ซึ่งมีพี่ๆที่มาจาก กทม.ไปด้วยอีก 3 คน
ระหว่างทางไม่มีอะไรมากครับ หลับตลอดเพราะเหนื่อยจากการทำงาน รู้สึกตัวอีกที ก็ถึงที่หมายแล้ว
ตื่นมาด้วยอาการเพลีย และงัวเงียเล็กน้อย ก้มมองดูนาฬิกา 5 โมงครึ่งแล้ว
รถตู้ได้วิ่งขึ้นมาจอดบริเวณข้างปราสาท เดินนิดเดียวถึงปราสาทเลย
ซึ่งพี่ที่พามาได้บอกว่า ถ้าให้เดินขึ้นทางด้านหน้าคงไม่ทัน มืดก่อนแน่ๆ
รูปปั้นสิงห์บริเวณทางขึ้นด้านข้างปราสาทครับ
พอถ่ายรูปได้สัก 2-3 รูป ก็เพิ่งรู้ตัวว่าหยิบกล้องมาผิดตัว ดันหยิบ Canon 60D + Lens 24-105 มา
ซึ่งเลนส์ตัวนี้พอเจอกับกล้องตัวคูณทำให้มุมภาพมันแคบไป ภาพที่ได้ก็จะแคบๆหน่อยนะครับ
ด้วยเวลาที่เย็นมากแล้ว ต้องแข่งกับเวลาก่อนที่พระอาทิตย์จะตกเสียก่อน ทุกคนก็แยกย้ายกันเดินถ่ายรูปภายในปราสาท
รูปนี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นครอบครัวครับ
ซึ่งการมาครั้งนี้ไม่ได้มีไกด์มาด้วยครับ จึงได้แค่ถ่ายรูปอย่างเดียวไม่มีคนคอยอธิบายรายละเอียดให้ฟัง แต่ผมก็พอใจครับที่ได้มาสักที
ป้ายข้อมูลต่างๆก็ไม่มีเวลาอ่านครับ เพราะจะมืดแล้ว
รูปนี้ลองถ่ายแบบธรรมดามา ต้องมาปรับแสงเยอะหน่อยครับ ต้องดึงดีเทลฟ้ากับปราสาทกลับมา
ดูนาฬิกาอีกทีจะ 6 โมงเย็นแล้ว ต้องรีบกลับแล้วครับ เพราะทีมงานที่ไม่ได้มารอทานข้าวเย็นด้วย
รูปนี้ไม่แน่ใจว่าเป็น รูปด้านข้าง หรือด้านหลังปราสาทนะครับ อยู่ตรงทางออกลานจอดรถตู้พอดีครับ
ระหว่างเดินไปขึ้นรถก็ได้รูปนี้มาเป็นรูปสุดท้าย พี่เขาบอกว่าหลังแนวเขาเป็นฝั่งประเทศกัมพูชาครับ
สรุปรวมแล้วนั่งรถไปกลับรวมกัน เกิน 2 ชั่วโมง เดินถ่ายรูป 15 นาที แต่ก็คุ้มและประทับใจมากครับที่ได้มาสถานที่ที่ยิ่งใหญ่
และมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะกลับไปอีกเพื่อเก็บเกี่ยวเรื่องราวต่างๆของปราสาทพนมรุ้งให้ได้มากกว่านี้ครับ
ขอปิดท้ายด้วยรูปนี้ครับ เป็นรูปที่ถ่ายคนละวันกัน ถ่ายด้วยกล้องมือถือNote2 ครับ
ปราสาทพนมรุ้ง กับ ปราสาทสายฟ้า (สนาม i-mobile stadium)
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมนะครับ
หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
15 นาที ที่ ปราสาทพนมรุ้ง
เนื่องจากเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสไปทำงานที่จังหวัดบุรีรัมย์มา ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เคยไปเลยครับ
หลังจากทำงานเสร็จ ทีมงานที่จังหวัดบุรีรัมย์ได้ชวนทีมงานจากกรุงเทพฯไปเที่ยวปราสาทพนมรุ้งต่อ ซึ่งในเวลาที่จะไปนั้นก็ประมาณ 4 โมงเย็นแล้ว
โดยพี่เขาได้บอกว่า นั่งรถไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง(เกือบ 100 กิโลเมตร) พอทุกคนได้ยินว่าต้องนั่งรถไปอีกไกล หลายคนจึงขอบาย
ผมซึ่งไม่เคยมาบุรีรัมย์มาก่อน พอได้ยินว่าพี่เขาจะพาไปเที่ยวต่อก็ไม่รีรอเลยครับ คว้ากล้องกระโดดขึ้นรถตู้ไปในทันที ซึ่งมีพี่ๆที่มาจาก กทม.ไปด้วยอีก 3 คน
ระหว่างทางไม่มีอะไรมากครับ หลับตลอดเพราะเหนื่อยจากการทำงาน รู้สึกตัวอีกที ก็ถึงที่หมายแล้ว
รถตู้ได้วิ่งขึ้นมาจอดบริเวณข้างปราสาท เดินนิดเดียวถึงปราสาทเลย
ซึ่งพี่ที่พามาได้บอกว่า ถ้าให้เดินขึ้นทางด้านหน้าคงไม่ทัน มืดก่อนแน่ๆ
พอถ่ายรูปได้สัก 2-3 รูป ก็เพิ่งรู้ตัวว่าหยิบกล้องมาผิดตัว ดันหยิบ Canon 60D + Lens 24-105 มา
ซึ่งเลนส์ตัวนี้พอเจอกับกล้องตัวคูณทำให้มุมภาพมันแคบไป ภาพที่ได้ก็จะแคบๆหน่อยนะครับ
รูปนี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นครอบครัวครับ
ซึ่งการมาครั้งนี้ไม่ได้มีไกด์มาด้วยครับ จึงได้แค่ถ่ายรูปอย่างเดียวไม่มีคนคอยอธิบายรายละเอียดให้ฟัง แต่ผมก็พอใจครับที่ได้มาสักที
เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ โดยตั้งใจว่าจะเดินออกไปถ่ายหน้าปราสาทเป็นลำดับสุดท้ายครับ
ในที่สุดก็เดินออกมาบริเวณหน้าปราสาท
ด้วยความที่มาถึงเย็นแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะตก ซึ่งตกหลังประสาท ผมก็เลยถ่ายเป็นรูป silhouette มาครับ
รูปนี้ไม่แน่ใจว่าเป็น รูปด้านข้าง หรือด้านหลังปราสาทนะครับ อยู่ตรงทางออกลานจอดรถตู้พอดีครับ
ระหว่างเดินไปขึ้นรถก็ได้รูปนี้มาเป็นรูปสุดท้าย พี่เขาบอกว่าหลังแนวเขาเป็นฝั่งประเทศกัมพูชาครับ
และมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะกลับไปอีกเพื่อเก็บเกี่ยวเรื่องราวต่างๆของปราสาทพนมรุ้งให้ได้มากกว่านี้ครับ
ปราสาทพนมรุ้ง กับ ปราสาทสายฟ้า (สนาม i-mobile stadium)
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมนะครับ
หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ