เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้าร่วม Workshop ในงาน



เดี๋ยวอ่านรีวิวผมแล้วมึนงงโดยไม่ได้ฉันสุรา เอาเป็นว่าถ้าใครซื้อทีวีไป 10 ปีที่แล้ว
และไม่ได้ติดตามเทคโนโลยีทีวี คงต้องอธิบายกันหน่อย กดปุ่มข้างล่างเบาๆ นะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้HD คือความละเอียด 1280x720 พิกเซล เมื่อคูณกันเท่ากับความละเอียดประมาณ 9 แสนพิกเซล
Full HD คือความละเอียด 1920x1080 พิกเซล เมื่อคูณกันเท่ากับความละเอียดประมาณ 2 ล้านพิกเซล
UHD คือความละเอียด 3840x2160 พิกเซล เมื่อคูณกันเท่ากับละเอียดประมาณ 8 ล้านพิกเซล
เป็น 4 เท่าของ Full HD (เราจึงเรียกว่า 4K)


ซึ่งถ้าจะซื้อทีวีเร็วๆ นี้ หรือปีหน้า หรือจะอีก 2 ปี 3 ปียิ่งไม่ต้องพูดถึง (แล้วจะพูดทำไม?)
แนะนำให้ซื้อความละเอียด 4K ไปเลยครับ ตอนนี้เราเข้าสู่ยุคความละเอียด 8 ล้านพิกเซลกันแล้วเด้อรู้ตัวยัง?


งานนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ  ซึ่งผมจะสรุปมาให้เพราะมีบางส่วนพูดเรื่องเดียวกัน

ส่วนที่ 1 คุณณัฐ Product Trainer Master เรื่องภาพและเสียง
เป็นวิทยากรจากทาง Samsung มาอธิบายคุณสมบัติหลักๆ เชิงทดลองและปฏิบัติกันในงานกันเลยทีเดียว
(จะผิดพลาดทางเทคนิคหน้าแหกก็งานแนวนี้แหละ)


ส่วนที่ 2 เป็นวิทยากรจากทาง lcdtvthailand.com มาให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อทีวีในยุคปัจจุบัน
ว่าควรคำนึงถึงอะไรบ้าง พร้อมทดสอบเปรียบเทียบกันเห็นๆ จะๆ โดยคุณชานม และ Dear Sir (เดียร์เซอร์)


จอ SUHD รุ่นที่นำมาโชว์ในครั้งนี้คือ (เรียงจากซ้ายไปขวา)
JS8000 (จอแบน รุ่นหัวหน้าใหญ่) / JS9000 (จอโค้ง รุ่นรองหัวหน้า) / UHD และ Full HD
“อ้าว...แล้วจอโค้งตัวหัวหน้าใหญ่ไปไหนละ?” มันคือรุ่น JS9500 เป็น BIG BOSS ปี 2015
ซึ่งมีขนาดหน้าจอตั้งแต่ 78 นิ้วขึ้นไป คุณณัฐบอก “เอามาไม่ได้ ผมถือไม่ไหว มันใหญ่เกิ้น” 55555 ผมพูดเองแหละ
หืมมมมม ลองจินตนาการถ้าหากได้มาวางในห้องรับแขกที่ระยะดู 4 เมตรนะ แปะแทนวอลเปเปอร์ไปเลย วะ55555
อลังการดาวแปดพันล้านดวงเลย ไม่ได้โม้ (สำเนียงแบบสำรัก คำสร้อย)


จอโค้งของ Samsung ไม่ได้มีรัศมีเดียวนะจ๊ะ ผมคนนึงอะ ที่ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
ความโค้ง 4200 มม. (55 นิ้วขึ้นไป) และ 3000 มม. (ต่ำกว่า 55 นิ้ว) ยิ่งตัวเลขน้อยยิ่งโค้งเยอะ
ซึ่งรัศมีที่แตกต่างกัน ถ้าหากคุณนั่งดูทีวีในระยะเดียวกันก็สามารถมองเห็นภาพได้เต็มตาเต็มจอเหมือนกัน
ถ้านึกภาพไม่ออกก็เหมือนทีวีมันโอบล้อมตัวเราว่างั้นเถอะ และนั่นจึงเป็นข้อดีของจอโค้งนั่นเอง!
คือเวลาเรามองภาพตรงขอบหรือมุมจอ สัดส่วนมุมตีบ (Perspective) จะไม่ผิดเพี้ยน ส่งผลให้ภาพเป็นอย่างไรจ๊ะนักเรียน?
มันดูสมจริงขึ้นไงครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าใครเคยใช้ app Photosync ของ Microsoft จะเข้าใจเวลาเราถ่ายรูป จะใช้ตัวเราเป็นแกนหมุนถ่ายรูปรอบตัว
และนั่นคือวิธีเดียวกันกับทีวีจอโค้ง เล่าซะยาวถือว่าแนะนำ app น่าใช้แล้วกัน


ผนวกกำลังกับ Software จัดการมิติลึก(ไม่ลับ) Auto Depth Enhancer มันจะจำลอง Perspective
และปรับภาพให้มีความลึกเหมือนคุณได้เข้าไปอยู่ในทีวี!!! ตอนที่ผมดูตัวอย่างผมงงมาก
เหมือนผมโดนดูดเข้าไปในโถงทางเดินนั้นจริงๆ เหมือนโดนสะกดจิต ชิเมโจได๋ 55555

คุณภาพของภาพ

1.ความละเอียด 8 ล้านกว่าพิกเซล ชัดระดับรูขุมขน ดูสิวเสี้ยนกันหรือไง ถ้าใครกลัวเอาแผ่น Blu-ray หรือโหลดหนังแบบ HD หรือรายการทีวีระดับ SD มาแล้วภาพจะไม่ชัด จะเบลอเหมือนโดนมอมยา โน่นนี่นั่น ไม่ต้องกลัวครับ เพราะทีวีมีความสามารถ Upscale ความละเอียดต่ำๆ ให้แสดงผลคมชัดใกล้เคียงกับความละเอียด UHD ได้ ซึ่งคุณภาพที่ได้นั้นยิ่งไฟล์ต้นทางมีขนาดเล็กเท่าไร เรายิ่งต้องยอมรับว่า Upscale แล้วมันก็ยังแค่พอดูได้ แต่ถ้าเป็นไฟล์ต้นทางเป็น Full HD อันนี้หายห่วง



2.เรื่องของสีทนได้ แต่คุณไม่ต้องทนอีกต่อไป เพราะการให้สีของ Samsung SUHD แจ่มแมวมากๆ ขนาดผมซื้อทีวีของปี 2014 ของยี่ห้อคู่แข่ง ก็ถือว่าไม่ได้เก่านะ ยังเทียบไม่ติด ไม่ต้องเอามาวางเทียบเลย ผมยกนิ้วให้เจ้าพ่อหน้าจอลิงกอริลล่าไปเลย(หมายถึงซัมซุงแหละ) สุดยอด พูดได้เต็มปาก ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ คุณลองไปดูรีวิวเว็บเมืองนอกก็ได้ พูดไม่ต่างกับผมเลย แล้วยิ่งใครที่เล่นกล้อง DSLR ซึ่งใช้โปรไฟล์สี Adobe RGB ที่มีขอบเขตสีที่กว้าง (Color gamut) ถ่ายรูปแล้วสีสวยสด ซึ่งถ้าเอาไปเปิดกับจอ UHD ธรรมดา ก็ปลิวไปเลย SUHD เจ๋งกว่าแน่นอน แต่ทว่าวันที่ไป workshop ไม่ได้เตรียมไฟล์รูปไปทดลอง แต่ผมมั่นใจพันล้าน % เลยว่าแสดงสีได้ใกล้เคียง 99.99% แน่นอน


3.ความสว่าง (Luminance) ปกติจอทีวีจะแสดงความสว่างหรือสีขาวได้ไม่สมจริง เช่นแสงแดดกระทบผิวผลไม้ดูแล้วก็แค่รู้ว่าเป็นแสงจากดวงอาทิตย์ แต่ SUHD ของซัมซุงนั้นไม่ใช่ ผมดูแล้วรู้สึกได้เลยว่ามันใช่ มันจริง เหมือนดวงอาทิตย์มันเผามาถึงผมที่กำลังดูทีวีเนี่ย ในความคิดส่วนตัวผมว่าเกิดจากระดับของสีขาวมีมากกว่าทีวีทั่วไป จึงได้ความสมจริงตรงนี้มา ทางคุณณัฐพูดเต็มปากเลยว่า “Samsung UHD ของปีนี้แสดงแสงสีขาว Luminance สมจริงเป็นที่ 1” ผมว่าไม่ต้องมีการจัดอันดับก็ได้ครับ แสดงแสงได้สมจริงขนาดนี้ผมถือว่าถึงจุดสุดยอดแล้ว เทียบจากรูปข้างบนจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าจอ UHD ตัวขวาสุดค่าความสว่างสู้ SUHD ไม่ได้เลย



4.Contrast ความต่างสีขาวและสีดำ คุณชานมได้ทดลองให้เราดูว่าเมื่อแสดงสีดำ มันดำสนิทจริงๆ โดยการปิดไฟแล้วเปิดทีวี ปรากฏว่าจอมันดำจนเหมือนปิดทีวีครับ ไม่น่าเชื่อ ซึ่งความสามารถด้าน Contrast รุ่น SUHD จอโค้งหัวหน้าใหญ่นั้นเข้มคมชัดสมจริงมากกว่ารุ่นปกติ 10 เท่า ส่วนถ้าเทียบกับ JS9000 ก็ถือว่ามากกว่า 2 เท่า



5.Motion Plus ไฟล์ต้นฉบับถ่ายเฟรมเรทต่ำ ก็ไม่หวั่นเมื่อเจอความสามารถในการแทรกเฟรม
ทำให้ภาพเนียนตาเชียว (ดูได้จากคลิปวีดีโอ)

การออกแบบ

ใครว่าภาพเจ๋งขั้นเทพจะไม่สนรูปลักษณ์
Samsung SUHD TV รอบนี้ยังคงมาแนวทางเดิมคือนำเสนอทีวีเป็นดั่ง “เฟอร์นิเจอร์หรูหราดุจดั่งงานศิลปะ” แหมช่างสำบัดสำนวน ขอบโลหะขัดผิวหรูหรามีระดับ ด้านหลังลายคลื่นทั้งแผง ด้านบนจรดด้านล่าง โดยส่วนตัวผมว่าสวยดี เพราะยี่ห้ออื่นไม่ได้ใส่งานศิลป์ไว้ด้านหลังทีวี แต่ซัมซุงทำมันจึงเป็นจุดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง แต่...! “ช่วยหาแผ่นลายคลื่นมาอุดรูน๊อตด้วยได้มั้ย?” ผมว่าคิดมาดีแต่ตกม้าตายตรงลายละเอียดเล็กน้อยแค่นี้เอง ถามหน่อยครับ “เห็นแผ่นหลังสวยๆ ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาเห็นจุดอะไรดำๆ เต็มไปหมดบ้างหรอ?”

ความ Smart ฉลาดแค่ไหนกัน?

ก่อนอื่นเลยสิ่งที่คุณต้องมีคือสัญญาณอินเตอร์เน็ต ไม่งั้นทีวีคุณอาจจะ Smart น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราเตอร์ Wifi เอาที่แถมกับ isp ก็ได้ไม่ต้องซื้อเสียตังเพิ่ม เช่น True Internet หรือ 3BB หรือ TOT hi-speed internet

เริ่มที่ระบบปฏิบัติการ SUHD ใช้ Tizen ซึ่งเป็นระบบที่กำลังเข้ามาแทรกซึมขอมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันเรามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะมือถือ นาฬิกา ทีวี อนาคตต้องมาแน่คือตู้เย็นและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่นๆ ของ Samsung และนี่คือข้อดีของการใช้ระบบปฏิบัติการเดียวกัน มันสามารถสื่อสารกันได้แบบไร้รอยต่อ


ก็คือคุณสามารถ share content จากทีวีมาดูในมือถือ (แล้วไม่จำเป็นต้องเปิดทีวี แค่ใช้ Sleep mode) แล้วไปนอนดูบนที่นอน ไปดูทีวีในสวน ไปดูในห้องน้ำ แล้วแต่สะดวก ยังไม่พอเพียงเท่านี้ คุณอยากให้คนที่บ้านเห็นหน้าจอมือถือคุณ ไม่ว่าจะเปิดคลิป ดูรูปให้คนที่บ้านเห็นพร้อมกัน อยากให้ทีวีแสดงภาพกล้องมือถือแบบ real-time ก็สามารถทำได้ อันนี้เจ๋งดี


แต่...! มีข้อจำกัดเล็กน้อยคือ ความสามารถนี้จะรองรับกับมือถือรุ่นตั้งแต่ Samsung Galaxy S4 เป็นต้นมาโดยสามารถเชื่อมต่อได้เพียงทีละ 1 เครื่องเท่านั้น โดยมันใช้ Bluetooth ในการเชื่อมต่อ และอีกเรื่องที่ยังติดขัดนิดหน่อยคือคุณณัฐ ได้นำภาพจากทีวีมาเล่นที่มือถือยังมีอาการกระตุก ดีเลย์เล็กน้อย เพราะเมื่อนำภาพความละเอียด 4K สตรีมแบบไร้สายมายังมือถือ ย่อมมีความล่าช้าของ bandwidth และผมว่า cpu กับ ram ของโทรศัพท์ก็ต้องแรงด้วย ไม่งั้นก็เล่นวีดีโอไม่ไหวอยู่ดี ยังไม่หมดทีวีมันสามารถสื่อสารกับมือถือตอนที่คุณตื่นตอนได้ด้วย ตื่นปั้บทีวีเปิดเอง แถมแจ้งเตือนความจำ หรือแจ้งสภาพอากาศก็ได้ จะฉลาดไปไหน แต่ทั้งหมดนี้คุณต้องตั้งค่ามันเองก่อนนะ ไม่งั้นมันไม่รู้หรอกว่าคุณอยากให้มันทำไรบ้าง



พูดถึง Smart ก็ต้องแอ๊บแบ้ว เห้ย! ไม่ใช่ แอพพลิเคชั่น โดยซัมซุงได้รวมแอพฯ และความสามารถอื่นๆ เช่น เว็บเบราเซอร์ ดูพยากรณ์อากาศ ตั้งเวลาแจ้งเตือนรายการโปรด ดูรูป ฟังเพลง เปิดไฟล์วีดีโอจาก USB เล่นเกมทั้งหมดนี้เรียกว่า SMART HUB พูดให้เข้าใจง่ายๆ มันก็คือเมนูของทีวี (อย่าสับสนคำว่าเมนูกับ setting นะมันคนละส่วนอันนั้นมันตั้งค่าตัวเครื่องทีวี) และมันสามารถทำงานหลายแอพฯ พร้อมกันได้ด้วย อย่างเช่น คุณดูทีวี แต่น้องอยากเปิดเว็บ หน้าจอจะแบ่งครึ่งทำได้ 2 อย่างพร้อมกันเลย อัยยะ!


อ้อเกือบลืมแอพฯ ดูคลิปที่มีเฉพาะของ Samsung ชื่อว่า Samsung Playback แอพฯ นี้จะดึง Playlist หรือช่องรายการยอดนิยมจาก Youtube มาแสดงบนมือถือ หรือส่งภาพขึ้นไปที่จอทีวีก็ได้ แต่มือถือที่ใช้ต้องเป็น Android v4.0 เป็นต้นมานะจ๊ะ รวมทั้ง แอพฯ Youtube ของทีวีก็มีด้วย คุณสามารถใช้แอพฯ Youtube จากมือถือสั่งให้เล่นคลิปที่จอทีวีได้เช่นกันเด้อ เค้าเรียกเทคนิคนี้ว่า DLNA (digital living network alliance)

การเล่นไฟล์ผ่านฮาร์ดดิส หรือแฟลชไดร์ รองรับไฟล์ได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น .mkv ,mpg ,mp4 .wmv ,avi ,flac ,mp3 ,wma ฯลฯ แต่จะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง Subtitle แบบแยก (ไม่ฝังมาเป็นไฟล์วีดีโอ) บางทีอาจจะไม่แสดง หรือบางทีเป็นฟอนท์ต่างดาว

เรื่องการอัพเดทระบบปฏิบัติการนั้นเดี๋ยวนี้นั้นง่ายดายมาก เพียงคุณต่ออินเตอร์เน็ตและเชื่อมต่อ Wifi เอาไว้ก็สามารถอัพเดทผ่าน OTA (Over The Air) ได้เลยทันทีแต่มีข้อที่ต้องระวังคือ ไม่ว่าจะอัพเดทระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ใดๆ ก็แล้วแต่ ต้องทำให้เสร็จในคราวเดียว ยกเลิกกลางทางไม่ได้ หากเกิดไฟฟ้าตกหรืออะไรก็แล้วแต่ ทางซัมซุงน่าจะรับเคลมได้ ถ้ายังไม่เกินระยะเวลารับประกัน ถ้าให้ชัวร์สอบถามทางซัมซุงโดยตรงจะดีที่สุดครับ