ลีกวนยูแนะมุสลิมในปท.ลด 'เคร่ง' ช่วยประสานผู้คนต่างเชื้อชาติ-ศาสนา
เอเอฟพี - ลีกวนยู รัฐบุรุษผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์และบิดาของนายกรัฐมนตรีแดนลอดช่องคนปัจจุบัน ออกมาเรียกร้องให้ชาวมุสลิมในท้องถิ่น
“ลดความเคร่งครัดเข้มงวดในการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม” เพื่อช่วยในเรื่องการบูรณาการประเทศให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
พร้อมกันนั้นเขายังพูดตรงๆ ว่าชาติที่เป็นเกาะเล็กๆ ขนาดนครรัฐของเขายังถือว่าอยู่ในกระบวนการของการสร้างชาติ
อีกทั้งพวกเพื่อนบ้านมุสลิมรายใหญ่กว่าก็แสดงตัวเป็นปรปักษ์
“ผมใครที่จะพูดในวันนี้ว่า เราสามารถที่จะบูรณาการทุกๆ ศาสนาและทุกๆ เชื้อชาติ ยกเว้นแต่อิสลาม”
เขากล่าวเช่นนี้ในหนังสือเล่มใหม่สุดของเขาที่ใช้ชื่อว่า “Lee Kuan Yew: Hard Truths to Keep Singapore Going”
(ลีกวนยู: ความจริงที่ยากแก่การรับฟังแต่เป็นสิ่งที่พยุงให้สิงคโปร์ก้าวหน้าต่อไป) หนังสือเล่มนี้เป็นการเรียบเรียง
จากคำให้สัมภาษณ์พิเศษหลายๆ ครั้งที่เขาพูดกับนักหนังสือพิมพ์หลายต่อหลายคนจากหนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทมส์
โดยที่ลีแสดงทัศนะอย่างตรงไปตรงมาตามสไตล์ ในเรื่องเกี่ยวกับสิงคโปร์ตลอดจนอนาคตของนครรัฐบาลแห่งนี้
“ผมคิดว่าเรากำลังก้าวหน้าไปได้ดีมากจวบจนกระทั่งเกิดการทะยานขึ้นมาอย่างรวดเร็วของอิสลาม และถ้าคุณถามผมเกี่ยวกับ
สิ่งที่ผมสังเกตเห็นแล้วล่ะก้อ ชุมชนอื่นๆ มีการบูรณาการที่ง่ายดายกว่า - เพื่อนฝูง, การแต่งงานระหว่างกัน, และอื่นๆ ...” เขาชี้
“ผมคิดว่าในทางสังคมแล้วชาวมุสลิมไม่ได้เป็นเป็นตัวการก่อให้เกิดความลำบากยุ่งยากใดๆ ขึ้นมาหรอก
ทว่าพวกเขามีลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างจากคนอื่นๆ และแยกตัวออกมาต่างหาก” ลีกล่าวต่อ พร้อมเรียกร้องชุมชนมุสลิมในสิงคโปร์
“ลดความเคร่งครัดเข้มงวดในการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม”
“เรามีเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรหรือ? โตๆ กันเสียทีเถอะ … มีแรงขับดันชนิดนี้อยู่นะ ที่ต้องการให้พวกเราล้มคว่ำลงเนื่องจากเรานั้นเป็นพวกผู้บุกรุก
(เข้ามาอยู่อาศัยในดินแดนแถบนี้ซึ่งมีคนท้องถิ่นเดิมอยู่แล้ว)” เขากล่าว พร้อมกับยกเรื่องที่มีการกล่าวหากันว่า
มาเลเซียและอินโดนีเซียต่างพยายามที่จะบ่อนทำลายธุรกิจทางด้านท่าเรือของสิงคโปร์
ทั้งนี้ธุรกิจด้านนี้มีความสำคัญระดับเป็นตายของแดนลอดช่องทีเดียว
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000009696
อ่านข่าวเต็มๆได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เอเอฟพี - ลีกวนยู รัฐบุรุษผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์และบิดาของนายกรัฐมนตรีแดนลอดช่องคนปัจจุบัน ออกมาเรียกร้องให้ชาวมุสลิมในท้องถิ่น “ลดความเคร่งครัดเข้มงวดในการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม” เพื่อช่วยในเรื่องการบูรณาการประเทศให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พร้อมกันนั้นเขายังพูดตรงๆ ว่าชาติที่เป็นเกาะเล็กๆ ขนาดนครรัฐของเขายังถือว่าอยู่ในกระบวนการของการสร้างชาติ อีกทั้งพวกเพื่อนบ้านมุสลิมรายใหญ่กว่าก็แสดงตัวเป็นปรปักษ์
สิงคโปร์ประกอบด้วยคนเชื้อชาติจีนเป็นส่วนใหญ่ โดยที่มีคนเชื้อชาติส่วนน้อยอื่นๆ ซึ่งที่สำคัญคือชาวมาเลย์ที่เป็นมุสลิม และชาวอินเดีย โดยที่ลีก็ได้เคยกล่าวย้ำอยู่เสมอถึงความสำคัญของการทำให้เกิดความประสานกลมกลืนระหว่างคนเชื้อชาติต่างๆ
“ผมใครที่จะพูดในวันนี้ว่า เราสามารถที่จะบูรณาการทุกๆ ศาสนาและทุกๆ เชื้อชาติ ยกเว้นแต่อิสลาม” เขากล่าวเช่นนี้ในหนังสือเล่มใหม่สุดของเขาที่ใช้ชื่อว่า “Lee Kuan Yew: Hard Truths to Keep Singapore Going” (ลีกวนยู: ความจริงที่ยากแก่การรับฟังแต่เป็นสิ่งที่พยุงให้สิงคโปร์ก้าวหน้าต่อไป) หนังสือเล่มนี้เป็นการเรียบเรียงจากคำให้สัมภาษณ์พิเศษหลายๆ ครั้งที่เขาพูดกับนักหนังสือพิมพ์หลายต่อหลายคนจากหนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทมส์ โดยที่ลีแสดงทัศนะอย่างตรงไปตรงมาตามสไตล์ ในเรื่องเกี่ยวกับสิงคโปร์ตลอดจนอนาคตของนครรัฐบาลแห่งนี้
“ผมคิดว่าเรากำลังก้าวหน้าไปได้ดีมากจวบจนกระทั่งเกิดการทะยานขึ้นมาอย่างรวดเร็วของอิสลาม และถ้าคุณถามผมเกี่ยวกับสิ่งที่ผมสังเกตเห็นแล้วล่ะก้อ ชุมชนอื่นๆ มีการบูรณาการที่ง่ายดายกว่า - เพื่อนฝูง, การแต่งงานระหว่างกัน, และอื่นๆ ...” เขาชี้
“ผมคิดว่าในทางสังคมแล้วชาวมุสลิมไม่ได้เป็นเป็นตัวการก่อให้เกิดความลำบากยุ่งยากใดๆ ขึ้นมาหรอก ทว่าพวกเขามีลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างจากคนอื่นๆ และแยกตัวออกมาต่างหาก” ลีกล่าวต่อ พร้อมเรียกร้องชุมชนมุสลิมในสิงคโปร์ “ลดความเคร่งครัดเข้มงวดในการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม”
ระหว่างการเปิดตัวหนังสือเล่มนี้เมื่อวันศุกร์(21) ลีซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น “นักประยุกต์นิยม” (pragmatist ผู้ที่คำนึงถึงผลในทางปฏิบัติมากกว่ายึดมั่นในลัทธิหลักการ) ได้กล่าวเตือนชาวสิงคโปร์ว่าอย่าได้นิ่งนอนใจมัวแต่พึงพอใจกับสภาพปัจจุบัน โดยเขาชี้ว่านครรัฐแห่งนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการสร้างความเป็นชาติขึ้นมา
ขณะที่ในหนังสือเล่มนี้ ลีเรียกสิงคโปร์ว่าเป็น “อาคาร 80 ชั้นซึ่งตั้งอยู่บนที่ลุ่มต่ำ” โดยที่ลีเตือนด้วยว่า แดนลอดช่องต้องคอยต่อสู้แข่งขันกับความเป็นปรปักษ์จากพวกประเทศเพื่อนบ้านมุสลิมที่ต่างก็มีขนาดใหญ่กว่าสิงคโปร์
“เรามีเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรหรือ? โตๆ กันเสียทีเถอะ … มีแรงขับดันชนิดนี้อยู่นะ ที่ต้องการให้พวกเราล้มคว่ำลงเนื่องจากเรานั้นเป็นพวกผู้บุกรุก (เข้ามาอยู่อาศัยในดินแดนแถบนี้ซึ่งมีคนท้องถิ่นเดิมอยู่แล้ว)” เขากล่าว พร้อมกับยกเรื่องที่มีการกล่าวหากันว่า มาเลเซียและอินโดนีเซียต่างพยายามที่จะบ่อนทำลายธุรกิจทางด้านท่าเรือของสิงคโปร์ ทั้งนี้ธุรกิจด้านนี้มีความสำคัญระดับเป็นตายของแดนลอดช่องทีเดียว
สิงคโปร์เคยรวมอยู่ในสหพันธรัฐมาเลซีย ตอนที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ ทว่าได้ถูกขับออกจากสหพันธ์ในปี 1965 โดยเหตุผลสำคัญสืบเนื่องจากทางกรุงกัวลาลัมเปอร์เดินหน้านโยบายที่ให้สิทธิพิเศษต่างๆ แก่ชาวมาเลย์
ในส่วนที่เกี่ยวกับการเมืองภายในสิงคโปร์นั้น ลีบอกว่าพรรคพีเพิลส์ แอคชั่น ปาร์ตี้ (People's Action Party ใช้อักษรย่อว่า PAP) ซึ่งเขาร่วมก่อตั้งและครองอำนาจในสิงคโปร์ตลอดมาตั้งแต่ที่เกาะแห่งนี้ได้รับสิทธิปกครองตนเองจากเจ้าอาณานิคมอังกฤษในปี 1959 นั้น สักวันหนึ่งข้างหน้าก็จะต้องสูญเสียอำนาจของตนไป
“มันจะต้องมาถึงสักวันหนึ่งเมื่อลงท้ายแล้วสาธารณชนจะบอกว่า ลองให้อีกข้างหนึ่งมาเป็นผู้ปกครองบ้างเถอะ อาจจะเป็นเพราะ พีเอพี มีคุณภาพตกต่ำลง หรือไม่ก็ฝ่ายค้านสามารถสร้างทีมที่ทัดเทียมกับพีเอพี … วันเวลาดังกล่าวนี้จะต้องมาถึงแน่ๆ” เขาชี้ “ในอีก 10 ถึง 20 ปีข้างหน้า ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นหรอกนะ แต่หลังจากนั้นแล้ว ผมก็ไม่สามารถบอกได้หรอก”
ลีเชื่อว่าชาวสิงคโปร์ยังไม่พร้อมที่จะให้มีนายกรัฐมนตรีซึ่งไม่ใช่คนเชื้อจีน ถึงแม้มีผลโพลรายหนึ่งออกมาเป็นตรงกันข้ามก็ตามที
“ผลโพลเจ้าหนึ่งบอกว่า 90% ของชาวสิงคโปร์ที่เป็นคนเชื้อจีนบอกว่า พวกเขาพร้อมจะเลือกผู้ที่ไม่ใช่คนจีนมาเป็นนายกฯ ครับ นี่เป็นอุดมคติ แต่คุณเชื่อโพลเหล่านี้หรือ? มันขยะชัดๆ พวกเขาต้องพูดอย่างนั้น เพราะต้องพูดในสิ่งที่ถือเป็นความเห็นทางการเมืองที่ถูกต้องเท่านั้นแหละ”
เขายังปกป้องนโยบายส่งเสริมการแต่งงานระหว่างชาวสิงคโปร์ที่มีการศึกษาสูงๆ อันเป็นนโยบายที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการวางแผนและควบคุมสังคม นอกจากนั้นเขายังปฏิเสธไม่ยอมรับแนวความคิดเรื่องรักแรกพบ
“ประชาชนได้รับการศึกษา พวกคนที่เฉียบแหลมผงาดขึ้นมา พวกเขาแต่งงานกับคู่ครองที่มีการศึกษาดีทัดเทียมกัน ผลก็คือลูกๆ ของพวกเขาก็น่าที่จะฉลาดกว่าลูกๆ ของพวกที่กำลังมีอาชีพเป็นคนสวน” เขากล่าวแก้
“มันเป็นความเป็นจริงของชีวิต คุณได้ม้าตัวเมียชั้นดีมา คุณย่อมไม่ต้องการให้ม้าตัวผู้งี่เง่ามาผสมกับม้าตัวเมียชั้นดีของคุณหรอก เพราะคุณจะได้ลูกม้าที่แย่ๆ”
คนที่ “หลงเสน่ห์เนื่องจากบุคลิกลักษณภภายนอก” ในที่สุดแล้วก็อาจจะต้องเสียใจที่หลงไปเช่นนั้น เขายืนกราน
ลียังเปิดเผยว่า เขาได้บริจาครายได้ทั้งหมดของเขาให้แก่การกุศล รวมแล้วเป็นมูลค่า 13 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 312 ล้านบาท) นับแต่ที่เขาก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 1990 ภายหลังที่ครองเก้าอี้ตัวนี้มานาน 31 ปี
หลังจากไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ลีก็ยังคงมีตำแหน่งอยู่ในคณะรัฐมนตรีชุดต่อๆ มา โดยในปัจจุบันที่ ลีเซียนลุง บุตรชายของเขาเป็นนายกฯนั้น ลีกวนยูเป็น “รัฐมนตรีผู้ชี้แนะ” (Minister Mentor) ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีของสิงคโปร์ขึ้นชื่อเรื่องมีเงินเดือนผลตอบแทนสูงที่สุดในโลก โดยแดนลอดช่องถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการฉ้อราษฎร์บังหลวง และเป็นเสน่ห์ดึงดูดคนมีความรู้ความสามารถจากภาคเอกชนให้มาเล่นการเมืองเป็นผู้บริหารประเทศ
“ เรามีเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรหรือ ? " โดย ลีกวนยู รัฐบุรุษผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์
เอเอฟพี - ลีกวนยู รัฐบุรุษผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์และบิดาของนายกรัฐมนตรีแดนลอดช่องคนปัจจุบัน ออกมาเรียกร้องให้ชาวมุสลิมในท้องถิ่น
“ลดความเคร่งครัดเข้มงวดในการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม” เพื่อช่วยในเรื่องการบูรณาการประเทศให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
พร้อมกันนั้นเขายังพูดตรงๆ ว่าชาติที่เป็นเกาะเล็กๆ ขนาดนครรัฐของเขายังถือว่าอยู่ในกระบวนการของการสร้างชาติ
อีกทั้งพวกเพื่อนบ้านมุสลิมรายใหญ่กว่าก็แสดงตัวเป็นปรปักษ์
“ผมใครที่จะพูดในวันนี้ว่า เราสามารถที่จะบูรณาการทุกๆ ศาสนาและทุกๆ เชื้อชาติ ยกเว้นแต่อิสลาม”
เขากล่าวเช่นนี้ในหนังสือเล่มใหม่สุดของเขาที่ใช้ชื่อว่า “Lee Kuan Yew: Hard Truths to Keep Singapore Going”
(ลีกวนยู: ความจริงที่ยากแก่การรับฟังแต่เป็นสิ่งที่พยุงให้สิงคโปร์ก้าวหน้าต่อไป) หนังสือเล่มนี้เป็นการเรียบเรียง
จากคำให้สัมภาษณ์พิเศษหลายๆ ครั้งที่เขาพูดกับนักหนังสือพิมพ์หลายต่อหลายคนจากหนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทมส์
โดยที่ลีแสดงทัศนะอย่างตรงไปตรงมาตามสไตล์ ในเรื่องเกี่ยวกับสิงคโปร์ตลอดจนอนาคตของนครรัฐบาลแห่งนี้
“ผมคิดว่าเรากำลังก้าวหน้าไปได้ดีมากจวบจนกระทั่งเกิดการทะยานขึ้นมาอย่างรวดเร็วของอิสลาม และถ้าคุณถามผมเกี่ยวกับ
สิ่งที่ผมสังเกตเห็นแล้วล่ะก้อ ชุมชนอื่นๆ มีการบูรณาการที่ง่ายดายกว่า - เพื่อนฝูง, การแต่งงานระหว่างกัน, และอื่นๆ ...” เขาชี้
“ผมคิดว่าในทางสังคมแล้วชาวมุสลิมไม่ได้เป็นเป็นตัวการก่อให้เกิดความลำบากยุ่งยากใดๆ ขึ้นมาหรอก
ทว่าพวกเขามีลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างจากคนอื่นๆ และแยกตัวออกมาต่างหาก” ลีกล่าวต่อ พร้อมเรียกร้องชุมชนมุสลิมในสิงคโปร์
“ลดความเคร่งครัดเข้มงวดในการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม”
“เรามีเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรหรือ? โตๆ กันเสียทีเถอะ … มีแรงขับดันชนิดนี้อยู่นะ ที่ต้องการให้พวกเราล้มคว่ำลงเนื่องจากเรานั้นเป็นพวกผู้บุกรุก
(เข้ามาอยู่อาศัยในดินแดนแถบนี้ซึ่งมีคนท้องถิ่นเดิมอยู่แล้ว)” เขากล่าว พร้อมกับยกเรื่องที่มีการกล่าวหากันว่า
มาเลเซียและอินโดนีเซียต่างพยายามที่จะบ่อนทำลายธุรกิจทางด้านท่าเรือของสิงคโปร์
ทั้งนี้ธุรกิจด้านนี้มีความสำคัญระดับเป็นตายของแดนลอดช่องทีเดียว
ที่มา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อ่านข่าวเต็มๆได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้