สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน ก่อนอื่นเจ้าของกระทู้ต้องขอออกตัวก่อนว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเจ้าของกระทู้ที่เพิ่งจะหัดรีวิวในพันทิป โดยได้แรงบันดาลใจมาจากคนใกล้ๆตัวนี่แหล่ะค่ะ เนื่องจากเจ้าของกระทู้เป็นคนที่ชอบเที่ยวและชอบกินเป็นอย่างมากกกกกก! วันเวลาว่างของเราจะหมดไปกับการสรรหาที่กินและเที่ยวเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่เราจะใช้วิธีอัพรูปเก็บไว้ในเฟซบุ๊คส่วนตัว แต่มาครั้งนี้ เราได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวไต้หวันในช่วงสงกรานต์ เนื่องจากหาตั๋วของสายการบิน Low cost สายการบินหนึ่งได้ในราคาไม่แพงมากนัก ที่เราต้องบอกว่า ไม่แพงมากนัก เนื่องจาก สายการบิน Low cost ต่างๆจะแข่งกันทำโปรโมชั่นออกมาเรื่อยๆ โดยสายการบิน Low cost หลักๆที่ไปไต้หวันก็จะมี Tiger Air, V air, Air asia เป็นต้น โดยการเดินทางครั้งนี้ เราได้จองตั๋วก่อนล่วงหน้าของพี่เสือ Tiger air เป็นเวลากว่า 2 เดือน ซึ่งราคาตั๋ว ไป-กลับ ที่ได้อยู่ที่ประมาณ 7,000 บาทต่อคน ไม่รวมค่าโหลดกระเป๋านะคะ แต่บางทีก็มีโปรโมชั่นราคาถูกมากกก ขนาด 2,000 กว่าบาทก็มี เพื่อนๆต้องหมั่นเช็คราคาโปรบ่อยๆค่ะ... มาต่อกันค่ะ ข้อเสียของไฟลท์ของ Tiger air คือ ไฟลท์ขาออกจาก กทม.จะไปถึงสนามบินเถาหยวน ที่ประเทศไต้หวัน เวลาเที่ยงคืนห้าสิบค่ะ ย้ำค่ะ เที่ยงคืนห้าสิบ ซึ่งโชคดีที่ประเทศไต้หวันนี้มีระบบการคมนาคมที่ดีมากมาย มี Night bus ที่วิ่งจากสนามบิน Taoyuan ไปยัง Taipei Main Station ซึ่งเป็นสถานีหลักในการต่อรถทุกชนิดทั้งคืนค่ะ แต่หลังห้าทุ่มไปแล้ว รถจะออกชั่วโมงละหนึ่งคันค่ะ หากคุณพลาดรอบนี้ไป นั่นหมายความว่าต้องรอรถออกอีกครั้งในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้าค่ะ หรือบางคนเค้าก็นอนที่สนามบินกันนะคะ แต่สำหรับเรา ขอบายย เนื่องจากเป็นคนหลับยาก หากนอนไม่พอแล้วจะไม่สดชื่นค่ะ
การมาเที่ยวไต้หวันครั้งนี้ เราทำการบ้านมาเพียงน้อยนิดค่ะ เนื่องจากจุดประสงค์หลักๆของทริปนี้คือ หาที่กิน & เที่ยว ช่วงสงกรานต์แบบชิลล์ๆ เราเลยไม่ได้แพลนที่เที่ยวแบบเป๊ะๆมากมาย หลักๆจะใช้วิธีดูรีวิวของเพื่อนๆในพันทิปคร่าวๆว่ามีที่ไหนน่าไป และเดินทางอย่างไร มีของกินอะไรที่ไม่ควรพลาดเท่านั้นแหล่ะค่ะ
เราเริ่มต้นออกเดินทางวันที่ 13 เม.ย ซึ่งเป็นวันสงกรานต์พอดีเป๊ะ โดยไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง เครื่องออกเวลา 2 ทุ่มกว่า และไปถึงสนามบินเถาหยวนในเวลา เที่ยงคืนห้าสิบค่ะ ซึ่งจากการที่ได้เช็คข้อมูลรสบัสเข้าเมืองมาก่อน พบว่า รถบัสเบอร์ 1819 ซึ่งจะวิ่งไปยัง Taipei Main Station นั้นจะออกในเวลา ตี 1.20 และรอบถัดไปเป็นเวลา ตี 2.30 ซึ่งเราก็กลัวจะพลาดรถรอบ ตี 1.20 แล้วต้อรอรถรอบถัดไปอีกนาน แถมง่วงด้วย เราเลยรีบวิ่งหน้าตั้ง ตั้งแต่ลงจากเครื่อง ผ่าน immigration และไปซื้อตั๋วรสบัสโดยไม่มีการหยุดพักใดๆทั้งสิ้น ส่วนคุณพี่เสือ Tiger ก็ทำเวลาได้ดีมากค่ะ ลงได้ตรงเวลาเป๊ะ เรามีเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่จะลงจากเครื่อง ผ่าน ต.ม.ไต้หวัน วิ่งหารถบัส ซื้อตั๋ว และขึ้นรถ สุดท้าย สรุปว่า….ทันนนน ค่ะ ดีใจแทบแย่ ขึ้นรถแล้วยังไม่หยุดหอบเลยค่ะ สำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัตร Easycard สามารถซื้อตั๋วรสบัสได้ที่คนขับรถเลยนะคะ แต่ขอแนะนำว่าให้เตรียมเงินให้พอดี เนื่องจากเค้าไม่ทอนค่ะ พอไปถึง Taipei Main Station คนขับรถก็ตะโกนบอกผู้โดยสารว่า นี่แหล่ะ ถึงแล้ว ลงกันได้แล้ว เนื่องจากผู้โดยสารนั่ง งง มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ว่านี่ที่ไหน พอเราลงรถมาปุ๊บ ก็ตรงดิ่งเข้า 7-11 เลยค่ะ เพื่อเติมพลังยามดึก เดี๋ยวเราต้องนั่งแท๊กซี่ต่อไปยังโรงแรมซึ่งอยู่ย่าน Ximending ต่อค่ะ ค่าแท๊กซี่จาก Taipei Main Station ไปยัง Ximending ประมาณ NTD 100 ค่ะ
เอาล่ะ เรามาเริ่มเข้าโปรแกรมเที่ยวของเรากันเลยดีกว่านะคะ
วันแรก: C.K.S Memorial Hall, Taipei 101, Longshan temple, Hauxi St. night market (near Longshan temple)
วันแรก เราแพลนไว้แบบเบาๆ เนื่องจากเมื่อคืนกว่าจะเข้าโรงแรมและได้นอนก็ตีสามเข้าไปแล้ว แพลนเที่ยววันแรกเราเลยออกกันเกือบเที่ยงเลยค่ะ ระยะทางจากโรงแรมมาที่ mrt Ximen ก็ผ่านร้านค้ามากมาย เดินไป ดูของไปก็เพลินดีค่ะ เดินแป๊บๆก็ถึง mrt ละ เอาล่ะ ที่แรกเราจะไปอนุสรณ์สถานเจียงไคเช๊คก่อนค่ะ อากาศดี๊ ดี ไม่ร้อนไม่หนาว แต่แดดแอบแรง เราโบกครีมกันแดด SPF 50 ไป ยังเอาไม่ค่อยอยู่เลยค่ะ
สำหรับการเดินทางมา C.K.S Memorial Hall ก็สะดวกมากๆ เพื่อนๆสามารถนั่ง mrt สายสีน้ำเงิน มาลงที่สถานี C.K.S ได้โดยตรงเลยค่ะ ขึ้นจากสถานีก็จะเจอเลย แต่เสียดายวันที่เราไป ส่วนที่เป็นกำแพงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่นี้ ปิดปรับปรุงค่ะ เราเลยแอบเศร้าเล็กน้อย เนื่องจากอยากถ่ายรูปกับกำแพงนี้มากกกก เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง จริงมั้ยล่ะคะ
เราใช้เวลาเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆบริเวณนี้ประมาณหนึ่งชั่วโมง แล้วก็กลับค่ะ เจ้าของกระทู้ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ซึ่งเราไม่ได้คิดว่าจะทำรีวิว เลยแทบจะไม่ได้ถ่ายรูปสถานที่เก็บไว้เลย เน้นหนักไปทางรูปตัวเองซะมากกว่าค่ะ ถ้าเพื่อนๆแอบเซงแบบว่าอยากดูรูปวิวสวยๆมากกว่า ก็ขอโทษด้วยน้า ไว้รอบหน้าแก้ตัวใหม่ค่ะ
เดี๋ยวมาต่อค่ะ
[CR] Slow life in Taiwan ตอน 1 Around Taipei
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน ก่อนอื่นเจ้าของกระทู้ต้องขอออกตัวก่อนว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเจ้าของกระทู้ที่เพิ่งจะหัดรีวิวในพันทิป โดยได้แรงบันดาลใจมาจากคนใกล้ๆตัวนี่แหล่ะค่ะ เนื่องจากเจ้าของกระทู้เป็นคนที่ชอบเที่ยวและชอบกินเป็นอย่างมากกกกกก! วันเวลาว่างของเราจะหมดไปกับการสรรหาที่กินและเที่ยวเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่เราจะใช้วิธีอัพรูปเก็บไว้ในเฟซบุ๊คส่วนตัว แต่มาครั้งนี้ เราได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวไต้หวันในช่วงสงกรานต์ เนื่องจากหาตั๋วของสายการบิน Low cost สายการบินหนึ่งได้ในราคาไม่แพงมากนัก ที่เราต้องบอกว่า ไม่แพงมากนัก เนื่องจาก สายการบิน Low cost ต่างๆจะแข่งกันทำโปรโมชั่นออกมาเรื่อยๆ โดยสายการบิน Low cost หลักๆที่ไปไต้หวันก็จะมี Tiger Air, V air, Air asia เป็นต้น โดยการเดินทางครั้งนี้ เราได้จองตั๋วก่อนล่วงหน้าของพี่เสือ Tiger air เป็นเวลากว่า 2 เดือน ซึ่งราคาตั๋ว ไป-กลับ ที่ได้อยู่ที่ประมาณ 7,000 บาทต่อคน ไม่รวมค่าโหลดกระเป๋านะคะ แต่บางทีก็มีโปรโมชั่นราคาถูกมากกก ขนาด 2,000 กว่าบาทก็มี เพื่อนๆต้องหมั่นเช็คราคาโปรบ่อยๆค่ะ... มาต่อกันค่ะ ข้อเสียของไฟลท์ของ Tiger air คือ ไฟลท์ขาออกจาก กทม.จะไปถึงสนามบินเถาหยวน ที่ประเทศไต้หวัน เวลาเที่ยงคืนห้าสิบค่ะ ย้ำค่ะ เที่ยงคืนห้าสิบ ซึ่งโชคดีที่ประเทศไต้หวันนี้มีระบบการคมนาคมที่ดีมากมาย มี Night bus ที่วิ่งจากสนามบิน Taoyuan ไปยัง Taipei Main Station ซึ่งเป็นสถานีหลักในการต่อรถทุกชนิดทั้งคืนค่ะ แต่หลังห้าทุ่มไปแล้ว รถจะออกชั่วโมงละหนึ่งคันค่ะ หากคุณพลาดรอบนี้ไป นั่นหมายความว่าต้องรอรถออกอีกครั้งในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้าค่ะ หรือบางคนเค้าก็นอนที่สนามบินกันนะคะ แต่สำหรับเรา ขอบายย เนื่องจากเป็นคนหลับยาก หากนอนไม่พอแล้วจะไม่สดชื่นค่ะ
การมาเที่ยวไต้หวันครั้งนี้ เราทำการบ้านมาเพียงน้อยนิดค่ะ เนื่องจากจุดประสงค์หลักๆของทริปนี้คือ หาที่กิน & เที่ยว ช่วงสงกรานต์แบบชิลล์ๆ เราเลยไม่ได้แพลนที่เที่ยวแบบเป๊ะๆมากมาย หลักๆจะใช้วิธีดูรีวิวของเพื่อนๆในพันทิปคร่าวๆว่ามีที่ไหนน่าไป และเดินทางอย่างไร มีของกินอะไรที่ไม่ควรพลาดเท่านั้นแหล่ะค่ะ
เราเริ่มต้นออกเดินทางวันที่ 13 เม.ย ซึ่งเป็นวันสงกรานต์พอดีเป๊ะ โดยไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง เครื่องออกเวลา 2 ทุ่มกว่า และไปถึงสนามบินเถาหยวนในเวลา เที่ยงคืนห้าสิบค่ะ ซึ่งจากการที่ได้เช็คข้อมูลรสบัสเข้าเมืองมาก่อน พบว่า รถบัสเบอร์ 1819 ซึ่งจะวิ่งไปยัง Taipei Main Station นั้นจะออกในเวลา ตี 1.20 และรอบถัดไปเป็นเวลา ตี 2.30 ซึ่งเราก็กลัวจะพลาดรถรอบ ตี 1.20 แล้วต้อรอรถรอบถัดไปอีกนาน แถมง่วงด้วย เราเลยรีบวิ่งหน้าตั้ง ตั้งแต่ลงจากเครื่อง ผ่าน immigration และไปซื้อตั๋วรสบัสโดยไม่มีการหยุดพักใดๆทั้งสิ้น ส่วนคุณพี่เสือ Tiger ก็ทำเวลาได้ดีมากค่ะ ลงได้ตรงเวลาเป๊ะ เรามีเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่จะลงจากเครื่อง ผ่าน ต.ม.ไต้หวัน วิ่งหารถบัส ซื้อตั๋ว และขึ้นรถ สุดท้าย สรุปว่า….ทันนนน ค่ะ ดีใจแทบแย่ ขึ้นรถแล้วยังไม่หยุดหอบเลยค่ะ สำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัตร Easycard สามารถซื้อตั๋วรสบัสได้ที่คนขับรถเลยนะคะ แต่ขอแนะนำว่าให้เตรียมเงินให้พอดี เนื่องจากเค้าไม่ทอนค่ะ พอไปถึง Taipei Main Station คนขับรถก็ตะโกนบอกผู้โดยสารว่า นี่แหล่ะ ถึงแล้ว ลงกันได้แล้ว เนื่องจากผู้โดยสารนั่ง งง มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ว่านี่ที่ไหน พอเราลงรถมาปุ๊บ ก็ตรงดิ่งเข้า 7-11 เลยค่ะ เพื่อเติมพลังยามดึก เดี๋ยวเราต้องนั่งแท๊กซี่ต่อไปยังโรงแรมซึ่งอยู่ย่าน Ximending ต่อค่ะ ค่าแท๊กซี่จาก Taipei Main Station ไปยัง Ximending ประมาณ NTD 100 ค่ะ
เอาล่ะ เรามาเริ่มเข้าโปรแกรมเที่ยวของเรากันเลยดีกว่านะคะ
วันแรก: C.K.S Memorial Hall, Taipei 101, Longshan temple, Hauxi St. night market (near Longshan temple)
วันแรก เราแพลนไว้แบบเบาๆ เนื่องจากเมื่อคืนกว่าจะเข้าโรงแรมและได้นอนก็ตีสามเข้าไปแล้ว แพลนเที่ยววันแรกเราเลยออกกันเกือบเที่ยงเลยค่ะ ระยะทางจากโรงแรมมาที่ mrt Ximen ก็ผ่านร้านค้ามากมาย เดินไป ดูของไปก็เพลินดีค่ะ เดินแป๊บๆก็ถึง mrt ละ เอาล่ะ ที่แรกเราจะไปอนุสรณ์สถานเจียงไคเช๊คก่อนค่ะ อากาศดี๊ ดี ไม่ร้อนไม่หนาว แต่แดดแอบแรง เราโบกครีมกันแดด SPF 50 ไป ยังเอาไม่ค่อยอยู่เลยค่ะ
สำหรับการเดินทางมา C.K.S Memorial Hall ก็สะดวกมากๆ เพื่อนๆสามารถนั่ง mrt สายสีน้ำเงิน มาลงที่สถานี C.K.S ได้โดยตรงเลยค่ะ ขึ้นจากสถานีก็จะเจอเลย แต่เสียดายวันที่เราไป ส่วนที่เป็นกำแพงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่นี้ ปิดปรับปรุงค่ะ เราเลยแอบเศร้าเล็กน้อย เนื่องจากอยากถ่ายรูปกับกำแพงนี้มากกกก เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง จริงมั้ยล่ะคะ
เราใช้เวลาเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆบริเวณนี้ประมาณหนึ่งชั่วโมง แล้วก็กลับค่ะ เจ้าของกระทู้ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ซึ่งเราไม่ได้คิดว่าจะทำรีวิว เลยแทบจะไม่ได้ถ่ายรูปสถานที่เก็บไว้เลย เน้นหนักไปทางรูปตัวเองซะมากกว่าค่ะ ถ้าเพื่อนๆแอบเซงแบบว่าอยากดูรูปวิวสวยๆมากกว่า ก็ขอโทษด้วยน้า ไว้รอบหน้าแก้ตัวใหม่ค่ะ
เดี๋ยวมาต่อค่ะ