ยี่สิบสองเป็นหมาจรจัดตัวผู้ ที่มีมูลนิธิจับมาดูแลตั้งแต่เด็กพอมันอายุได้2-3เดือนเขาก็เอามันมาใส่กรงหาบ้านที่งานเกษตรแฟร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขนซึ่งผมกำลังเรียนอยู่ในตอนนั้น วันนั้นผมพาย่ามาซื้อปุ๋ยต้นมะม่วง แล้วบังเอิญเห็นหมาไทยลายเสือดูฉลาดถูกขังอยู่ในกรงเลยจะไปลองเล่นกับมันดู
ย่ารักหมามากและชอบเอาหมาจรจัดที่คนจะเอาไปทิ้งวัดมาเลี้ยงที่บ้าน ย่าปฎิเสธที่จะเข้าไปดูทันทีเพราะรู้ดีว่าเดี๋ยวตอนกลับบ้านต้องได้ของกลับไปมากกว่าปุ๋ยแน่ๆ
แต่สุดท้ายก็ทนความดื้อของหลานไม่ไหวต้องเข้าไปดูจนได้ หมาลายเสือโชว์ความฉลาดจนคนแถวนั้นเอ็นดูอยู่หลายคนรวมทั้งย่าด้วย ผมเลยถามทางมูลนิธิไปว่าอยากจะเอาไปเลี้ยงต้องทำยังไง ทางมูลนิธิบอกว่าเจ้าเสือมีคนจองแล้วเดี๋ยวสองทุ่มเขาจะมารับค่ะ แต่มีลูกหมาอีกตัวคอกเดียวกันที่อยู่ข้างๆยังไม่มีคนรับไปสนใจไหม ผมมองไปที่หมาหน้าหงอๆตัวข้างๆ
ไอ้เสือที่ดูมีราศีกว่าอย่างเห็นได้ชัด คิดในใจว่าไอ้หมาหน้าบื้อนี่นะคอกเดียวกันทำไมธรรมชาติช่างโหดร้ายฮ่าๆ แต่ย่าไม่รู้คิดอะไรบอกเอาตัวนี้ก็ได้ดูมันเรียบร้อยดีสุดท้ายเลยได้อุ้มหมาหน้าหงอกลับบ้าน มี่บ้านมีหมาชื่อยี่สิบแล้วเพราะมันมี20นิ้วและตอนนั้นมีหมาที่รับมาเลี้ยงไว้20ตัว ไอ้หงอนี่ดันมี22นิ้ว เลยได้ชื่อยี่สิบสองไป
ภายใน2-3วันหลังจากชินที่อยู่ใหม่ยี่สิบสองก็แสดงธาตุแท้ออกมาว่ามันไม่ได้โง่แต่มันแกล้งโง่ มันกลายเป็นหมาหน้ายิ้มและซนมากไล่งับนกพิราบ หาขยะมาเล่นไม่ว่าจะเป็บกาบมะพร้าวยันซากหนูตาย ย่าบอกพอมันโตจะให้นอนข้างนอกบ้านไว้เฝ้าบ้านเพราะมันเป็นหมาไทยน่าจะดุกันโจรได้ดี
แต่ยิ่งโตยี่สิบสองก็ยิ่งซนยิ่งติ๊งต๊อง มันไม่เคยกัดคนหรือหมาตัวอื่นเลย หมาตัวเล็กๆที่ย่ารับมาทีหลังมันก็ช่วยเลี้ยงและมาเล่นด้วยตลอด ซึ่งมันคงคิดว่ามันยังตัวเล็กๆพอๆกับเขากระมัง เวลาเปิดประตูใหญ่เอารถออกมันก็ชอบวิ่งออกไปเที่ยวที่ถนน แต่ถ้าย่าอยู่ใกล้ๆมันจะไม่กล้าออกไป ย่าชอบชมว่ามันพูดรู้เรื่อง แต่หารู้ไม่เวลาย่าไม่อยู่บางทีต้องเอาไม้ไปไล่กวดมันเข้าบ้านมันถึงจะยอมเข้า
วันนี้ก่อนล็อคบ้านยี่สิบสองไม่ยอมเข้ามานอนในบ้านเลยคุยกับย่าว่านั้นปล่อยมันไว้เฝ้าบ้านข้างนอก(แต่ในรั้วบ้าน)
ละกันเพราะปกติเวลามันดื้อแบบนี้ก็จะปล่อยมันไว้ข้างนอก
พอเวลาเกือบตี1 มีเสียงรถชนหมาเสียงดังมาจากถนนใหญ่และมีเสียงหมาร้องดังอยู่หลายครั้ง ผมออกมาดูที่ระเบียงห้องอ่านหนังสือชั้น2 รถที่ชนหมาหนีไปแล้วเห็นแต่หมาอีก4-5ตัวที่เฝ้าร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างมารุมกัดหมาผู้เคราะห์ร้าย แสงไฟถนนที่ติดบ้างดับบ้างทำให้มองไม่ชัดว่าหมาใครกันที่โดนกัดอาจเป็นหมาจรแถวนั้น
มีคนขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาเห็น พี่คนขับผู้ชายและพี่ที่ซ้อนมาด้วยผู้หญิงช่วยกันไล่หมารุมกัดอยู่ออกไปรถแทคซี่ที่พึ่งเลยไปกลับรถกลับมาบีบแตรช่วย
ผมวิ่งลงมาตามย่าไปดู ย่าเรียกหายี่สิบสองอยู่หลายครั้งแต่มันไม่วิ่งมาหาเหมือนทุกที ตอนนั้นถ้าอยากจะทำอะไรที่สุดคงจะเป็นอ่านหนังสือไปสอบเนติฯในตอนเช้าอีกวันแม้จะรู้ตัวว่าอ่านไม่ทันและลังเลอยู่ว่าจะไปสอบดีไหม การไปหายี่สิบสองอาจต้องใช้เวลาทั้งคืนก็เป็นได้ ผมลงไปดูรอบบ้านก็ไม่เจอ คิดว่ายีสิบสองน่าจะหนีไปข้างนอกอาจเพราะติดสัตว์หรือเพราะความซนของมัน ใจนึงก็ภาวนาว่าอย่าให้เป็นมันที่เป็นหมาเคราะห์ร้ายที่ถนนใหญ่
สุดท้ายผมก็ต้องออกไปดูร่องรอยที่ถนนใหญ่เห็นรอยเลือดที่พื้น ใจที่เต็มไปด้วยอคติก็หลอกตัวเองว่าเลือดไม่เยอะมันต้องไม่เป็นไรมากอาจไม่ใช่ยี่สิบสองด้วยซ้ำ ทั้งๆที่รอยเลือดนั้นถ้าไม่หลอกตัวเองมันก็เยอะพอสมควร
กลับเข้ามาในบ้านย่าบอกให้หาในบ้านอีกที ผมรู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่อยู่หรอก แทคซี่เขาอาจจะเอามันไปทิ้งไว้ข้างทางแถวๆถนนใหญ่ ผมจึงขับรถออกไปหาตามข้างถนน แต่ก็ไม่เจอร่าง หรือรอยเลือดอีก
เมื่อไม่เจอการมองโลกในแง่ดีอาจช่วยได้ แทคซี่เขาอาจจะพามันไปรักษาที่รพ.สัตว์แถวนี้ที่เปิด24ชม. รพ.สัตว์เกษตรใกล้แถวนี้ที่สุด ผมรู้ว่าดึกขนาดนี้คนเราไม่ทุกคนหรอกที่จะใจดี พาหมาพันธุ์ทางที่เจอข้างถนนไปหาหมอที่ไกลออกไปเกือบ10กม. โดยไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินรักษาเท่าไหร่และไม่รู้ว่ามันจะรอดไหมหรือเบาะรถจะเปื้อนเลือดแล้วมันจะซักออกไหมแล้วมันมีเจ้าของหรือไม่ แต่สุดท้ายผมก็ไปลองหาดู
ระหว่างทางรถไม่เยอะเป็นปกติของเวลาตี2 แต่พอเกือบถึงอุโมงแยกเกษตรผมเห็นมีรถติดและมีสัญญานไฟเลยคิดว่าอาจเป็นด่านตำรวจ
แอบบ่นและร้อนรนอยู่ในใจว่าถ้ารถติดแบบนี้ไอ้ยี่สิบสองอาจไม่รอด แต่ที่ไหนได้เป็นกลุ่มวัยรุ่นบนมอร์ไซด์และรถคนมากินเหล้าที่จอดกันไม่เป็นระเบียบ สัญญานไฟที่เห็นก็เป็นของรถมูลนิธิสักอย่างที่ไม่แปะป้ายอะไรเลยจอดย้อนศรอยู่ที่เลนซ้ายและเปิดไฟสูงไว้
พอถึงรพ.สัตว์ ผมถามรปภ.ว่ามีคนเอาหมาโดนรถชนมาหาหมอไหมน่าจะเป็นรถแทคซี่ พี่รปภ.บอกทันทีว่ามีให้รีบจอดรถเลยหมาใกล้เสียแล้ว ผมรีบจอดรถ
พอเข้าไปที่รพ.ผมเจอลุงคนขับแทคซี่และยังมีพี่2คนที่ขี่มอเตอร์ไซด์ มาช่วยไล่หมาตัวอื่นในตอนแรก ผมถามลักษณะของหมาเคราะห์ร้ายพี่ผู้หญิงทำหน้าเศร้าเหมือนพึ่งร้องไห้เสร็จพร้อมบอกผมว่าหมาที่พี่เขาเอามามียี่สิบสองนิ้วและตอนนี้มันตายแล้ว เขากำลังทำความสะอาดตัวมันให้ ลุงกับพี่เขากำลังคุยกันพอดีว่าจะเอาศพมันไปไว้ไหน ผมเสียใจมากๆที่ต้องโทรบอกย่าว่าเจอยี่สิบสองแล้วที่ม.เกษตรที่เดียวกับที่เอามันมาตั้งแต่ทีแรกแต่คราวนี้รถคันเดิมพามันกลับไปได้แต่เพียงร่างไร้วิญญานเท่านั้น
ผมยกมือไหว้ขอบคุณทุกๆคน ในห้วงเวลาที่ผมกำลังเสียใจไม่มีใครพูดเรื่องเงินค่ารักษาค่ารถหรือค่าอะไรทั้งนั้น ทุกคนเสียใจที่ช่วยหมาไว้ไม่ได้
ผมจ่ายเงินค่าหมอ1400บาทแล้วเอาร่างยี่สิบสองกลับไปหาย่าและฝังไว้ที่บ้านเช่นเดียวกับหมาที่บ้านรุ่นก่อนๆ
ก่อนกลับผมขอจ่ายค่าน้ำมันและค่าเสียเวลาให้พี่ทั้ง2คนแต่เขาไม่ยอมรับบอกว่าลุงคนขับแทคซี่ไม่ยอมคิดค่าโดยสารตอนเอาหมามาสักบาท
ผมขอบคุณน้ำใจพี่ทั้งคู่มากๆ
และลุงคนขับแทคซี่ที่ต่อมาลุงบอกว่าลุงชื่อเซฟ ลุงก็ทำท่าจะไม่รับอีกยังดีที่ผมยังมีข้ออ้างว่าต้องให้ลุงเอาไปจ่ายค่าล้างเลือดที่เบาะรถแล้วไหนจะค่าเสียเวลาทำมาหากินอีก ผมจ่ายเงินให้ลุงไป1000บาท ลุงบอกว่ามากเกินไปแต่ย่าผมกำชับมาแล้วว่าต้องให้1000ให้ได้
ผมคะยั้นคะยอจนลุงรับพร้อมถ่ายรูปทะเบียนรถและจดเบอร์ลุงไว้
พอถึงบ้านสักพักไม่วายลุงแกยังขับตามมาถึงบ้านเพื่อเอาเงินมาทอนผม500
จนต้องให้ย่าไปคุยว่าให้ลุงรับไว้ให้ได้เท่านี้ยังน้อยไปกับความดีที่ลุงได้ทำไปโดยไม่หวังผลตอบแทน
ใครที่อ่านจนจบผมขอบคุณมาก ขอบคุณทุกกำลังใจ เรื่องวันนี้มีทั้งความดีและความเลวของคน และอาจรวมถึงความประมาทเลินเล่อของผม ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมแต่สำหรับเรื่องนี้อยากให้ทุกคนจำแต่เรื่องที่ดีๆ ลุงเซฟและพี่อีก2คนที่เห็นว่าชีวิตทุกชีวิตสำคัญไม่อาจตีเป็นราคาได้ ช่วยได้ไม่ได้ไม่สำคัญขอแค่ให้ได้ช่วยอย่างเต็มที่ก็พอ
ถ้าเรื่องของยี่สิบสองทำให้คุณมีหัวใจที่แข็งแรงขึ้น มองโลกในแง่ดีมากขึ้นทำให้คุณอยากทำสิ่งดีๆให้สังคมหรือคนรอบข้างมากขึ้น ถ้าเรื่องนี้มันทำให้คุณมอบความรักและดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณได้มากกว่าเดิม ผมถือว่ายี่สิบสองไม่ได้เกิดมาและตายไปอย่างเปล่าประโยชน์ ถ้าใครจะทำบุญ สวดมนต์ หรือภาวนาอะไรให้มัน ขอให้กุศลนั้นย้อนกลับไปให้คุณด้วย ด้วยเหตุที่คุณมีใจเมตตาแก่เพื่อนร่วมโลกตัวนี้แม้ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไร พระเจ้าองค์ไหนหรือเป็นคนไม่มีศาสนาก็ตามที ใจของคุณได้รับการกล่อมเกลาแล้ว
ปล. 0829781925 เบอร์ลุงเซฟ คนขับแทคซี่ ถ้าใครอยากนั่งแทคซี่จิตใจดีโทรได้นะครับ
"ยี่สิบสอง" เรื่องของหมาที่คนแชร์อาจไม่ได้บุญแต่อาจได้จิตใจดีๆกลับไป
ย่ารักหมามากและชอบเอาหมาจรจัดที่คนจะเอาไปทิ้งวัดมาเลี้ยงที่บ้าน ย่าปฎิเสธที่จะเข้าไปดูทันทีเพราะรู้ดีว่าเดี๋ยวตอนกลับบ้านต้องได้ของกลับไปมากกว่าปุ๋ยแน่ๆ
แต่สุดท้ายก็ทนความดื้อของหลานไม่ไหวต้องเข้าไปดูจนได้ หมาลายเสือโชว์ความฉลาดจนคนแถวนั้นเอ็นดูอยู่หลายคนรวมทั้งย่าด้วย ผมเลยถามทางมูลนิธิไปว่าอยากจะเอาไปเลี้ยงต้องทำยังไง ทางมูลนิธิบอกว่าเจ้าเสือมีคนจองแล้วเดี๋ยวสองทุ่มเขาจะมารับค่ะ แต่มีลูกหมาอีกตัวคอกเดียวกันที่อยู่ข้างๆยังไม่มีคนรับไปสนใจไหม ผมมองไปที่หมาหน้าหงอๆตัวข้างๆ
ไอ้เสือที่ดูมีราศีกว่าอย่างเห็นได้ชัด คิดในใจว่าไอ้หมาหน้าบื้อนี่นะคอกเดียวกันทำไมธรรมชาติช่างโหดร้ายฮ่าๆ แต่ย่าไม่รู้คิดอะไรบอกเอาตัวนี้ก็ได้ดูมันเรียบร้อยดีสุดท้ายเลยได้อุ้มหมาหน้าหงอกลับบ้าน มี่บ้านมีหมาชื่อยี่สิบแล้วเพราะมันมี20นิ้วและตอนนั้นมีหมาที่รับมาเลี้ยงไว้20ตัว ไอ้หงอนี่ดันมี22นิ้ว เลยได้ชื่อยี่สิบสองไป
ภายใน2-3วันหลังจากชินที่อยู่ใหม่ยี่สิบสองก็แสดงธาตุแท้ออกมาว่ามันไม่ได้โง่แต่มันแกล้งโง่ มันกลายเป็นหมาหน้ายิ้มและซนมากไล่งับนกพิราบ หาขยะมาเล่นไม่ว่าจะเป็บกาบมะพร้าวยันซากหนูตาย ย่าบอกพอมันโตจะให้นอนข้างนอกบ้านไว้เฝ้าบ้านเพราะมันเป็นหมาไทยน่าจะดุกันโจรได้ดี
แต่ยิ่งโตยี่สิบสองก็ยิ่งซนยิ่งติ๊งต๊อง มันไม่เคยกัดคนหรือหมาตัวอื่นเลย หมาตัวเล็กๆที่ย่ารับมาทีหลังมันก็ช่วยเลี้ยงและมาเล่นด้วยตลอด ซึ่งมันคงคิดว่ามันยังตัวเล็กๆพอๆกับเขากระมัง เวลาเปิดประตูใหญ่เอารถออกมันก็ชอบวิ่งออกไปเที่ยวที่ถนน แต่ถ้าย่าอยู่ใกล้ๆมันจะไม่กล้าออกไป ย่าชอบชมว่ามันพูดรู้เรื่อง แต่หารู้ไม่เวลาย่าไม่อยู่บางทีต้องเอาไม้ไปไล่กวดมันเข้าบ้านมันถึงจะยอมเข้า
วันนี้ก่อนล็อคบ้านยี่สิบสองไม่ยอมเข้ามานอนในบ้านเลยคุยกับย่าว่านั้นปล่อยมันไว้เฝ้าบ้านข้างนอก(แต่ในรั้วบ้าน)
ละกันเพราะปกติเวลามันดื้อแบบนี้ก็จะปล่อยมันไว้ข้างนอก
พอเวลาเกือบตี1 มีเสียงรถชนหมาเสียงดังมาจากถนนใหญ่และมีเสียงหมาร้องดังอยู่หลายครั้ง ผมออกมาดูที่ระเบียงห้องอ่านหนังสือชั้น2 รถที่ชนหมาหนีไปแล้วเห็นแต่หมาอีก4-5ตัวที่เฝ้าร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างมารุมกัดหมาผู้เคราะห์ร้าย แสงไฟถนนที่ติดบ้างดับบ้างทำให้มองไม่ชัดว่าหมาใครกันที่โดนกัดอาจเป็นหมาจรแถวนั้น
มีคนขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาเห็น พี่คนขับผู้ชายและพี่ที่ซ้อนมาด้วยผู้หญิงช่วยกันไล่หมารุมกัดอยู่ออกไปรถแทคซี่ที่พึ่งเลยไปกลับรถกลับมาบีบแตรช่วย
ผมวิ่งลงมาตามย่าไปดู ย่าเรียกหายี่สิบสองอยู่หลายครั้งแต่มันไม่วิ่งมาหาเหมือนทุกที ตอนนั้นถ้าอยากจะทำอะไรที่สุดคงจะเป็นอ่านหนังสือไปสอบเนติฯในตอนเช้าอีกวันแม้จะรู้ตัวว่าอ่านไม่ทันและลังเลอยู่ว่าจะไปสอบดีไหม การไปหายี่สิบสองอาจต้องใช้เวลาทั้งคืนก็เป็นได้ ผมลงไปดูรอบบ้านก็ไม่เจอ คิดว่ายีสิบสองน่าจะหนีไปข้างนอกอาจเพราะติดสัตว์หรือเพราะความซนของมัน ใจนึงก็ภาวนาว่าอย่าให้เป็นมันที่เป็นหมาเคราะห์ร้ายที่ถนนใหญ่
สุดท้ายผมก็ต้องออกไปดูร่องรอยที่ถนนใหญ่เห็นรอยเลือดที่พื้น ใจที่เต็มไปด้วยอคติก็หลอกตัวเองว่าเลือดไม่เยอะมันต้องไม่เป็นไรมากอาจไม่ใช่ยี่สิบสองด้วยซ้ำ ทั้งๆที่รอยเลือดนั้นถ้าไม่หลอกตัวเองมันก็เยอะพอสมควร
กลับเข้ามาในบ้านย่าบอกให้หาในบ้านอีกที ผมรู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่อยู่หรอก แทคซี่เขาอาจจะเอามันไปทิ้งไว้ข้างทางแถวๆถนนใหญ่ ผมจึงขับรถออกไปหาตามข้างถนน แต่ก็ไม่เจอร่าง หรือรอยเลือดอีก
เมื่อไม่เจอการมองโลกในแง่ดีอาจช่วยได้ แทคซี่เขาอาจจะพามันไปรักษาที่รพ.สัตว์แถวนี้ที่เปิด24ชม. รพ.สัตว์เกษตรใกล้แถวนี้ที่สุด ผมรู้ว่าดึกขนาดนี้คนเราไม่ทุกคนหรอกที่จะใจดี พาหมาพันธุ์ทางที่เจอข้างถนนไปหาหมอที่ไกลออกไปเกือบ10กม. โดยไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินรักษาเท่าไหร่และไม่รู้ว่ามันจะรอดไหมหรือเบาะรถจะเปื้อนเลือดแล้วมันจะซักออกไหมแล้วมันมีเจ้าของหรือไม่ แต่สุดท้ายผมก็ไปลองหาดู
ระหว่างทางรถไม่เยอะเป็นปกติของเวลาตี2 แต่พอเกือบถึงอุโมงแยกเกษตรผมเห็นมีรถติดและมีสัญญานไฟเลยคิดว่าอาจเป็นด่านตำรวจ
แอบบ่นและร้อนรนอยู่ในใจว่าถ้ารถติดแบบนี้ไอ้ยี่สิบสองอาจไม่รอด แต่ที่ไหนได้เป็นกลุ่มวัยรุ่นบนมอร์ไซด์และรถคนมากินเหล้าที่จอดกันไม่เป็นระเบียบ สัญญานไฟที่เห็นก็เป็นของรถมูลนิธิสักอย่างที่ไม่แปะป้ายอะไรเลยจอดย้อนศรอยู่ที่เลนซ้ายและเปิดไฟสูงไว้
พอถึงรพ.สัตว์ ผมถามรปภ.ว่ามีคนเอาหมาโดนรถชนมาหาหมอไหมน่าจะเป็นรถแทคซี่ พี่รปภ.บอกทันทีว่ามีให้รีบจอดรถเลยหมาใกล้เสียแล้ว ผมรีบจอดรถ
พอเข้าไปที่รพ.ผมเจอลุงคนขับแทคซี่และยังมีพี่2คนที่ขี่มอเตอร์ไซด์ มาช่วยไล่หมาตัวอื่นในตอนแรก ผมถามลักษณะของหมาเคราะห์ร้ายพี่ผู้หญิงทำหน้าเศร้าเหมือนพึ่งร้องไห้เสร็จพร้อมบอกผมว่าหมาที่พี่เขาเอามามียี่สิบสองนิ้วและตอนนี้มันตายแล้ว เขากำลังทำความสะอาดตัวมันให้ ลุงกับพี่เขากำลังคุยกันพอดีว่าจะเอาศพมันไปไว้ไหน ผมเสียใจมากๆที่ต้องโทรบอกย่าว่าเจอยี่สิบสองแล้วที่ม.เกษตรที่เดียวกับที่เอามันมาตั้งแต่ทีแรกแต่คราวนี้รถคันเดิมพามันกลับไปได้แต่เพียงร่างไร้วิญญานเท่านั้น
ผมยกมือไหว้ขอบคุณทุกๆคน ในห้วงเวลาที่ผมกำลังเสียใจไม่มีใครพูดเรื่องเงินค่ารักษาค่ารถหรือค่าอะไรทั้งนั้น ทุกคนเสียใจที่ช่วยหมาไว้ไม่ได้
ผมจ่ายเงินค่าหมอ1400บาทแล้วเอาร่างยี่สิบสองกลับไปหาย่าและฝังไว้ที่บ้านเช่นเดียวกับหมาที่บ้านรุ่นก่อนๆ
ก่อนกลับผมขอจ่ายค่าน้ำมันและค่าเสียเวลาให้พี่ทั้ง2คนแต่เขาไม่ยอมรับบอกว่าลุงคนขับแทคซี่ไม่ยอมคิดค่าโดยสารตอนเอาหมามาสักบาท
ผมขอบคุณน้ำใจพี่ทั้งคู่มากๆ
และลุงคนขับแทคซี่ที่ต่อมาลุงบอกว่าลุงชื่อเซฟ ลุงก็ทำท่าจะไม่รับอีกยังดีที่ผมยังมีข้ออ้างว่าต้องให้ลุงเอาไปจ่ายค่าล้างเลือดที่เบาะรถแล้วไหนจะค่าเสียเวลาทำมาหากินอีก ผมจ่ายเงินให้ลุงไป1000บาท ลุงบอกว่ามากเกินไปแต่ย่าผมกำชับมาแล้วว่าต้องให้1000ให้ได้
ผมคะยั้นคะยอจนลุงรับพร้อมถ่ายรูปทะเบียนรถและจดเบอร์ลุงไว้
พอถึงบ้านสักพักไม่วายลุงแกยังขับตามมาถึงบ้านเพื่อเอาเงินมาทอนผม500
จนต้องให้ย่าไปคุยว่าให้ลุงรับไว้ให้ได้เท่านี้ยังน้อยไปกับความดีที่ลุงได้ทำไปโดยไม่หวังผลตอบแทน
ใครที่อ่านจนจบผมขอบคุณมาก ขอบคุณทุกกำลังใจ เรื่องวันนี้มีทั้งความดีและความเลวของคน และอาจรวมถึงความประมาทเลินเล่อของผม ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมแต่สำหรับเรื่องนี้อยากให้ทุกคนจำแต่เรื่องที่ดีๆ ลุงเซฟและพี่อีก2คนที่เห็นว่าชีวิตทุกชีวิตสำคัญไม่อาจตีเป็นราคาได้ ช่วยได้ไม่ได้ไม่สำคัญขอแค่ให้ได้ช่วยอย่างเต็มที่ก็พอ
ถ้าเรื่องของยี่สิบสองทำให้คุณมีหัวใจที่แข็งแรงขึ้น มองโลกในแง่ดีมากขึ้นทำให้คุณอยากทำสิ่งดีๆให้สังคมหรือคนรอบข้างมากขึ้น ถ้าเรื่องนี้มันทำให้คุณมอบความรักและดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณได้มากกว่าเดิม ผมถือว่ายี่สิบสองไม่ได้เกิดมาและตายไปอย่างเปล่าประโยชน์ ถ้าใครจะทำบุญ สวดมนต์ หรือภาวนาอะไรให้มัน ขอให้กุศลนั้นย้อนกลับไปให้คุณด้วย ด้วยเหตุที่คุณมีใจเมตตาแก่เพื่อนร่วมโลกตัวนี้แม้ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไร พระเจ้าองค์ไหนหรือเป็นคนไม่มีศาสนาก็ตามที ใจของคุณได้รับการกล่อมเกลาแล้ว
ปล. 0829781925 เบอร์ลุงเซฟ คนขับแทคซี่ ถ้าใครอยากนั่งแทคซี่จิตใจดีโทรได้นะครับ