เด็ก ม.2 โรงเรียนดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย โดนรุ่นพี่รังแก เตะต่อยแถบทุกวัน ด้านคุณครูนิ่งเฉย จนต้องลาออกเอง
ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาหลายสิ่งที่ถูกปฏิบัติและสอนต่อ ๆ กันมาคือ เป็นรุ่นน้องต้องเคารพรุ่นพี่ แม้มันจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ในบางครั้งรุ่นพี่บางคนกับทำเกินเลย ใช้ความเป็นรุ่นพี่กดขี่ข่มเหงรุ่นน้องจนได้รับบาดเจ็บทั้งด้านจิตใจและร่างกาย ซึ่งได้ปรากฎเป็นข่าวมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
อย่างเช่นเรื่องที่สมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ Manassuda Khunmuang ได้โพสต์เรื่องราวสุดหดหู่ที่เกิดขึ้นกับลูกชายของตนเอง เด็กชายที่ศึกษาอยู่เพียงมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่ต้องลาออกจากโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ใน จ.เชียงราย กลางคัน เพราะทนต่อการถูกกดขี่ข่มเหงของรุ่นพี่ไม่ไหว แถมด้านคุณครูยังนิ่งเฉยไม่จัดการ
ScreenHunter_94 Sep. 26 16.19
โดยมีรายละเอียดเรื่องราวระบุไว้ดังนี้
ปลายปี 2555 ปุณ สอบเข้า ม.1 รร.ปริ้นส์รอยแยลวิทยาลัย ได้ ปุณแฮบปี้ ชอบรร.มาก ขอเรียนที่นี่ เลือกสอบเข้าห้องพิเศษวิทย์ สอบผ่าน จ่ายค่าเทอมเรียบร้อย ปุณรอเวลาได้เข้าไปเรียนอย่างมีความสุข
ต้นปี 2556 ปุณสอบผ่านรอบแรกของ รร.จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปุณไม่อยากสอบรอบสอง กลัวว่าสอบผ่านรอบสองแล้วจะอดเรียนปริ้น พ่อแม่รับปากว่าให้ปุณเลือกเองว่าจะเรียนที่ไหน สุดท้ายปุณสอบได้ และใจปุณยังอยากเรียนปริ้นอยู่ ปุณเริ่มคิด ปริ้นจ่ายเทอมละสองหมื่นกว่าบาท แต่ที่จุฬาภรณฯเรียนฟรี อุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้า ที่พัก ค่าเทอม ไม่ต้องจ่ายเลย ได้ทุนเทอมละ 42,000 บาท กปุณคิดใคร่ครวญหลายวัน สุดท้ายเลือกช่วยพ่อแม่ประหยัด เก็บข้าวของส่วนตัวเข้าหอพักที่จุฬาภรณฯเชียงราย เวลานั้นมันมากกว่าภาคภูมิใจ และหวังว่าลูกจะโตขึ้นภายใต้กฏเกณฑ์ที่ต้องอยู่กับคนหมู่มาก น่าจะรู้จักรับผิดชอบและมีวินัย
ผ่านไปเพียงสองสามอาทิตย์ เริ่มเห็นแล้วว่ากฏกติกาภายในหอ เด็กๆฝ่าฝืนได้
เริ่มจาก ห้ามนำขนมมาในหอพัก แต่เวลาไปส่งลูก จะเห็นเด็กหิ้วถุงขนมมา
ครูหอพยักเพยิดให้เด็กเอาของเข้าไปเก็บ
เข้าใจแล้ว..
ห้ามมีมือถือ ก้อเห็นพี่ๆมีใช้กัน
ตอนนั้นเริ่มรู้สึกว่า กฏไม่เป็นกฏ ไม่ชอบใจเลย
หนักกว่านั้นคือ ของหายเยอะมาก จนสุดท้ายเอ่ยปากกับครูนันทวัน
ครูแทบไม่ฟัง รีบตอบกลับมาว่า “วางไว้ ไม่เก็บเป็นที่รึป่าว” และไม่สนใจคุย
เรื่องนี้ถูกวางไว้ในฐานที่เข้าใจว่า “วางของไว้ ไม่เก็บของต้องหาย”
เฮ้ยยย!! สังคมดีๆ ถ้าไม่ใช่ของตัวเอง ไม่เอา
แต่ครูพูดแบบนี้คือ คนที่หยิบของคนอื่นไป คนนั้นไม่ผิด
ความคิดและความรับผิดชอบของครูอยู่ในระดับที่แย่มากๆๆๆๆ
ชีวิตในหอ โดนรุ่นพี่ซ่อม ข่มขู่ ใช้งาน
พี่ใช้ให้เขียนการบ้านถึงตีสี่ทั้งๆที่พรุ่งนี้เช้าสอบ
ม.1 เดินผ่านรุ่นพี่ต้องก้มหน้า
ม.1 จะนั่งหน้าสหกรณ์ รุ่นพี่ไล่ ม.1 ไม่มีสิทธิ์นั่งตรงนี้
เด็กไม่ตัดผม เรียกไปด่า ถ้าไม่ตัดครบสามครั้ง รุ่นพี่ชกหน้า
สงสัยมาก ใครให้สิทธิ์รุ่นพี่ทำแบบนี้กับน้องได้?
ผ่านมาถึงม.2 ประมาณกลางเทอม 1 รับปุณกลับบ้าน ต้นแขนช้ำเยอะมาก
ถามลูก ลูกเลี่ยงที่จะตอบ แต่พ่อแม่ไม่ยอม สุดท้าย บอกว่ารุ่นพี่เรียกซ่อมทั้งรุ่น
ให้นั่งคุกเข่า ก้มหน้าคางชิดอก ที่เรียกมาเพราะมีเพื่อนคนนึงพูดถึงรุ่นพี่ว่า
“ม.6 ยังโหดขนาดนี้ ม.5 จะขนาดไหน” รุ่นพี่ถามหาว่าใครพูด ไม่มีใครตอบ
โดนตีด้วยม้วนกระดาษหนังสือพิมพ์ สุดท้ายรู้ตัวคนพูด คนพูดโดนเตะ
ใครที่นั่งอยู่ตอนเพื่อนคนนี้พูดออกมา ปุณนั่งอยู่ตอนเพื่อนพูด โดยที่ปุณไม่ได้พูดอะไร
ปุณลุกออกจากแถวไป ให้พี่เตะสามครั้ง กับความผิดที่นั่งอยู่ตรงนั้น
ปุณโดนเตะแรกจุกเลย รู้ได้ถึงความแรงมาก ส่วนแขนที่ช้ำ มีรุ่นพี่เข้ามากระหน่ำชก
โดนโดยที่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมชกปุณ
หลังจากที่รู้ความจริง ปุณไม่ให้เอาเรื่อง รุ่นพี่ขู่ไว้ว่า ใครบอกพ่อแม่โดนแน่ๆ
เพื่อนที่โดนหนักกว่าปุณ หลังขึ้นแนวทันที ยังไม่บอกใครเลย
พ่อแม่บอกปุณว่า “เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ยอมไม่ได้”
สุดท้าย เราจะเอาเรื่อง
เพื่อความปลอดภัยของลูก พ่อไก่เขียนจดหมาย แม่ไอโทร.หาผอ.
ผอ.รู้เรื่องจะไล่รุ่นพี่ออก เราขอไว้ เด็กจะจบแล้วไม่อยากทำลายอนาคตใคร
ขอแค่เรื่องแบบนี้หมดไป ก้อพอใจแล้ว ทั้งลูกและเพื่อนๆจะได้อยู่อย่างสงบ
ผอ.โอเค ไม่ไล่ออก แต่ต้องลงโทษ เราบอกไม่เป็นไร ไม่ต้องลงโทษ
ผอ.บอกว่า ถ้าผู้ปกครองไม่เอาผิด ผอ.จะลงโทษได้งัย
เอ๊าาาา!!!! งง นะเนี่ย แต่ปล่อยให้ผอ.อ้างไป ผอ.ลงโทษรุ่นพี่ม.6 ให้เดินเรียน 10 วัน
(คือการให้ไป-กลับเอง ไม่ให้นอนหอ)
พอรุ่นพี่รู้ว่าเรื่องที่พี่ทำรู้ถึงคนข้างนอก รุ่นพี่ถามหาคนทำ ไล่ถามคนที่โดนเตะ
ปุณลูกผู้ชายพอ รับว่าเป็นปุณเอง ถึงรุ่นพี่จะรับปากกับผอ.ว่าจะไม่ทำอะไรปุณ
แต่ก้อวางใจไม่ได้ เพราะพี่ม.6 รับปาก แล้วพี่ที่เหลือล่ะ แม่ให้ปุณโทรหาทุกวัน เครียดเลย
ชีวิตม.2 ที่เหลือ ไม่มีซ่อม แต่มีการใช้งาน รีดไถ (ยืมแต่ไม่เคยได้คืน)
รุ่นพี่อยากได้อะไรล่ะ กางเกง ถุงเท้า ของใช้ ใช้รุ่นน้องให้ไปยืมมาให้ ไปหาถุงเท้ามา 3 คู่ วิ่งขึ้น วิ่งลง ไม่มีใครอยากให้ยืมหรอก สุดท้ายปุณหยิบของตัวเองให้ไป เฮ้อ..
ขึ้นม.3 รุ่นพี่ไม่เคยมีเมตตา
เช้ามาเก็บที่นอนให้กู
ส่งผ้าซักให้กู
วิ่งไปเอาของหอโน้น ทำโน่นทำนี่ให้กู
พี่เรียกใช้ ไม่ได้ตามนั้น โดนด่า โดนตบหัว
เขียนถึงตรงนี้น้ำตาไหล รุ่นพี่บอกว่าเรียกทีไร ปุณมาคนแรกทุกที ปุณไม่อยากให้พี่โมโห
ไม่อยากให้เพื่อนโดนลงโทษ
ปุณบ่นเรื่องรุ่นพี่ใช้งานสาหัส แต่รู้ว่าต้องอดทน อีกไม่นานก้อจบม.3 แล้ว
จนมีคืนนึง ปุณโทรหาตอนห้าทุ่ม แปลกใจ เพราะตอนสามทุ่มปุณโทรมาแล้ว
น้ำเสียงปุณไม่ไหวแล้ว “แม่ รุ่นพี่บังคับให้ขายมาม่า แล้วมีคนขโมย
ปุณต้องออกตังค์จ่ายเกือบ 200 บาท” เข้าใจปุณเลย คนไม่เคยทำผิดกฏ โดนบังคับให้ทำ แล้วยังต้องเสียเงินชดใช้อีก ใจปุณแย่มากแล้ว
นี่มันไม่ใช่หอพักแล้ว ให้น้องทำผิดกฏสารพัด เอาเปรียบ ข่มขู่ ให้น้องกลัวเพื่อความสบายของตัวเอง มีระบบโจร ขโมยของ
เช้าวันรุ่งขึ้น รอบกลับบ้าน ตัดสินใจ รับปุณกลับ ขนของออกหมด
ไม่กลับมาเรียนที่นี่แล้ว เพราะเรารู้แล้วว่า เบ้าหลอมที่นี่บูดเบี้ยว
ระหว่างขนของกลับ ครูคนนึง รู้ว่าปุณจะลาออก ขอคุยกับพ่อแม่ ปุณพาเดินมาหาพ่อแม่ที่รถ ระหว่างทาง ปุณเล่าให้ครูฟังเรื่องทั้งหมด พอฟังจบ ครูคนนั้นตัดสินใจเดินกลับไป พูดแค่ว่า “โดนขนาดนี้ก้อคงจะไม่ไหว” ครูไม่ได้เดือดร้อน ให้ความช่วยเหลือลูกศิษย์เลย แสดงให้เห็นว่า ครูไม่กล้ายุ่ง
ก่อนหน้านี้ไปรับกปุณจากห้องเรียน คุยกับครู ครูบอกว่าผมไม่ชอบใจระบบนี้ ไม่เข้าท่า แต่มีครูคอยให้ท้ายสนุบสนุน ผมทำอะไรไม่ได้ ค้านไปก้อลำบาก ครูทำอะไรไม่ได้ แต่ทนเห็นเด็กมีชีวิตที่ย่ำแย่ได้
พอขับรถออกจากรร. ปุณเล่าว่าโดนเตะอีกเมื่อต้นเดือนที่แล้ว พ่อไก่เบรค กลับรถไปรร.
ตามหารุ่นพี่ที่ซ่อมวันนั้นมาร่วมสิบ ไม่มีใครรับว่าเป็นคนเตะ
รุ่นพี่บอกว่า ที่ทำทั้งหมดรักและหวังดีกับน้อง พวกผมทำเบาแล้ว ผมโดนหนักกว่านี้ ทำแบบนี้ลูกแม่จะเป็นลูกผู้ชาย… ผมโดนรุ่นพี่ทำแบบนี้ ผมรักกันด้วยซ้ำ
วันนั้นม.3 มี 19 คน รุ่นพี่เรียกใช้ ไม่มีใครมา พี่เรียกเข้าห้อง นั่งคุกเข่า รุ่นพี่ไล่เตะทีละคน คนละหนึ่งที เหตุผลที่รุ่นพี่ลงโทษ ไม่ได้เป็นการสั่งสอนหรือหวังดีกับน้องเลย คือกูไม่ได้ประโยชน์ เรียกแล้วไม่มา กูเตะ ปุณเป็นคนเดียวที่โดนเตะ 3 ครั้ง พอทยอยออกจากห้อง รุ่นพี่เรียกปุณไว้ ถามปุณว่า “รู้มั้ย ทำไมโดนเยอะ” แล้วก้อชี้ไปทางนายไอซ์ แล้วพูดต่อว่า “เพราะอยู่ใกล้ตีนมันงัย”
ก่อนหน้านี้
รุ่นพี่เคยชี้หน้าถามว่า “จะฟ้องอีกมั้ย”
รุ่นพี่ไม่เคยรู้เลยว่าปุณไม่ได้เป็นคนฟ้อง
รุ่นพี่ไม่เคยรู้เลยว่าเราไม่คิดเอาโทษกับเด็ก
แต่ปุณกลับต้องรับอย่างอดทนและช้ำใจ
แสดงว่ารุ่นพี่ม.6 กลุ่มนี้แค้นที่เราเอาเรื่องจนไม่ได้ซ่อมน้อง
รู้เลยว่าปุณอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว เตะครั้งนี้คงไม่ใช่ครั้งเดียวแน่นอน
พอปุณออก มีรุ่นพี่ที่จบแล้วแมสเสจมา ขอให้คุณพ่อคุณแม่จัดการอย่างจริงจัง
ผมทนมาก่อน ทนโดนแกล้ง โดนรังแก เพราะออกไม่ได้ ไม่มีเงินใช้ทุน
รุ่นพี่คนนั้นเล่าให้ฟังว่า ครูหอใช้วิธีขู่เด็กว่า “ถ้าไม่เชื่อจะให้รุ่นพี่จัดการ”
พ่อแม่รุ่นพี่คนนั้นถึงกับฟ้องครู ฟ้องผอ. แต่ทางครูเอง ไม่เคยเป็นธุระจัดการให้เลย
ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินมาแบบนี้โดยตลอด
แสดงว่า รุ่นพี่ปกครองแบบนี้ ครูชอบ ครูสบายไม่ต้องเหนื่อย เวรกรรมของเด็ก
รร.จุฬาภรณราชวิทยาลัยเชียงราย
ปล่อยให้เด็กอยู่ในที่ที่มีกฏ แต่ไม่ต้องทำตามกฏ
ปล่อยให้เด็กอยู่ในฐานะถูกกดดันเอาเปรียบจากรุ่นพี่โดยไร้เหตุผลสมควร
ปล่อยให้เด็กอยู่กับความเกรงกลัวและความชั่วร้ายของรุ่นพี่ตลอดเวลา
ปล่อยให้เด็กมีอำนาจขมขู่ให้คนอื่นทำตามที่ตนต้องการเมื่อไหร่ อย่างไรก็ได้
ปล่อยให้เด็กมีอำนาจข่มขู่ รีดไถ ขโมยของ โดยไม่มีความผิดสักครั้ง
โรงเรียนกำลังหล่อหลอมคนแบบไหนเข้าสู่สังคม
ปุณลาออกมากลางเทอม 1 เพราะเจอปัญหาที่ไม่สามารถอยู่ได้ ไม่ปลอดภัย
แต่ปุณหารร.ที่จะรับเข้ากลางเทอมไม่ได้ สุดท้ายไปที่สวนกุหลาบธนบุรี
แต่ปุณไม่ได้ชอบรร. ปุณร้องไห้ ปุณอยากกลับไปจุฬาภรณฯ ปุณรักที่นั่น รักเพื่อน ปุณทนเรื่องรุ่นพี่เอาอย่างเดียว ปุณทนไหว สงสารลูกใจแทบขาด ได้แต่กอดลูกไว้อย่างเดียว สุดท้ายปุณมีสติ บอกแม่เองว่า ปุณกลับไปไม่ได้หรอก ทั้งครูหอ ครูในรร.คงไม่ชอบปุณแล้ว ปุณคงอยู่ไม่ได้แล้ว
ใช่ลูก.. เราเลือกที่จะก้าวออกมาเอง หวังว่าทำขนาดนี้ครูคงเห็นปัญหาและหาทางแก้ไข วันที่ปุณรู้จากแม่ว่าจะออก ปุณถามแม่ว่าเพื่อนปุณจะเดือดร้อนมั้ย ปุณห่วงมาก วันที่รุ่นพี่ยกมือไหว้ขอโทษพ่อกับแม่ พ่อแม่ขอรุ่นพี่ว่าอย่าทำอะไรเพื่อนปุณนะ
แต่ข่าวล่าสุด เพื่อนปุณโดนรุ่นพี่ทำทุกอย่างเหมือนเดิม แถมจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ
แปลว่า……….
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ เฟซบุ๊ก Manassuda Khunmuang
น่าจะมีคนใส่ร้าย รร.จุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงราย ที่รักของกระผม ช่วยด้วยครับ
ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาหลายสิ่งที่ถูกปฏิบัติและสอนต่อ ๆ กันมาคือ เป็นรุ่นน้องต้องเคารพรุ่นพี่ แม้มันจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ในบางครั้งรุ่นพี่บางคนกับทำเกินเลย ใช้ความเป็นรุ่นพี่กดขี่ข่มเหงรุ่นน้องจนได้รับบาดเจ็บทั้งด้านจิตใจและร่างกาย ซึ่งได้ปรากฎเป็นข่าวมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
อย่างเช่นเรื่องที่สมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ Manassuda Khunmuang ได้โพสต์เรื่องราวสุดหดหู่ที่เกิดขึ้นกับลูกชายของตนเอง เด็กชายที่ศึกษาอยู่เพียงมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่ต้องลาออกจากโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ใน จ.เชียงราย กลางคัน เพราะทนต่อการถูกกดขี่ข่มเหงของรุ่นพี่ไม่ไหว แถมด้านคุณครูยังนิ่งเฉยไม่จัดการ
ScreenHunter_94 Sep. 26 16.19
โดยมีรายละเอียดเรื่องราวระบุไว้ดังนี้
ปลายปี 2555 ปุณ สอบเข้า ม.1 รร.ปริ้นส์รอยแยลวิทยาลัย ได้ ปุณแฮบปี้ ชอบรร.มาก ขอเรียนที่นี่ เลือกสอบเข้าห้องพิเศษวิทย์ สอบผ่าน จ่ายค่าเทอมเรียบร้อย ปุณรอเวลาได้เข้าไปเรียนอย่างมีความสุข
ต้นปี 2556 ปุณสอบผ่านรอบแรกของ รร.จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปุณไม่อยากสอบรอบสอง กลัวว่าสอบผ่านรอบสองแล้วจะอดเรียนปริ้น พ่อแม่รับปากว่าให้ปุณเลือกเองว่าจะเรียนที่ไหน สุดท้ายปุณสอบได้ และใจปุณยังอยากเรียนปริ้นอยู่ ปุณเริ่มคิด ปริ้นจ่ายเทอมละสองหมื่นกว่าบาท แต่ที่จุฬาภรณฯเรียนฟรี อุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้า ที่พัก ค่าเทอม ไม่ต้องจ่ายเลย ได้ทุนเทอมละ 42,000 บาท กปุณคิดใคร่ครวญหลายวัน สุดท้ายเลือกช่วยพ่อแม่ประหยัด เก็บข้าวของส่วนตัวเข้าหอพักที่จุฬาภรณฯเชียงราย เวลานั้นมันมากกว่าภาคภูมิใจ และหวังว่าลูกจะโตขึ้นภายใต้กฏเกณฑ์ที่ต้องอยู่กับคนหมู่มาก น่าจะรู้จักรับผิดชอบและมีวินัย
ผ่านไปเพียงสองสามอาทิตย์ เริ่มเห็นแล้วว่ากฏกติกาภายในหอ เด็กๆฝ่าฝืนได้
เริ่มจาก ห้ามนำขนมมาในหอพัก แต่เวลาไปส่งลูก จะเห็นเด็กหิ้วถุงขนมมา
ครูหอพยักเพยิดให้เด็กเอาของเข้าไปเก็บ
เข้าใจแล้ว..
ห้ามมีมือถือ ก้อเห็นพี่ๆมีใช้กัน
ตอนนั้นเริ่มรู้สึกว่า กฏไม่เป็นกฏ ไม่ชอบใจเลย
หนักกว่านั้นคือ ของหายเยอะมาก จนสุดท้ายเอ่ยปากกับครูนันทวัน
ครูแทบไม่ฟัง รีบตอบกลับมาว่า “วางไว้ ไม่เก็บเป็นที่รึป่าว” และไม่สนใจคุย
เรื่องนี้ถูกวางไว้ในฐานที่เข้าใจว่า “วางของไว้ ไม่เก็บของต้องหาย”
เฮ้ยยย!! สังคมดีๆ ถ้าไม่ใช่ของตัวเอง ไม่เอา
แต่ครูพูดแบบนี้คือ คนที่หยิบของคนอื่นไป คนนั้นไม่ผิด
ความคิดและความรับผิดชอบของครูอยู่ในระดับที่แย่มากๆๆๆๆ
ชีวิตในหอ โดนรุ่นพี่ซ่อม ข่มขู่ ใช้งาน
พี่ใช้ให้เขียนการบ้านถึงตีสี่ทั้งๆที่พรุ่งนี้เช้าสอบ
ม.1 เดินผ่านรุ่นพี่ต้องก้มหน้า
ม.1 จะนั่งหน้าสหกรณ์ รุ่นพี่ไล่ ม.1 ไม่มีสิทธิ์นั่งตรงนี้
เด็กไม่ตัดผม เรียกไปด่า ถ้าไม่ตัดครบสามครั้ง รุ่นพี่ชกหน้า
สงสัยมาก ใครให้สิทธิ์รุ่นพี่ทำแบบนี้กับน้องได้?
ผ่านมาถึงม.2 ประมาณกลางเทอม 1 รับปุณกลับบ้าน ต้นแขนช้ำเยอะมาก
ถามลูก ลูกเลี่ยงที่จะตอบ แต่พ่อแม่ไม่ยอม สุดท้าย บอกว่ารุ่นพี่เรียกซ่อมทั้งรุ่น
ให้นั่งคุกเข่า ก้มหน้าคางชิดอก ที่เรียกมาเพราะมีเพื่อนคนนึงพูดถึงรุ่นพี่ว่า
“ม.6 ยังโหดขนาดนี้ ม.5 จะขนาดไหน” รุ่นพี่ถามหาว่าใครพูด ไม่มีใครตอบ
โดนตีด้วยม้วนกระดาษหนังสือพิมพ์ สุดท้ายรู้ตัวคนพูด คนพูดโดนเตะ
ใครที่นั่งอยู่ตอนเพื่อนคนนี้พูดออกมา ปุณนั่งอยู่ตอนเพื่อนพูด โดยที่ปุณไม่ได้พูดอะไร
ปุณลุกออกจากแถวไป ให้พี่เตะสามครั้ง กับความผิดที่นั่งอยู่ตรงนั้น
ปุณโดนเตะแรกจุกเลย รู้ได้ถึงความแรงมาก ส่วนแขนที่ช้ำ มีรุ่นพี่เข้ามากระหน่ำชก
โดนโดยที่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมชกปุณ
หลังจากที่รู้ความจริง ปุณไม่ให้เอาเรื่อง รุ่นพี่ขู่ไว้ว่า ใครบอกพ่อแม่โดนแน่ๆ
เพื่อนที่โดนหนักกว่าปุณ หลังขึ้นแนวทันที ยังไม่บอกใครเลย
พ่อแม่บอกปุณว่า “เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ยอมไม่ได้”
สุดท้าย เราจะเอาเรื่อง
เพื่อความปลอดภัยของลูก พ่อไก่เขียนจดหมาย แม่ไอโทร.หาผอ.
ผอ.รู้เรื่องจะไล่รุ่นพี่ออก เราขอไว้ เด็กจะจบแล้วไม่อยากทำลายอนาคตใคร
ขอแค่เรื่องแบบนี้หมดไป ก้อพอใจแล้ว ทั้งลูกและเพื่อนๆจะได้อยู่อย่างสงบ
ผอ.โอเค ไม่ไล่ออก แต่ต้องลงโทษ เราบอกไม่เป็นไร ไม่ต้องลงโทษ
ผอ.บอกว่า ถ้าผู้ปกครองไม่เอาผิด ผอ.จะลงโทษได้งัย
เอ๊าาาา!!!! งง นะเนี่ย แต่ปล่อยให้ผอ.อ้างไป ผอ.ลงโทษรุ่นพี่ม.6 ให้เดินเรียน 10 วัน
(คือการให้ไป-กลับเอง ไม่ให้นอนหอ)
พอรุ่นพี่รู้ว่าเรื่องที่พี่ทำรู้ถึงคนข้างนอก รุ่นพี่ถามหาคนทำ ไล่ถามคนที่โดนเตะ
ปุณลูกผู้ชายพอ รับว่าเป็นปุณเอง ถึงรุ่นพี่จะรับปากกับผอ.ว่าจะไม่ทำอะไรปุณ
แต่ก้อวางใจไม่ได้ เพราะพี่ม.6 รับปาก แล้วพี่ที่เหลือล่ะ แม่ให้ปุณโทรหาทุกวัน เครียดเลย
ชีวิตม.2 ที่เหลือ ไม่มีซ่อม แต่มีการใช้งาน รีดไถ (ยืมแต่ไม่เคยได้คืน)
รุ่นพี่อยากได้อะไรล่ะ กางเกง ถุงเท้า ของใช้ ใช้รุ่นน้องให้ไปยืมมาให้ ไปหาถุงเท้ามา 3 คู่ วิ่งขึ้น วิ่งลง ไม่มีใครอยากให้ยืมหรอก สุดท้ายปุณหยิบของตัวเองให้ไป เฮ้อ..
ขึ้นม.3 รุ่นพี่ไม่เคยมีเมตตา
เช้ามาเก็บที่นอนให้กู
ส่งผ้าซักให้กู
วิ่งไปเอาของหอโน้น ทำโน่นทำนี่ให้กู
พี่เรียกใช้ ไม่ได้ตามนั้น โดนด่า โดนตบหัว
เขียนถึงตรงนี้น้ำตาไหล รุ่นพี่บอกว่าเรียกทีไร ปุณมาคนแรกทุกที ปุณไม่อยากให้พี่โมโห
ไม่อยากให้เพื่อนโดนลงโทษ
ปุณบ่นเรื่องรุ่นพี่ใช้งานสาหัส แต่รู้ว่าต้องอดทน อีกไม่นานก้อจบม.3 แล้ว
จนมีคืนนึง ปุณโทรหาตอนห้าทุ่ม แปลกใจ เพราะตอนสามทุ่มปุณโทรมาแล้ว
น้ำเสียงปุณไม่ไหวแล้ว “แม่ รุ่นพี่บังคับให้ขายมาม่า แล้วมีคนขโมย
ปุณต้องออกตังค์จ่ายเกือบ 200 บาท” เข้าใจปุณเลย คนไม่เคยทำผิดกฏ โดนบังคับให้ทำ แล้วยังต้องเสียเงินชดใช้อีก ใจปุณแย่มากแล้ว
นี่มันไม่ใช่หอพักแล้ว ให้น้องทำผิดกฏสารพัด เอาเปรียบ ข่มขู่ ให้น้องกลัวเพื่อความสบายของตัวเอง มีระบบโจร ขโมยของ
เช้าวันรุ่งขึ้น รอบกลับบ้าน ตัดสินใจ รับปุณกลับ ขนของออกหมด
ไม่กลับมาเรียนที่นี่แล้ว เพราะเรารู้แล้วว่า เบ้าหลอมที่นี่บูดเบี้ยว
ระหว่างขนของกลับ ครูคนนึง รู้ว่าปุณจะลาออก ขอคุยกับพ่อแม่ ปุณพาเดินมาหาพ่อแม่ที่รถ ระหว่างทาง ปุณเล่าให้ครูฟังเรื่องทั้งหมด พอฟังจบ ครูคนนั้นตัดสินใจเดินกลับไป พูดแค่ว่า “โดนขนาดนี้ก้อคงจะไม่ไหว” ครูไม่ได้เดือดร้อน ให้ความช่วยเหลือลูกศิษย์เลย แสดงให้เห็นว่า ครูไม่กล้ายุ่ง
ก่อนหน้านี้ไปรับกปุณจากห้องเรียน คุยกับครู ครูบอกว่าผมไม่ชอบใจระบบนี้ ไม่เข้าท่า แต่มีครูคอยให้ท้ายสนุบสนุน ผมทำอะไรไม่ได้ ค้านไปก้อลำบาก ครูทำอะไรไม่ได้ แต่ทนเห็นเด็กมีชีวิตที่ย่ำแย่ได้
พอขับรถออกจากรร. ปุณเล่าว่าโดนเตะอีกเมื่อต้นเดือนที่แล้ว พ่อไก่เบรค กลับรถไปรร.
ตามหารุ่นพี่ที่ซ่อมวันนั้นมาร่วมสิบ ไม่มีใครรับว่าเป็นคนเตะ
รุ่นพี่บอกว่า ที่ทำทั้งหมดรักและหวังดีกับน้อง พวกผมทำเบาแล้ว ผมโดนหนักกว่านี้ ทำแบบนี้ลูกแม่จะเป็นลูกผู้ชาย… ผมโดนรุ่นพี่ทำแบบนี้ ผมรักกันด้วยซ้ำ
วันนั้นม.3 มี 19 คน รุ่นพี่เรียกใช้ ไม่มีใครมา พี่เรียกเข้าห้อง นั่งคุกเข่า รุ่นพี่ไล่เตะทีละคน คนละหนึ่งที เหตุผลที่รุ่นพี่ลงโทษ ไม่ได้เป็นการสั่งสอนหรือหวังดีกับน้องเลย คือกูไม่ได้ประโยชน์ เรียกแล้วไม่มา กูเตะ ปุณเป็นคนเดียวที่โดนเตะ 3 ครั้ง พอทยอยออกจากห้อง รุ่นพี่เรียกปุณไว้ ถามปุณว่า “รู้มั้ย ทำไมโดนเยอะ” แล้วก้อชี้ไปทางนายไอซ์ แล้วพูดต่อว่า “เพราะอยู่ใกล้ตีนมันงัย”
ก่อนหน้านี้
รุ่นพี่เคยชี้หน้าถามว่า “จะฟ้องอีกมั้ย”
รุ่นพี่ไม่เคยรู้เลยว่าปุณไม่ได้เป็นคนฟ้อง
รุ่นพี่ไม่เคยรู้เลยว่าเราไม่คิดเอาโทษกับเด็ก
แต่ปุณกลับต้องรับอย่างอดทนและช้ำใจ
แสดงว่ารุ่นพี่ม.6 กลุ่มนี้แค้นที่เราเอาเรื่องจนไม่ได้ซ่อมน้อง
รู้เลยว่าปุณอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว เตะครั้งนี้คงไม่ใช่ครั้งเดียวแน่นอน
พอปุณออก มีรุ่นพี่ที่จบแล้วแมสเสจมา ขอให้คุณพ่อคุณแม่จัดการอย่างจริงจัง
ผมทนมาก่อน ทนโดนแกล้ง โดนรังแก เพราะออกไม่ได้ ไม่มีเงินใช้ทุน
รุ่นพี่คนนั้นเล่าให้ฟังว่า ครูหอใช้วิธีขู่เด็กว่า “ถ้าไม่เชื่อจะให้รุ่นพี่จัดการ”
พ่อแม่รุ่นพี่คนนั้นถึงกับฟ้องครู ฟ้องผอ. แต่ทางครูเอง ไม่เคยเป็นธุระจัดการให้เลย
ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินมาแบบนี้โดยตลอด
แสดงว่า รุ่นพี่ปกครองแบบนี้ ครูชอบ ครูสบายไม่ต้องเหนื่อย เวรกรรมของเด็ก
รร.จุฬาภรณราชวิทยาลัยเชียงราย
ปล่อยให้เด็กอยู่ในที่ที่มีกฏ แต่ไม่ต้องทำตามกฏ
ปล่อยให้เด็กอยู่ในฐานะถูกกดดันเอาเปรียบจากรุ่นพี่โดยไร้เหตุผลสมควร
ปล่อยให้เด็กอยู่กับความเกรงกลัวและความชั่วร้ายของรุ่นพี่ตลอดเวลา
ปล่อยให้เด็กมีอำนาจขมขู่ให้คนอื่นทำตามที่ตนต้องการเมื่อไหร่ อย่างไรก็ได้
ปล่อยให้เด็กมีอำนาจข่มขู่ รีดไถ ขโมยของ โดยไม่มีความผิดสักครั้ง
โรงเรียนกำลังหล่อหลอมคนแบบไหนเข้าสู่สังคม
ปุณลาออกมากลางเทอม 1 เพราะเจอปัญหาที่ไม่สามารถอยู่ได้ ไม่ปลอดภัย
แต่ปุณหารร.ที่จะรับเข้ากลางเทอมไม่ได้ สุดท้ายไปที่สวนกุหลาบธนบุรี
แต่ปุณไม่ได้ชอบรร. ปุณร้องไห้ ปุณอยากกลับไปจุฬาภรณฯ ปุณรักที่นั่น รักเพื่อน ปุณทนเรื่องรุ่นพี่เอาอย่างเดียว ปุณทนไหว สงสารลูกใจแทบขาด ได้แต่กอดลูกไว้อย่างเดียว สุดท้ายปุณมีสติ บอกแม่เองว่า ปุณกลับไปไม่ได้หรอก ทั้งครูหอ ครูในรร.คงไม่ชอบปุณแล้ว ปุณคงอยู่ไม่ได้แล้ว
ใช่ลูก.. เราเลือกที่จะก้าวออกมาเอง หวังว่าทำขนาดนี้ครูคงเห็นปัญหาและหาทางแก้ไข วันที่ปุณรู้จากแม่ว่าจะออก ปุณถามแม่ว่าเพื่อนปุณจะเดือดร้อนมั้ย ปุณห่วงมาก วันที่รุ่นพี่ยกมือไหว้ขอโทษพ่อกับแม่ พ่อแม่ขอรุ่นพี่ว่าอย่าทำอะไรเพื่อนปุณนะ
แต่ข่าวล่าสุด เพื่อนปุณโดนรุ่นพี่ทำทุกอย่างเหมือนเดิม แถมจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ
แปลว่า……….
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ เฟซบุ๊ก Manassuda Khunmuang