นั่งรถไฟ ลุยเดี่ยว เที่ยวเมืองบาธ (Bath) ประเทศอังกฤษ

อิชั้นและครอบครัวเพิ่งไปเที่ยวหลายเมืองในยุโรป (อัมสเตอร์ดัม ลอนดอน บริสตอล ปารีส) มา 3 สัปดาห์ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมของเจ้าลูกชาย เราไม่ได้ไปอังกฤษกันบ่อยนักถึงแม้ว่าคุณสามีจะเป็นหนุ่มอังกฤษก็ตาม เนื่องจากพ่อแม่เธอเสียชีวิตหมดแล้ว ญาติที่เหลือมีเพียงพี่สาวคนเดียวซึ่งเธอก็มีครอบครัวแล้ว และครอบครัวนี้ก็ชอบมาเที่ยวเมืองไทยกันจังเลย หลัง ๆ นี่มาเกือบทุกปี จะมาทีไรก็ต้อง Skype มาอ้อล้อให้คุณสามีบินไปเจอกับครอบครัวเธอที่เมืองไทยด้วยทุกครั้ง

สะใภ้อสูรอย่างอิชั้นนั้นไม่ชอบใจนักหรอกค่ะ เพราะอิชั้นอยู่ฮ่องกง ทำงานมาทั้งปี มีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้นเพราะงบน้อย กลับเสียโอกาสที่จะได้ไปเที่ยวสถานที่ที่ตัวเองชอบ ต้องมาเสียเงินไปเที่ยวสถานที่ที่คนอื่นชอบแทน เหมือนซื้อวันหยุดให้คนอื่นเขายังไงก็ไม่รู้นะ "Why do I have to pay for a holiday I don't even want??" อันนี้เป็นคำถามที่ถามกับตัวเองและใส่อารมณ์กับคุณสามีอยู่บ่อย ๆ  

มาปีนี้พอคุณสามี Skype ไปบอกพี่สาวว่าจะไปอังกฤษช่วงซัมเมอร์ พี่สาวชิงสวนกลับมาทันทีว่าเธอก็จะไปเมืองไทยในช่วงนั้นเหมือนกัน กำลังหาตั๋วอยู่ คุณสามีรีบบอกว่าเธอซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว จองโรงแรมไปแล้วบางส่วน พร้อมบอกวันที่เธอจะเดินทางไปถึงบริสตอล (บ้านพี่สาวอยู่เมืองนี้) ไว้ พร้อมทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าได้เจอกันก็ดี ถ้าไม่ได้เจอก็ไม่เป็นไร ว่าแล้วก็ล็อกออฟ

พี่สาวเธอก็คงฉุนนะ กรูไปเมืองไทยทุกปีมา 4 ปีรวดแล้ว น้องชายบินจากฮ่องกงไปพาพี่สาวเที่ยวแถมจ่ายค่าโรงแรมให้ตลอด ทำม้าย ปีนี้มันถึงได้อยากมาอังกฤษ??  เธอหายศีรษะไม่ยอมล็อกอิน Skype อีเมลไปก็ไม่ตอบกลับ จนหลายเดือนผ่านไป ใกล้เวลาเดินทางของเราแล้วนั่นแหละเธอถึงได้ยอม Skype มาคุยกับคุณสามีในที่สุด  

อิชั้นนั้นไม่ได้มีจิตพิศวาสครอบครัวพี่สาวของคุณสามีเท่าใดนักค่ะ (อ่านที่อิชั้นพล่ามมาตั้งนาน คงพอจะเดาออกกันใช่มั้ย ฮ่าฮ่า) ดังนั้นเมื่อเราจะไปบริสตอลกัน 4 คืน อิชั้นก็วางแผนแยกไปเที่ยวคนเดียว 3 วัน ซึ่งคุณสามีก็เห็นดีเห็นงามด้วย โดยอิชั้นตั้งใจจะนั่งรถไฟจากสถานี Bristol Temple Meads ไปเที่ยวเมืองบาธ (Bath) 1 วัน ไปคาร์ดิฟ (Cardiff) ประเทศเวลส์ (Wales) อีก 1 วัน และวันสุดท้ายตั้งใจเดินเที่ยวเก็บตกที่บริสตอลนั่นแหละ


ห้องพักของเราในบริสตอลเป็น B&B ที่มีชื่อว่า Clifton House
  

ปรากฎว่าในวันที่พวกเราเดินทางมาถึงบริสตอลนั้น ทางบริษัทรถไฟ First Great Western เขานัดหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ มีข่าวอัปเดตกันแทบจะทุกชั่วโมงว่างดให้บริการรถไฟบางสาย บางสายก็ลดจำนวนเที่ยวลง ในข่าวมีสัมภาษณ์คนที่อยู่นอกเมืองแล้วต้องเดินทางด้วยรถไฟเข้าไปทำงานในลอนดอนทุกวัน หลายรายต้องหาที่พักค้างคืนในลอนดอนในช่วงดังกล่าวเนื่องจากหาตั๋วกลับบ้านไม่ได้เลย อิชั้นเลยต้องปรับเปลี่ยนแผนเที่ยวของตัวเองกระทันหัน

โดยวันแรกอิชั้นเลือกไปเดินเที่ยวตัวเมืองบริสตอลก่อน พอตกเย็นก่อนกลับโรงแรมอิชั้นก็แวะเข้าไปที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการเดินทางไปเมืองบาธและคาร์ดิฟด้วยรถบัสและรถโค้ช ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้คำแนะนำอย่างดี ว่าหากนั่งรถบัสไปบาธจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า (ขณะที่รถไฟใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น) ส่วนรถโค้ชไปคาร์ดิฟจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง (1 ชั่วโมงหากเดินทางด้วยรถไฟ)

โอย .. เศร้าแป๊บ คาร์ดิฟนี่ตัดไปได้เลยเสียเวลาเดินทางนานเกิน แถมอิชั้นเคยไปมาแล้วครั้งนึงด้วย แต่เมืองบาธนี่ตัดไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นเมืองโปรดที่สุด มาอังกฤษทีไรต้องไปทุกครั้ง ตกดึกพอคุณสามีซึ่งออกไปเที่ยว Wells Cathedral กับครอบครัวของพี่สาวกลับมาถึงโรงแรม ด้วยความเวทนาเธอบอกว่าเธอจะขับรถ (ที่เราเช่ามา) ไปส่งที่เมืองบาธในตอนเช้า ส่วนขากลับอิชั้นต้องนั่งรถบัสกลับมาเอง ก็ตกลงตามนั้นค่ะ

รุ่งเช้าคุณสามีและลูกชายขับรถจากบริสตอลมาส่งอิชั้นที่เมืองบาธแถว ๆ Royal Crescent ก่อนที่ทั้งสองหนุ่มจะไปสมทบกับครอบครัวพี่สาวเพื่อไปเที่ยว Weston Super Mare กันต่อไป เป็นอันว่าอิชั้นจะได้เริ่มต้นกระทู้ท่องเที่ยวกระทู้นี้เสียที (หลายคนนึกไปว่ากำลังอ่านกระทู้ปัญหาครอบครัว ห้องชานเรือนอยู่ใช่ไหม ฮ่าฮ่า)



Royal Crescent, Bath




อิชั้นได้เห็นก็ต้องร้องว้า!! เพราะเขากำลังซ่อมแซมตรงส่วนกลางของอาคารอยู่พอดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่