วันหนึ่งจขกท.ได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายบุคคลบริษัทผลิตอาหารแห่งหนึ่ง
ประมาณว่า ทางบริษัทกำลังหาผู้สมัครงานในตำแหน่งฝ่ายบุคคล น้องมีความสนใจหรือไม่คะ
จขกท.ก็สนใจ และถามไปว่า เพิ่งจบใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์ สามารถทำได้หรอครับ
เขาก็ตอบกลับมาว่า จบใหม่มาได้เลย บริษัทนี้ยิ่งชอบ จขกท.ก็เลยสนใจ
เมื่อตกลงเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ พี่เขาก็ค่อยมานัดวันให้ไปสัมภาษณ์อีกทีนึง
ก่อนวันสัมภาษณ์ 1 วัน ฝ่ายบุคคลโทรมาให้ไปสัมภาษณ์ในรอบสุดท้ายเลย
คือไม่ต้องผ่านรอบอื่นๆ แล้วจะประกาศผลเลย เราก็ตกลงไปตามนัดเขาในวันพรุ่งนี้ ช่วงบ่าย 3
วันสัมภาษณ์ พี่ฝ่ายบุคคลก็โทรมาตามตั้งแต่บ่ายโมง เหมือนเป็นการคอนเฟิร์มกับเราว่า จะมาหรือไม่
จุดนี้ต้องชื่นชมเลยว่าทำงานดีมาก พอบ่าย 3 จขกท.ก็ไปที่บริษัทนั้น ก็นั่งทำข้อสอบ แล้วสัมภาษณ์ต่อ ทุกอย่างก็ไปได้ดี
วันหลังจากวันสัมภาษณ์หนึ่งวัน พี่ฝ่ายบุคคลก็โทรมาบอกว่าเราสัมภาษณ์ผ่านแล้ว
แต่เนื่องจากว่าบริษัทนี้จะมีให้ทำงานที่สำนักงานกรุงเทพกับต่างจังหวัด พี่เขากลัวว่าเราไม่อยากเดินทางไปต่างจังหวัด
และเห็นว่าเป็นคนกรุงเทพ จึงอยากให้มาสัมภาษณ์กับสำนักงานกรุงเทพ แล้วจะให้สัมภาษณ์ในวันนั้นเลย
ซึ่งโทรมาตอน 11 โมง และจะให้ไปสัมภาษณ์ตอนบ่าย 3 ขณะเดียวกันวันนั้นจขกท.ก็มีธุระที่ต้องทำ
ก็ยอมละทิ้งธุระ แม้จะเสียดายเงินที่จองค่าไปพักต่างจังหวัดก็ตาม เนื่องจากเข้าใจว่างานหายากมาก
และก็เห็นว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ จขกท.ก็ไปสัมภาษณ์ในฝ่ายนั้นของสำนักงานกรุงเทพ
ซึ่งมีคนผ่านจากรอบเมื่อวาน 2 คนรวมจขกท.ด้วย ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
และในครั้งนี้จะมีการให้เลือกว่าใครคนใดคนหนึ่งจะได้ทำงานที่สำนักงานกรุงเทพหรือต่างจังหวัด
ก็คือเหมือนเราสัมภาษณ์ผ่านแล้ว เพียงแต่เขาจะเลือกให้ว่าจะได้ทำงานที่ไหน
เราก็เลยไม่ได้ไปสมัครงานที่อื่นเลย เพราะไม่อยากไปกันที่คนอื่นเขา
หลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ต่อมา จขกท.ก็ได้โทรไปถามเกี่ยวกับการสัมภาษณ์
แล้วก็ได้ยินคำตอบที่เจ็บปวดใจมาก คือ พี่เขาบอกว่า น้องสัมภาษณ์ผ่านแล้ว
แต่ติดตรงที่ไม่มีประสบการณ์ เขาอยากได้คนที่มีประสบการณ์ และอีกคนที่ผ่านก็ไม่ได้ด้วยเช่นกัน (เพิ่งเรียนจบเหมือนกัน)
ตอนนั้นแบบเห้ย ! เราก็คุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่า เราเพิ่งจบ ยังไม่มีประสบการณ์
แต่พอพูดกลับมาอย่างนี้มันแบบรู้สึกเสียแรง เสียเวลามาก เราอุตส่าห์ทุ่มให้กับเขาเต็มที่
ไปตามที่เขาบอกทุกอย่าง แม้ว่าตัวเองจะมีธุระหรืออะไรก็ตาม เพราะว่าโอกาสมันไม่ได้มีมาบ่อยๆ
แต่สิ่งที่ได้กลับมามันโหดร้ายมาก ถ้าเป็นอย่างงี้ก็ไม่ควรบอกให้เรามาในวันถัดไปเลย จะได้เอาเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่น
ป.ล. เสียใจ เสียเวลา และเสียความรู้สึกมาก แต่ก็เข้าใจพี่ฝ่ายบุคคลท่านนั้นแหละ มันก็ลำบากใจจริงๆ
ที่จะบอกเราอย่างนั้นว่าผ่านแล้วแต่ไม่มีประสบการณ์ เพราะพี่เขาก็เพิ่งรู้ตอนหลังจากสัมภาษณ์พวกเราเสร็จว่า
เขาต้องการคนมีประสบการณ์
สัมภาษณ์งานผ่านแล้ว แต่เขาไม่รับเนื่องจากยังไม่มีประสบการณ์ ทั้งที่เราก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่า "เพิ่งเรียนจบ"
ประมาณว่า ทางบริษัทกำลังหาผู้สมัครงานในตำแหน่งฝ่ายบุคคล น้องมีความสนใจหรือไม่คะ
จขกท.ก็สนใจ และถามไปว่า เพิ่งจบใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์ สามารถทำได้หรอครับ
เขาก็ตอบกลับมาว่า จบใหม่มาได้เลย บริษัทนี้ยิ่งชอบ จขกท.ก็เลยสนใจ
เมื่อตกลงเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ พี่เขาก็ค่อยมานัดวันให้ไปสัมภาษณ์อีกทีนึง
ก่อนวันสัมภาษณ์ 1 วัน ฝ่ายบุคคลโทรมาให้ไปสัมภาษณ์ในรอบสุดท้ายเลย
คือไม่ต้องผ่านรอบอื่นๆ แล้วจะประกาศผลเลย เราก็ตกลงไปตามนัดเขาในวันพรุ่งนี้ ช่วงบ่าย 3
วันสัมภาษณ์ พี่ฝ่ายบุคคลก็โทรมาตามตั้งแต่บ่ายโมง เหมือนเป็นการคอนเฟิร์มกับเราว่า จะมาหรือไม่
จุดนี้ต้องชื่นชมเลยว่าทำงานดีมาก พอบ่าย 3 จขกท.ก็ไปที่บริษัทนั้น ก็นั่งทำข้อสอบ แล้วสัมภาษณ์ต่อ ทุกอย่างก็ไปได้ดี
วันหลังจากวันสัมภาษณ์หนึ่งวัน พี่ฝ่ายบุคคลก็โทรมาบอกว่าเราสัมภาษณ์ผ่านแล้ว
แต่เนื่องจากว่าบริษัทนี้จะมีให้ทำงานที่สำนักงานกรุงเทพกับต่างจังหวัด พี่เขากลัวว่าเราไม่อยากเดินทางไปต่างจังหวัด
และเห็นว่าเป็นคนกรุงเทพ จึงอยากให้มาสัมภาษณ์กับสำนักงานกรุงเทพ แล้วจะให้สัมภาษณ์ในวันนั้นเลย
ซึ่งโทรมาตอน 11 โมง และจะให้ไปสัมภาษณ์ตอนบ่าย 3 ขณะเดียวกันวันนั้นจขกท.ก็มีธุระที่ต้องทำ
ก็ยอมละทิ้งธุระ แม้จะเสียดายเงินที่จองค่าไปพักต่างจังหวัดก็ตาม เนื่องจากเข้าใจว่างานหายากมาก
และก็เห็นว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ จขกท.ก็ไปสัมภาษณ์ในฝ่ายนั้นของสำนักงานกรุงเทพ
ซึ่งมีคนผ่านจากรอบเมื่อวาน 2 คนรวมจขกท.ด้วย ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
และในครั้งนี้จะมีการให้เลือกว่าใครคนใดคนหนึ่งจะได้ทำงานที่สำนักงานกรุงเทพหรือต่างจังหวัด
ก็คือเหมือนเราสัมภาษณ์ผ่านแล้ว เพียงแต่เขาจะเลือกให้ว่าจะได้ทำงานที่ไหน
เราก็เลยไม่ได้ไปสมัครงานที่อื่นเลย เพราะไม่อยากไปกันที่คนอื่นเขา
หลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ต่อมา จขกท.ก็ได้โทรไปถามเกี่ยวกับการสัมภาษณ์
แล้วก็ได้ยินคำตอบที่เจ็บปวดใจมาก คือ พี่เขาบอกว่า น้องสัมภาษณ์ผ่านแล้ว
แต่ติดตรงที่ไม่มีประสบการณ์ เขาอยากได้คนที่มีประสบการณ์ และอีกคนที่ผ่านก็ไม่ได้ด้วยเช่นกัน (เพิ่งเรียนจบเหมือนกัน)
ตอนนั้นแบบเห้ย ! เราก็คุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่า เราเพิ่งจบ ยังไม่มีประสบการณ์
แต่พอพูดกลับมาอย่างนี้มันแบบรู้สึกเสียแรง เสียเวลามาก เราอุตส่าห์ทุ่มให้กับเขาเต็มที่
ไปตามที่เขาบอกทุกอย่าง แม้ว่าตัวเองจะมีธุระหรืออะไรก็ตาม เพราะว่าโอกาสมันไม่ได้มีมาบ่อยๆ
แต่สิ่งที่ได้กลับมามันโหดร้ายมาก ถ้าเป็นอย่างงี้ก็ไม่ควรบอกให้เรามาในวันถัดไปเลย จะได้เอาเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่น
ป.ล. เสียใจ เสียเวลา และเสียความรู้สึกมาก แต่ก็เข้าใจพี่ฝ่ายบุคคลท่านนั้นแหละ มันก็ลำบากใจจริงๆ
ที่จะบอกเราอย่างนั้นว่าผ่านแล้วแต่ไม่มีประสบการณ์ เพราะพี่เขาก็เพิ่งรู้ตอนหลังจากสัมภาษณ์พวกเราเสร็จว่า
เขาต้องการคนมีประสบการณ์