กลับมาแล้วค๊าาาา แหะๆ ดองเอาไว้ หายไปเกือบปีแหนะ 5555 แต่ตั้งใจไว้จะเขียนให้จบอยู่แล้วแต่แรก ก็เลยกลับมาเล่าต่อดีกว่า ไม่รู้ว่ายังมีคนรอตามต่ออยู่มั้ยคะ
พอดีวันก่อนเพิ่งได้อ่านบล๊อกของ คุณ Cookiecoffee กับคุณ Chilljourney แล้วเป็นแรงบันดาลใจมากๆอยากให้กลับมาเขียนต่ออีก คือเป็นอะไรที่ดี๊ดี พี่ทั้งสองคน พูดถึงเรื่อง อาชีพบล๊อกเกอร์ อาชีพอะไรที่ ไปเที่ยวรอบโลกแล้วได้เงินด้วย มีออฟฟิสอยู่ในสตาบัคที่ไหนก็ได้ทั่วโลก อ่านไปก็ฝันไป แหม่ถ้าทำได้แบบพี่เค้าคงดีสิเนอะ แต่ก็มีประโยคนึงของคุณ Chilljourney ว่า อยากเริ่ม ก็เริ่มเขียนตั้งแต่ตอนนี้เลย เขียนไม่เก่งไม่เป็นไร เขียนไปก่อน บล๊อกเกอร์ทุกคนกว่าจะประสบความสำเร็จก็ต้องเขียนไปแล้วกว่า 3 ปี กว่าจะมีคนรู้จัก มีคนฟอลโล่เยอะๆ มีคนสปอนเซอร์ให้ไปเที่ยวเพื่อมารีวิว หลายคนก็เริ่มมาจากในพันทิป ก็จริงค่ะ เราเพิ่งจะเริ่มเขียน รีวิว ทริปแรกเอง จะคิดอะไรมากก มีคนเข้ามาให้กำลังใจนิดๆหน่อยๆ ก็ดีใจแล้ว ยังไงอยากอัพไว้ก็เป็นความทรงจำดีๆ ไว้กลับมาอ่านเองทีหลัง ก็สนุก ตลกดีนะคะ
สำหรับใครที่เพิ่งเปิดเข้ามาอ่านใหม่ อาจจะจะงง ว่ายัยนี้เป็นใคร ย้อนไปดู กระทู้ก่อนหน้าได้นะคะ
ตอนที่ 1 :: First Solo Travel in Europe :: แบคแพคคนเดียวครั้งแรก ยุโรป 20 วัน 5 ประเทศ 19 เมือง กับงบ 85,000 บาทค่ะ
http://ppantip.com/topic/32793928
ตอนที่ 2
:: First Solo Travel in Europe :: Luxembourg City – Vianden
http://m.ppantip.com/topic/32794069
ตอนที่ 3
:: First Solo Travel in Europe :: Arlon - Southern Parts of Belgium
http://ppantip.com/topic/32802138
ตอนที่ 4
:: First Solo Travel in Europe :: Trier - Cochem - Cologne, Germany
http://ppantip.com/topic/32829184
วันที่ 9 ของการเดินทาง
วันนี้ออกจาก Cologne จองตั๋วรถไฟไว้ เช้ามากกก 6:46 อันนี้จองออนไลน์ ล่วงหน้าไว้ ตั้งแต่แพลนทริปเลยค่ะ ล่วงหน้าประมาณ 3 เดือนได้ ราคาได้มาที่ 29euro เป็นตั๋วแบบ ระบุวันที่ เวลาไว้ชัดเจน ไม่มี refund เปลี่ยนไม่ได้ สายไม่ได้
เพราะกลัวไปไม่ทัน รีบเก็บของออกจากโฮสเทล ตั้งแต่ ตีห้าครึ่ง ฟ้าก็ยังมืดอยู่เลย โฮสเทลส่วนใหญ่ เราไม่ต้องรอเช็คเอ้าท์ออกเหมือนที่โรงแรมนะคะ เค้าจะมีกล่องให้ไว้ใส่กุญแจคืนที่ทางออก ส่วนเงิน deposit ก็จะโอนคืนให้ในบัตรเครดิต เดินออกทางขึ้นรถไฟใต้ดิน ก็แอบกลัวๆ เพราะยังมืดอยู่ ก็นั่งรถไปถึงสถานี Köln Hbf ใบจองที่เราปริ้นมาจากในเวบที่จอง ถ้าปริ้นมาแบบมี QR Code แล้วก็สามาถใช้ได้เลยนะคะ แต่ถ้าไม่มี ต้องไปขึ้นตั๋วที่สถานีอีกทีก่อนนะคะ ในสถานีมีร้านขายอาหาร ขนมปัง เยอะแยะเลย ก้เลยได้ฝากท้องที่นี่ ซื้อไปทานบนรถไฟได้ค่ะ
ใช้เวลาเกือบๆ 3 ชั่วโมงก็มาถึง Amsterdam Central, The Netherlands วู้....เมืองที่หลายคนคงฝันอยากจะมา แต่แพรไม่ค่อยอินเท่าไหร่เลยที่นี่ เจอหลายสิ่งที่ทำให้นอยส์ 555 ตอนอยู่เยอรมันว่าเหนื่อยแล้ว 3 คืน 3 เมือง, มาเนเธอร์แลนด์เหมือนชะโงกทัวร์มากกว่า 2 คืน 5 เมืองค่ะ ฮ่าาาา
เริ่มตั้งแต่ออกจากสถานีรถไฟมา วันนี้แดดเปรี้ยงมาก ฟ้าโปร่งไม่มีเมฆเลย ร้อนมากกกกก น่าจะเป็นวันที่ร้อนที่สุดตั้งแต่เดินทางมา ตอนแรกคิดว่ามาถึงปุ๊ป จะฝากกระเป๋าไว้ที่ สถานีรถไฟก่อน แล้วนั่ง รถไฟต่อไปที่เที่ยวเมือง Haarlem ก่อนแล้วค่อยกลับมา เอากระเป๋าแล้วค่อยเข้าที่พัก เพราะที่พักอยู่ห่างจากสถานีรถไฟไปอีกประมาณ 2กิโล เลยขี้เกียจเดิน ย้อนไปย้อนมา จะนั่งรถ tram ก็ไม่รู้สายอีกค่ะ ซื้อตั๋ว เรียบร้อย ไป-กลับ Haarlem €9.5แต่พอจะเอาของมาฝากล็อกเกอร์ดันต้องใช้รหัสเครดิตการ์ดด้วย เลยฝากไม่ได้ค่ะ
เลยต้องยอมเดิน ไปที่พักก่อน ไกลก็ไกล ร้อนก็ร้อน แต่ร้อนจริงๆวันนี้ นึกว่าอยู่อัมสเตอร์ดัมตรงพระราม9 แอรั๊ยยย แอบนอยไปนิดหน่อย
พอมาถึงก็เป็นช่วงสายๆ เกือบเที่ยงแล้ว ร้านค้าแถวนั้นยังไม่เปิดก็ยังดูเงียบๆอยู่ค่ะ แต่ตอนกลางคืนนี่คนละเรื่องเลย วันนี้พักที่ Amsterdam Hostel Orfeo จองไว้ 2 คืน เป็นห้อง Mixed Dorm คิดว่าจะโอเค ได้พักบ้าง หลังจากตะลอนๆ พักเมืองละ 1 คืนมาสามวันติด เช็คอินเสร็จ จ่ายเงินเสร็จ ก็รีบขึ้นไปเก็บของ ขึ้นไปเห็นสภาพที่พักปุ๊ป เริ่มเปลี่ยนใจครั้งที่ 1 จะไหวมั้ยเนี่ยชั้นนน บันไดขึ้นเล็กมากค่ะ ไม่มีลิฟต์ ต้องแบกกระเป๋าขึ้นไปเอง ห้องก็แคบมาก แบบ 6 เตียง แถบไม่มีที่ขยับตัว ไม่มีห้องน้ำในตัว มีแต่อ้างล้างหน้าให้เล็กในห้อง ทั้งชั้นมีประมาณ 4 ห้อง คือคิดดูว่า ถ้าแต่ละห้องมี 6 เตียง ก็ปาเข้าไป 24 เตียง แต่มี ห้องน้ำรวม 1 ห้องถ้วนจ้าา แต่ก็ไม่เข้าใจนะ คนอื่นเค้าคงไม่อาบน้ำกันมั้ง เห็นห้องน้ำก็ว่างตลอด เข้าห้องไปปุ๊ป เจอชายหนุ่มร่างใหญ่ ผิวสี นอนถอดเสื้ออยู่ด้วยจ๊ะ ก็เริ่มเปลี่ยนใจ ครั้งที่ 2 แต่ก็เออเอาน่ะ จ่ายตังค์ไปแล้วอยู่ๆไปเหอะ ก้เลยเก็บของ จองเตียงชั้นบนไว้แล้วรีบออกไป ถ้าใครอยากได้อารมณ์โฮสเทลรูหนู ก็ควรมาลองให้รู้สักครั้งนึง แต่เราคงไม่เอาอีกแล้วววว
ถามพนักงานที่โฮสเทลเรื่องรถราง ก็เลยได้คำตอบมาว่า นั่งสายอะไรได้บ้างจาก ทีนี้เลยได้นั่งรถรางกลับเข้าไปที่สถานีรถไฟหลัก เพื่อต่อรถไฟไป Haarlem ขึ้นรถรางสามารถซื้อตั๋วได้บนรถค่ะ เค้าจะมีตั๋วแบบเป็น รายชั่วโมง กับ รายวัน รายชั่วโมง ราคา €2.8 รายวัน 24ชม ราคา €7.5 ก็คิดอีก ตอนนั้นเวลาประมาณเที่ยง เออ ซื้อรายวันดีกว่า นั่งประมาณ 3 เที่ยวก็คุ้มและ เดี๋ยวขากลับมาก็ได้ใช้อีก แวะเที่ยวตามจุดต่างๆในเมืองไรงี้ จะได้ไม่ต้องเดินไกลมาก ขึ้นกี่รอบก็ได้ เก็บไว้ใช้พรุ่งนี้ได้อีกตอนเช้าด้วย แต่สุดท้ายสรุปคือ นั่งไปได้ 2 เที่ยว ขากลับมา ตอนแวะถ่ายรูป บัตรหายจ้าาาาา นอนไปอีกกก ฮึฮึ!
[CR] :: First Solo Travel in Europe :: Amsterdam - Haarlem - Zaanse Schans - Den Haag - Delft , The Netherlands
พอดีวันก่อนเพิ่งได้อ่านบล๊อกของ คุณ Cookiecoffee กับคุณ Chilljourney แล้วเป็นแรงบันดาลใจมากๆอยากให้กลับมาเขียนต่ออีก คือเป็นอะไรที่ดี๊ดี พี่ทั้งสองคน พูดถึงเรื่อง อาชีพบล๊อกเกอร์ อาชีพอะไรที่ ไปเที่ยวรอบโลกแล้วได้เงินด้วย มีออฟฟิสอยู่ในสตาบัคที่ไหนก็ได้ทั่วโลก อ่านไปก็ฝันไป แหม่ถ้าทำได้แบบพี่เค้าคงดีสิเนอะ แต่ก็มีประโยคนึงของคุณ Chilljourney ว่า อยากเริ่ม ก็เริ่มเขียนตั้งแต่ตอนนี้เลย เขียนไม่เก่งไม่เป็นไร เขียนไปก่อน บล๊อกเกอร์ทุกคนกว่าจะประสบความสำเร็จก็ต้องเขียนไปแล้วกว่า 3 ปี กว่าจะมีคนรู้จัก มีคนฟอลโล่เยอะๆ มีคนสปอนเซอร์ให้ไปเที่ยวเพื่อมารีวิว หลายคนก็เริ่มมาจากในพันทิป ก็จริงค่ะ เราเพิ่งจะเริ่มเขียน รีวิว ทริปแรกเอง จะคิดอะไรมากก มีคนเข้ามาให้กำลังใจนิดๆหน่อยๆ ก็ดีใจแล้ว ยังไงอยากอัพไว้ก็เป็นความทรงจำดีๆ ไว้กลับมาอ่านเองทีหลัง ก็สนุก ตลกดีนะคะ
สำหรับใครที่เพิ่งเปิดเข้ามาอ่านใหม่ อาจจะจะงง ว่ายัยนี้เป็นใคร ย้อนไปดู กระทู้ก่อนหน้าได้นะคะ
ตอนที่ 1 :: First Solo Travel in Europe :: แบคแพคคนเดียวครั้งแรก ยุโรป 20 วัน 5 ประเทศ 19 เมือง กับงบ 85,000 บาทค่ะ
http://ppantip.com/topic/32793928
ตอนที่ 2
:: First Solo Travel in Europe :: Luxembourg City – Vianden
http://m.ppantip.com/topic/32794069
ตอนที่ 3
:: First Solo Travel in Europe :: Arlon - Southern Parts of Belgium
http://ppantip.com/topic/32802138
ตอนที่ 4
:: First Solo Travel in Europe :: Trier - Cochem - Cologne, Germany
http://ppantip.com/topic/32829184
วันที่ 9 ของการเดินทาง
วันนี้ออกจาก Cologne จองตั๋วรถไฟไว้ เช้ามากกก 6:46 อันนี้จองออนไลน์ ล่วงหน้าไว้ ตั้งแต่แพลนทริปเลยค่ะ ล่วงหน้าประมาณ 3 เดือนได้ ราคาได้มาที่ 29euro เป็นตั๋วแบบ ระบุวันที่ เวลาไว้ชัดเจน ไม่มี refund เปลี่ยนไม่ได้ สายไม่ได้
เพราะกลัวไปไม่ทัน รีบเก็บของออกจากโฮสเทล ตั้งแต่ ตีห้าครึ่ง ฟ้าก็ยังมืดอยู่เลย โฮสเทลส่วนใหญ่ เราไม่ต้องรอเช็คเอ้าท์ออกเหมือนที่โรงแรมนะคะ เค้าจะมีกล่องให้ไว้ใส่กุญแจคืนที่ทางออก ส่วนเงิน deposit ก็จะโอนคืนให้ในบัตรเครดิต เดินออกทางขึ้นรถไฟใต้ดิน ก็แอบกลัวๆ เพราะยังมืดอยู่ ก็นั่งรถไปถึงสถานี Köln Hbf ใบจองที่เราปริ้นมาจากในเวบที่จอง ถ้าปริ้นมาแบบมี QR Code แล้วก็สามาถใช้ได้เลยนะคะ แต่ถ้าไม่มี ต้องไปขึ้นตั๋วที่สถานีอีกทีก่อนนะคะ ในสถานีมีร้านขายอาหาร ขนมปัง เยอะแยะเลย ก้เลยได้ฝากท้องที่นี่ ซื้อไปทานบนรถไฟได้ค่ะ
ใช้เวลาเกือบๆ 3 ชั่วโมงก็มาถึง Amsterdam Central, The Netherlands วู้....เมืองที่หลายคนคงฝันอยากจะมา แต่แพรไม่ค่อยอินเท่าไหร่เลยที่นี่ เจอหลายสิ่งที่ทำให้นอยส์ 555 ตอนอยู่เยอรมันว่าเหนื่อยแล้ว 3 คืน 3 เมือง, มาเนเธอร์แลนด์เหมือนชะโงกทัวร์มากกว่า 2 คืน 5 เมืองค่ะ ฮ่าาาา
เริ่มตั้งแต่ออกจากสถานีรถไฟมา วันนี้แดดเปรี้ยงมาก ฟ้าโปร่งไม่มีเมฆเลย ร้อนมากกกกก น่าจะเป็นวันที่ร้อนที่สุดตั้งแต่เดินทางมา ตอนแรกคิดว่ามาถึงปุ๊ป จะฝากกระเป๋าไว้ที่ สถานีรถไฟก่อน แล้วนั่ง รถไฟต่อไปที่เที่ยวเมือง Haarlem ก่อนแล้วค่อยกลับมา เอากระเป๋าแล้วค่อยเข้าที่พัก เพราะที่พักอยู่ห่างจากสถานีรถไฟไปอีกประมาณ 2กิโล เลยขี้เกียจเดิน ย้อนไปย้อนมา จะนั่งรถ tram ก็ไม่รู้สายอีกค่ะ ซื้อตั๋ว เรียบร้อย ไป-กลับ Haarlem €9.5แต่พอจะเอาของมาฝากล็อกเกอร์ดันต้องใช้รหัสเครดิตการ์ดด้วย เลยฝากไม่ได้ค่ะ
เลยต้องยอมเดิน ไปที่พักก่อน ไกลก็ไกล ร้อนก็ร้อน แต่ร้อนจริงๆวันนี้ นึกว่าอยู่อัมสเตอร์ดัมตรงพระราม9 แอรั๊ยยย แอบนอยไปนิดหน่อย
พอมาถึงก็เป็นช่วงสายๆ เกือบเที่ยงแล้ว ร้านค้าแถวนั้นยังไม่เปิดก็ยังดูเงียบๆอยู่ค่ะ แต่ตอนกลางคืนนี่คนละเรื่องเลย วันนี้พักที่ Amsterdam Hostel Orfeo จองไว้ 2 คืน เป็นห้อง Mixed Dorm คิดว่าจะโอเค ได้พักบ้าง หลังจากตะลอนๆ พักเมืองละ 1 คืนมาสามวันติด เช็คอินเสร็จ จ่ายเงินเสร็จ ก็รีบขึ้นไปเก็บของ ขึ้นไปเห็นสภาพที่พักปุ๊ป เริ่มเปลี่ยนใจครั้งที่ 1 จะไหวมั้ยเนี่ยชั้นนน บันไดขึ้นเล็กมากค่ะ ไม่มีลิฟต์ ต้องแบกกระเป๋าขึ้นไปเอง ห้องก็แคบมาก แบบ 6 เตียง แถบไม่มีที่ขยับตัว ไม่มีห้องน้ำในตัว มีแต่อ้างล้างหน้าให้เล็กในห้อง ทั้งชั้นมีประมาณ 4 ห้อง คือคิดดูว่า ถ้าแต่ละห้องมี 6 เตียง ก็ปาเข้าไป 24 เตียง แต่มี ห้องน้ำรวม 1 ห้องถ้วนจ้าา แต่ก็ไม่เข้าใจนะ คนอื่นเค้าคงไม่อาบน้ำกันมั้ง เห็นห้องน้ำก็ว่างตลอด เข้าห้องไปปุ๊ป เจอชายหนุ่มร่างใหญ่ ผิวสี นอนถอดเสื้ออยู่ด้วยจ๊ะ ก็เริ่มเปลี่ยนใจ ครั้งที่ 2 แต่ก็เออเอาน่ะ จ่ายตังค์ไปแล้วอยู่ๆไปเหอะ ก้เลยเก็บของ จองเตียงชั้นบนไว้แล้วรีบออกไป ถ้าใครอยากได้อารมณ์โฮสเทลรูหนู ก็ควรมาลองให้รู้สักครั้งนึง แต่เราคงไม่เอาอีกแล้วววว
ถามพนักงานที่โฮสเทลเรื่องรถราง ก็เลยได้คำตอบมาว่า นั่งสายอะไรได้บ้างจาก ทีนี้เลยได้นั่งรถรางกลับเข้าไปที่สถานีรถไฟหลัก เพื่อต่อรถไฟไป Haarlem ขึ้นรถรางสามารถซื้อตั๋วได้บนรถค่ะ เค้าจะมีตั๋วแบบเป็น รายชั่วโมง กับ รายวัน รายชั่วโมง ราคา €2.8 รายวัน 24ชม ราคา €7.5 ก็คิดอีก ตอนนั้นเวลาประมาณเที่ยง เออ ซื้อรายวันดีกว่า นั่งประมาณ 3 เที่ยวก็คุ้มและ เดี๋ยวขากลับมาก็ได้ใช้อีก แวะเที่ยวตามจุดต่างๆในเมืองไรงี้ จะได้ไม่ต้องเดินไกลมาก ขึ้นกี่รอบก็ได้ เก็บไว้ใช้พรุ่งนี้ได้อีกตอนเช้าด้วย แต่สุดท้ายสรุปคือ นั่งไปได้ 2 เที่ยว ขากลับมา ตอนแวะถ่ายรูป บัตรหายจ้าาาาา นอนไปอีกกก ฮึฮึ!