รีวิวนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วค่ะ มีโอกาสได้ไปต่างประเทศ ประเทศที่หลายคนเคยไปและอาจจะกำลังไป เลยอยากทำรีวิวเก็บไว้ดูขำๆ
ทริปนี้เราเดินทางด้วยหางแดงค่ะ Air Asia ตั๋วโปรจองข้ามปีแล้ว แต่ราคายังแอบสูงอยู่(มั้ง)5555 ออกเดินทางจากเมืองไทย เวลา 06.20น. ถึง สิงคโปร์ 09.40น. ตามเวลาท้องถิ่นสิงคโปร์จะเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชม.
ที่พักสำหรับทริปนี้ เราเลือกพักที่ รร.ยอดฮิตของคนไทยค่ะ V Hotel Lavender เลือกที่นี่เพราะเดินทางเรียกว่า “โคตะระสะดวก” ค่ะ อยู่บนสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว Lavender เลย เรียกว่าจะไปไหน ก็สะดวก อีกอย่างของกินเยอะค่ะ มี Kopitiam food court อยู่ใกล้ ไหนจะร้านหมูแผ่นของฝากเจ้าประจำสิงคโปร์อีก
ก่อนอื่นขอรีวิวโรงแรมก่อนนะคะ เราจองผ่านเว็บไซต์ของโรงแรมโดยตรงเลยค่ะ ได้สิทธิ์ Free Wifi, Early check in at 11am, late check out by 3pm ถือว่าเวิร์คสุดค่ะ เพราะวันสุดท้ายนี่จะได้ช็อปปิ้งและกลับมาแพ็คกระเป๋าได้เลย อิอิ
วันแรกหลังจากที่มาถึงห้องพักเช็คอินเก็บกระเป๋าเสร็จ เวลาก็เที่ยงนิดๆแล้ว ต้องไปหาของกินค่ะ เริ่มจากย่าน China town เลย มาทั้งทีก็ต้องไปลองชิมร้าน “ข้าวมันไก่” เจ้าประจำ ชื่อดัง ที่คนไทยไปต้องไปกิน (เขาว่ากันอย่างงั้น) ร้านนี้อยู่ที่ Maxwell food court ค่ะ ขึ้น MRT ลงสถานี china town เดินต่ออีกนิดหน่อย ไม่ถึงกับเหนื่อยค่ะ จะอยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับ วัดพระเขี้ยวแก้ว แต่ตอนที่ไปกำลังปรับปรุงอยู่ปิดทางเข้าออกปกติ แต่ร้านข้างในยังเปิดอยู่หมด เดินงงอยู่นานค่ะกว่าจะเข้าไปได้ พอไปถึงตอนแรกหาร้านไม่เจอค่ะ มีร้านนึงหน้าตาคล้ายๆกัน ป้ายสีน้ำเงินเหมือนกัน และหนำซ้ำ คนยังต่อแถวคิวยาวเหมือนกันอีก คิดว่าใช่แน่ๆแต่!! มารู้ทีหลังจากน้องสาวที่อยู่นู่นบอกว่า เป็นของ Copy ค่ะ 555 สำหรับใครจะที่จะทานร้านนี้ ต้องเอาชื่อป้ายร้านตามนี้เลยนะคะ ดีที่เราอุตส่าค้นพบ ในที่สุดก้ได้กินร้านนี้จนได้
จะบอกว่าต่อแถว คิวยาวจิงๆค่ะ ตก 20คน+ได้ แต่ไม่ได้ค่ะ มาแล้วต้องลองค่ะ และไหนที่สุดก็ได้กิน
ข้าวมันไก่สิงคโปร์ต่างจากเมืองไทยตรงที่มีน้ำราดบนไก่และข้าวค่ะ ไก่ฉ่ำๆเนื้อนุ่มมากค่ะ เราสั่งเป็นไก่ครึ่งตัว 1 จาน + ข้าวมัน 2 ค่ะ อิ่มมาก บอกเลยว่าไก่อร่อยค่ะ ข้าวอร่อย ส่วนน้ำจิ้มแอบบ่นกับแฟนค่ะว่าให้มาน้อยจัง แต่จะบอกว่าคุณภาพคับถ้วยค่ะ เรากินแค่นี้ยังไม่หมดเลย ส่วนไก่ ไม่เหลือ 55555
ของคาวเสร็จต้องต่อด้วยของหวานค่ะ ย่าน china town นี้มีร้านขายขนมดั้งเดิมอยู่ ชื่อร้านว่า "Tong Heng" ค่ะ ร้านนี้ขายขนมเปี๊ยะ ขนมโบราณของคนจีนนะเท่าที่สังเกต แต่ของขึ้นชื่อร้านนี้เค้าคือ "ทาร์ตไข่"ค่ะ ชิมแล้ว สรุปได้ว่า ทาร์ตไข่ของที่นี่ ตัวแป้งลักษณะเป็นนื้อแป้งขนมเปี๊ยะค่ะ เวลากัดจะกรอบๆร่อนๆเหมือนเรากินขอบหนมเปี๊ยะเลย ส่วนตัวไข่ นุ่มเว่อวังค่ะ เหมือนไข่ละลายในปาก จะหวานน้อยกว่าทาร์ตไข่บ้านเราหน่อย แต่ให้ผ่านค่ะ
เดินเล่นถ่ายรูปใน china town เบาๆ ถนนประดับตกแต่งสวยงามค่ะ ตอนนี้วัดพระเขี้ยวกำลังปรับปรุงอยู่ ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปอยู่ข้างนอกไกลๆ แฟนเราชอบสไตล์บ้านแถวนี้มากค่ะ สวยย้อนยุคเบาๆผสมปนเปจีนตะวันออก หรือป่าว แอบมั่ว แต่สีสันนี้เจริญหูเจริญหาสุดๆค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวแถวนี้ ก็มีพวกวัดแขก วัดพระเขี้ยวแก้ว วัดหลายวัดเลย แต่เราไม่ได้เข้าไปน่ะค่ะ เพราะคนเยอะ อีกอย่างเราไม่ได้ไหว้พระด้วย แฮ่ะๆ
หลังจากเดินเล่น china town เสร็จ ร่างกายมันบอกว่าไม่ไหวแล้ว ง่วงเหลือเกิน เนื่องจากกินยาแก้เวียนศีรษะไปตอนบนเครื่องค่ะ ก็เลยยอมพลีเวลาอันน้อยนิด ไปนอนพักสายตาที่ รร. ตื่นมาอีกที 4 โมงค่ะ กะไว้ว่าจะไป Garden by the bay เวลานี้พอดี เผื่อจะได้อยู่ถึงค่ำจนมีแสดงไฟค่ะ ไป Garden by the bay ไม่อยากค่ะ ขึ้น MRT เหมือนเดิมลงสถานี Bay front ค่ะ เดินอีกนิดหน่อย พอเดินออกจากสถานีมาก็จะมีป้ายบอกทางตลอดค่ะ ทางเข้าจะมีรถวนวนสวนวิ่งด้วย แต่เสียค่าบริการ เราเลยขอบายค่ะ ซ้อมเดินมาแล้ว แค่นี้เองขอเดินดีกว่า 555 ส่วนบัตรเราซื้อมาจากงานไทยเที่ยวไทยแล้ว สามารถนำไปใช้ได้เลย
มุมต่างๆของ Garden by the bay ค่ะ
หลังจากเดินเกือบจะครบแล้ว ขอบอกว่าเหนื่อยมากค่ะ ไม่รู้จะกว้างไปไหน ท้องก็เริ่มร้องเตือนค่ะ มื้อเย็นวันนี้เราไปฝากท้องที่ satay by the bay เป็น food court ของ Garden ค่ะ มีหลายร้านมากมาย อาหารไทย อาหารต่างชาติ พีคสุดตรงที่มีร้านหมูกระทะด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ลอง เราเลือกกิน สะเต๊ะค่ะ เพราะเค้าว่าเป็นอีกเมนูนึงที่มาสิงคโปร์ต้องกินให้ได้ สะเต๊ะที่นี่ ไม่ได้มีแต่หมูค่ะ มีทุกอย่าง หมู เนื้อ ไก่ ปลา กุ้ง สามชั้น และอีกมากมาย มีขายทั้งแบบเป็นเซ็ทและแยกไม้ค่ะ แต่จากการคำนวณแล้วเป็นเซ็ทจะคุ้มกว่า เราเลือกแบบเซ็ทมาค่ะ เราสามารถ mix กันได้ว่าอยากกินอะไรบ้าง เราเลือกไก่ 2 เนื้อ 4 หมู 4 กุ้ง 2 สามชั้น 2 ค่ะ ในเซ็ทจะมีข้าว 1 ซึ่งหน้าตาของข้าวก็ขาวๆตามรูปเลย รสชาติดีค่ะ เนื้อต่างๆนุ่มดี กลิ่นเครื่องเทศในตัวไม่ฉุนเกินไป ที่ชอบสุดนี่กุ้งค่ะ ขายแยกตัวละ 2$ เลย เหมือนกุ้งหมักเกลือค่ะ กินได้ทั้งหัวทั้งตัว ไม่เหลือ เซ็ทนี้กิน 2 คนค่ะ เพราะเรากินเรื่อยๆกะกินให้ครบตามเมนูหลักยอดฮิต 5555
พักไว้แค่นี้ก่อนนะคะ คืนนี้ยังไม่จบค่ะ ยังเดินได้อีก เด่วมาเล่าต่อค่ะ
[CR] " สิ ง ค โ ป ร์ " ไม่ไปไม่รู้ (ครั้งแรก...แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย)
ทริปนี้เราเดินทางด้วยหางแดงค่ะ Air Asia ตั๋วโปรจองข้ามปีแล้ว แต่ราคายังแอบสูงอยู่(มั้ง)5555 ออกเดินทางจากเมืองไทย เวลา 06.20น. ถึง สิงคโปร์ 09.40น. ตามเวลาท้องถิ่นสิงคโปร์จะเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชม.
ที่พักสำหรับทริปนี้ เราเลือกพักที่ รร.ยอดฮิตของคนไทยค่ะ V Hotel Lavender เลือกที่นี่เพราะเดินทางเรียกว่า “โคตะระสะดวก” ค่ะ อยู่บนสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว Lavender เลย เรียกว่าจะไปไหน ก็สะดวก อีกอย่างของกินเยอะค่ะ มี Kopitiam food court อยู่ใกล้ ไหนจะร้านหมูแผ่นของฝากเจ้าประจำสิงคโปร์อีก
ก่อนอื่นขอรีวิวโรงแรมก่อนนะคะ เราจองผ่านเว็บไซต์ของโรงแรมโดยตรงเลยค่ะ ได้สิทธิ์ Free Wifi, Early check in at 11am, late check out by 3pm ถือว่าเวิร์คสุดค่ะ เพราะวันสุดท้ายนี่จะได้ช็อปปิ้งและกลับมาแพ็คกระเป๋าได้เลย อิอิ
วันแรกหลังจากที่มาถึงห้องพักเช็คอินเก็บกระเป๋าเสร็จ เวลาก็เที่ยงนิดๆแล้ว ต้องไปหาของกินค่ะ เริ่มจากย่าน China town เลย มาทั้งทีก็ต้องไปลองชิมร้าน “ข้าวมันไก่” เจ้าประจำ ชื่อดัง ที่คนไทยไปต้องไปกิน (เขาว่ากันอย่างงั้น) ร้านนี้อยู่ที่ Maxwell food court ค่ะ ขึ้น MRT ลงสถานี china town เดินต่ออีกนิดหน่อย ไม่ถึงกับเหนื่อยค่ะ จะอยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับ วัดพระเขี้ยวแก้ว แต่ตอนที่ไปกำลังปรับปรุงอยู่ปิดทางเข้าออกปกติ แต่ร้านข้างในยังเปิดอยู่หมด เดินงงอยู่นานค่ะกว่าจะเข้าไปได้ พอไปถึงตอนแรกหาร้านไม่เจอค่ะ มีร้านนึงหน้าตาคล้ายๆกัน ป้ายสีน้ำเงินเหมือนกัน และหนำซ้ำ คนยังต่อแถวคิวยาวเหมือนกันอีก คิดว่าใช่แน่ๆแต่!! มารู้ทีหลังจากน้องสาวที่อยู่นู่นบอกว่า เป็นของ Copy ค่ะ 555 สำหรับใครจะที่จะทานร้านนี้ ต้องเอาชื่อป้ายร้านตามนี้เลยนะคะ ดีที่เราอุตส่าค้นพบ ในที่สุดก้ได้กินร้านนี้จนได้
จะบอกว่าต่อแถว คิวยาวจิงๆค่ะ ตก 20คน+ได้ แต่ไม่ได้ค่ะ มาแล้วต้องลองค่ะ และไหนที่สุดก็ได้กิน
ข้าวมันไก่สิงคโปร์ต่างจากเมืองไทยตรงที่มีน้ำราดบนไก่และข้าวค่ะ ไก่ฉ่ำๆเนื้อนุ่มมากค่ะ เราสั่งเป็นไก่ครึ่งตัว 1 จาน + ข้าวมัน 2 ค่ะ อิ่มมาก บอกเลยว่าไก่อร่อยค่ะ ข้าวอร่อย ส่วนน้ำจิ้มแอบบ่นกับแฟนค่ะว่าให้มาน้อยจัง แต่จะบอกว่าคุณภาพคับถ้วยค่ะ เรากินแค่นี้ยังไม่หมดเลย ส่วนไก่ ไม่เหลือ 55555
ของคาวเสร็จต้องต่อด้วยของหวานค่ะ ย่าน china town นี้มีร้านขายขนมดั้งเดิมอยู่ ชื่อร้านว่า "Tong Heng" ค่ะ ร้านนี้ขายขนมเปี๊ยะ ขนมโบราณของคนจีนนะเท่าที่สังเกต แต่ของขึ้นชื่อร้านนี้เค้าคือ "ทาร์ตไข่"ค่ะ ชิมแล้ว สรุปได้ว่า ทาร์ตไข่ของที่นี่ ตัวแป้งลักษณะเป็นนื้อแป้งขนมเปี๊ยะค่ะ เวลากัดจะกรอบๆร่อนๆเหมือนเรากินขอบหนมเปี๊ยะเลย ส่วนตัวไข่ นุ่มเว่อวังค่ะ เหมือนไข่ละลายในปาก จะหวานน้อยกว่าทาร์ตไข่บ้านเราหน่อย แต่ให้ผ่านค่ะ
เดินเล่นถ่ายรูปใน china town เบาๆ ถนนประดับตกแต่งสวยงามค่ะ ตอนนี้วัดพระเขี้ยวกำลังปรับปรุงอยู่ ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปอยู่ข้างนอกไกลๆ แฟนเราชอบสไตล์บ้านแถวนี้มากค่ะ สวยย้อนยุคเบาๆผสมปนเปจีนตะวันออก หรือป่าว แอบมั่ว แต่สีสันนี้เจริญหูเจริญหาสุดๆค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวแถวนี้ ก็มีพวกวัดแขก วัดพระเขี้ยวแก้ว วัดหลายวัดเลย แต่เราไม่ได้เข้าไปน่ะค่ะ เพราะคนเยอะ อีกอย่างเราไม่ได้ไหว้พระด้วย แฮ่ะๆ
หลังจากเดินเล่น china town เสร็จ ร่างกายมันบอกว่าไม่ไหวแล้ว ง่วงเหลือเกิน เนื่องจากกินยาแก้เวียนศีรษะไปตอนบนเครื่องค่ะ ก็เลยยอมพลีเวลาอันน้อยนิด ไปนอนพักสายตาที่ รร. ตื่นมาอีกที 4 โมงค่ะ กะไว้ว่าจะไป Garden by the bay เวลานี้พอดี เผื่อจะได้อยู่ถึงค่ำจนมีแสดงไฟค่ะ ไป Garden by the bay ไม่อยากค่ะ ขึ้น MRT เหมือนเดิมลงสถานี Bay front ค่ะ เดินอีกนิดหน่อย พอเดินออกจากสถานีมาก็จะมีป้ายบอกทางตลอดค่ะ ทางเข้าจะมีรถวนวนสวนวิ่งด้วย แต่เสียค่าบริการ เราเลยขอบายค่ะ ซ้อมเดินมาแล้ว แค่นี้เองขอเดินดีกว่า 555 ส่วนบัตรเราซื้อมาจากงานไทยเที่ยวไทยแล้ว สามารถนำไปใช้ได้เลย
หลังจากเดินเกือบจะครบแล้ว ขอบอกว่าเหนื่อยมากค่ะ ไม่รู้จะกว้างไปไหน ท้องก็เริ่มร้องเตือนค่ะ มื้อเย็นวันนี้เราไปฝากท้องที่ satay by the bay เป็น food court ของ Garden ค่ะ มีหลายร้านมากมาย อาหารไทย อาหารต่างชาติ พีคสุดตรงที่มีร้านหมูกระทะด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ลอง เราเลือกกิน สะเต๊ะค่ะ เพราะเค้าว่าเป็นอีกเมนูนึงที่มาสิงคโปร์ต้องกินให้ได้ สะเต๊ะที่นี่ ไม่ได้มีแต่หมูค่ะ มีทุกอย่าง หมู เนื้อ ไก่ ปลา กุ้ง สามชั้น และอีกมากมาย มีขายทั้งแบบเป็นเซ็ทและแยกไม้ค่ะ แต่จากการคำนวณแล้วเป็นเซ็ทจะคุ้มกว่า เราเลือกแบบเซ็ทมาค่ะ เราสามารถ mix กันได้ว่าอยากกินอะไรบ้าง เราเลือกไก่ 2 เนื้อ 4 หมู 4 กุ้ง 2 สามชั้น 2 ค่ะ ในเซ็ทจะมีข้าว 1 ซึ่งหน้าตาของข้าวก็ขาวๆตามรูปเลย รสชาติดีค่ะ เนื้อต่างๆนุ่มดี กลิ่นเครื่องเทศในตัวไม่ฉุนเกินไป ที่ชอบสุดนี่กุ้งค่ะ ขายแยกตัวละ 2$ เลย เหมือนกุ้งหมักเกลือค่ะ กินได้ทั้งหัวทั้งตัว ไม่เหลือ เซ็ทนี้กิน 2 คนค่ะ เพราะเรากินเรื่อยๆกะกินให้ครบตามเมนูหลักยอดฮิต 5555
พักไว้แค่นี้ก่อนนะคะ คืนนี้ยังไม่จบค่ะ ยังเดินได้อีก เด่วมาเล่าต่อค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น