ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า กระทู้นี้เราไม่ได้เป็นคนเขียนนะคะ เขียนละเอียดขนาดนี้ไม่เป็นจริงๆ ขี้เกียจเกิน (ฮาาา)
แต่เป็นการบอกเล่าประสบการณ์โดยคุณ xMockingbird จากเว็บ soccersuck ค่ะ ได้รับอนุญาตให้นำมาลงในพันทิปสำหรับมาร่วมกันเวิ่น เอ๊ย มาร่วมกับแชร์ความฟินกับ Muse เมื่อวานนี้ค่ะ~! >__<
cr.
บอกเล่าประสบการณ์ Muse Live in Bangkok 2015
--------------
ขอเตือนว่ากระทู้ค่อนข้างยาว ตั้งมาระบายความฟินตัวเองล้วนๆ
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเราเริ่มชอบ Muse มาได้ 3-4 ปี (แต่วงนี้ก่อตั้งมา 21 ปีแล้ว
) จากอัลบั้ม The 2nd Law ที่ Musers หลายๆ คนเกลียดที่สุดเลยก็ว่าได้ 555 เพราะมันช่างป็อปเสียเหลือเกิน
Supremacy จากอัลบั้ม The 2nd Law ที่หลายคนบอกว่า 'เป็นเพลงประกอบ James Bond เถอะ' ซึ่ง Matt Bellamy ก็ยอมรับว่าได้แรงบันดาลใจมาจากมหากาพย์ยอดสายลับ
ต่อมาก็อ่านพวก NME, Kerrang! ก็อวยการแสดงสด Muse สุดๆ เลยลองไปดูคลิปที่ Wembley (2007) กะ Rome Olympic Stadium (2013) เลยแบบ เห้ยยยยยยยย สมคำร่ำลือจริงๆ เริ่มมีความฝันแบบจะไปดูมิ้วส์สดให้ได้ แล้วก็ลองไปฟังพวก Origin Of Symmetry, Showbiz (Unintended โรแมนติกขนลุกมาก
), Black Holes and Revelations นี่มันส์กว่า T2L มากโขเลยทีเดียว กลายเป็นไปกวาดซื้อมาหมดภายในเวลา 1-2 ปีหลัง
ตอนแรกเลยเห็นข่าวหลุดออกมาจาก Guitar Mag ว่า Muse มาไทยแน่นอน เลยคิดว่าความฝันจะเป็นจริงละ ทิ้ง Imagine Dragons ที่กำลังจะเปิดขายตั๋วตอนนั้นไปทันที เพื่อจะทุ่มตังไปยืน Muse โซนหน้าให้ได้ เตรียมใจเลยว่าต้องเสียบานแน่ๆ (ในขณะที่ตั๋ว Drones World Tour อเมริกาและหลายประเทศในยุโรปราคาแพงสุดประมาณ 2,800 บาท คิดแล้วก็ช้ำ) เพราะ Muse เป็นวงที่ค่าตัวสูง แต่ในขณะเดียวกันความนิยมในไทยก็สวนทางซะงั้น แต่กว่าจะประกาศเป็นทางการก็ทำเอาลุ้นเหมือนกัน ประมาณเกือบๆ 1-2 เดือนหลังข่าวหลุด ไม่รู้ว่าติดปัญหาอะไร เห็นมีบางคนโวยว่าประกาศช้าไปไหน ฉันซื้อตั๋วที่สิงคโปร์ไปแล้ว
พอประกาศ Tour Date ในไทยอย่างเป็นทางการ วันแรกที่เปิดขายก็ไปซื้อตอนเย็นๆ ทันที ช่วงแรกๆ ที่ขายบัตรก็หวั่นมากว่าจะขายออกไหม เพราะบรรยากาศสวนทางกับ The Script ที่ 4-5 วันแรกก็ sold out แล้วซะเหลือเกิน แถมยังเป็นช่วงที่ Robbie Williams ยอดเอ็นเตอร์เทนเนอร์ประกาศยกเลิกคอนเสิร์ตหลังจำหน่ายบัตรในไทยอีกซะด้วย (ตอนแรกคิดว่าเพราะบัตรขายไม่ออก แต่มารู้เอาทีหลังว่าเป็นเหตุผลอื่นทำให้ยกเลิกทั่วเอเชีย) เข้าไปดูช่วงนั้นเห็นบัตรแต่ละโซนเหลือเป็นร้อย เลยหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ได้มาดูจนได้
BEC Tero YT Channel
เนื่องจากซื้อบัตรยืนมาเลยมีความคิดว่าจะรีบเข้ามาจับจ้องพื้นที่เพื่อสัมผัสเฮีย Matt เต็มๆ BEC ประกาศว่าจะเปิดประตูเข้างานตอน 1 ทุ่ม เราเสร็จธุระที่สีลมประมาณ 5:30 ก็รีบบึ่งมาต่อทันที เซ็งมากๆ ที่รถติด ฝนก็ดันตก (ใจนี่ลอยไปอิมแพ็คตั้งแต่ตื่น) มาถึงอิมแพ็คทุ่มครึ่ง รีบวิ่งเข้าไปในฮอลทันที ภาพที่เห็นคือคนโหรงเหรงมาก คอนอื่นนี่เบียดกันวายวอดตั้งแต่เพลงสรรเสริญฯ ยังไม่ขึ้น เลยเริ่มใจแป้ว จะมันส์ไหมเนี่ย ออกมาหาอะไรกินรอหน้างาน
พอสองทุ่มก็กลับเข้างานไปใหม่ ตรงข้างหน้าคนก็เริ่มๆ แน่น ประมาณ 4-5 แถว นอกนั้นยังโล่งโจ้งเหมือนเดิม 555 เราได้ยืนประมาณแถวที่ 3 ก็นั่งกดมือถือรอคนเดียวไปเรื่อยๆ วงเปิด The Ruse มาเราว่าก็เหมือนพยายามเอ็นเตอร์เทนคนเต็มที่ เพลงก็ไม่ได้แย่เลย แต่สงสัยเราจะไม่อินไป ทำแค่ปรบมือพลางๆ (สำหรับวงเปิดของมิ้วส์ในทัวร์สหรัฐฯ คือ Phantogram ซึ่งเราแอบเสียดายมาก เพราะฟังเพลงวงนี้บ้าง ในขณะที่ The Ruse ไม่รู้จักอะไรเลย)
(ต่อ)
★ บอกเล่าประสบการณ์ Muse Live in Bangkok 2015 ★
แต่เป็นการบอกเล่าประสบการณ์โดยคุณ xMockingbird จากเว็บ soccersuck ค่ะ ได้รับอนุญาตให้นำมาลงในพันทิปสำหรับมาร่วมกันเวิ่น เอ๊ย มาร่วมกับแชร์ความฟินกับ Muse เมื่อวานนี้ค่ะ~! >__<
cr. บอกเล่าประสบการณ์ Muse Live in Bangkok 2015
--------------
ขอเตือนว่ากระทู้ค่อนข้างยาว ตั้งมาระบายความฟินตัวเองล้วนๆ
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเราเริ่มชอบ Muse มาได้ 3-4 ปี (แต่วงนี้ก่อตั้งมา 21 ปีแล้ว ) จากอัลบั้ม The 2nd Law ที่ Musers หลายๆ คนเกลียดที่สุดเลยก็ว่าได้ 555 เพราะมันช่างป็อปเสียเหลือเกิน
Supremacy จากอัลบั้ม The 2nd Law ที่หลายคนบอกว่า 'เป็นเพลงประกอบ James Bond เถอะ' ซึ่ง Matt Bellamy ก็ยอมรับว่าได้แรงบันดาลใจมาจากมหากาพย์ยอดสายลับ
ต่อมาก็อ่านพวก NME, Kerrang! ก็อวยการแสดงสด Muse สุดๆ เลยลองไปดูคลิปที่ Wembley (2007) กะ Rome Olympic Stadium (2013) เลยแบบ เห้ยยยยยยยย สมคำร่ำลือจริงๆ เริ่มมีความฝันแบบจะไปดูมิ้วส์สดให้ได้ แล้วก็ลองไปฟังพวก Origin Of Symmetry, Showbiz (Unintended โรแมนติกขนลุกมาก ), Black Holes and Revelations นี่มันส์กว่า T2L มากโขเลยทีเดียว กลายเป็นไปกวาดซื้อมาหมดภายในเวลา 1-2 ปีหลัง
ตอนแรกเลยเห็นข่าวหลุดออกมาจาก Guitar Mag ว่า Muse มาไทยแน่นอน เลยคิดว่าความฝันจะเป็นจริงละ ทิ้ง Imagine Dragons ที่กำลังจะเปิดขายตั๋วตอนนั้นไปทันที เพื่อจะทุ่มตังไปยืน Muse โซนหน้าให้ได้ เตรียมใจเลยว่าต้องเสียบานแน่ๆ (ในขณะที่ตั๋ว Drones World Tour อเมริกาและหลายประเทศในยุโรปราคาแพงสุดประมาณ 2,800 บาท คิดแล้วก็ช้ำ) เพราะ Muse เป็นวงที่ค่าตัวสูง แต่ในขณะเดียวกันความนิยมในไทยก็สวนทางซะงั้น แต่กว่าจะประกาศเป็นทางการก็ทำเอาลุ้นเหมือนกัน ประมาณเกือบๆ 1-2 เดือนหลังข่าวหลุด ไม่รู้ว่าติดปัญหาอะไร เห็นมีบางคนโวยว่าประกาศช้าไปไหน ฉันซื้อตั๋วที่สิงคโปร์ไปแล้ว
พอประกาศ Tour Date ในไทยอย่างเป็นทางการ วันแรกที่เปิดขายก็ไปซื้อตอนเย็นๆ ทันที ช่วงแรกๆ ที่ขายบัตรก็หวั่นมากว่าจะขายออกไหม เพราะบรรยากาศสวนทางกับ The Script ที่ 4-5 วันแรกก็ sold out แล้วซะเหลือเกิน แถมยังเป็นช่วงที่ Robbie Williams ยอดเอ็นเตอร์เทนเนอร์ประกาศยกเลิกคอนเสิร์ตหลังจำหน่ายบัตรในไทยอีกซะด้วย (ตอนแรกคิดว่าเพราะบัตรขายไม่ออก แต่มารู้เอาทีหลังว่าเป็นเหตุผลอื่นทำให้ยกเลิกทั่วเอเชีย) เข้าไปดูช่วงนั้นเห็นบัตรแต่ละโซนเหลือเป็นร้อย เลยหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ได้มาดูจนได้
BEC Tero YT Channel
เนื่องจากซื้อบัตรยืนมาเลยมีความคิดว่าจะรีบเข้ามาจับจ้องพื้นที่เพื่อสัมผัสเฮีย Matt เต็มๆ BEC ประกาศว่าจะเปิดประตูเข้างานตอน 1 ทุ่ม เราเสร็จธุระที่สีลมประมาณ 5:30 ก็รีบบึ่งมาต่อทันที เซ็งมากๆ ที่รถติด ฝนก็ดันตก (ใจนี่ลอยไปอิมแพ็คตั้งแต่ตื่น) มาถึงอิมแพ็คทุ่มครึ่ง รีบวิ่งเข้าไปในฮอลทันที ภาพที่เห็นคือคนโหรงเหรงมาก คอนอื่นนี่เบียดกันวายวอดตั้งแต่เพลงสรรเสริญฯ ยังไม่ขึ้น เลยเริ่มใจแป้ว จะมันส์ไหมเนี่ย ออกมาหาอะไรกินรอหน้างาน
พอสองทุ่มก็กลับเข้างานไปใหม่ ตรงข้างหน้าคนก็เริ่มๆ แน่น ประมาณ 4-5 แถว นอกนั้นยังโล่งโจ้งเหมือนเดิม 555 เราได้ยืนประมาณแถวที่ 3 ก็นั่งกดมือถือรอคนเดียวไปเรื่อยๆ วงเปิด The Ruse มาเราว่าก็เหมือนพยายามเอ็นเตอร์เทนคนเต็มที่ เพลงก็ไม่ได้แย่เลย แต่สงสัยเราจะไม่อินไป ทำแค่ปรบมือพลางๆ (สำหรับวงเปิดของมิ้วส์ในทัวร์สหรัฐฯ คือ Phantogram ซึ่งเราแอบเสียดายมาก เพราะฟังเพลงวงนี้บ้าง ในขณะที่ The Ruse ไม่รู้จักอะไรเลย)
(ต่อ)