คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 163
เราเคยเป็นค่ะ คือตอนแรกที่เป็นเนี่ยมันจะเริ่มจากคันก่อน (ของเรานะคะ) คันจนนั่งไม่ได้ ต้องนอนอย่างเดียวค่ะ บนกางเกงในมันเป็นเหมือนตกขาวแต่สีเขียว ๆ จนสุดท้ายทนไม่ได้และกลัวจะเป็นโรคเพราะตอนนั้นแฟนเก่าเรามันชอบใส่สด เราบอกตรง ๆ ที่เราเป็นแบบนั้นเพราะของแฟนสกปรก ของมันจะมีกลิ่นมากอ่ะ แล้วเชื้อมันเลยมาอยู่ที่เรา เราเลือกไปหาหมอที่กาชาด เพราะเค้าถนัดดูแลคนเรื่องแบบนี้ (มั่งคะ) ที่สำคัญคือเค้าจะเก็บความลับคนไข้เก่ง ไปหาหมอ หมอให้เราขึ้นเตียงขาหยั่ง แล้วเอาอะไรไม่รู้สอดเข้าไปในน้องสาวเรานิดนึงแล้วก็ป้ายออกมา หมอบอกว่าเราติดเชื้อ เราตกใจมาก แต่หมอบอกว่าเป็นเชื้อราไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวก็หาย แต่ก่อนและหลังมีอะไรกันเสร็จ ควรทำความสะอาดของตัวเองให้ดีเสียก่อน ที่สำคัญถุงยางช่วยป้องกันทุกโรคได้ดี เราได้รับยาสอดและยาทา ยาทา ทาทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำเลย ส่วนยาสอดเม็ดเท่าหัวแม่มือ สอดเฉพาะก่อนนอน ก่อนสอดล้างทำความสะอาดอย่างดีและสอดยาเข้าไปโดยใช้นิ้วกลาง เพราะหมอบอกว่าให้ใช้นิ้วกลางมันจะสอดยาได้ลึกสุด สอดเสร็จทาครีม ทิชชู่เนี่ยซื้อตั้งเป็นแพ็คเลยเพราะต้องใช้เช็ดน้องให้แห้งทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ ผลปรากฎว่าคืนนั้นราวตีสอง เรารู้สึกคันตูดแบบอยู่ไม่ได้เลย รีบเข้าห้องน้ำนึกว่าอะไรกัดตูด ที่ไหนได้พอถอดกางเกงใน ขนลุกเลย มันเป็นตกขาวที่เป็นเกล็ดเหมือนผงชูรสสีเขียวออกมาเต็มกางเกงในเลย คือน่ากลัวมากอ่ะ เรารีบล้างทำความสะอาดแล้วทาครีม ส่วนกางเกงในคือทิ้งเลย สกปรกแบบรับไม่ได้เลยว่านี่คือสิ่งที่ยาพาออกมาจากร่างกายของเราเหรอ คืนที่สองก็เหมือนกัน คืนที่สามเราใส่ผ้าอนามัยแผ่นใหญ่เลย เปลืองกางเกงในและที่สำคัญกลัวเลอะที่นอน คืนที่สี่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด คืนที่ห้า คืนที่หกและคืนที่เจ็ด ค่อย ๆ ลดลงและหาย และก็หายไปประมาณปีนึง น้องสาวเราก็มีกลิ่น กลิ่นเหม็นมาก คันด้วย แต่กลิ่นนี่คือเหม็นแบบเฮ่ย มันมาจากข้างล่างของเรานี่หว่า เลยไปซื้อยาตัวเดิมมาใช้ โอ้โห เหมือนเดิมเลย แต่พอครบเจ็ดวัน หายคันแต่กลิ่นยังอยู่ เราเลยใส่แผ่นอนามัย เพราะตอนยังไม่ใส่แผ่นอนามัย เพื่อนในกลุ่มทักว่าเหม็นเน่าอะไรวะ เรานี่รีบวิ่งเข้าห้องเลย อายเค้า สาเหตุที่มีกลิ่นก็เหมือนเดิม ไอ
นั่นไม่สะอาดและไม่เคยสะอาดเลยไอ สุดท้ายหายมาได้เพราะยาและแผ่นอนามัยที่ช่วยระงับกลิ่น ใช้แผ่นอนามียอยู่เกือบสองเดือนแน่ะกว่ากลิ่นจะหาย คุณพาแฟนคุณไปหาหมอเหอะ เราสงสารเค้า เค้ารู้น่ะแหละว่าของเค้ามีกลิ่น แต่ถ้าปล่อยไว้นาน เชื้อเข้ามดลูกล่ะแย่เลยนะ ขอโทษที่เล่ายาว ตอบแบบนี้น่าจะตั้งกระทู้ด้วยซ้ำ 555 แต่เราสมัครพันทิปเพื่อตอบของคุณเลยนะ นี่เม้นแรกเลย พาแฟนไปหาหมอและรักษาความสะอาดของน้องชายคุณเองด้วยนะคะ บางทีที่เค้าเป็นแบบนี้อาจมาจากตัวคุณโดยที่คุณอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้
นั่นไม่สะอาดและไม่เคยสะอาดเลยไอ สุดท้ายหายมาได้เพราะยาและแผ่นอนามัยที่ช่วยระงับกลิ่น ใช้แผ่นอนามียอยู่เกือบสองเดือนแน่ะกว่ากลิ่นจะหาย คุณพาแฟนคุณไปหาหมอเหอะ เราสงสารเค้า เค้ารู้น่ะแหละว่าของเค้ามีกลิ่น แต่ถ้าปล่อยไว้นาน เชื้อเข้ามดลูกล่ะแย่เลยนะ ขอโทษที่เล่ายาว ตอบแบบนี้น่าจะตั้งกระทู้ด้วยซ้ำ 555 แต่เราสมัครพันทิปเพื่อตอบของคุณเลยนะ นี่เม้นแรกเลย พาแฟนไปหาหมอและรักษาความสะอาดของน้องชายคุณเองด้วยนะคะ บางทีที่เค้าเป็นแบบนี้อาจมาจากตัวคุณโดยที่คุณอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ 
สมาชิกหมายเลข 5714462 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7800604 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2432296 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5982679 ถูกใจ, deauny ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7017136 ถูกใจ, iamtannygirl ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7109886 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7080446 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6195567 ถูกใจรวมถึงอีก 149 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ให้เขาถอกหัวออกมาล้างครับ
หรือไม่ก็ให้เขาไปขริบก่อน
หรือไม่ก็ให้เขาไปขริบก่อน
ปลามันจะกินผักคะน้าผัดไทย ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 2223303 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6423822 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6545529 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3331375 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5565987 ถูกใจ, โ ล ก ยั ง ไ ม่ แ ต ก ขำกลิ้ง, จำพ่อไม่ได้หรอลูก ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 1219477 ขำกลิ้ง, icy_CMU ขำกลิ้งรวมถึงอีก 131 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 158
ขออนุญาติ ตอบแบบเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะครับ
เชื้อแบคทีเรียปกติของช่องคลอด คือ Lactobacillus เป็นเชื้อไม่มีกลิ่น ตกขาวจะสีขาวใสเนื้อบางเบา
หากตกขาวจากเชื้อรา จะมีตกขาวเป็นก้อนๆคล้ายกากนม คันมากๆๆๆๆ แต่ไม่มีกลิ่น
ตกขาวมีกลิ่น ตกขาวจะสีเทาๆ เนื้อของตกขาวจะมีฟองละเอียดๆ เกิดจากมีแบคทีเรียที่หมักเกิดกาซเข้ามาปนเปื้อน เชื้อที่เป็นสาเหตึคือเชื้อโรคที่อยู่ในอุจจาระ หากทำการทดลองโดยเอาขนมจีนยาวประมาณ 1 นิ้ว วางลงบนช้อน หยดน้ำบี้ๆๆๆจนเป็นน้ำแป้ง เอาอุจจาระเราเองเท่าปลายไม้จิ้มฟันเอามากวนๆๆในน้ำแป้ง หมักตั้งทิ้งไว้ 1 คืน ดมดู....กลิ่นนี้เลย กลิ่นแบบคาวๆเค็มๆ
สรุป ตกขาวมีกลิ่นนี้เกิดจากการเล็ดลอดปนเปื้อนแบคทีเรียจากทวารหนักเข้าสู่ช่องคลอด มักเป็นในคนที่เช็ดก้นไม่ถูกวิธี เช็ดจากหลังมาหน้า นำเอาเชื้อจากทวารหนักเข้าช่องคลอด ที่ถูกต้องคือเช็ดจากหน้าไปหลัง
อีกกรณีหนึ่งคือคนที่ชอบฝายลม ซึ่งมันจะพ่นละอองฝอยอุจจาระลงบนกางเกงใน แล้วเชื้อโรคพวกนี้ก็จะทำให้อวัยวะเพศมีกลื่น ดังนั้นผู้หญิงควรฝายลมให้ค่อยเบาที่สุด
ในกรณีนี้ต้องรักษาทั้งผู้ชายและผู้หญิง รักษาผู้หญิงคนเดียว เมื่อมีอะไรกันก็จะกลับมาเป็นอีกทีทุกครั้ง
ระหว่างที่ตกขาวมีกลิ่นก็ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์เพราะเชื่อโรคจะถูกปั๊มดันขึ้นไปในมดลูก ปีกมดลูกทำให้เกิด มดลูกอักเสบ ปีกมดลูกอักเสบตามมาได้
สงสัยถามต่อได้นะครับ
มืออาชีพตอบให้แล้วจริงๆ
เชื้อแบคทีเรียปกติของช่องคลอด คือ Lactobacillus เป็นเชื้อไม่มีกลิ่น ตกขาวจะสีขาวใสเนื้อบางเบา
หากตกขาวจากเชื้อรา จะมีตกขาวเป็นก้อนๆคล้ายกากนม คันมากๆๆๆๆ แต่ไม่มีกลิ่น
ตกขาวมีกลิ่น ตกขาวจะสีเทาๆ เนื้อของตกขาวจะมีฟองละเอียดๆ เกิดจากมีแบคทีเรียที่หมักเกิดกาซเข้ามาปนเปื้อน เชื้อที่เป็นสาเหตึคือเชื้อโรคที่อยู่ในอุจจาระ หากทำการทดลองโดยเอาขนมจีนยาวประมาณ 1 นิ้ว วางลงบนช้อน หยดน้ำบี้ๆๆๆจนเป็นน้ำแป้ง เอาอุจจาระเราเองเท่าปลายไม้จิ้มฟันเอามากวนๆๆในน้ำแป้ง หมักตั้งทิ้งไว้ 1 คืน ดมดู....กลิ่นนี้เลย กลิ่นแบบคาวๆเค็มๆ
สรุป ตกขาวมีกลิ่นนี้เกิดจากการเล็ดลอดปนเปื้อนแบคทีเรียจากทวารหนักเข้าสู่ช่องคลอด มักเป็นในคนที่เช็ดก้นไม่ถูกวิธี เช็ดจากหลังมาหน้า นำเอาเชื้อจากทวารหนักเข้าช่องคลอด ที่ถูกต้องคือเช็ดจากหน้าไปหลัง
อีกกรณีหนึ่งคือคนที่ชอบฝายลม ซึ่งมันจะพ่นละอองฝอยอุจจาระลงบนกางเกงใน แล้วเชื้อโรคพวกนี้ก็จะทำให้อวัยวะเพศมีกลื่น ดังนั้นผู้หญิงควรฝายลมให้ค่อยเบาที่สุด
ในกรณีนี้ต้องรักษาทั้งผู้ชายและผู้หญิง รักษาผู้หญิงคนเดียว เมื่อมีอะไรกันก็จะกลับมาเป็นอีกทีทุกครั้ง
ระหว่างที่ตกขาวมีกลิ่นก็ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์เพราะเชื่อโรคจะถูกปั๊มดันขึ้นไปในมดลูก ปีกมดลูกทำให้เกิด มดลูกอักเสบ ปีกมดลูกอักเสบตามมาได้
สงสัยถามต่อได้นะครับ
มืออาชีพตอบให้แล้วจริงๆ
สมาชิกหมายเลข 7819308 ถูกใจ, บ้านปากซอย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5982679 ถูกใจ, deauny ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7017136 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6195567 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6867234 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5663300 หลงรัก, Pianista ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5589746 ถูกใจรวมถึงอีก 16 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 12
- เริ่มจากปรับพฤติกรรมการกิน กินเผ็ดน้อยลง ไม่กินรสจัด
- กินนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตเป็นประจำ
- เลิกใส่แผ่นอนามัยที่เป็นแผ่นเล็ก เพราะจะทำให้อับชื้น
- เวลาเข้าห้องน้ำเช็ดฝาขอบรองนั่ง เช็ดน้องสาวทุกครั้งให้สะอาด
- อาบน้ำเสร็จผึ่งให้แห้ง
- เล็มขนให้ไม่รุงรัง
- พยายามอย่าใช้ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาด ให้ล้างแค่น้ำเปล่าก็เพียงพอแล้ว
- สุดท้ายถ้าไม่หายก็ไปหาหมอ
- กินนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตเป็นประจำ
- เลิกใส่แผ่นอนามัยที่เป็นแผ่นเล็ก เพราะจะทำให้อับชื้น
- เวลาเข้าห้องน้ำเช็ดฝาขอบรองนั่ง เช็ดน้องสาวทุกครั้งให้สะอาด
- อาบน้ำเสร็จผึ่งให้แห้ง
- เล็มขนให้ไม่รุงรัง
- พยายามอย่าใช้ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาด ให้ล้างแค่น้ำเปล่าก็เพียงพอแล้ว
- สุดท้ายถ้าไม่หายก็ไปหาหมอ
สมาชิกหมายเลข 7746915 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7017136 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7010288 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6195567 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6545529 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5093065 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 768880 ถูกใจ, ส่วนหนึ่งของเรา ถูกใจ, my-kimber ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1219477 ถูกใจรวมถึงอีก 27 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 73
จากความเห็นที่ 7-1 ที่จขกท มาตอบ ว่ากลิ่นคล้ายตลาดสะพานปลาตอนเช้ามืด บลาๆๆ
คิดว่าน่าจะเป็นโรค Bacterial vaginosis เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่เชื้อรา เหน็บคาเนสเทน(ยาฆ่าเชื้อรา)ไม่หายนะครับ
แนะนำให้ ไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อให้การวินิจฉัยและให้การรักษา ผมคิดว่าน่าจะได้ยามากิน (น่าจะได้ metronidazole) ไม่กี่วันก็หายครับ
**เพิ่มเติม** ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้คือ การสวนล้างช่องคลอด ด้วยแลคตาซิดหรือน้ำยาล้างช่องคลอดหรือสบู่หรืออะไรก็ตาม ซึ่งทางการแพทย์ไม่แนะนำนะครับ จะทำให้แบคทีเรียเสียสมดุล ในช่องคลอดจะมี แลคโตบาซิลัส (คนละตัวกะในนมเปรี้ยวนะ) ที่เป็นตัวดี คอยสร้างสภาวะความเป็นกรดอ่อนๆให้กับช่องคลอด พอถูกล้างออกไป ก็จะมีพวกเชื้อก่อโรคฉวยโอกาสเห่อขึ้นมา เชื้ออิตัวนี้แหละครับที่ทำให้ช่องคลอดกลายเป็นด่าง และมีกลิ่นเหม็นคาวปลาครับ
จริงๆมันจะเหม็นหึ่งยิ่งขึ้นถ้ามีน้ำอสุจิไปผสมนะครับ แหะๆ
อ่า... ปัจจัยเสี่ยงอีกอย่างนึงของโรคนี้ คือ multiple sexual partner อ่ะครับ แหะๆ อันนี้ก็รู้เผื่อไว้ก็พอนะครับ
คิดว่าน่าจะเป็นโรค Bacterial vaginosis เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่เชื้อรา เหน็บคาเนสเทน(ยาฆ่าเชื้อรา)ไม่หายนะครับ
แนะนำให้ ไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อให้การวินิจฉัยและให้การรักษา ผมคิดว่าน่าจะได้ยามากิน (น่าจะได้ metronidazole) ไม่กี่วันก็หายครับ
**เพิ่มเติม** ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้คือ การสวนล้างช่องคลอด ด้วยแลคตาซิดหรือน้ำยาล้างช่องคลอดหรือสบู่หรืออะไรก็ตาม ซึ่งทางการแพทย์ไม่แนะนำนะครับ จะทำให้แบคทีเรียเสียสมดุล ในช่องคลอดจะมี แลคโตบาซิลัส (คนละตัวกะในนมเปรี้ยวนะ) ที่เป็นตัวดี คอยสร้างสภาวะความเป็นกรดอ่อนๆให้กับช่องคลอด พอถูกล้างออกไป ก็จะมีพวกเชื้อก่อโรคฉวยโอกาสเห่อขึ้นมา เชื้ออิตัวนี้แหละครับที่ทำให้ช่องคลอดกลายเป็นด่าง และมีกลิ่นเหม็นคาวปลาครับ
จริงๆมันจะเหม็นหึ่งยิ่งขึ้นถ้ามีน้ำอสุจิไปผสมนะครับ แหะๆ
อ่า... ปัจจัยเสี่ยงอีกอย่างนึงของโรคนี้ คือ multiple sexual partner อ่ะครับ แหะๆ อันนี้ก็รู้เผื่อไว้ก็พอนะครับ
แม่โอ๋เรนเจอร์ ถูกใจ, janjubujubu ถูกใจ, ชายอิสระ..... ถูกใจ, hamuhamoo ถูกใจ, born to be Tanuki ถูกใจ, Miss-Anonymous ถูกใจ, อมยิ้มท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2031793 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 4
บอกตามตรงเลยค่ะ และควรให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจดูว่าเป็นการติดเชื้อราอะไรรึเปล่า
จะได้รักษาให้หายค่ะ
จะได้รักษาให้หายค่ะ
my-kimber ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1219477 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 834442 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1426468 ถูกใจ, เข้ามากดปุ่ม หลงรัก, ยิ้มนะยิ้ม ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1839837 ถูกใจ, #365 ก้าวปิ้ง ถูกใจ, hamuhamoo ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1939948 ถูกใจรวมถึงอีก 18 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ทำไงดีคับ ผมไม่อยากมีเซ็กกับแฟน เนื่องจาก อวัยวะเพศเขามีกลิ่นนะคับ!!!!
.
.
.
!!!!ไอ้นั้น.....ของเธอมันมีกลิ่น ผมไม่มีอารมณ์ด้วย!!!!!
ผมควรจะบอกตรงๆไหมคับ
.
.
.
คือมันเป็นปัญญาใหญ่มากตอนนี้ เพราะผมไม่อยากมีไรกะแฟนเลย เพราะกลิ่นนี่แหละคับ