สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับ เชื้อราในช่องคลอดซึ่งเกิดกับเราเอง
เนื่องจากว่า เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว เรามีความรู้สึกว่าน้องสาว มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ (ยางวันกลิ่นเหมือนปลาเค็ม บางวันกลิ่นเปรี้ยวๆ) และมีการตกขาวร่วมด้วยแม้ไม่ได้อยู่ในช่วงมีประจำเดือน และเกิดอาการน้องสาวอาเจียร คล้ายๆอาเจียรเด็กทารกหลังมีเพศสัมพันธ์ และมีกลิ่นร่วมด้วย เวลามีเพศสัมพันธ์แค่ถอด กกน. ออกก็ได้กลิ่นแล้ว ( กลิ่นแรงมากๆ ) บางทีเอามือป้ายกกน.แล้วเอามาดมก็ได้กลิ่นนะ จนแฟนหมดอารมณ์ แต่ไม่มีอาการแสบหรือคันใดๆ
จากการที่ทนกับกลิ่นไม่ไหว เพราะว่าอายแฟนเวลามีเพศสัมพันธ์เราเลยคิดว่าต้องไปให้คุณหมอเค้าส่องดูหน่อยแล้ว ..
เมื่อไปหาหมอ คุณหมอเค้าก็ซักอาการว่าเป็นในลักษณะไหนอย่างไร เราก็บอกหมอไป บลา บลา บลา จากนั้นก็ทำการตรวจภายใน ตอนแรกก็อายเพราะไม่เคยตรวจ ไม่กล้าอ้าขา แถมหมอยังเป็นผู้ชายอีก(แต่เราก็บอกหมอได้นะว่าขอหมอผู้หญิง) ซึ่งหมอก้ใช้อุปกรณ์บางอย่างยัดเข้าไปในช่องคลอด แล้วใช้อุปกรณ์อีกชนิดหนึ่งเหมือนไม้ ตักชิ้นเนื้อ หรือ อะไรสักอย่างจากช่องคลอดออกมา (ไม่เจ็บนะไม่ต้องกลัว) แล้วนำไปส่องกล้อง ผลปรากฏว่า น้องสาวเราเป็นเชื้อรา 0..0
โดยปกติแล้วเมื่อเกิดเชื้อราในช่องคลอด จะมีอาการคันที่ปากช่องคลอดร่วมด้วย แต่สำหรับกรณีเรา หมอบอกว่าอาการไม่หนัก เลยไม่คัน ( ก่อนไปหาหมอเราดื่มนมเปรี้ยวเพื่อดับกลิ่น เกี่ยวกันอย่างไรเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังทีหลัง ) คุณหมอก็เลยอธิบายให้ฟังว่าทำไมถึงเกิดเชื้อราในช่องคลอดได้ สาเหตุก็คือ
1. เวลาปัสสาวะ ไม่ได้ใช้ทิชชู่ซับให้แห้ง ทำให้กกน.เปียกแล้วเกิดความอับชื้น
2.ตากกกน.ไว้ในที่ร่ม ทำให้กกน. ไม่โดนแดด เกิดเชื้อราหมักหมม
3.ใช้แผ่นอนามัย (หลายคนใช้แผ่นอนามัยแคร์ฟรี แม้ว่าไม่มีประจำเดือนก็ใช้ หมอบอกว่าเป็นการกระทำที่ผิดนะจ้ะ เพราะจะเกิดความอับชื้น ไม่ดีนะคะ )
4.เวลามีปจด.ไม่เปลี่ยนผ้าอนามัย ใช้แผ่นเดียวทั้งวัน ( ไม่ไหวนะ )
ซึ่งกรณีของเรา คือ เวลาที่เข้าห้องน้ำเราไม่ค่อยซับให้แห้ง เลยเกิดความอับชื้น
แล้วหมอก็เลยสั่งยาฆ่าเชื้อราในช่องคลอดให้เรา ยา 100 มิลลิกรัม ใช้เหน็บช่องคลอดแบบ 7 วัน บางรายอาจจะต้องกินยาร่วมด้วย หรือใช้ยาแบบครีมทาบริเวณปากช่องคลอด ซึ่งเราก็เหน็บยามา2วันแล้วรู้สึกว่า กลิ่นมันหายไปแล้ว ... อัศจรรย์มาก ตอนนี้ก็ต้องเหน็บยาให้ครบ7วัน หวังว่าเชื้อราคงจะตายๆไป...
ส่วนเรื่องการดื่มนมเปรี้ยว .. คือเราก็ไม่ได้ถามหมอนะว่าเกี่ยวกันไหม แต่เราหาข้อมูลจากเว็ป เค้าบอกว่า ในนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตมีแลคโตบาซีลัส ใช้ฆ่าเชื้อราได้ และดับกลิ่นได้ ซึ่งเราก็ลองนะก่อนไปหาหมอ ก็รู้สึกว่ากลิ่นมันเบาลง ...
สุดท้ายยยย ถ้าหากคุณผู้หญิงท่านไหนมีอาการเหมือนเรา หรือแย่กว่านั้น แนะนำให้ไปหาหมอนะคะ ไปให้เค้าดูให้เถอะ อย่าทึกทักเอาเองว่าเป็นเรื่องปกติ และมันมีเชื้อราหลายชนิด ซึ่งหมอเค้าจะได้จ่ายยาให้เราถูก ( จริงๆซื้อยาเหน็บที่ร้านขายยาเองก็ได้ แต่ถ้าซื้อไม่ถูกชนิดเชื้อราก็ไม่หายนะจ้ะ ) บางคนไม่ได้เป็นเชื้อรา แต่เป็นเชื้อแบคทีเรียเลยก็มี (น่ากลัวนะ) นอกจากคู่นอนที่สามารถเห็นน้องสาวเราได้ ก็มีหมอนี่แหละนะที่สมควรต้องเห็น อย่าอายไปเลยนะ หมอเค้าเห็นจนชินแล้ว ไม่ต้องเขิล หมอก็ไม่เขิลหรอก เคนะ ฝากไว้นะคะ
แย่แล้ว !! จิ๊มีกลิ่น หมอบอกว่าเป็นเชื้อรา
เนื่องจากว่า เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว เรามีความรู้สึกว่าน้องสาว มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ (ยางวันกลิ่นเหมือนปลาเค็ม บางวันกลิ่นเปรี้ยวๆ) และมีการตกขาวร่วมด้วยแม้ไม่ได้อยู่ในช่วงมีประจำเดือน และเกิดอาการน้องสาวอาเจียร คล้ายๆอาเจียรเด็กทารกหลังมีเพศสัมพันธ์ และมีกลิ่นร่วมด้วย เวลามีเพศสัมพันธ์แค่ถอด กกน. ออกก็ได้กลิ่นแล้ว ( กลิ่นแรงมากๆ ) บางทีเอามือป้ายกกน.แล้วเอามาดมก็ได้กลิ่นนะ จนแฟนหมดอารมณ์ แต่ไม่มีอาการแสบหรือคันใดๆ
จากการที่ทนกับกลิ่นไม่ไหว เพราะว่าอายแฟนเวลามีเพศสัมพันธ์เราเลยคิดว่าต้องไปให้คุณหมอเค้าส่องดูหน่อยแล้ว ..
เมื่อไปหาหมอ คุณหมอเค้าก็ซักอาการว่าเป็นในลักษณะไหนอย่างไร เราก็บอกหมอไป บลา บลา บลา จากนั้นก็ทำการตรวจภายใน ตอนแรกก็อายเพราะไม่เคยตรวจ ไม่กล้าอ้าขา แถมหมอยังเป็นผู้ชายอีก(แต่เราก็บอกหมอได้นะว่าขอหมอผู้หญิง) ซึ่งหมอก้ใช้อุปกรณ์บางอย่างยัดเข้าไปในช่องคลอด แล้วใช้อุปกรณ์อีกชนิดหนึ่งเหมือนไม้ ตักชิ้นเนื้อ หรือ อะไรสักอย่างจากช่องคลอดออกมา (ไม่เจ็บนะไม่ต้องกลัว) แล้วนำไปส่องกล้อง ผลปรากฏว่า น้องสาวเราเป็นเชื้อรา 0..0
โดยปกติแล้วเมื่อเกิดเชื้อราในช่องคลอด จะมีอาการคันที่ปากช่องคลอดร่วมด้วย แต่สำหรับกรณีเรา หมอบอกว่าอาการไม่หนัก เลยไม่คัน ( ก่อนไปหาหมอเราดื่มนมเปรี้ยวเพื่อดับกลิ่น เกี่ยวกันอย่างไรเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังทีหลัง ) คุณหมอก็เลยอธิบายให้ฟังว่าทำไมถึงเกิดเชื้อราในช่องคลอดได้ สาเหตุก็คือ
1. เวลาปัสสาวะ ไม่ได้ใช้ทิชชู่ซับให้แห้ง ทำให้กกน.เปียกแล้วเกิดความอับชื้น
2.ตากกกน.ไว้ในที่ร่ม ทำให้กกน. ไม่โดนแดด เกิดเชื้อราหมักหมม
3.ใช้แผ่นอนามัย (หลายคนใช้แผ่นอนามัยแคร์ฟรี แม้ว่าไม่มีประจำเดือนก็ใช้ หมอบอกว่าเป็นการกระทำที่ผิดนะจ้ะ เพราะจะเกิดความอับชื้น ไม่ดีนะคะ )
4.เวลามีปจด.ไม่เปลี่ยนผ้าอนามัย ใช้แผ่นเดียวทั้งวัน ( ไม่ไหวนะ )
ซึ่งกรณีของเรา คือ เวลาที่เข้าห้องน้ำเราไม่ค่อยซับให้แห้ง เลยเกิดความอับชื้น
แล้วหมอก็เลยสั่งยาฆ่าเชื้อราในช่องคลอดให้เรา ยา 100 มิลลิกรัม ใช้เหน็บช่องคลอดแบบ 7 วัน บางรายอาจจะต้องกินยาร่วมด้วย หรือใช้ยาแบบครีมทาบริเวณปากช่องคลอด ซึ่งเราก็เหน็บยามา2วันแล้วรู้สึกว่า กลิ่นมันหายไปแล้ว ... อัศจรรย์มาก ตอนนี้ก็ต้องเหน็บยาให้ครบ7วัน หวังว่าเชื้อราคงจะตายๆไป...
ส่วนเรื่องการดื่มนมเปรี้ยว .. คือเราก็ไม่ได้ถามหมอนะว่าเกี่ยวกันไหม แต่เราหาข้อมูลจากเว็ป เค้าบอกว่า ในนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตมีแลคโตบาซีลัส ใช้ฆ่าเชื้อราได้ และดับกลิ่นได้ ซึ่งเราก็ลองนะก่อนไปหาหมอ ก็รู้สึกว่ากลิ่นมันเบาลง ...
สุดท้ายยยย ถ้าหากคุณผู้หญิงท่านไหนมีอาการเหมือนเรา หรือแย่กว่านั้น แนะนำให้ไปหาหมอนะคะ ไปให้เค้าดูให้เถอะ อย่าทึกทักเอาเองว่าเป็นเรื่องปกติ และมันมีเชื้อราหลายชนิด ซึ่งหมอเค้าจะได้จ่ายยาให้เราถูก ( จริงๆซื้อยาเหน็บที่ร้านขายยาเองก็ได้ แต่ถ้าซื้อไม่ถูกชนิดเชื้อราก็ไม่หายนะจ้ะ ) บางคนไม่ได้เป็นเชื้อรา แต่เป็นเชื้อแบคทีเรียเลยก็มี (น่ากลัวนะ) นอกจากคู่นอนที่สามารถเห็นน้องสาวเราได้ ก็มีหมอนี่แหละนะที่สมควรต้องเห็น อย่าอายไปเลยนะ หมอเค้าเห็นจนชินแล้ว ไม่ต้องเขิล หมอก็ไม่เขิลหรอก เคนะ ฝากไว้นะคะ