สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
"อาชีพนักเขียน เงินน้อย มันลำบากอย่าเป็นเลย" , "เป็นนักเขียนใส้แห้ง" , "เด็กยุคใหม่ ก็มิได้สนใจจะอ่านหนังสืออะไรเลยนอกจากตัวอักษรข้อความบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค" ก็เลยคิดว่า ผมในฐานนะคนที่อยู่กับวงการนักเขียน ปีนี้ก็เป็นปีที่ 22 แล้ว(เริ่มเขียนตั้งแต่เรียนมหาลัย) อาจจะน้อยกว่าใครอีกหลายๆคน แต่ก็พอจะเล่าประสบการณ์ที่เคยผ่านมาสู่กันฟังได้บ้าง
สืบเนื่องมาจากย้อนหลังไปอ่านกะทู้เมื่อวาน ไปอ่านความเห็นถัดๆลงมาหลังจากที่ผมหลับไปแล้ว (มาดูเพื่อมีใครนินทา อิอิ) เห็นน้องสาวสองคนคือ นู๋ปอ กับนู๋พิมพ์คุยกันเรื่องนี้ ก็เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ตัวเอง ให้น้องสาวได้รับรู้และผู้อ่านท่านอื่นที่สนใจ จะนำไปใช้ผมก็ไม่ได้หวงห้ามหรืออ้างความเป็นลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
ขอบอกตรงนี้ก่อนว่า เรื่องที่เขียนมาทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องจากประสบการณ์ของตัวเองที่ที่ดิ้นรนอยากจะเดินบนถนนแห่งการเป็นนักเขียนมาตลอด อยากให้ผู้อ่านคิดว่าเป็น "เรื่องเล่าจากประสบการณ์" ของผม และไม่อยากให้คิดว่าเป็นเรื่องของการมา "สอน" กัน นะครับ แต่เพราะเห็นน้องสาวคนหนึ่งในห้องเพลงแห่งนี้ (นู๋ปอริ่ง) ที่มีพรสวรรค์ และมีฝันที่อยากจะมาอยู่บนเส้นทางแห่งนี้เหมือนกับผมในครั้งอดีต จึงตัดสินใจเขียนเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังแทนการรีวิวหนังสักวัน เพื่อหวังให้น้องสาวคนนั้นได้อ่าน และนำไปใช้ใคร่ครวญด้วยตัวเองว่า ต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะก้าวเท้าลงบนเส้นทางแห่งนี้ได้สมดังที่ตั้งใจ
และหากถามแบบวัยรุ่นใจร้อนว่า “นานไหม..? กว่าจะประสบความสำเร็จได้เป็นนักเขียน” ซึ่งเป็นคำถามที่คนที่อยากจะเป็นนักเขียนอยากจะรู้ และคน ที่คนที่เป็นนักเขียนยากจะตอบ เพราะความสำเร็จของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน หากนับการตีพิมพ์ครั้งแรกเป็นการชี้วัดความสำเร็จ ก็บอกเลยว่าไม่นาน หากเราไม่หยุดที่จะพยายามไปให้ถึง ผมมีผลงานตีพิมพ์ ครั้งแรก ก็ตอนเริ่มหัดเขียนใหม่ๆนั้นแหละ ส่งเรื่องั้นที่เขียนเองไปให้ทาง นิตยสารต่างๆพิจารณา ผลปรากฏว่า ก็มีที่ผ่านได้ลงตีพิมพ์บ้าง(ส่ง 10 เรื่อง ได้ลงจริง 3 เรื่องอะไรแบบนี้) ก็พอได้ค่าขนมมาเลี้ยงสาวๆบ้างในสมัยนั้น
แต่ทุกเส้นทางก็ไม่ได้ราบลื่น และสมดังใจทุกครั้ง
เมื่อบางอันที่ใช้เวลานานกว่านั้นก็มี อย่างเช่น ผมเคยพยายามหัดเขียน คอลัมน์อยู่นาน แต่กว่าจะสำเร็จได้มีคอลัมน์ของตัวเอง ก็ต้องรอจนอายุเกือบๆ 30 ซึ่งในครั้งที่ยังทำงานช่วยมูลนิธิเด็ก เพื่อโครงการ "เด็กไกลบ้าน" ที่พื้นที่แถวๆ อ.สังขละบุรี ได้รู้จักกอง บก.ของนิตยสาร"ส่องโลก" ที่ลงพื้นที่มาช่วยเหลือกันในการสร้างศูนย์พักพิงให้กับเด็กกะเหลี่ยงในพื้นที่ ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่อยู่ห่างไกลจากโรงเรียน เรียกได้ว่าเป็นเพราะโชค จึงได้โอกาสในครั้งนั้น
แต่ก็เขียนอยู่ไม่นาน เพราะสภาพความเป็นจริงที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนทำมาหากินเพื่อเลี้ยงครอบครัวตัวเองด้วย ก็เลยขอถอนตัวออกมา หลังจากที่เขียนคอลัมน์ให้ที่นั้นไปเกือบ 2 ปี งานที่มูลนิธิก็เช่นกัน ที่แทบไม่ได้ออกภาคสนามอีกแล้ว เนื่องจากเวลาและปัจจัยหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวย
ชีวิตการเขียนก็เหมือนมีช่วงหยุดไปสักพัก แต่ก็ไม่ขาดไปโดยสิ้นเชิง เพราะยังมีงานเขียนบทความลงตามนิตยสารแจกฟรีบ้างเป็นครั้งคราว เรื่องสั้นก็ยังคงเขียนอยู่ แต่ก็นานๆครั้งถึงจะได้ลงตีพิมพ์สักเรื่อง (อาจเพราะแนวที่ชอบเขียน ไม่เป็นที่นิยมของตลาด) แต่ก็ไม่ได้ทำเป็นประจำ
ซึ่งหากจะนับเป็นความสำเร็จ ก็คงไม่อาจจะเอ่ยได้เต็มปากเต็มคำว่า ที่ฝันไว้ที่หวังไว้นั้น “สำเร็จแล้ว” เพราะนักเขียนทุกคนต่างก็อยากที่จะมีผลงานเป็นของตัวเองสักเล่ม ที่นำเสนองานผ่านเรื่องราวที่เขียนขึ้น โดยไม่ต้องอาศัย นิตยสารเหล่านั้น เป็นตัวกลางในการเผยแพร่ แต่จนถึงวันนี้ ผมเองก็ยังไปไม่ถึงจุดๆนั้น 20 กว่าปีแล้ว ที่ยังไม่มีผลงานของตัวเองสักเล่ม แม้จะมีท่าทีหรือวี่แววอยู่บ้าง แต่มันก็ยังคงต้อง “รอคอย” กันต่อไป
ดังนั้นการเป็นนักเขียนไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝีมือเพียงอย่างเดียว มันต้องพึ่งพาจังหวะและโอกาสด้วย แต่สิ่งที่นักเขียนจำเป็นต้องมีแน่ๆ ก็ขอบอกเล่าจะประสบการณ์ตัวเองว่า มีอยู่ข้อเดียวจริงๆ พูดก็พูดเลยว่าพรสวรรค์ไม่มีก็ได้ จินตนาการก็ไม่จำเป็นแต่สิ่งเดียวที่จำเป็นต้องมี คือ ความตั้งใจ
ตั้งใจที่จะอ่านงานของคนอื่นเยอะๆ เพื่อดูวิธีการนำเสนอของเขา
ตั้งใจที่จะเขียนงานตัวเองเยอะๆ เพื่อจะดูว่าเราได้สิ่งที่เราอ่านมา มานำเสนอในรูปแบบของเรา ในเนื้อเรื่องของเรา เขียนแล้วออกมาดีแค่ไหน ตัดสินด้วยตัวเองก่อน
ตั้งใจที่จะส่ง ผลงานของเราไปให้คนอื่นช่วยพิจารณา ว่าที่เราเขียนขึ้นมา นั้นมัน “ห่วย”หรือ “ใช้ได้แล้ว” ส่งเข้าไป ไม่ว่าจะกี่สำนักพิมพ์ก็ช่าง ส่งไปจน บก.มันจำงานของเราได้ แม้จะยังไม่ผ่านก็ช่าง ซึ่งขอเล่าประสบการณ์ตัวเองว่า เรื่องสั้นเรื่องแรกของผมที่ได้ตีพิมพ์ ก็ลงในนิตยสารกิ๊กก๊อก อย่าง ขายหัวเราะ ก็ใช้เวลาไม่น้อย หลังจากส่งไปหลายสิบเรื่องกว่าจะผ่านพิจารณาในครั้งแรก
ตั้งใจที่จะปรับปรุงตัวเอง การส่ง ผลงาน ให้ สำนักพิมพ์ต่างๆไปพิจารณา บางทีเราอาจได้คำแนะนำจากบางที่มาด้วย แม้ว่างานเราจะไม่ผ่านก็ตาม ซึ่งเราก็เอาสิ่งที่เขาแนะนำติชมเหล่านั้น มาพัฒนาตัวเอง ในการเขียนครั้งต่อไป
ทำอยู่อย่างนี้เรื่อยๆอย่าได้ยอมหยุดหรือล้มเลิก ในที่สุด ความสำเร็จย่อมเป็นของเรา
ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่าง จินตนาการ หรือ พรสวรรค์ ถ้ามีตั้งแต่แรกมันก็ดี แต่ถึงไม่มีก็ใช่ว่าจะเป็นนักเขียนไม่ได้ หากเรามีความตั้งใจอย่างที่บอกมันก็จะตามมาเอง เรื่องสั้นและบทความชิ้นแรกๆของผมที่ได้ตีพิมพ์ ก็ขอบอกไม่อายเลยว่า ก็ลอกพล็อตมาจากคนอื่นเขา เอามาดัดแปลง เสริมแต่งจินตนาการของเรา ใช้สำนวนของเรา เมื่อทำบ่อยครั้งเข้า เราก็จะรู้แนวทาง และที่สุดก็เกิดจินตนาการของตัวเองขึ้นมาได้
ที่พล่ามมายืดยาวก็เพราะ อยากบอกเล่าสู่กันฟังว่า การเป็นนักเขียนไม่ได้ยาก หากว่าเรามีความตั้งใจ ส่วนถ้าลงมือเขียนแล้ว ยังงงๆไม่รู้จะไปทางไหนต่อหรือติดขัดตรงไหน ก็ถามพี่หรือลุงคนนี้มาได้ ยินดีและพร้อมจะให้คำแนะนำ และบอกเส้นทางการเดินทางบนถนนสายนักเขียนนี้ให้
แต่หากท้อแท้ขึ้นมาเมื่อไร ลองเปิดเพลงนี้ฟังดู แล้วถามตัวเราเองว่า นักเขียนใช่ความฝันของเราหรือไม่
"อาชีพนักเขียน เงินน้อย มันลำบากอย่าเป็นเลย" , "เป็นนักเขียนใส้แห้ง" , "เด็กยุคใหม่ ก็มิได้สนใจจะอ่านหนังสืออะไรเลยนอกจากตัวอักษรข้อความบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค" ก็เลยคิดว่า ผมในฐานนะคนที่อยู่กับวงการนักเขียน ปีนี้ก็เป็นปีที่ 22 แล้ว(เริ่มเขียนตั้งแต่เรียนมหาลัย) อาจจะน้อยกว่าใครอีกหลายๆคน แต่ก็พอจะเล่าประสบการณ์ที่เคยผ่านมาสู่กันฟังได้บ้าง
สืบเนื่องมาจากย้อนหลังไปอ่านกะทู้เมื่อวาน ไปอ่านความเห็นถัดๆลงมาหลังจากที่ผมหลับไปแล้ว (มาดูเพื่อมีใครนินทา อิอิ) เห็นน้องสาวสองคนคือ นู๋ปอ กับนู๋พิมพ์คุยกันเรื่องนี้ ก็เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ตัวเอง ให้น้องสาวได้รับรู้และผู้อ่านท่านอื่นที่สนใจ จะนำไปใช้ผมก็ไม่ได้หวงห้ามหรืออ้างความเป็นลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
ขอบอกตรงนี้ก่อนว่า เรื่องที่เขียนมาทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องจากประสบการณ์ของตัวเองที่ที่ดิ้นรนอยากจะเดินบนถนนแห่งการเป็นนักเขียนมาตลอด อยากให้ผู้อ่านคิดว่าเป็น "เรื่องเล่าจากประสบการณ์" ของผม และไม่อยากให้คิดว่าเป็นเรื่องของการมา "สอน" กัน นะครับ แต่เพราะเห็นน้องสาวคนหนึ่งในห้องเพลงแห่งนี้ (นู๋ปอริ่ง) ที่มีพรสวรรค์ และมีฝันที่อยากจะมาอยู่บนเส้นทางแห่งนี้เหมือนกับผมในครั้งอดีต จึงตัดสินใจเขียนเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังแทนการรีวิวหนังสักวัน เพื่อหวังให้น้องสาวคนนั้นได้อ่าน และนำไปใช้ใคร่ครวญด้วยตัวเองว่า ต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะก้าวเท้าลงบนเส้นทางแห่งนี้ได้สมดังที่ตั้งใจ
และหากถามแบบวัยรุ่นใจร้อนว่า “นานไหม..? กว่าจะประสบความสำเร็จได้เป็นนักเขียน” ซึ่งเป็นคำถามที่คนที่อยากจะเป็นนักเขียนอยากจะรู้ และคน ที่คนที่เป็นนักเขียนยากจะตอบ เพราะความสำเร็จของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน หากนับการตีพิมพ์ครั้งแรกเป็นการชี้วัดความสำเร็จ ก็บอกเลยว่าไม่นาน หากเราไม่หยุดที่จะพยายามไปให้ถึง ผมมีผลงานตีพิมพ์ ครั้งแรก ก็ตอนเริ่มหัดเขียนใหม่ๆนั้นแหละ ส่งเรื่องั้นที่เขียนเองไปให้ทาง นิตยสารต่างๆพิจารณา ผลปรากฏว่า ก็มีที่ผ่านได้ลงตีพิมพ์บ้าง(ส่ง 10 เรื่อง ได้ลงจริง 3 เรื่องอะไรแบบนี้) ก็พอได้ค่าขนมมาเลี้ยงสาวๆบ้างในสมัยนั้น
แต่ทุกเส้นทางก็ไม่ได้ราบลื่น และสมดังใจทุกครั้ง
เมื่อบางอันที่ใช้เวลานานกว่านั้นก็มี อย่างเช่น ผมเคยพยายามหัดเขียน คอลัมน์อยู่นาน แต่กว่าจะสำเร็จได้มีคอลัมน์ของตัวเอง ก็ต้องรอจนอายุเกือบๆ 30 ซึ่งในครั้งที่ยังทำงานช่วยมูลนิธิเด็ก เพื่อโครงการ "เด็กไกลบ้าน" ที่พื้นที่แถวๆ อ.สังขละบุรี ได้รู้จักกอง บก.ของนิตยสาร"ส่องโลก" ที่ลงพื้นที่มาช่วยเหลือกันในการสร้างศูนย์พักพิงให้กับเด็กกะเหลี่ยงในพื้นที่ ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่อยู่ห่างไกลจากโรงเรียน เรียกได้ว่าเป็นเพราะโชค จึงได้โอกาสในครั้งนั้น
แต่ก็เขียนอยู่ไม่นาน เพราะสภาพความเป็นจริงที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนทำมาหากินเพื่อเลี้ยงครอบครัวตัวเองด้วย ก็เลยขอถอนตัวออกมา หลังจากที่เขียนคอลัมน์ให้ที่นั้นไปเกือบ 2 ปี งานที่มูลนิธิก็เช่นกัน ที่แทบไม่ได้ออกภาคสนามอีกแล้ว เนื่องจากเวลาและปัจจัยหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวย
ชีวิตการเขียนก็เหมือนมีช่วงหยุดไปสักพัก แต่ก็ไม่ขาดไปโดยสิ้นเชิง เพราะยังมีงานเขียนบทความลงตามนิตยสารแจกฟรีบ้างเป็นครั้งคราว เรื่องสั้นก็ยังคงเขียนอยู่ แต่ก็นานๆครั้งถึงจะได้ลงตีพิมพ์สักเรื่อง (อาจเพราะแนวที่ชอบเขียน ไม่เป็นที่นิยมของตลาด) แต่ก็ไม่ได้ทำเป็นประจำ
ซึ่งหากจะนับเป็นความสำเร็จ ก็คงไม่อาจจะเอ่ยได้เต็มปากเต็มคำว่า ที่ฝันไว้ที่หวังไว้นั้น “สำเร็จแล้ว” เพราะนักเขียนทุกคนต่างก็อยากที่จะมีผลงานเป็นของตัวเองสักเล่ม ที่นำเสนองานผ่านเรื่องราวที่เขียนขึ้น โดยไม่ต้องอาศัย นิตยสารเหล่านั้น เป็นตัวกลางในการเผยแพร่ แต่จนถึงวันนี้ ผมเองก็ยังไปไม่ถึงจุดๆนั้น 20 กว่าปีแล้ว ที่ยังไม่มีผลงานของตัวเองสักเล่ม แม้จะมีท่าทีหรือวี่แววอยู่บ้าง แต่มันก็ยังคงต้อง “รอคอย” กันต่อไป
ดังนั้นการเป็นนักเขียนไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝีมือเพียงอย่างเดียว มันต้องพึ่งพาจังหวะและโอกาสด้วย แต่สิ่งที่นักเขียนจำเป็นต้องมีแน่ๆ ก็ขอบอกเล่าจะประสบการณ์ตัวเองว่า มีอยู่ข้อเดียวจริงๆ พูดก็พูดเลยว่าพรสวรรค์ไม่มีก็ได้ จินตนาการก็ไม่จำเป็นแต่สิ่งเดียวที่จำเป็นต้องมี คือ ความตั้งใจ
ตั้งใจที่จะอ่านงานของคนอื่นเยอะๆ เพื่อดูวิธีการนำเสนอของเขา
ตั้งใจที่จะเขียนงานตัวเองเยอะๆ เพื่อจะดูว่าเราได้สิ่งที่เราอ่านมา มานำเสนอในรูปแบบของเรา ในเนื้อเรื่องของเรา เขียนแล้วออกมาดีแค่ไหน ตัดสินด้วยตัวเองก่อน
ตั้งใจที่จะส่ง ผลงานของเราไปให้คนอื่นช่วยพิจารณา ว่าที่เราเขียนขึ้นมา นั้นมัน “ห่วย”หรือ “ใช้ได้แล้ว” ส่งเข้าไป ไม่ว่าจะกี่สำนักพิมพ์ก็ช่าง ส่งไปจน บก.มันจำงานของเราได้ แม้จะยังไม่ผ่านก็ช่าง ซึ่งขอเล่าประสบการณ์ตัวเองว่า เรื่องสั้นเรื่องแรกของผมที่ได้ตีพิมพ์ ก็ลงในนิตยสารกิ๊กก๊อก อย่าง ขายหัวเราะ ก็ใช้เวลาไม่น้อย หลังจากส่งไปหลายสิบเรื่องกว่าจะผ่านพิจารณาในครั้งแรก
ตั้งใจที่จะปรับปรุงตัวเอง การส่ง ผลงาน ให้ สำนักพิมพ์ต่างๆไปพิจารณา บางทีเราอาจได้คำแนะนำจากบางที่มาด้วย แม้ว่างานเราจะไม่ผ่านก็ตาม ซึ่งเราก็เอาสิ่งที่เขาแนะนำติชมเหล่านั้น มาพัฒนาตัวเอง ในการเขียนครั้งต่อไป
ทำอยู่อย่างนี้เรื่อยๆอย่าได้ยอมหยุดหรือล้มเลิก ในที่สุด ความสำเร็จย่อมเป็นของเรา
ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่าง จินตนาการ หรือ พรสวรรค์ ถ้ามีตั้งแต่แรกมันก็ดี แต่ถึงไม่มีก็ใช่ว่าจะเป็นนักเขียนไม่ได้ หากเรามีความตั้งใจอย่างที่บอกมันก็จะตามมาเอง เรื่องสั้นและบทความชิ้นแรกๆของผมที่ได้ตีพิมพ์ ก็ขอบอกไม่อายเลยว่า ก็ลอกพล็อตมาจากคนอื่นเขา เอามาดัดแปลง เสริมแต่งจินตนาการของเรา ใช้สำนวนของเรา เมื่อทำบ่อยครั้งเข้า เราก็จะรู้แนวทาง และที่สุดก็เกิดจินตนาการของตัวเองขึ้นมาได้
ที่พล่ามมายืดยาวก็เพราะ อยากบอกเล่าสู่กันฟังว่า การเป็นนักเขียนไม่ได้ยาก หากว่าเรามีความตั้งใจ ส่วนถ้าลงมือเขียนแล้ว ยังงงๆไม่รู้จะไปทางไหนต่อหรือติดขัดตรงไหน ก็ถามพี่หรือลุงคนนี้มาได้ ยินดีและพร้อมจะให้คำแนะนำ และบอกเส้นทางการเดินทางบนถนนสายนักเขียนนี้ให้
แต่หากท้อแท้ขึ้นมาเมื่อไร ลองเปิดเพลงนี้ฟังดู แล้วถามตัวเราเองว่า นักเขียนใช่ความฝันของเราหรือไม่
ด้วยรัก จากพี่คนหนึ่ง
นายพระรอง
นายพระรอง
ความคิดเห็นที่ 2
สวัสดียามเย็น มิตรรักนักเพลงทุกท่าน
ย้อนยุคฟังเพลงไพเราะในอดีต
คำร้อง-ทำนองโดย "ครูบุญช่วย กมลวาทิน"
เพลงที่ครูบุญช่วย กมลวาทินแต่งไว้มีไม่มาก แต่มีความไพเราะและ
ได้รับความนิยมมากเช่น เพลงดาวเคียงเดือน เพลงร้อนเสน่ห์ เพลงสุดระกำ
เพลงอย่าลืม เพลงคิดจะปลูกต้นรักอีกกอ และเพลงฝากรักเอาไว้ในเพลง ฯลฯ
ซึ่งผู้ที่ขับร้องในช่วงแรก ก็คือ ละม่อม กมลวาทิน ผู้เป็นบุตรสาว
โดยเฉพาะเพลง "คิดจะปลูกต้นรักอีกกอ" นั้น ครูสง่า อารัมภีร์
ได้แนะนำให้กับบริษัทกมลสุโกศล นำมาบันทึกแผ่นเสียงใหม่
ขับร้องโดย จินตนา สุขสถิตย์ เมื่อปี พ.ศ.2505 และเพลงนี้
ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ชนะเลิศฝ่ายหญิง
ประเภทเพลงลูกกรุง เมื่อปี พ.ศ.2509
(ประวัติครูบุญช่วย กมลวาทิน โดยคีตา พญาไท)
วันนี้เอา ศรีไศล มาให้ฟังกันค่ะ พี่สาวชอบมากกว่า
คิดจะปลูกต้นรักอีกกอ ศรีไศล สุชาตวุฒิ
https://www.youtube.com/watch?v=Mp60KzGGur4
คำร้อง-ทำนอง บุญช่วย กมลวาทิน
อีกสักเพลงนะคะ "ร้อนเสน่ห์" ชอบเนื้อร้อง ...บรรยายได้ถึงใจ
ร้อนเสน่ห์ แจ้
https://www.youtube.com/watch?v=Kx8z4eg33zA
เนื้อเพลงร้อนเสน่ห์
คำร้อง - ทำนอง : บุญช่วย กมลวาทิน
ร้อนแดดที่แผดที่เผา ยังพอหลบเข้าใต้ต้นพฤกษา
แต่ร้อนรักนั้นหนักอุรา ไม่รู้ว่าจะหลบไปแห่งใด
*เพลิง..ไหม้ที่ลามป่า ยังมีเวลาที่จะดับได้
แต่เพลิงรักนั้นดับมิไหว ก็ด้วยหัวใจของฉันนั้นมั่นคง
...รักอื่นตั้งหมื่นตั้งแสน รักยังไม่แม้นเท่าเธอที่ฉันหลง
ด้วยความรักของฉันนั้นมั่นคง รักจนหลง...พะวงถึงแต่เธอ
*ยาม..เมื่อเธอนอน ให้อาวรณ์อยู่เสมอ
ค่ำคืนเฝ้าฝันกลางวันเฝ้าเพ้อ ด้วยความรักเธอนั้นหนักปักอุรา
...แม้นได้ชื่นชมสมคิด จนแนบสนิทชื่นชิดเสน่หา
ก็จะถนอมน้ำใจกับวาจา ให้สมดังว่าถ้อยคำที่พร่ำรำพัน
*ธรรมชาติสร้างรัก ช่วยชวนชักให้ได้พบกัน
วาสนานำพาให้ร่วมสัมพันธ์ ให้ร่วมรักกัน...เป็นคู่อยู่เคียง
....ให้ร่วมรักกัน เป็นคู่อยู่เคียง.....................
ย้อนยุคฟังเพลงไพเราะในอดีต
คำร้อง-ทำนองโดย "ครูบุญช่วย กมลวาทิน"
เพลงที่ครูบุญช่วย กมลวาทินแต่งไว้มีไม่มาก แต่มีความไพเราะและ
ได้รับความนิยมมากเช่น เพลงดาวเคียงเดือน เพลงร้อนเสน่ห์ เพลงสุดระกำ
เพลงอย่าลืม เพลงคิดจะปลูกต้นรักอีกกอ และเพลงฝากรักเอาไว้ในเพลง ฯลฯ
ซึ่งผู้ที่ขับร้องในช่วงแรก ก็คือ ละม่อม กมลวาทิน ผู้เป็นบุตรสาว
โดยเฉพาะเพลง "คิดจะปลูกต้นรักอีกกอ" นั้น ครูสง่า อารัมภีร์
ได้แนะนำให้กับบริษัทกมลสุโกศล นำมาบันทึกแผ่นเสียงใหม่
ขับร้องโดย จินตนา สุขสถิตย์ เมื่อปี พ.ศ.2505 และเพลงนี้
ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ชนะเลิศฝ่ายหญิง
ประเภทเพลงลูกกรุง เมื่อปี พ.ศ.2509
(ประวัติครูบุญช่วย กมลวาทิน โดยคีตา พญาไท)
วันนี้เอา ศรีไศล มาให้ฟังกันค่ะ พี่สาวชอบมากกว่า
คิดจะปลูกต้นรักอีกกอ ศรีไศล สุชาตวุฒิ
https://www.youtube.com/watch?v=Mp60KzGGur4
คำร้อง-ทำนอง บุญช่วย กมลวาทิน
อีกสักเพลงนะคะ "ร้อนเสน่ห์" ชอบเนื้อร้อง ...บรรยายได้ถึงใจ
ร้อนเสน่ห์ แจ้
https://www.youtube.com/watch?v=Kx8z4eg33zA
เนื้อเพลงร้อนเสน่ห์
คำร้อง - ทำนอง : บุญช่วย กมลวาทิน
ร้อนแดดที่แผดที่เผา ยังพอหลบเข้าใต้ต้นพฤกษา
แต่ร้อนรักนั้นหนักอุรา ไม่รู้ว่าจะหลบไปแห่งใด
*เพลิง..ไหม้ที่ลามป่า ยังมีเวลาที่จะดับได้
แต่เพลิงรักนั้นดับมิไหว ก็ด้วยหัวใจของฉันนั้นมั่นคง
...รักอื่นตั้งหมื่นตั้งแสน รักยังไม่แม้นเท่าเธอที่ฉันหลง
ด้วยความรักของฉันนั้นมั่นคง รักจนหลง...พะวงถึงแต่เธอ
*ยาม..เมื่อเธอนอน ให้อาวรณ์อยู่เสมอ
ค่ำคืนเฝ้าฝันกลางวันเฝ้าเพ้อ ด้วยความรักเธอนั้นหนักปักอุรา
...แม้นได้ชื่นชมสมคิด จนแนบสนิทชื่นชิดเสน่หา
ก็จะถนอมน้ำใจกับวาจา ให้สมดังว่าถ้อยคำที่พร่ำรำพัน
*ธรรมชาติสร้างรัก ช่วยชวนชักให้ได้พบกัน
วาสนานำพาให้ร่วมสัมพันธ์ ให้ร่วมรักกัน...เป็นคู่อยู่เคียง
....ให้ร่วมรักกัน เป็นคู่อยู่เคียง.....................
ความคิดเห็นที่ 54
เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ - Scrubb
https://www.youtube.com/watch?v=dK8FrE1gBaM
อื่นๆอีกมากมาย - เฉลียง
https://www.youtube.com/watch?v=SbUQfvCRAy4
อัลบั้ม อื่นๆ อีกมากมาย ปี พ.ศ.2529
หากถามเธอตรงๆ ว่าเธอรักเหตุใด
ใครตอบได้ไหม เหตุใดรักยั่งยืน
เหตุใดที่รักร้าว กลับหวานเป็นขมขื่น
ตอบกันทั้งวันคืน อื่นๆอีกมากมาย
เด็กหนีไม่ยอมเรียน โดดเรียนเพราะเหตุใด
ลองตอบกันไหม เด็กไปเพราะใจแบ่ง
แม่ให้ไปขายของ ครูสอนไม่ดีเอง
เด็กรักเป็นนักเลง อื่นๆอีกมากมาย
อื่นๆอีกมากมาย (มากมาย)
อีกมากมาย(มากมาย) มากมาย(มากมาย) ที่ไม่รู้
อาจจะจริงเราเห็นอยู่ เผื่อใจไว้ที่ยังไม่เห็น
ต้นไม้จะงามดี ให้มีผลดอกใบ
พรวนแต่งดินไว้ ใส่ใจทุกเช้าค่ำ
เพิ่มดินผสมปุ๋ย ให้น้ำที่ชุ่มฉ่ำ
เด็ดทิ้งที่ใบดำ อื่นๆอีกมากมาย
หากเขาเป็นคนเลว ที่เลวนั้นจากใด
คำตอบมีไว้ ตอบไปก็คนอื่น
อาจเลวเพราะแสนเข็ญ หยาบช้าเพราะขมขื่น
เหตุนำนั้นพันหมื่น อื่นๆอีกมากมาย
อีก 2 เพลงจาก "เฉลียง" ภาษาไม่เพราะพริ้ง กินใจ เป็นภาษาง่ายๆ
แต่มีข้อคิด แบบเด็ก 'ถาปัตย์ มองอะไรแบบที่บางที เราไม่ค่อยนึกถึง ...
แล้วสื่อออกมาเป็นเพลง .....
พี่สาวมีญาติ เป็นอ.จ.'ถาปัตย์ เลยไปดู คอนเสริตอัลบั้มแรกๆ ของเฉลียง
เขาเรียก คอนเสริตปิดอัลบั้ม คือขาย เทป ไปก่อน แน่ใจว่า ดังแล้วถึง
จัดคอนเสริต ....เดาว่าจัดก่อน กลัวเจ๊ง...
https://www.youtube.com/watch?v=dK8FrE1gBaM
อื่นๆอีกมากมาย - เฉลียง
https://www.youtube.com/watch?v=SbUQfvCRAy4
อัลบั้ม อื่นๆ อีกมากมาย ปี พ.ศ.2529
หากถามเธอตรงๆ ว่าเธอรักเหตุใด
ใครตอบได้ไหม เหตุใดรักยั่งยืน
เหตุใดที่รักร้าว กลับหวานเป็นขมขื่น
ตอบกันทั้งวันคืน อื่นๆอีกมากมาย
เด็กหนีไม่ยอมเรียน โดดเรียนเพราะเหตุใด
ลองตอบกันไหม เด็กไปเพราะใจแบ่ง
แม่ให้ไปขายของ ครูสอนไม่ดีเอง
เด็กรักเป็นนักเลง อื่นๆอีกมากมาย
อื่นๆอีกมากมาย (มากมาย)
อีกมากมาย(มากมาย) มากมาย(มากมาย) ที่ไม่รู้
อาจจะจริงเราเห็นอยู่ เผื่อใจไว้ที่ยังไม่เห็น
ต้นไม้จะงามดี ให้มีผลดอกใบ
พรวนแต่งดินไว้ ใส่ใจทุกเช้าค่ำ
เพิ่มดินผสมปุ๋ย ให้น้ำที่ชุ่มฉ่ำ
เด็ดทิ้งที่ใบดำ อื่นๆอีกมากมาย
หากเขาเป็นคนเลว ที่เลวนั้นจากใด
คำตอบมีไว้ ตอบไปก็คนอื่น
อาจเลวเพราะแสนเข็ญ หยาบช้าเพราะขมขื่น
เหตุนำนั้นพันหมื่น อื่นๆอีกมากมาย
อีก 2 เพลงจาก "เฉลียง" ภาษาไม่เพราะพริ้ง กินใจ เป็นภาษาง่ายๆ
แต่มีข้อคิด แบบเด็ก 'ถาปัตย์ มองอะไรแบบที่บางที เราไม่ค่อยนึกถึง ...
แล้วสื่อออกมาเป็นเพลง .....
พี่สาวมีญาติ เป็นอ.จ.'ถาปัตย์ เลยไปดู คอนเสริตอัลบั้มแรกๆ ของเฉลียง
เขาเรียก คอนเสริตปิดอัลบั้ม คือขาย เทป ไปก่อน แน่ใจว่า ดังแล้วถึง
จัดคอนเสริต ....เดาว่าจัดก่อน กลัวเจ๊ง...
ความคิดเห็นที่ 43
แจมด้วยเพลงของ Babara Streisand ครับ
"Woman in Love"
Life is a moment in space
When the dream is gone
It's a lonelier place
I kiss the morning goodbye
But down inside, you know we never know why
The road is narrow and long
When eyes meet eyes
And the feeling is strong
I turn away from the wall
I stumble and fall
But I give you it all
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แฮะๆๆ ขอเอาภาพข่าว ผู้หญิงที่ตกหลุมรักในการทำขนมมาแจมครับ
เป็นภาพของคนที่พวเรารู้จักเธอดีครับ
"Woman in Love of Cooking"
"Woman in Love"
Life is a moment in space
When the dream is gone
It's a lonelier place
I kiss the morning goodbye
But down inside, you know we never know why
The road is narrow and long
When eyes meet eyes
And the feeling is strong
I turn away from the wall
I stumble and fall
But I give you it all
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แฮะๆๆ ขอเอาภาพข่าว ผู้หญิงที่ตกหลุมรักในการทำขนมมาแจมครับ
เป็นภาพของคนที่พวเรารู้จักเธอดีครับ
"Woman in Love of Cooking"
ความคิดเห็นที่ 16
วันนี้ขอเสนอ ภาพยนตร์และเพลงประกอบแนว อาร์ตนะคะ
คือ ภาพยนตร์เรื่อง Mirrormask เป็นหนังที่มีอนิเมชั่นประกอบ
https://www.youtube.com/watch?v=swrcKRVgeGI
เป็นเรื่องของนางเอกที่หลุดเข้าไปอยู่ในโลกที่ตัวเองเป็นคนวาด
ส้มชอบทั้งหนังและเพลงประกอบ ขึ้นหิ้งหนังในดวงใจอีกเรื่องเลย
ส่วนนี่เป็นเพลงประกอบ เพลงเปิดตัวแนวแจ๊ส เหมือนดนตรีละครสัตว์
https://www.youtube.com/watch?v=LqzvG1S-4Do&list=PL400CF65207F825A4&index=1
เพลงที่สองนำเพลง Close to You ของ the Carpenters มาร้องใหม่
https://www.youtube.com/watch?v=re-6eOhrejE
เพลงสุดท้ายเป็นเพลงจบ แนวอินดี้มากๆ If I Apologized
https://www.youtube.com/watch?v=WfxzM_sIsSk
คือ ภาพยนตร์เรื่อง Mirrormask เป็นหนังที่มีอนิเมชั่นประกอบ
https://www.youtube.com/watch?v=swrcKRVgeGI
เป็นเรื่องของนางเอกที่หลุดเข้าไปอยู่ในโลกที่ตัวเองเป็นคนวาด
ส้มชอบทั้งหนังและเพลงประกอบ ขึ้นหิ้งหนังในดวงใจอีกเรื่องเลย
ส่วนนี่เป็นเพลงประกอบ เพลงเปิดตัวแนวแจ๊ส เหมือนดนตรีละครสัตว์
https://www.youtube.com/watch?v=LqzvG1S-4Do&list=PL400CF65207F825A4&index=1
เพลงที่สองนำเพลง Close to You ของ the Carpenters มาร้องใหม่
https://www.youtube.com/watch?v=re-6eOhrejE
เพลงสุดท้ายเป็นเพลงจบ แนวอินดี้มากๆ If I Apologized
https://www.youtube.com/watch?v=WfxzM_sIsSk
แสดงความคิดเห็น
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 22/9/2015
***สวัสดีครับเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
สวัสดีครับเพื่อนๆวันนี้เรเซอร์เอ๊กซ์รับหน้าที่เป็น MC ขอต้อนรับเพื่อนๆเข้าสู่ห้องเพลงฯของพวกเราครับ เมื่อเห็นผมก็ต้องเห็นไทม์แมชชีนเป็นของคู่กันแน่นอน เอ้า...รีบขึ้นมาเลยครับ...ไปท่องกาลเวลากันครับ
Credit:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่ 22 กันยายน ในอดีต
เหตุการณ์:
พ.ศ. 2431 (ค.ศ. 1888) - เริ่มเดินรถรางในสยามโดยใช้ม้าเทียมในวันนี้ จากหลักเมืองถึงบางคอแหลม
พ.ศ. 2431 (ค.ศ. 1888) - มีการตีพิมพ์นิตยสารเนชันแนลจีโอกราฟิกฉบับแรก
National Geographic. Around the world in 125 years
Credit: https://www.youtube.com/watch?v=TtXpp1bNqbs
พ.ศ. 2554 (ค.ศ. 2011) - นักวิทยาศาสตร์เซิร์นประกาศการค้นพบนิวตริโนเคลื่อนที่เร็วกว่าแสง
CERN OPERA neutrinos travel faster than light, Sep 22, 2011
Credit: https://www.youtube.com/watch?v=jAa2ll22jJk
วันเกิด:
พ.ศ. 2334 (ค.ศ. 1791) - ไมเคิล ฟาราเดย์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ (ถึงแก่กรรม พ.ศ. 2410)
Michael Faraday Biography
Credit: https://www.youtube.com/watch?v=dNXdF12U4wo
พ.ศ. 2519 (ค.ศ. 1976) - โรนัลโด นักฟุตบอลชาวบราซิล
Ronaldo Luís Nazário de Lima - Skills and Goals HD
Credit: https://www.youtube.com/watch?v=LHuVntiOpfU
พ.ศ. 2530 (ค.ศ. 1987) - ทอม เฟลตัน นักแสดงและนักดนตรีชาวอังกฤษ
10 Reasons to Love Tom Felton/Draco Malfoy
Credit: https://www.youtube.com/watch?v=BkNmH81WRFY
วันสำคัญและวันหยุดเทศกาล:
วันปลอดรถ (World Car Free Day)
บัลแกเรีย - วันประกาศเอกราช
มาลี - วันประกาศเอกราช
วันนี้ในบันเทิงคดี:
วันเกิดของ โฟรโด แบ๊กกิ้นส์ และ บิลโบ แบ๊กกิ้นส์
Frodo Baggins | There is no going back
Credit: https://www.youtube.com/watch?v=PJrWlhZ_uDY
วันเกิดของนารา ชิกามารุจากนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ
Naruto AMV - Nara Shikamaru
Credit: https://www.youtube.com/watch?v=fWDt919eAjk
ห้องเพลงคนรากหญ้า