[หมั่นคอยเอาความรู้สึกไม่ดี ไปทิ้งขยะบ้าง]



เรื่องของเรื่องก็คือ
เมื่อวานผมทำถังขยะแตก!!!

ถังขยะใบเล็กๆ ใต้โต๊ะทำงานของผมเอง
หลายคนอาจสงสัยว่าผมไปทำอีท่าไหน ถังขยะถึงได้แตกได้
ถ้าผมเล่า..หลายคนคงนึกภาพตามได้ไม่ยาก
ที่เจ้าถังขยะเคราะห์ร้ายมันต้องจากโลกนี้ไป
เพราะมันแบกรับขยะไว้มากเกินไปครับ
ขยะที่ผมพยายามยัดมันลงไปทุกวันๆ จนเต็ม จนแน่น
และด้วยความขี้เกียจเดินเอาขยะไปทิ้ง
ผมเลยใช้วิธีการที่ใครหลายๆคนอาจเคยทำกัน คือเอาเท้าเหยียบขยะในนั้น
ให้อัดแน่นลงไป เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างในถัง ให้ยังสามารถทิ้งขยะ "เพิ่ม" ลงไปได้
โดยที่ผมไม่ต้องลุกจากโต๊ะทำงาน เพื่อเอาขยะไปทิ้งนอกบ้าน

แต่เช้าวันนั้น เจ้าถังขยะคงแบกรับขยะที่ถูกอัดแน่นอยู่ข้างในไม่ไหวอีกต่อไป
ทันทีที่ผมออกแรงเหยียบ ถังขยะที่เคยทำงานเคียงข้างผมมาตลอด
ก็ส่งเสียงแตกดังเปรี๊ยะ พร้อมกับรอยร้าวด้านข้างขนาดใหญ่

นั่นแหละครับ ภาพความทรงจำสุดท้ายระหว่างผม กับเจ้าถังขยะ
ที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานาน สรุปแล้วเช้าวันนั้น
ผมจึงต้องเดินหิ้วถังขยะออกไปทิ้งที่ถังขยะใบใหญ่ของเทศบาลที่หน้าบ้าน
ต่างกันตรงที่คราวนี้ "การทิ้งขยะ" ง่ายกว่าทุกครั้งมาก
คือไม่ต้องพยายามแงะขยะที่ถูกอัดแน่นอยู่ก้นถังออกไป
แต่แค่โยนถังขยะทั้งใบทิ้งลงไปเลยทีเดียวเลย..

นี่เป็นเรื่องเศร้า..

ผมยืนยันว่าผมรู้สึกเศร้า ขณะที่กำลังยืนมองถังขยะใบน้อยของผม
นอนนิ่งจมกองขยะสกปรกอยู่ในถังเทศบาลใบใหญ่ ผมจ้องมองรอยร้าวที่เกิดจาก
ความขี้เกียจของผมเอง สิ่งที่ผมคิดคือ..

ในชีวิตของเรา เราสร้างรอยร้าวแบบนี้
ให้กับตัวเอง หรือคนที่เรารักไว้มากแค่ไหนกัน โดยที่เราไม่รู้ตัว

รอยร้าวที่เกิดจากการที่เรา มีขยะบางอย่าง ก่อตัวขึ้นมาในจิตใจ
แต่เราไม่ยอมเอาขยะเหล่านั้นไปทิ้ง แต่เลือกที่จะกด และเหยียบขยะเหล่านั้น
ให้อัดแน่นลงไปในจิตใจของเรา โดยที่เราลืมคิดไปว่า จิตใจของคนเรา
ก็อาจไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากถังขยะใบเล็กๆใบนี้ ที่แบกรับขยะได้อย่างจำกัด
ถ้าขืนเราเอาแต่เก็บ กด และซ่อนขยะที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเอาไว้กับตัวเอง
วันหนึ่ง จิตใจของเรา ก็อาจรับภาระแบกรับความรู้สึกเหล่านั้นไว้ไม่ไหวอีกต่อไป
และเมื่อนั้น จิตใจก็อาจเกิดรอยร้าว ที่ต่อให้เราเอาขยะทั้งหมดออกไปทิ้ง
ก็ไม่สามารถเยียวยารอยร้าว ที่เกิดขึ้น ให้กลับมามีสภาพเหมือนเดิมได้อีกแล้ว

ในชีวิตของเรา มีเรื่องมากมายที่เกิดขึ้น และเป็นเหมือนกับ "ขยะ"
เรื่องที่ทำให้เราทะเลาะกัน แต่ไม่ยอมทำความเข้าใจกัน
เรื่องที่เราไปได้ยินมา ไปได้เห็นมา แต่ไม่ยอมพูด ไม่ยอมถามกันตรงๆ
เรื่องที่ทำให้เราพูดจารุนแรงใส่กัน แล้วเราก็ปล่อยให้เหตุการณ์นั้นผ่านไป
และทำเหมือนกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
หรือเรื่องที่เรา "คิด" ถึงมันทั้งวัน แต่เราไม่ยอม "พูด" มันออกมา
เรื่องราวเหล่านั้นแหละ ที่เป็นเหมือนกับขยะ ที่เราทิ้งมันเอาไว้ในจิตใจของเรา
เรื่องที่เราพยายามลืมมันไป แต่เชื่อเถอะว่าเรายังนึกถึงมันอยู่ทุกๆวัน
เรื่องที่เราคิดว่าเดี๋ยววันหนึ่งเราก็จะลืมมันไปได้เอง หรือเดี๋ยวมันก็คงดีขึ้นเอง

แต่ขยะ.. ถ้าเราไม่เอามันไปทิ้ง มันก็ไม่มีวันหายไปไหน

สิ่งที่เราทำอยู่ ก็คือการเหยียบ กดเรื่องราวบาดหมาง ความไม่เข้าใจให้อัดลึก
ฝังแน่นลงไปในจิตใจ จนมันทับถมกันมากขึ้นเรื่อย
จนวันหนึ่ง เมื่อเหตุการณ์แบบเดิมๆ เกิดขึ้นซ้ำอีก
และถึงจุดที่จิตใจแบกรับขยะนั้นไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
จิตใจก็จะแตกร้าว และปล่อยขยะที่เคยอัดแน่นอยู่ในนั้น
ให้พรั่งพรูออกมา และเมื่อถึงตอนนั้นเราเองนั่นแหละ
ที่ต้องเป็นคนไล่เก็บขยะที่หกเกลื่อนกลาด ด้วยหัวใจที่แตกสลายไปเรียบร้อยแล้ว

อย่าเก็บขยะไว้นานเกินไป หมั่นเอาความรู้สึกที่ไม่ดีออกไปทิ้งบ้าง
"เคลียร์" ขยะในใจบ้าง จิตใจของเราอาจเข็มแข็ง แต่มันไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้น
อย่ารอให้ถังขยะแตกจนพัง และใช้การไม่ได้ แล้วค่อยมานึกได้ว่า
เราน่าจะเอาขยะในนั้นไปทิ้ง ให้เร็วกว่านี้...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่