ส่วนตัว เป็นคนไม่เชื่อเรื่องผี ทั้งชีวิตเรียนมาสายวิทย์ เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้
ทีนี้ทำไมถึงมาอยากพิสูจน์ผี ขอเล่าคร่าวๆก่อน ส่วนตัว จขกท มีอาการ sleep paralysis บ่อยๆ และมักเห็นภาพและเสียง ขณะเกิดอาการ ซึ่งนั่นเป็นปรกติของภาวะ sleep paralysis แต่ร่างกายโดยรวมปรกติดี ไม่เคยเห็นภาพและเสียงหลอนตอนตื่นเต็มตัว ไม่เคยคิดว่าภาพและเสียงที่เห็นขณะเกิดอาการเป็นผีนะคะ แต่ คือเคยมีอยู่สองเหตุการณ์หลักๆ ที่ทำให้เอะใจ ถึงการมีอยู่ของอีกโลกหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่ใช่ผี (แต่ขอเรียกว่าผีละกันเพื่อความเข้าใจตรงกัน) ครั้งแรก เมื่อนานมาแล้ว ครอบครัว จขกท ย้ายบ้าน ไปอยู่บ้านที่ซื้อต่อมา จขกท ก็นอนและเกิดอาการ sleep paralysis ตามปรกติ และเห็นชายแก่ผิวคล้ำหลังค่อม หน้าตาแขกๆ เปิดประตูห้องเข้ามา ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เตียงที่เรานอน ตอนนั้นมีสติครบถ้วน ก็สลัดภาวะนั้นออก จนตื่นขึ้น (ซึ่งเป็นปรกติที่เคยทำประจำเมื่อเกิดภาวะ sleep paralysis) แต่ที่แปลกคือ แม่ของ จขกท ก็เห็นด้วย เพราะแม่มาเล่าว่าฝันเห็นชายแก่ ผิวคล้ำ หน้าแขก เดินเข้าห้องของ จขกท
คำถามคือ ทำไมแม่ถึงเห็นชายแก่ลักษณะเดียวกับที่เราเห็นโดยที่เรายังไม่ได้เล่าให้แม่ฟัง (และหลังจากนั้นเราก็เห็นชายแก่คนนั้นขณะเกิดอาการ sleep paralysis อีกประมาณสองครั้ง) เรื่องนั้นจบไป เพราะครอบครัวเราได้ย้ายออกจากบ้านหลังนั้น ไม่ใช่เพราะกลัวผี และเพราะเหตุอื่น
เหตุการณ์ที่สอง จขกท ไปเที่ยวพัทยากับเพื่อน พักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เป็นห้องที่มีห้องรับแขก และห้องนอน แยกกัน คืนนั้น จขกท ฝันว่าเดินออกมาเข้าห้องน้ำ(สถานที่ในฝันก็คือห้องในโรงแรม) ขณะเดินออกมาเจอเด็กผู้หญิงใส่ชุดสีแดงอายุประมาณ 3-4 ขวบ วิ่งเข้ามาหา ไอ้เราก็นึกว่าเด็กจะวิ่งมาหาเรา ปรากฏว่าเปล่า เด็กวิ่งผ่านเราไป เราหันกลับไปมอง เจอผู้ชายหนุ่มๆแต่งตัวสะอาด ใส่แว่น อุ้มเด็กหญิงนั้นขึ้นมา และทั้งคู่มองมาทางเราแบบทำหน้าแปลกใจ เราตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้คิดอะไร และเช้าวันนั้นเพื่อนที่มาพักด้วยกันบอกว่าอยากรีบออกจากห้องนี้ เพราะนึกได้ถึงเรื่องที่ฝัน แล้วเพื่อนก็เล่าฝัน ว่าฝันว่านอนอยู่ ได้ยินเสียงทีวีเปิดดัง ก็เลยเดินออกมานอกห้อง มาที่ห้องรับแขก ปรากฏว่าเห็นเด็กหญิงชุดแดงอายุประมาณ 3-4 ขวบ กับชายใส่แว่นนั่งดูทีวีกันอยู่ และทั้งสองคนก็หันมามองด้วยสายตางุนงง ที่แปลกคือ จขกท ยังไม่ทันได้เล่าฝันให้เพื่อนฟัง ทำไมเพื่อนฝันเห็นสองคนนั้นเหมือนกัน
สองเหตุการณ์นี้ทำให้เราคิดว่า อาจจะมีโลกอีกโลกหนึ่งที่ซ้อนทับกับโลกที่เราอยู่ ซึ่งถ้ามีจริง อาจเป็นต้นตอของเรื่องผีต่างๆ ที่เล่าๆกันมาแต่โบราญก็ได้ เพียงแต่วิทยาศาสตร์ยังไม่พัฒนาถึงจุดที่ทำให้คนเรามองเห็นโลกนั้นได้ แต่การจะเริ่มพัฒนาไปสู่ขั้นนั้น ก็ต้องเริ่มมีสมมติฐานก่อน ถ้ามีคนอ้างว่า เคยเห็น ผี ที่ไหน โดยทำอย่างไร เราจะทำซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ สมมติร้อยครั้ง โดยผู้สังเกตร้อยคน โดยที่เป็น double blind จะมีการจดบันทึก ถ้าพบว่ามีการพบเห็นสิ่งที่เหมือน หรือคล้ายกัน โดยผู้สังเกตจำนวนหนึ่ง ก็น่าจะสามารถนำไปต่อยอดงานวิจัยได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การที่มนุษย์สามารถสร้าง สิ่งที่จะนำไปพบกับอีกโลกหนึ่งที่คู่ขนานอยู่ (ถ้ามีจริง)
ปล. ไม่เห็นด้วยกับความเชื่อที่งมงาย และไม่ได้สนับสนุนให้คนไทยงมงาย
อยากตั้งชมรมพิสูจน์ผี จะเป็นไปได้หรือไม่
ทีนี้ทำไมถึงมาอยากพิสูจน์ผี ขอเล่าคร่าวๆก่อน ส่วนตัว จขกท มีอาการ sleep paralysis บ่อยๆ และมักเห็นภาพและเสียง ขณะเกิดอาการ ซึ่งนั่นเป็นปรกติของภาวะ sleep paralysis แต่ร่างกายโดยรวมปรกติดี ไม่เคยเห็นภาพและเสียงหลอนตอนตื่นเต็มตัว ไม่เคยคิดว่าภาพและเสียงที่เห็นขณะเกิดอาการเป็นผีนะคะ แต่ คือเคยมีอยู่สองเหตุการณ์หลักๆ ที่ทำให้เอะใจ ถึงการมีอยู่ของอีกโลกหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่ใช่ผี (แต่ขอเรียกว่าผีละกันเพื่อความเข้าใจตรงกัน) ครั้งแรก เมื่อนานมาแล้ว ครอบครัว จขกท ย้ายบ้าน ไปอยู่บ้านที่ซื้อต่อมา จขกท ก็นอนและเกิดอาการ sleep paralysis ตามปรกติ และเห็นชายแก่ผิวคล้ำหลังค่อม หน้าตาแขกๆ เปิดประตูห้องเข้ามา ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เตียงที่เรานอน ตอนนั้นมีสติครบถ้วน ก็สลัดภาวะนั้นออก จนตื่นขึ้น (ซึ่งเป็นปรกติที่เคยทำประจำเมื่อเกิดภาวะ sleep paralysis) แต่ที่แปลกคือ แม่ของ จขกท ก็เห็นด้วย เพราะแม่มาเล่าว่าฝันเห็นชายแก่ ผิวคล้ำ หน้าแขก เดินเข้าห้องของ จขกท
คำถามคือ ทำไมแม่ถึงเห็นชายแก่ลักษณะเดียวกับที่เราเห็นโดยที่เรายังไม่ได้เล่าให้แม่ฟัง (และหลังจากนั้นเราก็เห็นชายแก่คนนั้นขณะเกิดอาการ sleep paralysis อีกประมาณสองครั้ง) เรื่องนั้นจบไป เพราะครอบครัวเราได้ย้ายออกจากบ้านหลังนั้น ไม่ใช่เพราะกลัวผี และเพราะเหตุอื่น
เหตุการณ์ที่สอง จขกท ไปเที่ยวพัทยากับเพื่อน พักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เป็นห้องที่มีห้องรับแขก และห้องนอน แยกกัน คืนนั้น จขกท ฝันว่าเดินออกมาเข้าห้องน้ำ(สถานที่ในฝันก็คือห้องในโรงแรม) ขณะเดินออกมาเจอเด็กผู้หญิงใส่ชุดสีแดงอายุประมาณ 3-4 ขวบ วิ่งเข้ามาหา ไอ้เราก็นึกว่าเด็กจะวิ่งมาหาเรา ปรากฏว่าเปล่า เด็กวิ่งผ่านเราไป เราหันกลับไปมอง เจอผู้ชายหนุ่มๆแต่งตัวสะอาด ใส่แว่น อุ้มเด็กหญิงนั้นขึ้นมา และทั้งคู่มองมาทางเราแบบทำหน้าแปลกใจ เราตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้คิดอะไร และเช้าวันนั้นเพื่อนที่มาพักด้วยกันบอกว่าอยากรีบออกจากห้องนี้ เพราะนึกได้ถึงเรื่องที่ฝัน แล้วเพื่อนก็เล่าฝัน ว่าฝันว่านอนอยู่ ได้ยินเสียงทีวีเปิดดัง ก็เลยเดินออกมานอกห้อง มาที่ห้องรับแขก ปรากฏว่าเห็นเด็กหญิงชุดแดงอายุประมาณ 3-4 ขวบ กับชายใส่แว่นนั่งดูทีวีกันอยู่ และทั้งสองคนก็หันมามองด้วยสายตางุนงง ที่แปลกคือ จขกท ยังไม่ทันได้เล่าฝันให้เพื่อนฟัง ทำไมเพื่อนฝันเห็นสองคนนั้นเหมือนกัน
สองเหตุการณ์นี้ทำให้เราคิดว่า อาจจะมีโลกอีกโลกหนึ่งที่ซ้อนทับกับโลกที่เราอยู่ ซึ่งถ้ามีจริง อาจเป็นต้นตอของเรื่องผีต่างๆ ที่เล่าๆกันมาแต่โบราญก็ได้ เพียงแต่วิทยาศาสตร์ยังไม่พัฒนาถึงจุดที่ทำให้คนเรามองเห็นโลกนั้นได้ แต่การจะเริ่มพัฒนาไปสู่ขั้นนั้น ก็ต้องเริ่มมีสมมติฐานก่อน ถ้ามีคนอ้างว่า เคยเห็น ผี ที่ไหน โดยทำอย่างไร เราจะทำซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ สมมติร้อยครั้ง โดยผู้สังเกตร้อยคน โดยที่เป็น double blind จะมีการจดบันทึก ถ้าพบว่ามีการพบเห็นสิ่งที่เหมือน หรือคล้ายกัน โดยผู้สังเกตจำนวนหนึ่ง ก็น่าจะสามารถนำไปต่อยอดงานวิจัยได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การที่มนุษย์สามารถสร้าง สิ่งที่จะนำไปพบกับอีกโลกหนึ่งที่คู่ขนานอยู่ (ถ้ามีจริง)
ปล. ไม่เห็นด้วยกับความเชื่อที่งมงาย และไม่ได้สนับสนุนให้คนไทยงมงาย