ผมเป็นพุทธเพราะฝรั่ง

"ผมเป็นพุทธ" ในคำนิยามของผมคือ "การไม่เชื่อเรื่องทรงเจ้า ไม่เชื่อเรื่องหมอดู ไม่พกพระเหรียญ ไม่กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปทั่ว ไม่ศรัทธาอย่างบ้าคลั่ง ไม่ไหว้ตะพึดตะพือ ผมไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่ซื้อหวย และไม่ดูหมิ่นศรัทธาที่เห็นต่าง" นี้แหละเป็นคำสอนเบื้องต้น ในพุทธศาสนาเลย ผมมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร.....

สมัยตอนเรียนมัธยม ผมได้มีโอกาสไปประเทศอินเดีย ไปไหว้สังเวชฯ ตอนไปไหว้ ผมก็ไม่ได้เกิดความประทับใจอะไร เพราะความเป็นเด็ก มีแต่ซากปรักหักพังของวัดต่างๆ พระบรรยายผมก็ไม่ค่อยฟัง ตอนนั้นถามแม่ว่า ทำไมเราต้องมาไหว้ แล้วแม่ก็เอามืออุบปากผมเอาไว้ เพราะผมถามเสียงดัง พระที่ท่านบรรยายอยู่ ท่านก็หันมายิ้ม แม่บอกว่า "อีกหน่อยหนูโตขึ้น หนูจะรู้เหตุผลเอง"

ปีต่อมา พอผมรู้แนวทางอนาคต ผมก็อยากไปเรียนภาษาที่ ธารามศาลา (Dharamsala) สถานที่องค์ดาไลลามะ พำนักที่อินเดีย เพราะผมรู้ข้อมูลมาว่า มีฝรั่งมาพักเยอะ และเขาเปิดสอนภาษาอังกฤษ ผมก็เลยมากับเพื่อนอีกสองคน เพราะผมรู้ว่าผมจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศอย่างแน่นอน เลยมาเรียนภาษา 3 เดือน ทำไมต้องมาที่นี้นะหรือ เพราะผมชอบสถานที่ บรรยายกาศ ค่าเรียนไม่แพง อีกอย่างผมเคยไปเลห์ ลาดัคมา ชอบอารมณ์แนวนี้

ฝรั่งที่มาที่นี้ ส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัคร สอนภาษา มาเรียนพุทธศาสนาสายธิเบต (วัชรยาน) เรียนสมาธิ บางคนก็มา อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่า ได้มาจับมือถือแขนกับองค์ดาไลลามะ ผมมาเรียนภาษาอังกฤษ แต่สิ่งที่อาจารย์ฝรั่งพูดกรอกหูทุกวันก็คือ การใช้ชีวิตบนความเรียบง่าย harmony with peace ผมมานึกๆดูก็ขำตัวเอง แม่พูดกรอกหูทุกวัน ดันไม่เชื่อฟัง โดนฝรั่งพูดกรอกหู เดือนหนึ่ง ผมเลยไปฟังองค์ดาไลลามะเทศน์ เดือนสุดท้าย ก่อนจะกลับ ผมจะไปนั่งฟังท่านเทศน์ ท่านก็เทศน์ไปหัวเราะไป สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจ ท่านเทศน์เรื่อง happiness และคนที่นั่งฟัง หัวเหลืองทั้งนั้น คนไม่มีประเทศอยู่ เทศน์ให้คนที่คิดว่าตัวเองเจริญด้วยวัตถุฟัง "เทศน์เรื่องความสุขด้วยนะ" ตอนที่ผมไปริชาร์ด เกียร์ก็มา มาเข้าเฝ้าองค์ดาไลลามะพอดี และมาสวดมนต์ และนั่งสมาธิ ผมนั่งอยู่ท้ายสุดแถว บารมีได้แค่นี้ มารู้ภายหลังแกเป็นศิษย์ก้นกุฎิ เลยได้นั่งเกาะขาธรรมมาสน์  หลังจากกลับมา อารมณ์ยังค้าง ผมก็ไปอบรมสมาธิที่วัดเขาสุกิมต่อ โดยเพื่อนชวน ก่อนจะไปเรียนต่อ

อาจเป็นเพราะที่ผ่านมา ผมนับถือพุทธตามสำเนาทะเบียนบ้าน เลยไม่ค่อยได้ใช้พุทธศาสนาเป็นแผนที่ชีวิตอย่างจริงจัง พอได้เอาคำสอนแค่เรื่องพื้นๆ "ศีล 5 และเรื่องความมีเหตุมีผล" มาใช้ ผมว่า ไม่มีเรื่องอะไรที่พระพุทธเจ้าไม่สอน โดยเฉพาะเรื่องจิต ความคิด คำสอนเป็นเหตุเป็นผลมาก เวลาแม่พาผมไปเที่ยว พารอดใต้ท้องช้างบ้าง ผมก็มักจะเบรคแม่ตลอด "หากรวย คนเลี้ยงเขารวยไปนานแล้วแม่" บูชาเทพเจ้าของพวกฮินดู ผมก็มักจะแซวแม่ว่า ผมเป็นพุทธ  บางคราวพี่ในที่ทำงาน "พาไปดูดวง ผมก็มักจะเตือนสติว่า "คนที่รู้กรรมที่ดีที่สุด ก็คือตัวเรานี้แหละ คนที่แก้กรรมได้ดีก็คือตัวเรานี้แหละ แก้กรรมขอแค่พี่เปลี่ยนพฤติกรรมก็พอ ไม่ใช่ด้วยพิธีกรรม เป็นชาวพุทธต้องมีปัญญา"

หากจะให้คะแนนความเป็นพุทธบริสุทธิ์ ผมว่า อย่างน้อยก็ 80-90 เปอร์เซนต์ ทุกวันนี้ ผมก็ทำบุญปกติ ให้ทาน รักษาศีล เสียดายเรื่องภาวนาผมทำน้อยมาก อยากเข้าไปหาครูบาอาจารย์อีกสักครั้ง ต่อยอดอารมณ์ ครั้งที่เคยได้สัมผัสครั้งแรก ตอนนั่งสมาธิ หากคนที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้ผมเข้าสู่ความเป็นพุทธ จะใช้คำว่า ผมเป็นพุทธได้เพราะฝรั่ง ก็คงไม่เวอร์เกินไป ทุกวันนี้ มันส่งผลย้อนกลับครอบครัวผม นั่นก็คือ แม่เริ่มเบาบางลง เรื่องพวกไสย เพราะที่บ้านค้าขาย มีอะไรที่เชื่อว่า จะค้าขายร่ำรวย แม่ก็จะบูชา ทุกวันนี้เชื่อพระพุทธเจ้า "บุคคลจะล่วงความทุกข์ยากลำบากได้ เพราะอาศัยความเพียร"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่