Jess Glynne - Don't Be So Hard On Yourself แปลเพลงเพราะความหมายดี

มือใหม่หัดแปลผิดพลาดยังไงแนะนำด้วยนะครับ
ถือเป็นการฝึกภาษาไปในตัวอีกอย่าง
เก็บไว้ฟังคนเดียวไม่ไหวด้วยหาคนแปลก็ยังไม่มีเลยทำเองซะเลย5555


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



Don't Be So Hard On Yourself

I camยิ้ม with a broken heart that no one else could see ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่แตกสลายนะ แต่ไม่มีใครเห็นเลย
I drew a smile on my face to paper over me. ฉันแปะรอยยิ้มไว้บนหน้าของฉัน เพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงฉันไว้
The wounds heal and tears dry and cracks they don't show
รอยแผลหายดีเมื่อน้ำตาสิ้นสุดลง
บอกไม่ได้หรอกว่าต้องทำยังไง
So don't be so hard on yourself, no
แค่ไม่กดดันตัวเองมากนัก, อย่ากดดันตัวเอง

Let's go back to  simplicity
มาสิ กลับสู่ความเรียบง่ายดั่งเดิม
I feel like I've been missing me
รู้สึกไหมว่าลืมตัวเองไปน่ะ
Was not who I'm supposed to be
นี้ไม่ใช่ฉันที่ดีที่สุด ไม่ใช่ฉันที่ฉันควรจะเป็น
I felt this darkness over me
ไม่เบิกบานอย่างที่ควรจะเป็นใช่รึป่าว?
We all get there eventually
เราต่างมาถึงในที่สุด
I never knew where I belonged
ฉันไม่รู้หรอก ว่าเป็นส่วนหนึ่งของที่ไหน
But I was right and you were wrong
แต่ที่แน่ๆฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันถูก เธอน่ะผิดถนัด
Been telling myself all along
ฉันมั่นใจ ฉันบอกในใจกับตัวเอง


Don't be so hard on yourself, no
อย่ากดดันตัวเองมากไปเลย อย่าเลย
Learn to forgive, learn to let go
เรียนรู้ที่จะให้อภัย เรียนรู้ที่จะปล่อยมันไป
Everyone trips, everyone falls
ทุกคนออกเดินทาง และเขาก็ล้มเหมือนกัน
So don't be so hard on yourself, no
ดังนั้นอย่าบับคั้นตัวเองมากไปเลย
Because I'm just tired of marching on my own
เพราะฉันก็แค่พยายามเดินมุ่งไปตามทางของฉันอย่างสม่ำเสมอ
Kind of frail, I feel it in my bones
ล้มบ้าง เจ็บไปถึงกระดูกเลยล่ะ
Oh let my heart, my heart turn into stone
ปล่อยให้ใจฉันเรียนรู้ ให้ใจฉันแกร่งดังศิลา
So don't be so hard on yourself, no
อย่าบับคั้นตัวเองมากไปเลย อย่าเลย

I'm standin' on top of the world, right where I wanna be
ฉันยืนอยู่บนจุดสูงสุด ที่ๆใจฉันต้องการ
So how can this dark cloud keep raining over me
แม้จะมีพายุฝนกระหน่ำ มืดมนแค่ไหน
But hearts break and hells a place that everyone knows
แต่ฉันรู้จักที่ๆเลวร้ายกว่านั้นมาก ที่ๆเคยสัมผัสมาแล้ว
So don't be so hard on yourself, no
อย่ากดดันตัวเองมากไปเลย

Let's go back to  simplicity
มาสิ กลับสู่ความเรียบง่ายดั่งเดิม
I feel like I've been missing me
รู้สึกไหมว่าลืมตัวเองไปน่ะ
Was not who I'm supposed to be
นี้ไม่ใช่ฉันที่ดีที่สุด ไม่ใช่ฉันที่ฉันควรจะเป็น
I felt this darkness over me
ไม่เบิกบานอย่างที่ควรจะเป็นใช่รึป่าว?
We all get there eventually
สุดท้ายเราได้มาถึง
I never knew where I belonged
ฉันไม่รู้หรอก ว่าเป็นส่วนหนึ่งของที่ไหน
But I was right and you were wrong
แต่ที่แน่ๆฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันถูก เธอน่ะผิดถนัด
Been telling myself all along
ฉันมั่นใจ ฉันบอกในใจกับตัวเอง

Don't be so hard on yourself, no
อย่ากดดันตัวเองมากไปเลย อย่าเลย
Learn to forgive, learn to let go
เรียนรู้ที่จะให้อภัย เรียนรู้ที่จะปล่อยมันไป
Everyone trips, everyone falls
ทุกคนออกเดินทาง และเขาก็ล้มเหมือนกัน
So don't be so hard on yourself, no
ดังนั้นอย่าบับคั้นตัวเองมากไปเลย
Because I'm just tired of marching on my own
เพราะฉันก็แค่พยายามเดินมุ่งไปตามทางของฉันอย่างสม่ำเสมอ
Kind of frail, I feel it in my bones
ล้มบ้าง เจ็บไปถึงกระดูกเลยล่ะ
Oh let my heart, my heart turn into stone
ปล่อยให้ใจฉันเรียนรู้ ให้ใจฉันแกร่งดังศิลา
So don't be so hard on yourself, no
อย่าบับคั้นตัวเองมากไปเลย อย่าเลย

Oh, Oh, Oh, I
ในที่สุด
I learned to wave goodbye
ฉันเรียนรู้ที่จะโบกมือลา
How not to see my life
Through someone else's eyes
รู้ว่าจะไม่มองตัวเองด้วยสายตาของคนอื่น
It's not an easy road
ไม่ใช่หนทางที่ง่ายนักหรอก
But now I'm not alone
แต่ตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ
So I, I won't be so hard on myself no more
เช่นนั้น ฉันจะไม่กดดันตัวเองมากเกินไปอีกต่อไปแล้ว ไม่อีกแล้ว







ปล.คิดว่าเพลงมีความหมายให้กำลังใจคนที่ต้องการมันมากๆเลยขอแท็กปัญหาชีวิตด้วยนะครับยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่