SPOIL !! Avengers: Age of ultron (2015)
Anthony Edward "Tony" Stark เกิดวันที่ 29 พฤษภาคม 1970 แม่คือ Maria Stark พ่อคือ Howard Stark วิศวกรผู้ปราดเปรื่อง และหนึ่งในสามผู้ก่อตั้ง S.H.I.E.L.D. โทนี่เติบโตมากับ Edwin Jarvis พ่อบ้านชาวอังกฤษผู้แสนดีของครอบครัวสตาร์ค จึงทำให้โทนี่นั้นรักและเคารพจาร์วิสเหมือนญาติผู้ใหญ่คนนึงเลยทีเดียว และฮาเวิร์ดพ่อของโทนี่ก็ตั้งกฎว่า โทนี่ต้องอยู่ในการดูแลและให้จาร์วิสเป็นพี่เลี้ยงจวบจนกระทั่งอายุ 14 ปี จึงจะเป็นอิสระ
ในวัยเด็ก โทนี่มักได้รับการบอกเล่ากล่าวถึงตำนานวีรบุรุษสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างกัปตันอเมริกาจากพ่ออยู่บ่อยๆ จึงทำให้โทนี่รู้ว่าพ่อของตนและกัปตันอเมริกานั้นสนิทสนมกันมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โทนี่จึงมีปมหมั่นไส้สตีฟอยู่นิดๆตั้งแต่เด็ก เมื่อเข้าสู่ไฮสคูลในโรงเรียนประจำ โทนี่ก็ได้รู้จักกับ เจมส์ โรดส์ ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันในที่สุด โทนี่นั้นเป็นนักประดิษฐ์คิดค้นมาตั้งแต่วัยรุ่น จึงทำให้โทนี่เรียนจบ MIT และได้รับปริญญาตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปีซะด้วยซ้ำ
ปี 1991 โทนี่อายุ 21 ปี ฮาเวิร์ดและมาเรียพ่อแม่ของโทนี่ก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนตร์ โอบาเดอา สเตน เพื่อนของฮาเวิร์ดและบอร์ดบริหารของบริษัทสตาร์คอินดรัสทรีส์ จึงเข้ามาบริหารงานให้บริษัทชั่วคราว เพราะโทนี่ยังไม่พร้อม ในปีเดียวกันนั้นเอง โทนี่ก็ต้องมาสูญเสียพ่อบ้านจาร์วิสไปอีกคน ทำให้โทนี่ไม่เหลือใครเลย
***(จาร์วิสตายอย่างไรยังไม่เฉลยครับ และทางมาร์เวลเปลี่ยนลำดับเวลาเหตุการณ์ต่างๆใหม่ เพื่อให้เข้ากับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ และความสมเหตุสมผลครับ ข้อมูลที่ผ่านมาจนถึงตรงนี้ จึงไม่ตรงกับข้อมูลในช่วงเปิดภาพยนตร์เรื่อง Iron Man ภาคแรกนะครับ)***
ต่อมาอีกหลายเดือน เมื่อโทนี่เริ่มทำใจกับความสูญเสียได้ โทนี่ก็พร้อมเข้าไปบริหารบริษัทสตาร์คอินดรัสทรีส์ด้วยตนเองในตำแหน่ง CEO ประธานบริษัท ด้วยความอัจฉริยะทั้งด้านบริหารและด้านการคิดค้นเหมือนพ่อของเขา ทำให้โทนี่นั้นขึ้นเป็นนักธุกิจหนุ่มเนื้อหอมที่ไฟแรงที่สุดในอเมริกา
โทนี่นั้นไปสร้างบ้านที่มาลิบู รัฐแคลิฟอร์เนีย และติดตั้งระบบ AI ที่โทนี่เป็นคนเขียนโปรแกรมขึ้นมาด้วยตนเอง เพื่อให้ AI ตนนี้ช่วยโทนี่ในการคิดและคำนวนวิเคราะห์สิ่งต่างๆช่วยเหลือ และ AI ตนนี้ยังเป็นระบบป้องกันภัยขั้นสูงสุดของโทนี่ด้วย โดยโทนี่ตั้งชื่อ AI ตนนี้ว่า J.A.R.V.I.S. เพื่อรำลึกถึงเพื่อนและผู้เสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ของตนที่ล่วงลับไป
สายงานผลิตอาวุธของบริษัทสตาร์คอินดรัสทรีส์นั้นทำกำไรอย่างมหาศาล หลังจากที่โทนี่เข้ามาเป็นเจ้าของ เพราะโทนี่มักคิดค้นอาวุธใหม่ๆขึ้นมาได้เรื่อยๆ จนกระทั่งบริษัทสตาร์คอินดรัสทรีส์ได้เป็นผู้ค้าอาวุธหลักอย่างเป็นทางการให้กองทัพสหรัฐฯ ซึ่งโทนี่ก็สานต่องานเตาปฎิกรณ์อาร์คและศึกษาการทำงานของมันต่อจากพ่อของตนมาโดยตลอด ซึ่งโอบาเดอานั้นไม่ค่อยสนับสนุนโครงการเตาปฎิกรณ์อาร์คนี้เท่าไหร่ เพราะมันไม่ทำเงินเหมือนอาวุธสงคราม และทางกองทัพ ก็แต่งตั้งให้ เจมส์ โรดส์ หรือ โรดี้ มาเป็นผู้ประสานงานให้กองทัพและโทนี่ เพื่อนรักทั้งสองจึงได้พบปะกันบ่อยๆในสายงาน
ปี 1999 โทนี่อายุ 29 ปี ที่งานประชุมนักวิทยาศาสตร์โลกประเทศสวิสเซอแลนด์ และเป็นคืนส่งท้ายปีเก่าพอดี โทนี่เดินทางไปกับแฮปปี้ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนและบอดี้การ์ดส่วนตัวของโทนี่ และโทนี่ก็ได้พบกับ ดร.ยินเซน ผู้เป็นนักวิทยาศาสตร์และศัลยแพทย์ชาวอัฟกานิสถาน และดร.ยินเซนก็แนะนำให้โทนี่รู้จักกับแพทย์ด้านหัวใจชาวจีนคือ ดร.หู ก่อนที่โทนี่จะหลบฉากนายแพทย์ชาวต่างชาติทั้งสอง และพาดร.มายาขึ้นไปเค้าท์ดาวน์กันสองต่อสองบนโรงแรม
จากซ้ายไปขวา / ดร.หู / ดร.ยินเซน / โทนี่ / ดร.มายา
*** ตรงนี้บอกกันเลยว่าใครเป็นใคร ***
ดร. ยินเซน คือคนที่ช่วยยื้อชีวิตโทนี่ด้วยการใช้แบตฯรถยนตร์ดันลูกปรายไม่ให้วิ่งเข้าหัวใจในไอรอนแมน 1
ดร. หู คือหนึ่งในหมอผ่าตัดเอาลูกปรายออกจากโทนี่จนหมด ในภาพยนตร์เรื่องไอรอนแมน 3
ดร. มายา คือคนที่ร่วมมือกับคิลเลี่ยน สร้างเอ็กตรีมมิส ในภาพยนตร์เรื่องไอรอนแมน 3
ระหว่างที่โทนี่และมายากำลังจะขึ้นลิฟท์ อัลดริด คิลเลี่ยน นักวิทยาศาสตร์ด้านสมองผู้ปราดเปรื่อง ผู้ก่อตั้งบริษัท A .I M. ก็เสนอตัวอยากร่วมงานกับโทนี่ และแจกนามบัตรของตนเองให้โทนี่กับมายาไว้ ซึ่งมายานั้นสนใจทฤษฎีของคิลเลี่ยน แต่โทนี่กลับหลอกให้คิลเลี่ยนขึ้นไปรออยู่บนดาดฟ้า และโทนี่ก็ลืมคิลเลี่ยนไปซะสนิท ทำให้คิลเลี่ยนนั้นแค้นโทนี่มาก
IRON MAN มหาประลัยคนเกราะเหล็ก by หลวงจีนหอไตร
SPOIL !! Avengers: Age of ultron (2015)
Anthony Edward "Tony" Stark เกิดวันที่ 29 พฤษภาคม 1970 แม่คือ Maria Stark พ่อคือ Howard Stark วิศวกรผู้ปราดเปรื่อง และหนึ่งในสามผู้ก่อตั้ง S.H.I.E.L.D. โทนี่เติบโตมากับ Edwin Jarvis พ่อบ้านชาวอังกฤษผู้แสนดีของครอบครัวสตาร์ค จึงทำให้โทนี่นั้นรักและเคารพจาร์วิสเหมือนญาติผู้ใหญ่คนนึงเลยทีเดียว และฮาเวิร์ดพ่อของโทนี่ก็ตั้งกฎว่า โทนี่ต้องอยู่ในการดูแลและให้จาร์วิสเป็นพี่เลี้ยงจวบจนกระทั่งอายุ 14 ปี จึงจะเป็นอิสระ
ในวัยเด็ก โทนี่มักได้รับการบอกเล่ากล่าวถึงตำนานวีรบุรุษสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างกัปตันอเมริกาจากพ่ออยู่บ่อยๆ จึงทำให้โทนี่รู้ว่าพ่อของตนและกัปตันอเมริกานั้นสนิทสนมกันมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โทนี่จึงมีปมหมั่นไส้สตีฟอยู่นิดๆตั้งแต่เด็ก เมื่อเข้าสู่ไฮสคูลในโรงเรียนประจำ โทนี่ก็ได้รู้จักกับ เจมส์ โรดส์ ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันในที่สุด โทนี่นั้นเป็นนักประดิษฐ์คิดค้นมาตั้งแต่วัยรุ่น จึงทำให้โทนี่เรียนจบ MIT และได้รับปริญญาตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปีซะด้วยซ้ำ
ปี 1991 โทนี่อายุ 21 ปี ฮาเวิร์ดและมาเรียพ่อแม่ของโทนี่ก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนตร์ โอบาเดอา สเตน เพื่อนของฮาเวิร์ดและบอร์ดบริหารของบริษัทสตาร์คอินดรัสทรีส์ จึงเข้ามาบริหารงานให้บริษัทชั่วคราว เพราะโทนี่ยังไม่พร้อม ในปีเดียวกันนั้นเอง โทนี่ก็ต้องมาสูญเสียพ่อบ้านจาร์วิสไปอีกคน ทำให้โทนี่ไม่เหลือใครเลย
***(จาร์วิสตายอย่างไรยังไม่เฉลยครับ และทางมาร์เวลเปลี่ยนลำดับเวลาเหตุการณ์ต่างๆใหม่ เพื่อให้เข้ากับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ และความสมเหตุสมผลครับ ข้อมูลที่ผ่านมาจนถึงตรงนี้ จึงไม่ตรงกับข้อมูลในช่วงเปิดภาพยนตร์เรื่อง Iron Man ภาคแรกนะครับ)***
ต่อมาอีกหลายเดือน เมื่อโทนี่เริ่มทำใจกับความสูญเสียได้ โทนี่ก็พร้อมเข้าไปบริหารบริษัทสตาร์คอินดรัสทรีส์ด้วยตนเองในตำแหน่ง CEO ประธานบริษัท ด้วยความอัจฉริยะทั้งด้านบริหารและด้านการคิดค้นเหมือนพ่อของเขา ทำให้โทนี่นั้นขึ้นเป็นนักธุกิจหนุ่มเนื้อหอมที่ไฟแรงที่สุดในอเมริกา
โทนี่นั้นไปสร้างบ้านที่มาลิบู รัฐแคลิฟอร์เนีย และติดตั้งระบบ AI ที่โทนี่เป็นคนเขียนโปรแกรมขึ้นมาด้วยตนเอง เพื่อให้ AI ตนนี้ช่วยโทนี่ในการคิดและคำนวนวิเคราะห์สิ่งต่างๆช่วยเหลือ และ AI ตนนี้ยังเป็นระบบป้องกันภัยขั้นสูงสุดของโทนี่ด้วย โดยโทนี่ตั้งชื่อ AI ตนนี้ว่า J.A.R.V.I.S. เพื่อรำลึกถึงเพื่อนและผู้เสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ของตนที่ล่วงลับไป
สายงานผลิตอาวุธของบริษัทสตาร์คอินดรัสทรีส์นั้นทำกำไรอย่างมหาศาล หลังจากที่โทนี่เข้ามาเป็นเจ้าของ เพราะโทนี่มักคิดค้นอาวุธใหม่ๆขึ้นมาได้เรื่อยๆ จนกระทั่งบริษัทสตาร์คอินดรัสทรีส์ได้เป็นผู้ค้าอาวุธหลักอย่างเป็นทางการให้กองทัพสหรัฐฯ ซึ่งโทนี่ก็สานต่องานเตาปฎิกรณ์อาร์คและศึกษาการทำงานของมันต่อจากพ่อของตนมาโดยตลอด ซึ่งโอบาเดอานั้นไม่ค่อยสนับสนุนโครงการเตาปฎิกรณ์อาร์คนี้เท่าไหร่ เพราะมันไม่ทำเงินเหมือนอาวุธสงคราม และทางกองทัพ ก็แต่งตั้งให้ เจมส์ โรดส์ หรือ โรดี้ มาเป็นผู้ประสานงานให้กองทัพและโทนี่ เพื่อนรักทั้งสองจึงได้พบปะกันบ่อยๆในสายงาน
ปี 1999 โทนี่อายุ 29 ปี ที่งานประชุมนักวิทยาศาสตร์โลกประเทศสวิสเซอแลนด์ และเป็นคืนส่งท้ายปีเก่าพอดี โทนี่เดินทางไปกับแฮปปี้ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนและบอดี้การ์ดส่วนตัวของโทนี่ และโทนี่ก็ได้พบกับ ดร.ยินเซน ผู้เป็นนักวิทยาศาสตร์และศัลยแพทย์ชาวอัฟกานิสถาน และดร.ยินเซนก็แนะนำให้โทนี่รู้จักกับแพทย์ด้านหัวใจชาวจีนคือ ดร.หู ก่อนที่โทนี่จะหลบฉากนายแพทย์ชาวต่างชาติทั้งสอง และพาดร.มายาขึ้นไปเค้าท์ดาวน์กันสองต่อสองบนโรงแรม
*** ตรงนี้บอกกันเลยว่าใครเป็นใคร ***
ดร. ยินเซน คือคนที่ช่วยยื้อชีวิตโทนี่ด้วยการใช้แบตฯรถยนตร์ดันลูกปรายไม่ให้วิ่งเข้าหัวใจในไอรอนแมน 1
ดร. หู คือหนึ่งในหมอผ่าตัดเอาลูกปรายออกจากโทนี่จนหมด ในภาพยนตร์เรื่องไอรอนแมน 3
ดร. มายา คือคนที่ร่วมมือกับคิลเลี่ยน สร้างเอ็กตรีมมิส ในภาพยนตร์เรื่องไอรอนแมน 3
ระหว่างที่โทนี่และมายากำลังจะขึ้นลิฟท์ อัลดริด คิลเลี่ยน นักวิทยาศาสตร์ด้านสมองผู้ปราดเปรื่อง ผู้ก่อตั้งบริษัท A .I M. ก็เสนอตัวอยากร่วมงานกับโทนี่ และแจกนามบัตรของตนเองให้โทนี่กับมายาไว้ ซึ่งมายานั้นสนใจทฤษฎีของคิลเลี่ยน แต่โทนี่กลับหลอกให้คิลเลี่ยนขึ้นไปรออยู่บนดาดฟ้า และโทนี่ก็ลืมคิลเลี่ยนไปซะสนิท ทำให้คิลเลี่ยนนั้นแค้นโทนี่มาก