ก่อนอ่านรีวิวนี้แนะนำให้เปิด Tokyo Drift ของ Teriyaki Boyz ที่เป็นเพลงประกอบหนังประกอบรีวิวไปด้วย
เพื่อความดริฟท์ เอ้ย เพื่ออรรถรสในการอ่าน


ทีให้ฟังเพลงโตเกียวดริฟท์นั้นก็เพื่อจะโยงเข้ากับรถที่กำลังจะพูดถึงครับ (ดูเป็นการโยงเรื่องที่มั่วจังเลย)
รถที่อยากชวนคุยก็คือ Nissan Juke ตัวใหม่ที่มีชื่อว่า Tokyo Editionครับ ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นโตเกียว
เดากันไปเลยว่าของตกแต่งชุดนี้ต้องเป็นทรงขนมโตเกียวอย่างแน่นอน

จะบ้าเรอะ!

ทำไมต้องเป็นโตเกียว อีดิชั่น … ก็เพราะความพิเศษของชุดแต่งครับ มาจากญี่ปุ่นแท้ ไม่เหมือนขนมโตเกียวที่ชื่อญี่ปุ่นแต่ทำจากไทย (เออ ทำไมวะ) เพราะชุดแต่งที่ให้มานั้นอิมพอร์ตมาจากญี่ปุ่นโดยตรงของแท้นั่นเองครับ แถมแต่งให้เสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย เป็นความเท่ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างรวดเร็วมาก ตั้งแต่ยังไม่ออกจากศูนย์เลย

นี่เลยเป็นที่มาของการรีวิว Nissan Juke Tokyo Edition กับชุดแต่งทั้ง 10 ชิ้นที่ใส่เข้ามา จะมีอะไรบ้าง และเหมาะกับคนที่กำลังเล็งรุ่นนี้อยู่หรือเปล่า ผมขออาสามาบรรยายให้ฟัง เอ้ย อ่านกันครับ


Nissan Juke Tokyo Edition อย่างที่บอกในย่อหน้าก่อนก็คือมันมากับชุดแต่งจากญี่ปุ่น
ซึ่งชุดแต่งนั้นก็มีให้เลือก 3 แบบ 3 สไตล์ที่ออกแบบมาแล้ว สามสไตล์สามสีที่ว่าก็มี

สีขาวในชื่อว่า White Solid (ผมชอบตัวนี้) (ใครอยากรู้วะ)


สีแดงในชื่อว่า Burning Red


และสีดำในชื่อ Black Solid


ลองเทียบหน้าตากับ Juke รุ่นปกติครับ
ด้านหน้า เราจะเห็นว่าที่ฝากระโปรงมีสติ๊กเกอร์ติด ได้อารมณ์สปอร์ตดีนะครับ ไวท์โซลิด กับเบิร์นนิ่งเรดจะเป็นสติ๊กเกอร์ดำ ส่วนสีดำแบล็กโซลิดจะให้มันเป็นสติ๊กเกอร์ดำก็ยังไงอยู่ มันก็เลยเป็นขาวเพื่อตัดกันแทนครับ

นอกนั้นด้านหน้ามีกรอบไฟหน้าที่เด่นขึ้นมาด้วยสีแดงและสีขาวแล้วแต่สไตล์ คิ้วกันชนและสเกิร์ตหน้าครับ และกระจกมองข้างเป็นสีตัดกับสีรถ ทำให้รุ่นนี้เด่นขึ้นมา  


ด้านข้างกับด้านหลังมาพร้อมกับสติ๊กเกอร์ล้อมกรอบครอบตรงหน้าต่าง แล้วก็ข้างล่างประตูทั้งหน้าและหลัง สเกิร์ตหลังสีเทาเหมือนกับข้างหน้า ซึ่งคงความสปอร์ตไว้รอบคันนั่นแหละครับ


ผมว่าการติดสติ๊กเกอร์ตรงรอบบานกระจกนี่เหมือนกับสาวเขียนคิ้วที่ตวัดหางเลยครับ ดูเฉี่ยวดี โฉบเฉี่ยวนะครับ ไม่ใช่น่าเฉี่ยว ...

ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่ต่างออกมาจากรุ่นเดิมครับ นอกเหนือจากนั้นก็เป็นฟังก์ชั่นเหมือนJuke รุ่นตัวท็อปเลยครับ เครื่อง 1.6 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ที่ให้กำลัง 116 แรงม้า รวมไปถึงฟังก์ชั่นภายในที่กว้าง มัลติมีเดียและอุปกรณ์ป้องกันแบบจัดเต็ม และการตกแต่งให้ดูเท่กันเข้าไปถึงข้างใน ส่วนรายละเอียดของ Juke รุ่นปกตินั้นผมขอละไว้ก็แล้วกันครับ เพราะน่าจะเคยผ่านหน้าผ่านตากันมาก่อนแล้วมั้งนะ




สรุป

ผมมองไปสองทางครับ สำหรับใครอยากได้รถที่แต่งมาให้พร้อมแบบเสร็จสรรพ เรียกว่าถอยออกจากศูนย์แล้วสามารถขับไปอวดโชว์ความเท่กันได้เลย Tokyo Edition น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะเลยครับ หรือคนที่ตั้งใจจะแต่ง Juke สไตล์ประมาณนี้แหละ แต่งเข้ากับตัวท็อปเรียบร้อย ก็จัดไปได้เลย หรือว่า ถ้าโตเกียวสไตล์ยังไม่ถูกใจ คุณอาจจะเป็นสายชิบูย่า (โทสต์?) ก็สามารถซื้อรุ่นท็อปที่ถูกลงกว่า 40,000 บาทแล้วเอาเงินที่เหลือไปแต่งให้เข้ากับสไตล์ของคุณได้ครับ

แต่เชื่อผมเถอะ จากประสบการณ์การแต่งรถแล้ว งบบานแน่นอนครับ 55555


ก่อนที่ผมจะมาเขียนกระทู้นี้เกิดความสงสัยครับว่า การแต่งรถสไตล์โตเกียวมันเป็นยังไงหว่า
ก็เลยเจอภาพนี้น่าจะตอบคำถามของผมได้ (ปรากฏว่ากระทู้ปลิวเพราะรูปนี้แหละ)

ขอบคุณภาพรถจาก kapook.com ด้วยครับ


Comment

1.เห็นด้วยว่าอยู่ที่คนชอบเลย ข้อดีก็คือแต่งให้เรียบร้อย แถมรวมอยู่ในไฟแนนซ์เรียบร้อยเหมือนกัน
2.เปลี่ยนแมคนิดหน่อยก็น่าจะดูสวยเลย เหมือนแมคในภาพจะเป็นภาพโฆษณานะ ต้องซื้อเพิ่มเอง
3.ชอบจู๊คเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่งแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบ
4.แต่งแล้วดูสวยดี คิดว่าถ้าติดเบอร์ก็สามารถออกแข่งได้เลยนะ ลุคได้เลย
5.ผมว่าชอบสีดำมากกว่า ถ้าเป็นไปได้นะ เป็นสีด้านเหมือนแรปทั้งคันก็น่าจะเท่เลย
6.วันก่อนเจอผู้หญิงขับรุ่นนี้มาแหละครับ อย่างขาวเลย โตเกียวฮอตแน่ๆ อยากได้เลย