ผนังที่ฉาบบาง lanko บนผนังที่ฉาบปูนธรรมดาไปแล้ว และไปเลือกใช้ "น้ำยาเคลือบเงาใสกันซึม A100 ของ TOA", แล้วไม่ชอบ อยากแก้ไขเป็นปูนเปลือยเช่นเดิมก่อนทาน้ำยา
ใช้วิธีนี้....ล้างลอกฟิล์มสี A100 ออกด้วยน้ำยาลอกสี (Paint Remover) หาซื้อได้ตามร้านฮาร์ดแวร์ทั่วๆไป แต่การใช้งานต้องระมัดระวัง(มาก) ให้อ่านศึกษาการใช้งานข้างภาชนะให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเมื่อทาน้ำยาลอกสีไปบนฟิล์มสี A100 แล้วซักครู่ ฟิล์มสีจะเริ่มพุพอง/ฟู ก็ใช้เกรียงเหล็กค่อนๆแซะขูดฟิล์มสีออก ซึ่งขั้นตอนนี้พึงระมัดระวังว่าตัวเหล็กเกรียงจะไปทำให้เกิดริ้วรอยขีดข่วนผนังด้วย ขูดแซะเท่าที่พอจะกระทำได้ก่อนออกให้มากที่สุด อาจจะเหลือคราบฟิล์มสีอยู่บ้างก็ใช้วิธีเช็ดถูตามอีกรอบ (ต้องสวมถุงมือ และควรมีแว่นช่างสวมระหว่างทำงานเพื่อความปลอดภัย)
เมื่อทำจนฟิล์มสีเดิมออกหมดแล้ว ควรเช็ดทำความสะอาดน้ำยาลอกสีที่อาจจะหลงเหลืออยู่ด้วย ทินเนอร์ AAA หรือน้ำมันสน
(ส่วนที่ถามเรื่อง Flex 77 นั้น เป็นน้ำยาประสานปูนคอนกรีตครับ คนละเรื่องกัน)
หากขั้นตอนการลอกสี A100 ทำให้ผิวปูนเป็นริ้วรอย ไม่สวยดั่งใจ ก็แนะนำให้ฉาบบางสกิมโค๊ท (Skim Coat) ใหม่อีกครั้ง หนาซัก 1-2 มม.ก็พอ (ไม่จำเป็นต้องใช้ Flex 77)

การต้องการโชว์ผิวปูนเปลือย หรืออิฐ-หินโชว์ โดยต้องการคงสภาพดิบๆ แต่ต้องการป้องกันน้ำ ความชื้น เชื้อรา ต้องทาด้วย "น้ำยาป้องกันตะไคร่น้ำ" ประเภท Water Repellant ซึ่งทาเสร็จใหม่ๆจะทำให้สีวัสดุคล้ำขึ้น แต่ทิ้งไว้ 1-2 วัน ก็จะกลับกลายเหมือนเดิม เสมือนไม่ได้ทาอะไร คราวนี้ผนังก็จะไม่ซึมน้ำหรือความชื้นแล้ว เป็นแบบ Lotus Effect  (น้ำกลิ้งบนใบบัว), แนะนำใช้สูตรน้ำมัน แม้จะมีกลิ่นบ้างช่วงแรกๆ แต่ประสิทธิภาพและอายุงานจะทนกว่าสูตรน้ำ อาทิ TOA : Water Repellant 214 หรือ Captain : Water Repellant 214 หรือ ICI : Silicone R221 เป็นต้น
หมายเหตุ : ชนิดสูตรน้ำ จะเด่นในเรื่องไม่มีกลิ่น แต่ประสิทธิภาพในการแทรกซึมเข้าเนื้อวัสดุจะไม่ดีเท่าชนิดสูตรน้ำมัน และจะมีราคาสูงกว่าสูตรน้ำมันด้วย ดังนั้นหากเป็นงานภายใน และต้องใช้อยู่อาศัยเลย สูตรน้ำก็อาจเหมาะสมกว่า (ตามที่ คคห.ที่ 3 เกริ่นไว้)