จากมติชนออนไลน์
(17 ก.ย.58) ขณะนี้สื่อโซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับประเด็นที่นักท่องเที่ยว โดยผู้เล่นที่ใช้ชื่อว่า Pop HiaceThailand ได้โพสข้อความบนเฟซบุ๊กของเครือข่ายท่องเที่ยวภายในจังหวัดเพชรบูรณ์ แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวรายอื่นๆให้ระมัดระวังการโทรจองห้องพักที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ หลังจากมีประสบการณ์จนทำให้เสียความรู้สึก ทั้งที่ได้ติดต่อจองจะเข้าพักวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นโอนเงินจำนวน 3,800 บาทให้ล่วงหน้า แต่เมื่อเข้าพักจริงต้องเสียความรู้สึกเพราะไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้รับจองคุยตกลงไว้ ในขณะที่เจ้าของอ้างบ้านพักเต็มและพี่สาวเป็นคนรับจองแทน จนมีการจัดบ้านพักรีสอร์ตใกล้เคียงให้เข้าพักแทน ซึ่งนักท่องเที่ยวรายนี้ได้โพสรูปบ้านพักให้ดูพร้อมโชว์หลักฐานการโอนเงิน 3,800 บาทอีกด้วย
ภายหลังที่ข้อความดังกล่าวถูกแชร์กันต่อเป็นทอดๆ ทำให้มีชาวโซเชียลเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก พร้อมรุมสวดเรื่องราคาบ้านพักแพงเกินไป นอกจากนี้ ยังมีการแฉพฤติกรรมรีสอร์ทและร้านค้ารายอื่นๆที่ฉกฉวยโอกาสขูดรีดนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ราคาที่พักโหดเกินและอาหารแพงเว่อร์ และยังให้ร่วมกันขึ้นแบ็กลิสรายชื่อและบอยคอตรีสอร์ทเหล่านี้ จากนั้นยังเรียกร้องให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการจัดระเบียบกับรีสอร์ทและร้านค้าบนภูทับเบิก โดยอ้างว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่เพียงทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเท่านั้น แต่ยังทำลายเพื่อนร่วมอาชีพและกระทบความรู้สึกของชาวเพชรบูรณ์โดยรวมอีกด้วย
ด้านนายวันชัย ชรารมย์ ประธานธุรกิจกลุ่มท่องเที่ยวภูทับเบิกและผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 บ้านภูทับเบิกกล่าวว่า หลังได้รับข้อมูลได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของรีสอร์ทดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นก็ได้รับแจ้งคร่าวๆว่าได้มีการเคลียร์กับนักท่องเที่ยวรายนี้จนเข้าใจดีแล้ว และทราบเพียงว่าเป็นการโทรจองบ้านพักผ่านคนกลางซึ่งผู้จัดทัวร์ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มคงจะต้องเชิญผู้ประกอบการทั้งหมดเข้าร่วมประชุมหารือ และคงต้องหาข้อสรุปในเรื่องนี้ให้ได้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายวันชัยยังกล่าวว่า ขณะนี้รีสอร์ทบนภูทับเบิกมีทั้งหมดราว 58 แห่ง โดยส่วนใหญ่เป็นของราษฎรชาวเขาซึ่งเป็นคนในพื้นที่ เป็นผู้ลงทุนเอง แต่จะมีราว 1-2 แห่งที่เป็นนักลงทุนจากนอกพื้นที่และเป็นคนไทยในพื้นราบ ยอมรับว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังเป็นมือใหม่และขาดประสบการณ์และยังค่อนข้างไม่เป็นมืออาชีพ คงต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควร ส่วนกรณีนี้อยากขอให้ฟังความรอบๆด้านด้วย
นักท่องเที่ยวโวย รีสอร์ทภูทับเบิกเบี้ยว จ่ายล่วงหน้าแล้วกลับบอกที่พักเต็ม
(17 ก.ย.58) ขณะนี้สื่อโซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับประเด็นที่นักท่องเที่ยว โดยผู้เล่นที่ใช้ชื่อว่า Pop HiaceThailand ได้โพสข้อความบนเฟซบุ๊กของเครือข่ายท่องเที่ยวภายในจังหวัดเพชรบูรณ์ แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวรายอื่นๆให้ระมัดระวังการโทรจองห้องพักที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ หลังจากมีประสบการณ์จนทำให้เสียความรู้สึก ทั้งที่ได้ติดต่อจองจะเข้าพักวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นโอนเงินจำนวน 3,800 บาทให้ล่วงหน้า แต่เมื่อเข้าพักจริงต้องเสียความรู้สึกเพราะไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้รับจองคุยตกลงไว้ ในขณะที่เจ้าของอ้างบ้านพักเต็มและพี่สาวเป็นคนรับจองแทน จนมีการจัดบ้านพักรีสอร์ตใกล้เคียงให้เข้าพักแทน ซึ่งนักท่องเที่ยวรายนี้ได้โพสรูปบ้านพักให้ดูพร้อมโชว์หลักฐานการโอนเงิน 3,800 บาทอีกด้วย
ภายหลังที่ข้อความดังกล่าวถูกแชร์กันต่อเป็นทอดๆ ทำให้มีชาวโซเชียลเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก พร้อมรุมสวดเรื่องราคาบ้านพักแพงเกินไป นอกจากนี้ ยังมีการแฉพฤติกรรมรีสอร์ทและร้านค้ารายอื่นๆที่ฉกฉวยโอกาสขูดรีดนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ราคาที่พักโหดเกินและอาหารแพงเว่อร์ และยังให้ร่วมกันขึ้นแบ็กลิสรายชื่อและบอยคอตรีสอร์ทเหล่านี้ จากนั้นยังเรียกร้องให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการจัดระเบียบกับรีสอร์ทและร้านค้าบนภูทับเบิก โดยอ้างว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่เพียงทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเท่านั้น แต่ยังทำลายเพื่อนร่วมอาชีพและกระทบความรู้สึกของชาวเพชรบูรณ์โดยรวมอีกด้วย
ด้านนายวันชัย ชรารมย์ ประธานธุรกิจกลุ่มท่องเที่ยวภูทับเบิกและผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 บ้านภูทับเบิกกล่าวว่า หลังได้รับข้อมูลได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของรีสอร์ทดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นก็ได้รับแจ้งคร่าวๆว่าได้มีการเคลียร์กับนักท่องเที่ยวรายนี้จนเข้าใจดีแล้ว และทราบเพียงว่าเป็นการโทรจองบ้านพักผ่านคนกลางซึ่งผู้จัดทัวร์ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มคงจะต้องเชิญผู้ประกอบการทั้งหมดเข้าร่วมประชุมหารือ และคงต้องหาข้อสรุปในเรื่องนี้ให้ได้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายวันชัยยังกล่าวว่า ขณะนี้รีสอร์ทบนภูทับเบิกมีทั้งหมดราว 58 แห่ง โดยส่วนใหญ่เป็นของราษฎรชาวเขาซึ่งเป็นคนในพื้นที่ เป็นผู้ลงทุนเอง แต่จะมีราว 1-2 แห่งที่เป็นนักลงทุนจากนอกพื้นที่และเป็นคนไทยในพื้นราบ ยอมรับว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังเป็นมือใหม่และขาดประสบการณ์และยังค่อนข้างไม่เป็นมืออาชีพ คงต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควร ส่วนกรณีนี้อยากขอให้ฟังความรอบๆด้านด้วย