สวัสดีค่า เพื่อนๆ วันนี้ลูกนกฮูกพาบินสิงคโปร์แอร์ไลน์จ้า หลังจากลอง Budget Airlines หรือสายการบินราคาประหยัด อย่าง Malindo Airlines
http://ppantip.com/topic/34051827 และ Air Asia มาแล้ว คราวนี้เราจะบินแพงขึ้นมาเล็กน้อยด้วยสายการบิน Singapore Airlines ซึ่งว่ากันว่าปลอดภัยและน่าเชื่อถือพอๆกับทุกอย่างในประเทศของนาง
ก่อนเดินทางก็ต้องเตรียมของใช้ให้ลูกหน่อยเนอะ
- ไป 5 วันเอาเสื้อผ้าไป 10 ชุดจ้าาา เผื่อไว้ว่าอีเลอะ เปียกน้ำ กินเลอะ และอื่นๆ ซึ่งตามสถิติแล้วไม่ค่อยเกิดขึ้นกับลูกนกฮูกจ้า ชุดนอน 2 ชุดพอ ลูกนกฮูกปกติอาบน้ำวันละแค่ 1 ครั้งคือก่อนนอน เพราะจะทำให้หลับสบายยยยย ส่วนตอนเช้าก็แค่เช็ดตัว แปรงฟัน ล้างหน้านิดหน่อยค่ะ (สรุปชุดนอนใช้แค่ชุดเดียว เสื้อผ้าใช้ทั้งหมด 6 ชุด) แต่เผื่อๆเนอะ
- ถุงเท้า 3 คู่, หมวก 2 ใบ, โบว์ไท (แต่งหล่อ อิอิ), รองเท้า 2 คู่ (เผื่อหาย 5555), ผ้าพันคอ 2 ผืน (ไว้เช็ดน้ำลาย)
- ผ้าอ้อมเอาไปวันละ 3+3 ชิ้น แบบแปะ 3 ชิ้น แบบกางเกง 3 ชิ้น บอกเลยว่าเหลือกลับบ้านเยอะมาก 5555
- สบู่แบบ Head to Toes, ผ้าเช็ดหน้า, ผ้าเช็ดตัว 2 ผืน, ชุดแปรงสีฟัน กรรไกรตัดเล็บ หวี, สำลีแคะหูของเด็ก, ของเล่นสำหรับเล่นตอนอาบน้ำ
- ของเล่นสำหรับขึ้นเครื่อง 3 ชิ้น
- ขวดนม 6 ขวด (ขึ้นเครื่อง 3 ใส่กระเป๋าเดินทาง 3), นมผง 1 ห่อ (แบบยังไม่แกะ), ที่รัดปากถุง, ขนม (ขึ้นเครื่องไว้เคี้ยวแก้หูอื้อค่ะ) เดี๋ยวนี้ถ้าไม่หิวลูกนกฮูกจะไม่ค่อยยอมกินนม เลยต้องเตรียมขนมไปหลายๆอย่างหน่อยค่ะ กลัวเค้าปวดหูตอนเครื่องเปลี่ยนระดับ
เที่ยวบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไป Changi Airport ประเทศสิงคโปร์ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 5 นาที คราวนี้พ่อแม่นกฮูกชิวมากๆ อิอิ
เริ่มต้นวันในเวลาตี 5 ของไทย เพื่อไปเช็คอินท์ที่สนามบินจ้า เราใช้บริการ GRABTAXI เหมือนคราวที่แล้ว เพราะรวดเร็วใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ไม่ต้องแบกสักขารไปเรียกรถหน้าปากซอย แถมช่วงนี้มีโปรฟรีค่าเรียก 25 บาท (งกมากค่ะ 5555)
พอขึ้นรถก็แฮปปี้มากๆ ชอบเที่ยวเหมือนพ่อนกฮูกไม่มีผิดเบยยย
ตอนที่ Check In อย่าลืมบอกพนักงานด้วยนะคะว่ามีรถเข็นเด็กและจะเช็คที่เกท เขาจะให้ TAG เป็นป้ายชื่อคุณแม่และเที่ยวบินมา พ่อนกฮูกก็เอาไปแขวนไว้ราวจับของรถเข็นลูกค่ะ (ลืมถ่ายรูปมาให้ดูง่ะ ขอโตดดดดด)
พอเช็คอินท์แล้วก็เดินเข้าไปเตร็ดเตร่ในสนามบิน และด้วยความที่หิวมาก ก็เลยไปซัด Burger King ก่อนขึ้นเครื่อง (คิดผิดมากๆ เพราะอาหารของสายการบินอร่อยค่ะ)
กินไปไม่นาน ลูกนกฮูกก็เริ่มง่วง...
หลับเร็วมากกกก
แย่เลย... กะเวลาผิด ยังไม่ทันเดินไปเกทก็หลับเสียแล้ว อย่างนี้ขึ้นเครื่องก็คงตื่นพอดี.....
จะสังเกตได้ว่าตอนที่นั่งสายการบินราคาประหยัด ถึงแม้จะมีประกาศว่าให้คนพิการและครอบครัวที่มีเด็กขี้นก่อน แต่ก็ไม่ถูกนำไปปฏิบัติ... 5555 คือ... พอสิ้นเสียงประกาศก็ออกันขึ้น เด็กเล็กเด็กโตกรูไม่สนคร้าบบบบ...
แต่ Singapore Airlines เค้าจะเรียกเป็นกลุ่มๆ คือ คนพิการ, Business Class และคลับแมมเบอร์จะได้ขึ้นก่อน ตามด้วยครอบครัวที่มีเด็กค่ะ หลังจากนั้นก็จะเรียกเป็นแถวๆไปค่ะ
พอเราเดินขึ้นไปถึงหน้าประตูเครื่องบิน เราก็พับรถเข็นให้เรียบร้อยแล้วก็ส่งให้พนักงานซึ่งรอรับอยู่แล้วค่ะ เขาจะห่อรถเข็นเราด้วยถุงพลาสติกขนาดใหญ่ ก่อนจะส่งลงไปเพื่อโหลดขึ้นเครื่องค่ะ (เราสามารถรอรับรถเข็นได้ที่ประตูเครื่องบินที่สนามบินปลายทางค่ะ)
แอร์น่ารักมากค่ะ เห็นเรา Selfie อยู่ก็เดินมาขอถ่ายให้ 5555 ถ่ายหลายมุมด้วยนะคะ.... มีให้เช็ครูปด้วยค่ะ ถ้าไม่ชอบจะถ่ายให้ใหม่ด้วยนะเธอว์... ประทับจายยยยยยย *****
ถ้าจองพร้อมเด็กทารก (Infant ต่ำกว่า 2 ปี) เราก็จะได้นั่งที่นั่งแถวแรกซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียค่ะ
ข้อดีคือ ที่วางขากว้าง (กว้างกว่า Malindo และ Air Asia แน่นอนอยู่แล้วเนอะ) ระหว่างเครื่องขึ้นลง เราต้องอุ้มลูกและติดเข็มขัดให้ลูกด้วย แต่ที่วางขากว้างเลยไม่อึดอัดเลยค่ะ
ในมือคือของเล่นที่พี่แอร์เอามาให้ค่ะ เค้ามีหลายอย่างมาก (ถ้าไม่อายก็ขอเพิ่มได้ค่ะ 5555) ถ้าเด็กงอแงมากๆเค้าก็จะเอามาให้เรื่อยๆค่ะ (ขาไปลูกนกฮูกไม่งอแงเลยได้มาแค่หนึ่งชิ้น แต่ขากลับบินตอนเย็นทั้งง่วงทั้งเหนื่อย มีงอแงบ้างเลยได้ของเล่นมาเยอะมาก แฮ่ๆๆ)
ข้อดีอีกข้อคือ มีที่ใส่ Bassinet (ตะกร้านอน) ของเด็กค่ะ ซึ่งจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ ถ้าติดตะกร้าก็จะอึดอัดตอนอุ้มลูกนิดนึงค่ะ จะเอาออกเอาเข้าก็เกรงใจแอร์ โชคดีที่เราได้ที่นั่งทั้งแถวในวันนั้น เพราะบินวันพุธ คนไม่เยอะ อิอิ
ถ้านั่งบนตะกร้าแอร์เค้าจะเดินมาเตือนนะคะ
ถ้านอนแต่ไม่ติดซิบก็ไม่ได้ค่ะ แอร์บอกว่าอันตรายยยย
ท่าที่ถูกคือนอนและซิบให้เรียบร้อยค่ะ เผื่อบินผ่านมรสุมลูกจะลอยตกลงมาได้นะคะ
ข้อเสียคือไม่มีที่วางกระเป๋าด้านหน้าค่ะ (ช่องใต้ที่นั่งอ่ะค่ะ) ต้องใส่ช่องข้างบนเท่านั้น... แปลว่า ทั้งขวดนม ขนม ของเล่น ผ้าเปียก ผ้าอ้อม ต้องเอาออกมายัดช่องใส่หนังสือด้านหน้าทั้งหมด... จะได้ไม่ต้องลุกขึ้นไปหยิบทีหลัง... ไม่สะดวกเลยค่ะ... กระเป๋าถือที่ใส่เงินและหนังสือเดินทางก็ต้องเบียดกันนั่งกับเราเพราะไม่อยากเอาขึ้นไปไว้ข้างบนอ่ะ
บินสักพัก อาหารก็มาเสริฟค่ะ บอกเลยว่าอร่อยค่ะ มีทั้งของคาว ของหวาน ผลไม้ เบียร์ ไวน์ น้ำอัดลม ชา กาแฟ ไม่อั้นไม่หวง เติมได้เติมเอาค่ะ
อาหารของลูกก็มีนะคะ เป็นแบบกระปุกแก้วยี่ห้อ ไฮน์ เขาจะให้แบบเป็นอาหารขวดนึง และรสผลไม้อีกขวดค่ะ ตอนขาไปเขาเดินมาบอกว่าถ้าพร้อมจะให้ลูกทานให้แจ้งแอร์ได้เลย แต่ลืมค่ะ 5555 ขากลับเราไม่ลืมนาาา
2 ชั่วโมงผ่านไป.... ก็ถึงสนามบินชางงี่จ้า แวะเข้าห้องน้ำก็ประทับใจอีกแล้ว สมกับเป็นสนามบินติดอันดับต้นๆของโลก... มีห้องน้ำให้แม่ พร้อมที่นั่งพิเศษสำหรับลูกระหว่างปฎิบัตภารกิจ ไม่ได้ใช้แต่ประทับใจอ่า....
[CR] พาลูกบินสายการบิน Singapore Airlines (infant) แพงกว่าแต่บริการดี๊ดี by BabyOwl
สวัสดีค่า เพื่อนๆ วันนี้ลูกนกฮูกพาบินสิงคโปร์แอร์ไลน์จ้า หลังจากลอง Budget Airlines หรือสายการบินราคาประหยัด อย่าง Malindo Airlines http://ppantip.com/topic/34051827 และ Air Asia มาแล้ว คราวนี้เราจะบินแพงขึ้นมาเล็กน้อยด้วยสายการบิน Singapore Airlines ซึ่งว่ากันว่าปลอดภัยและน่าเชื่อถือพอๆกับทุกอย่างในประเทศของนาง
ก่อนเดินทางก็ต้องเตรียมของใช้ให้ลูกหน่อยเนอะ
- ไป 5 วันเอาเสื้อผ้าไป 10 ชุดจ้าาา เผื่อไว้ว่าอีเลอะ เปียกน้ำ กินเลอะ และอื่นๆ ซึ่งตามสถิติแล้วไม่ค่อยเกิดขึ้นกับลูกนกฮูกจ้า ชุดนอน 2 ชุดพอ ลูกนกฮูกปกติอาบน้ำวันละแค่ 1 ครั้งคือก่อนนอน เพราะจะทำให้หลับสบายยยยย ส่วนตอนเช้าก็แค่เช็ดตัว แปรงฟัน ล้างหน้านิดหน่อยค่ะ (สรุปชุดนอนใช้แค่ชุดเดียว เสื้อผ้าใช้ทั้งหมด 6 ชุด) แต่เผื่อๆเนอะ
- ถุงเท้า 3 คู่, หมวก 2 ใบ, โบว์ไท (แต่งหล่อ อิอิ), รองเท้า 2 คู่ (เผื่อหาย 5555), ผ้าพันคอ 2 ผืน (ไว้เช็ดน้ำลาย)
- ผ้าอ้อมเอาไปวันละ 3+3 ชิ้น แบบแปะ 3 ชิ้น แบบกางเกง 3 ชิ้น บอกเลยว่าเหลือกลับบ้านเยอะมาก 5555
- สบู่แบบ Head to Toes, ผ้าเช็ดหน้า, ผ้าเช็ดตัว 2 ผืน, ชุดแปรงสีฟัน กรรไกรตัดเล็บ หวี, สำลีแคะหูของเด็ก, ของเล่นสำหรับเล่นตอนอาบน้ำ
- ของเล่นสำหรับขึ้นเครื่อง 3 ชิ้น
- ขวดนม 6 ขวด (ขึ้นเครื่อง 3 ใส่กระเป๋าเดินทาง 3), นมผง 1 ห่อ (แบบยังไม่แกะ), ที่รัดปากถุง, ขนม (ขึ้นเครื่องไว้เคี้ยวแก้หูอื้อค่ะ) เดี๋ยวนี้ถ้าไม่หิวลูกนกฮูกจะไม่ค่อยยอมกินนม เลยต้องเตรียมขนมไปหลายๆอย่างหน่อยค่ะ กลัวเค้าปวดหูตอนเครื่องเปลี่ยนระดับ
เที่ยวบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไป Changi Airport ประเทศสิงคโปร์ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 5 นาที คราวนี้พ่อแม่นกฮูกชิวมากๆ อิอิ
เริ่มต้นวันในเวลาตี 5 ของไทย เพื่อไปเช็คอินท์ที่สนามบินจ้า เราใช้บริการ GRABTAXI เหมือนคราวที่แล้ว เพราะรวดเร็วใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ไม่ต้องแบกสักขารไปเรียกรถหน้าปากซอย แถมช่วงนี้มีโปรฟรีค่าเรียก 25 บาท (งกมากค่ะ 5555)
พอขึ้นรถก็แฮปปี้มากๆ ชอบเที่ยวเหมือนพ่อนกฮูกไม่มีผิดเบยยย
ตอนที่ Check In อย่าลืมบอกพนักงานด้วยนะคะว่ามีรถเข็นเด็กและจะเช็คที่เกท เขาจะให้ TAG เป็นป้ายชื่อคุณแม่และเที่ยวบินมา พ่อนกฮูกก็เอาไปแขวนไว้ราวจับของรถเข็นลูกค่ะ (ลืมถ่ายรูปมาให้ดูง่ะ ขอโตดดดดด)
พอเช็คอินท์แล้วก็เดินเข้าไปเตร็ดเตร่ในสนามบิน และด้วยความที่หิวมาก ก็เลยไปซัด Burger King ก่อนขึ้นเครื่อง (คิดผิดมากๆ เพราะอาหารของสายการบินอร่อยค่ะ)
กินไปไม่นาน ลูกนกฮูกก็เริ่มง่วง...
หลับเร็วมากกกก
แย่เลย... กะเวลาผิด ยังไม่ทันเดินไปเกทก็หลับเสียแล้ว อย่างนี้ขึ้นเครื่องก็คงตื่นพอดี.....
จะสังเกตได้ว่าตอนที่นั่งสายการบินราคาประหยัด ถึงแม้จะมีประกาศว่าให้คนพิการและครอบครัวที่มีเด็กขี้นก่อน แต่ก็ไม่ถูกนำไปปฏิบัติ... 5555 คือ... พอสิ้นเสียงประกาศก็ออกันขึ้น เด็กเล็กเด็กโตกรูไม่สนคร้าบบบบ...
แต่ Singapore Airlines เค้าจะเรียกเป็นกลุ่มๆ คือ คนพิการ, Business Class และคลับแมมเบอร์จะได้ขึ้นก่อน ตามด้วยครอบครัวที่มีเด็กค่ะ หลังจากนั้นก็จะเรียกเป็นแถวๆไปค่ะ
พอเราเดินขึ้นไปถึงหน้าประตูเครื่องบิน เราก็พับรถเข็นให้เรียบร้อยแล้วก็ส่งให้พนักงานซึ่งรอรับอยู่แล้วค่ะ เขาจะห่อรถเข็นเราด้วยถุงพลาสติกขนาดใหญ่ ก่อนจะส่งลงไปเพื่อโหลดขึ้นเครื่องค่ะ (เราสามารถรอรับรถเข็นได้ที่ประตูเครื่องบินที่สนามบินปลายทางค่ะ)
แอร์น่ารักมากค่ะ เห็นเรา Selfie อยู่ก็เดินมาขอถ่ายให้ 5555 ถ่ายหลายมุมด้วยนะคะ.... มีให้เช็ครูปด้วยค่ะ ถ้าไม่ชอบจะถ่ายให้ใหม่ด้วยนะเธอว์... ประทับจายยยยยยย *****
ถ้าจองพร้อมเด็กทารก (Infant ต่ำกว่า 2 ปี) เราก็จะได้นั่งที่นั่งแถวแรกซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียค่ะ
ข้อดีคือ ที่วางขากว้าง (กว้างกว่า Malindo และ Air Asia แน่นอนอยู่แล้วเนอะ) ระหว่างเครื่องขึ้นลง เราต้องอุ้มลูกและติดเข็มขัดให้ลูกด้วย แต่ที่วางขากว้างเลยไม่อึดอัดเลยค่ะ
ในมือคือของเล่นที่พี่แอร์เอามาให้ค่ะ เค้ามีหลายอย่างมาก (ถ้าไม่อายก็ขอเพิ่มได้ค่ะ 5555) ถ้าเด็กงอแงมากๆเค้าก็จะเอามาให้เรื่อยๆค่ะ (ขาไปลูกนกฮูกไม่งอแงเลยได้มาแค่หนึ่งชิ้น แต่ขากลับบินตอนเย็นทั้งง่วงทั้งเหนื่อย มีงอแงบ้างเลยได้ของเล่นมาเยอะมาก แฮ่ๆๆ)
ข้อดีอีกข้อคือ มีที่ใส่ Bassinet (ตะกร้านอน) ของเด็กค่ะ ซึ่งจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ ถ้าติดตะกร้าก็จะอึดอัดตอนอุ้มลูกนิดนึงค่ะ จะเอาออกเอาเข้าก็เกรงใจแอร์ โชคดีที่เราได้ที่นั่งทั้งแถวในวันนั้น เพราะบินวันพุธ คนไม่เยอะ อิอิ
ถ้านั่งบนตะกร้าแอร์เค้าจะเดินมาเตือนนะคะ
ถ้านอนแต่ไม่ติดซิบก็ไม่ได้ค่ะ แอร์บอกว่าอันตรายยยย
ท่าที่ถูกคือนอนและซิบให้เรียบร้อยค่ะ เผื่อบินผ่านมรสุมลูกจะลอยตกลงมาได้นะคะ
ข้อเสียคือไม่มีที่วางกระเป๋าด้านหน้าค่ะ (ช่องใต้ที่นั่งอ่ะค่ะ) ต้องใส่ช่องข้างบนเท่านั้น... แปลว่า ทั้งขวดนม ขนม ของเล่น ผ้าเปียก ผ้าอ้อม ต้องเอาออกมายัดช่องใส่หนังสือด้านหน้าทั้งหมด... จะได้ไม่ต้องลุกขึ้นไปหยิบทีหลัง... ไม่สะดวกเลยค่ะ... กระเป๋าถือที่ใส่เงินและหนังสือเดินทางก็ต้องเบียดกันนั่งกับเราเพราะไม่อยากเอาขึ้นไปไว้ข้างบนอ่ะ
บินสักพัก อาหารก็มาเสริฟค่ะ บอกเลยว่าอร่อยค่ะ มีทั้งของคาว ของหวาน ผลไม้ เบียร์ ไวน์ น้ำอัดลม ชา กาแฟ ไม่อั้นไม่หวง เติมได้เติมเอาค่ะ
อาหารของลูกก็มีนะคะ เป็นแบบกระปุกแก้วยี่ห้อ ไฮน์ เขาจะให้แบบเป็นอาหารขวดนึง และรสผลไม้อีกขวดค่ะ ตอนขาไปเขาเดินมาบอกว่าถ้าพร้อมจะให้ลูกทานให้แจ้งแอร์ได้เลย แต่ลืมค่ะ 5555 ขากลับเราไม่ลืมนาาา
2 ชั่วโมงผ่านไป.... ก็ถึงสนามบินชางงี่จ้า แวะเข้าห้องน้ำก็ประทับใจอีกแล้ว สมกับเป็นสนามบินติดอันดับต้นๆของโลก... มีห้องน้ำให้แม่ พร้อมที่นั่งพิเศษสำหรับลูกระหว่างปฎิบัตภารกิจ ไม่ได้ใช้แต่ประทับใจอ่า....