การประชุมใหญ่พิเศษ สมาคมฟุตบอลฯ สุดแสนจะวุ่นวาย หลัง "บิ๊กเจี๊ยบ" พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก และ "บิ๊กหอย" ธวัชชัย สัจจกุล ประท้วงหวังคว่ำการประชุม แต่ไม่เป็นผล ก่อนโหวตรับรองข้อบังคับลักษณะการปกครองฯฉบับใหม่ด้วยคะแนนเสียง 58 จาก 72 เสียง

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(17 ก.ย.) ได้มีการประชุมใหญ่พิเศษ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน เรื่องการพิจารณาลักษณะการปกครองของสมาคมฟุตบอลฯ แก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปตามที่กำหนดตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 โดยมี วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ เป็นประธาน พร้อมด้วยสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ และสโมสรสมาชิก ร่วมประชุมอย่างคับคั่ง

แต่ก่อนที่การประชุมจะเริ่ม "เสี่ยหม่อง” ณัฐภณ ปัญญาคณานุกูล ประธานสโมสรพัทยา เอฟซี และ 2 ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯอย่าง "บิ๊กเจี๊ยบ" พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก และ "บิ๊กหอย" ธวัชชัย สัจจกุล ได้ลุกขึ้นประท้วง หวังให้การประชุมในวันนี้ยกเลิก เนื่องจากเห็นว่า สมาคมฟุตบอลฯ ทำผิดข้อบังคับฯ

โดย "เสี่ยหม่อง" และ "บิ๊กเจี๊ยบ" ได้ประท้วงเรื่องที่ สมาคมฟุตบอลฯ ส่งข้อบังคับฯฉบับใหม่ให้สโมสรสมาชิกไม่ถึง 30 วันตามข้อกำหนด โดย "เสี่ยหม่อง" นำหลักฐานว่าสมาคมฟุตบอลฯส่งหนังสือข้อบังคับฯมาให้ตนเองในวันที่ 18 ส.ค. ส่วน "บิ๊กเจี๊ยบ" นำหลักฐานมาแสดงว่าสมาคมฟุตบอลฯส่งหนังสือข้อบังคับฯมาให้ตนในวันที่ 22 ส.ค. ซึ่งไม่ถึง 30 วันตามข้อบังคับฯ

ส่วน "บิ๊กหอย" ประท้วงเรื่องที่มาของผู้มีสิทธิ์โหวต 30 เสียงจากดิวิชั่น 2 ว่าไม่ชอบตามข้อบังคับฉบับเดิมคือของพ.ศ.2556 เนื่องจากเห็นว่า สมาคมฟุตบอลฯ เปลี่ยนแปลงวิธีเลือกตัวแทนจากเดิมที่ใช้อันดับ 1-5 ในแต่ละโซน มาเป็นให้แต่ละโซนโหวตเลือก 5 ทีมมาออกเสียง

ซึ่งเรื่องนี้ มานิต วรรธนะสาร ผอ.กองนิติการ ของการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ ได้ตรวจหลักฐานของทั้ง 3 คน โดยบอกว่า หากใครมีความเห็นว่า การประชุมในวันนี้ขัดต่อข้อบังคับฯ ก็สามารถไปดำเนินการฟ้องร้องได้ภายหลัง พร้อมกล่าวเตือนสมาคมฟุตบอลฯว่า หากการประชุมยังดำเนินต่อไป อาจเป็นโมฆะ แต่ทาง สมาคมฟุตบอลฯ ได้ให้เหตุผลว่า ทุกอย่างทำตามระเบียบข้อบังคับ และถูกต้องตามกฎหมาย และได้ดำเนินการประชุมต่อ

หลังกลับมาประชุมต่อ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ขอให้ที่ประชุมลงมติรองรับ ข้อบังคับฯฉบับใหม่ของทางสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งจากผู้มีสิทธิ์โหวตทั้ง 72 เสียง(ไทยพรีเมียร์ลีก จำนวน 18 ทีม, ดิวิชั่น 1 จำนวน 18 ทีม (ยึดผลงานหลังจบวันที่ 27 กันยายน โดยทีมอันดับ 19-20 ไม่มีสิทธิ์โหวต), ดิวิชั่น 2 จำนวน 30 ทีม และแชมป์กับรองแชมป์ ถ้วย ข, ค, ง อีก 6 ทีม) ผลปรากฎว่า มีมติรับรอง 58 เสียง จึงถือว่าผ่านการรับรอง

นอกจากนั้นยังได้มีการโหวตรับรองคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 5 ราย และคณะกรรมการอุทธรณ์ 3 ราย ซึ่งผลโหวตก็คงเดิมคือ 58 จาก 72 เสียงเช่นเดียวกัน ซึ่งหลังจากการโหวตเสร็จสิ้น "บังยี" ได้กล่าวปิดประชุมทันที

หลังปิดการประชุม "บังยี" ได้กล่าวว่า "การประชุมครั้งนี้เป็นไปอย่างโปร่งใส ซึ่งการโหวตให้รับรองข้อบังคับฯฉบับนี้ก็เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับฯของกกท. โดยทางสมาคมฯจะจัดให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯในวันที่ 17 ตุลาคม ตามเดิม ซึ่งตนเองก็มั่นใจว่า จากผลงานในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา จะทำให้ชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ส่วนใครที่คัดค้านกาประชุมครั้งนี้ก็ให้ไปฟ้องร้องต่อศาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนเองก็พร้อมที่จะสู้ทุกคดีอย่างเต็มที่ เพราะที่ผ่านมาก็สู้ทุกคดีมาโดยตลอดอยู่แล้ว"

ด้าน "บิ๊กหอย" ธวัชชัย สัจจกุล ได้กล่าวว่า "ผมจะให้ทีมกฎหมายไปฟ้องยกเลิกผลการโหวตวันนี้แน่นอน เพราะการประชุมวันนี้มันไม่ชอบด้วยกฤหมายและข้อบังคับฯ เพราะผิดข้อบังคับฯที่ 22 เรื่องโหวตเตอร์ โดยวันนี้การประชุมยังใช้ข้อบังคับฯฉบับเก่าคือของพ.ศ.2556 ซึ่งกำหนดว่า ตัวแทนจากดิวิชั่น 2 ต้องเป็นทีมอันดับ 1-5 ของทั้ง 6 โซน แต่ปรากฎว่าตัวแทนจากดิวิชั่น 2 ในวันนี้ กลับเป็นใครก็ไม่รู้ที่เลือกมา 30 ทีม ซึ่งผมคิดว่ามันผิดข้อบังคับฯชัดเจน"

http://www.smmsport.com/reader.php?news=162099