แม่เบี้ย เป็นนิยายพิศวาสปนสยองขวัญของ วาณิช จรุงกิจอนันต์ นักเขียนรางวัลซีไรต์ เคยถูกทำเป็นภาพยนตร์มาแล้วสองครั้ง และครั้งล่าสุดคือครั้งที่สามถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่โดย หม่อมน้อย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ที่ช่วงหลังเน้นถ่ายทอดงานในรูปแบบอีโรติกหรือ วิจิตรกามา ตามที่ท่านให้คำนิยาม
หนังเล่าเรื่องราวของ ชนะชล (ชาคริต แย้มนาม) นักธุรกิจหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จในแทบทุกด้านของชีวิต แต่กลับไม่มีความสุข เขารู้สึกว่าคฤหาสน์ราคาหลายสิบล้านไม่ใช่ที่ของเขา จนต่อมา ชนะชล ได้พบกับ เมขลา (อ้อม กานต์พิสชา) สาวสวยสุดมั่นเจ้าของบริษัททัวร์และเรือนไทยในอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ตามคำแนะนำของ ภาคภูมิ (ฮัท จิรวิชญ์) นักธุรกิจหนุ่มหล่อรุ่นน้องที่เป็นผู้ช่วยของเขา
นอกจาก ชนะชล จะหลงไหลในตัว เมขลา อย่างมากแล้ว เขายังรู้สึกผูกพันกับเรือนไทยหลังนั้นอย่างประหลาด ต่อมา ชนะชล พบว่าที่นั่นมีงูตัวใหญ่ยักษ์คอยวนเวียนอยู่ ลุงทิม (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) คนเก่าคนแก่ผู้ดูแลบ้านเตือนไม่ให้เขามากลับมาอีก แต่ ชนะชล ไม่เชื่อ เขาสงสัยว่าสถานที่ดังกล่าวมีส่วนเชื่อมโยงกับอดีตอันลึกลับดำมืดของเขา
บทภาพยนตร์ แม่เบี้ย มีความเป็นนิยายสูง ด้วยการแบ่งหนังเป็นองค์ต่างๆ การเล่าผ่านเสียงในหัวของตัวละคร ผู้กำกับเลือกที่จะใช้ยุคปัจจุบันในการถ่ายทอดเรื่อง ไม่ทำเป็นหนังพีเรียด ทำให้เกิดความกํ่ากึ่ง กลางเก่ากลางใหม่ บทสนทนาจึงออกมาค่อนข้างเชย กรุงเทพฯถูกวางให้เป็นตัวแทนของโลกปัจจุบัน สุพรรณบุรีถูกวางให้เป็นตัวแทนของโลกอดีต
งานภาพใช้กล้องถ่ายโฆษณา ยอมรับว่าสวยก็จริงแต่หลายช็อตสโลว์ดูไม่ค่อยลื่นไหล หลายฉากดูประดิษฐ์จนเกินงาน ไม่เป็นธรรมชาติ การพากย์เสียงทีหลังเป็นจุดอ่อนมากกว่าจุดแข็ง เพราะทำให้คำพูดของตัวละครขาดอารมณ์ร่วม ขาดความสดใหม่ มันจึงออกมาราบเรียบราวกับเรากำลังฟังละครทางวิทยุกันอยู่ ประเด็นการตีความใหม่ หม่อมน้อย กล้าที่จะนำเสนอดี งู แม่เบี้ย 2015 จึงดูมีตัวตน มีบทบาทมากกว่าเวอร์ชั่นก่อนๆ มองได้ว่าเป็นทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ ญาติผู้ใหญ่ ที่คอยมาดูแลเรื่องศีลธรรมของลูกหลาน รวมถึงคอยลงโทษคนชั่ว กระนั้นการใช้คำว่า คุณ เรียก งู ก็ดูแปลกพิลึก ด้านความคลุมเครือของเนื้อหาซึ่งเป็นจุดเด่นของนิยายดันหายไป เนื่องจากหนังมีการคลี่คลายจนกระจ่างซะเกือบทุกปม
สำหรับการแสดงน่าจะเป็นส่วนที่แย่ที่สุดของหนัง มีเพียง ศักราช , ชาคริต และ แม็กกี้ อาภา เท่านั้นที่ทำได้ดีตามมาตรฐาน นักแสดงที่เหลือในเรื่อง การพูดจา การเคลื่อนไหว ไม่มีความพอดีเลย ไม่น้อยไป ก็มากเกิน ฮัท จิรวิชญ์ น่าเสียดาย บทส่งแต่กลับไม่สามารถคว้าโอกาสที่ถูกผลักดันได้ ขณะที่ อ้อม กานต์พิสชา ขาดเสน่ห์ในการดึงดูสายตาผู้ชมให้หยุดที่ตัวเธอ
การใส่เวลาในแต่ละช่วงของหนัง มองยังไงก็ไม่เห็นประโยชน์ เช่นเดียวกับฉากอีโรติกควาโลกีย์มายมายจนคนดูเอียนกับเรือนร่างนักแสดง บางซีนนอกจากจะไม่เป็นศิลปะ ไม่ปลุกเร้าความรู้สึกแล้ว ยังขยับเข้าใกล้คำว่าอนาจารมากๆ ซํ้าร้ายบทสรุปของ แม่เบี้ย ยังไม่นำพาให้หนังไปไกลจากตอนเริ่มต้นเลย
คะแนน 6/10
โดย นกไซเบอร์
เครดิต
https://www.facebook.com/cyberbirdmovie
ตัวอย่างหนัง
http://movie.bugaboo.tv/watch/198662/?link=4
รีวิวหนัง : แม่เบี้ย ที่ของคุณ
แม่เบี้ย เป็นนิยายพิศวาสปนสยองขวัญของ วาณิช จรุงกิจอนันต์ นักเขียนรางวัลซีไรต์ เคยถูกทำเป็นภาพยนตร์มาแล้วสองครั้ง และครั้งล่าสุดคือครั้งที่สามถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่โดย หม่อมน้อย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ที่ช่วงหลังเน้นถ่ายทอดงานในรูปแบบอีโรติกหรือ วิจิตรกามา ตามที่ท่านให้คำนิยาม
หนังเล่าเรื่องราวของ ชนะชล (ชาคริต แย้มนาม) นักธุรกิจหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จในแทบทุกด้านของชีวิต แต่กลับไม่มีความสุข เขารู้สึกว่าคฤหาสน์ราคาหลายสิบล้านไม่ใช่ที่ของเขา จนต่อมา ชนะชล ได้พบกับ เมขลา (อ้อม กานต์พิสชา) สาวสวยสุดมั่นเจ้าของบริษัททัวร์และเรือนไทยในอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ตามคำแนะนำของ ภาคภูมิ (ฮัท จิรวิชญ์) นักธุรกิจหนุ่มหล่อรุ่นน้องที่เป็นผู้ช่วยของเขา
นอกจาก ชนะชล จะหลงไหลในตัว เมขลา อย่างมากแล้ว เขายังรู้สึกผูกพันกับเรือนไทยหลังนั้นอย่างประหลาด ต่อมา ชนะชล พบว่าที่นั่นมีงูตัวใหญ่ยักษ์คอยวนเวียนอยู่ ลุงทิม (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) คนเก่าคนแก่ผู้ดูแลบ้านเตือนไม่ให้เขามากลับมาอีก แต่ ชนะชล ไม่เชื่อ เขาสงสัยว่าสถานที่ดังกล่าวมีส่วนเชื่อมโยงกับอดีตอันลึกลับดำมืดของเขา
บทภาพยนตร์ แม่เบี้ย มีความเป็นนิยายสูง ด้วยการแบ่งหนังเป็นองค์ต่างๆ การเล่าผ่านเสียงในหัวของตัวละคร ผู้กำกับเลือกที่จะใช้ยุคปัจจุบันในการถ่ายทอดเรื่อง ไม่ทำเป็นหนังพีเรียด ทำให้เกิดความกํ่ากึ่ง กลางเก่ากลางใหม่ บทสนทนาจึงออกมาค่อนข้างเชย กรุงเทพฯถูกวางให้เป็นตัวแทนของโลกปัจจุบัน สุพรรณบุรีถูกวางให้เป็นตัวแทนของโลกอดีต
งานภาพใช้กล้องถ่ายโฆษณา ยอมรับว่าสวยก็จริงแต่หลายช็อตสโลว์ดูไม่ค่อยลื่นไหล หลายฉากดูประดิษฐ์จนเกินงาน ไม่เป็นธรรมชาติ การพากย์เสียงทีหลังเป็นจุดอ่อนมากกว่าจุดแข็ง เพราะทำให้คำพูดของตัวละครขาดอารมณ์ร่วม ขาดความสดใหม่ มันจึงออกมาราบเรียบราวกับเรากำลังฟังละครทางวิทยุกันอยู่ ประเด็นการตีความใหม่ หม่อมน้อย กล้าที่จะนำเสนอดี งู แม่เบี้ย 2015 จึงดูมีตัวตน มีบทบาทมากกว่าเวอร์ชั่นก่อนๆ มองได้ว่าเป็นทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ ญาติผู้ใหญ่ ที่คอยมาดูแลเรื่องศีลธรรมของลูกหลาน รวมถึงคอยลงโทษคนชั่ว กระนั้นการใช้คำว่า คุณ เรียก งู ก็ดูแปลกพิลึก ด้านความคลุมเครือของเนื้อหาซึ่งเป็นจุดเด่นของนิยายดันหายไป เนื่องจากหนังมีการคลี่คลายจนกระจ่างซะเกือบทุกปม
สำหรับการแสดงน่าจะเป็นส่วนที่แย่ที่สุดของหนัง มีเพียง ศักราช , ชาคริต และ แม็กกี้ อาภา เท่านั้นที่ทำได้ดีตามมาตรฐาน นักแสดงที่เหลือในเรื่อง การพูดจา การเคลื่อนไหว ไม่มีความพอดีเลย ไม่น้อยไป ก็มากเกิน ฮัท จิรวิชญ์ น่าเสียดาย บทส่งแต่กลับไม่สามารถคว้าโอกาสที่ถูกผลักดันได้ ขณะที่ อ้อม กานต์พิสชา ขาดเสน่ห์ในการดึงดูสายตาผู้ชมให้หยุดที่ตัวเธอ
การใส่เวลาในแต่ละช่วงของหนัง มองยังไงก็ไม่เห็นประโยชน์ เช่นเดียวกับฉากอีโรติกควาโลกีย์มายมายจนคนดูเอียนกับเรือนร่างนักแสดง บางซีนนอกจากจะไม่เป็นศิลปะ ไม่ปลุกเร้าความรู้สึกแล้ว ยังขยับเข้าใกล้คำว่าอนาจารมากๆ ซํ้าร้ายบทสรุปของ แม่เบี้ย ยังไม่นำพาให้หนังไปไกลจากตอนเริ่มต้นเลย
คะแนน 6/10
โดย นกไซเบอร์
เครดิต https://www.facebook.com/cyberbirdmovie
ตัวอย่างหนัง http://movie.bugaboo.tv/watch/198662/?link=4