เหตุการณ์เริ่ม เมื่อเดือน กันยายน 2557
ปีนั้นเราอายุ 23 ปี อาการแรกที่เป็นคือ เหนื่อยง่ายมาก เวลานอนก็รู้สึกเหนื่อย เหมือนไปวิ่งรอบสนามมา หิวง่ายมาก กินเยอะแต่น้ำหนักเท่าเดิม (เราน้ำหนัก 44 kg, สูง 165 cm) แล้วชอบวูบบ่อย ทั้งๆที่พึ่งกินอิ่ม
เราตรวจสุขภาพประจำปี เมื่อปลายปี 2557 มีในส่วนของ วัดคลื่นหัวใจไฟ ปรากฎว่า ผิดปกติเล็กน้อย แต่แพทย์ก็บอกว่า พบได้ในคนปกติทั่วไป แต่ตัวเราคิดว่า ต้องเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับหัวใจแน่ๆ เพราะ เหนื่อยง่ายมาก หัวใจเต้นเร็ว ยิ่งขึ้นบันได BTS แบบช้าๆ แล้วลองวัดหัวใจ ได้ 140 up หลังตื่นนอน วัดได้ 90 up
เราเลยนำผลตรวจสุขภาพ ไปหา รพ เอกชน แห่งหนึ่ง แถว BTS เพลินจิต มุ่งไป แผนกโรคหัวใจเลยค่ะ บอกอาการ + ยื่นผลตรวจสุขภาพให้หมออ่าน หลังจากนั้นก็ซักประวัติต่างๆ พร้อมตรวจหัวใจ หมอเค้าทำ คล้ายๆ แมะ ของหมอจีนค่ะ และไปจับที่เท้า หมอก็คงรู้แหละว่า เต้นผิดปกติจริง เลยขอให้ตรวจ คลื่นหัวใจไฟฟ้า, อุลตราซาวน์หัวใจ และ เจาะเลือดเพื่อดูค่าไทรอยด์ค่ะ
ผลออกมา คือ ค่าไทรอยด์สูงกว่าปกติค่ะ และ คลื่นหัวใจไฟฟ้าก็ผิดปกติเล็กน้อย แต่หมอบอกพบได้ในคนปกติทั่วไป เค้าก็เลยส่งเราไปแผนก อายุรกรรมและโรคต่อมไร้ท่อค่ะ
หลังจาก คุยกับคุณหมอด้านต่อมไร้ท่อแล้ว ก็แนะนำมาว่า อาจเป็น ไทรอยด์อักเสบ หรือ ไทรอยด์เป็นพิษ แถมแนะนำว่า ควรรอดูอาการอีก 1 เดือนค่ะ ถ้าไม่หาย ชัวร์เลยว่าเป็น ไทรอยด์เป็นพิษค่ะ และยังแนะนำ ให้ออกกำลังกายแต่พอดี , กินผัก ผลไม้ งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน, งดสาหร่ายค่ะ
เบ็ดเสร็จหมดตัวไป 13,xxx บาทค่ะ ระหว่างรอ 1 เดือน ไม่มียาทานค่ะ (โชคดีประกันที่ทำงานออกให้ 6,xxx บาท เราออกเอง 7,xxx บาท)
2 เดือนผ่านมา (พ.ย. 2557)
อาการก็เหมือนจะแย่ลงค่ะ ก็เลยไปหาคุณหมอด้านต่อมไร้ท่อ ที่ รพ รัฐบาล ค่ะ บอกอาการ และระยะเวลาที่เป็น คุณหมอก็ฟันธงเลยค่ะ ว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษ (ของเราเป็น แบบ HyperThyroid) เราจะมีอาการ ตาโปนเล็กน้อย กินจุแต่น้ำหนักเท่าเดิม เหนื่อยง่าย และ หัวใจเต้นเร็วค่ะ หมอก็มีมาจับที่คอตรงต่อมไทรอยด์ แต่โชคดีที่ต่อมไม่โตค่ะ
สาเหตุ คุณหมอบอกว่า อาจเป็นที่พันธุกรรม (มีคุณย่าเป็นค่ะ) และ ญ จะเป็นมากกว่า ช
การรักษา ของเราจะเป็นแบบกินยาใช้เวลาประมาณ 1-2 ปีค่ะ มียา Methimazole 5 mg กินหลังอาหาร 1 มื้อ ครั้งละ 3 เม็ดค่ะ + ยากันหัวใจวาย จำชื่อยาไม่ได้ กินวันละ 1 เม็ด และ คุณหมอนัด follow up อีก 1 เดือนข้างหน้าค่ะ
เบ็ดเสร็จหมดไป ไม่ถึง 2,500 ค่ะ (โชคดี ประกันที่ทำงานออกให้ 1,000 บาท)
1 เดือนผ่านไป (ธ.ค. 2557)
ไม่ต้องงดน้ำงดอาหารสำหรับเจาะเลือดดูค่าไทรอยด์นะคะ เจาะเสร็จ นั่งรอประมาณ 1 ชม ครึ่ง ก็สามารถฟังผลเลือด กับคุณหมอได้เลย คราวนี้ ค่าเลือดดีกว่าคราวก่อน แต่ก็ถือว่าสูงอยู่ ก็กินยาเหมือนเดิมเลย นัดอีกที 2 เดือนข้างหน้า
2 เดือนผ่านไป (ก.พ. 2558)
อาการก็ดีขึ้น แต่ก็ยังกินจุ + เหนื่อยง่าย น้ำหนัก ขึ้นลง ไม่ 44 ก็ 45 kg ค่ะ (สูง 165 cm)
ค่าเลือดก็ดีขึ้นค่ะ ลดจำนวนยา จาก 3 เม็ด เหลือ 2 เม็ด พร้อมเลิกยากันหัวใจวายค่ะ
หลังจากนั้น ก็นัด follow up ทุก 2-3 เดือนค่ะ ค่าเลือดก็ดีขึ้น มีสูงขึ้นบ้างบางเดือน แต่โดยรวมถือว่า ok ค่ะ จนปัจจุบัน ไม่เหนื่อยแล้ว กินไม่จุด้วย แต่น้ำหนักตอนนี้ 46-47 kg แล้วค่ะ กลัวจะขึ้นอีก เพราะคุณหมอบอก ทานยานี้แล้วจะอ้วนค่ะ
ปัจจุบัน ก็ยังกินยา Methimazole 5 mg กินหลังอาหาร 1 มื้อ ครั้งละ 1 เม็ดค่ะ
คุณหมอมีนัด follow up อีกที เดือน พ.ย. 2558 ค่ะ ซึ่งจะครบ 1 ปี ในการรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษค่ะ
การดูแลตัวเองในตอนนี้ คือ
1. งดคาเฟอีน แต่เราก็มีกิน น้ำอัดลมหรือพวกน้ำโกโก้ น้ำช็อกโกแลต บ้างบางโอกาส
2. ออกกำลังกายแต่พอดี
3. หลีกเลี่ยงความเครียด (ข้อนี้ยากมากสำหรับวัยทำงานอย่างเรา)
4. งดผักดิบทุกชนิด (มีกินบ้างบางครั้ง)
5. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
6. ระหว่างนี้ ห้ามตั้งครรภ์ เพราะยาจะมีผลกับเด็กในครรภ์ค่ะ
มาแชร์ประสบการณ์กัน กับ โรคไทรอยด์เป็นพิษ
ปีนั้นเราอายุ 23 ปี อาการแรกที่เป็นคือ เหนื่อยง่ายมาก เวลานอนก็รู้สึกเหนื่อย เหมือนไปวิ่งรอบสนามมา หิวง่ายมาก กินเยอะแต่น้ำหนักเท่าเดิม (เราน้ำหนัก 44 kg, สูง 165 cm) แล้วชอบวูบบ่อย ทั้งๆที่พึ่งกินอิ่ม
เราตรวจสุขภาพประจำปี เมื่อปลายปี 2557 มีในส่วนของ วัดคลื่นหัวใจไฟ ปรากฎว่า ผิดปกติเล็กน้อย แต่แพทย์ก็บอกว่า พบได้ในคนปกติทั่วไป แต่ตัวเราคิดว่า ต้องเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับหัวใจแน่ๆ เพราะ เหนื่อยง่ายมาก หัวใจเต้นเร็ว ยิ่งขึ้นบันได BTS แบบช้าๆ แล้วลองวัดหัวใจ ได้ 140 up หลังตื่นนอน วัดได้ 90 up
เราเลยนำผลตรวจสุขภาพ ไปหา รพ เอกชน แห่งหนึ่ง แถว BTS เพลินจิต มุ่งไป แผนกโรคหัวใจเลยค่ะ บอกอาการ + ยื่นผลตรวจสุขภาพให้หมออ่าน หลังจากนั้นก็ซักประวัติต่างๆ พร้อมตรวจหัวใจ หมอเค้าทำ คล้ายๆ แมะ ของหมอจีนค่ะ และไปจับที่เท้า หมอก็คงรู้แหละว่า เต้นผิดปกติจริง เลยขอให้ตรวจ คลื่นหัวใจไฟฟ้า, อุลตราซาวน์หัวใจ และ เจาะเลือดเพื่อดูค่าไทรอยด์ค่ะ
ผลออกมา คือ ค่าไทรอยด์สูงกว่าปกติค่ะ และ คลื่นหัวใจไฟฟ้าก็ผิดปกติเล็กน้อย แต่หมอบอกพบได้ในคนปกติทั่วไป เค้าก็เลยส่งเราไปแผนก อายุรกรรมและโรคต่อมไร้ท่อค่ะ
หลังจาก คุยกับคุณหมอด้านต่อมไร้ท่อแล้ว ก็แนะนำมาว่า อาจเป็น ไทรอยด์อักเสบ หรือ ไทรอยด์เป็นพิษ แถมแนะนำว่า ควรรอดูอาการอีก 1 เดือนค่ะ ถ้าไม่หาย ชัวร์เลยว่าเป็น ไทรอยด์เป็นพิษค่ะ และยังแนะนำ ให้ออกกำลังกายแต่พอดี , กินผัก ผลไม้ งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน, งดสาหร่ายค่ะ
เบ็ดเสร็จหมดตัวไป 13,xxx บาทค่ะ ระหว่างรอ 1 เดือน ไม่มียาทานค่ะ (โชคดีประกันที่ทำงานออกให้ 6,xxx บาท เราออกเอง 7,xxx บาท)
2 เดือนผ่านมา (พ.ย. 2557)
อาการก็เหมือนจะแย่ลงค่ะ ก็เลยไปหาคุณหมอด้านต่อมไร้ท่อ ที่ รพ รัฐบาล ค่ะ บอกอาการ และระยะเวลาที่เป็น คุณหมอก็ฟันธงเลยค่ะ ว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษ (ของเราเป็น แบบ HyperThyroid) เราจะมีอาการ ตาโปนเล็กน้อย กินจุแต่น้ำหนักเท่าเดิม เหนื่อยง่าย และ หัวใจเต้นเร็วค่ะ หมอก็มีมาจับที่คอตรงต่อมไทรอยด์ แต่โชคดีที่ต่อมไม่โตค่ะ
สาเหตุ คุณหมอบอกว่า อาจเป็นที่พันธุกรรม (มีคุณย่าเป็นค่ะ) และ ญ จะเป็นมากกว่า ช
การรักษา ของเราจะเป็นแบบกินยาใช้เวลาประมาณ 1-2 ปีค่ะ มียา Methimazole 5 mg กินหลังอาหาร 1 มื้อ ครั้งละ 3 เม็ดค่ะ + ยากันหัวใจวาย จำชื่อยาไม่ได้ กินวันละ 1 เม็ด และ คุณหมอนัด follow up อีก 1 เดือนข้างหน้าค่ะ
เบ็ดเสร็จหมดไป ไม่ถึง 2,500 ค่ะ (โชคดี ประกันที่ทำงานออกให้ 1,000 บาท)
1 เดือนผ่านไป (ธ.ค. 2557)
ไม่ต้องงดน้ำงดอาหารสำหรับเจาะเลือดดูค่าไทรอยด์นะคะ เจาะเสร็จ นั่งรอประมาณ 1 ชม ครึ่ง ก็สามารถฟังผลเลือด กับคุณหมอได้เลย คราวนี้ ค่าเลือดดีกว่าคราวก่อน แต่ก็ถือว่าสูงอยู่ ก็กินยาเหมือนเดิมเลย นัดอีกที 2 เดือนข้างหน้า
2 เดือนผ่านไป (ก.พ. 2558)
อาการก็ดีขึ้น แต่ก็ยังกินจุ + เหนื่อยง่าย น้ำหนัก ขึ้นลง ไม่ 44 ก็ 45 kg ค่ะ (สูง 165 cm)
ค่าเลือดก็ดีขึ้นค่ะ ลดจำนวนยา จาก 3 เม็ด เหลือ 2 เม็ด พร้อมเลิกยากันหัวใจวายค่ะ
หลังจากนั้น ก็นัด follow up ทุก 2-3 เดือนค่ะ ค่าเลือดก็ดีขึ้น มีสูงขึ้นบ้างบางเดือน แต่โดยรวมถือว่า ok ค่ะ จนปัจจุบัน ไม่เหนื่อยแล้ว กินไม่จุด้วย แต่น้ำหนักตอนนี้ 46-47 kg แล้วค่ะ กลัวจะขึ้นอีก เพราะคุณหมอบอก ทานยานี้แล้วจะอ้วนค่ะ
ปัจจุบัน ก็ยังกินยา Methimazole 5 mg กินหลังอาหาร 1 มื้อ ครั้งละ 1 เม็ดค่ะ
คุณหมอมีนัด follow up อีกที เดือน พ.ย. 2558 ค่ะ ซึ่งจะครบ 1 ปี ในการรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษค่ะ
การดูแลตัวเองในตอนนี้ คือ
1. งดคาเฟอีน แต่เราก็มีกิน น้ำอัดลมหรือพวกน้ำโกโก้ น้ำช็อกโกแลต บ้างบางโอกาส
2. ออกกำลังกายแต่พอดี
3. หลีกเลี่ยงความเครียด (ข้อนี้ยากมากสำหรับวัยทำงานอย่างเรา)
4. งดผักดิบทุกชนิด (มีกินบ้างบางครั้ง)
5. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
6. ระหว่างนี้ ห้ามตั้งครรภ์ เพราะยาจะมีผลกับเด็กในครรภ์ค่ะ