จากมติชนออนไลน์

(16 ก.ย.58) เมื่อเวลา 08.00 น. เด็กนักเรียนชาย-หญิง โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ จำนวนกว่า 1,000 คน รวมตัวชุมนุมประท้วงบริเวณสนามหญ้าหน้าโรงเรียน โดยประกาศไม่เข้าห้องเรียน พร้อมชูป้ายด้วยข้อความต่างๆ เพื่อขับไล่นายนิคม สินธุพงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยอ้างเหตุผลว่า มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการเป็นครู

ส่วนสภานักเรียนที่ร่วมการชุมนุม ได้ใช้เครื่องเสียงกล่าวปราศัยโจมตีอย่างต่อเนื่อง โดยมีนายสิทธิชัย มูลเขียน ผู้อำนวยการ สพม.เขต 34 ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ จราจร และสารวัตรทหาร มณฑลทหารบกที่ 33 เข้าดูแลเพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย

นายสิทธิชัย ได้ประกาศแจ้งกับนักเรียนโดยรับปากว่า จะเรียกตัวผู้อำนวยการโรงเรียนมาพูดคุย โดยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมที่ถูกกล่าวหา แต่เบื้องต้นได้ย้ายให้ไปปฏิบัติราชการที่ สพม.34 ระหว่างการสอบสวนเป็นการชั่วคราว ส่วนปัญหาหลักคาดว่ามาจากความไม่พอใจเรื่องการบริหารงาน และอีก 8-9 ประเด็นย่อยที่นักเรียนยื่นให้ตรวจสอบ

ด้าน น.ส.นนทกานต์ ไชยคำวัง นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 หนึ่งในแกนนำกล่าวว่า ขอขอบพระคุณ นายสิทธิชัย ที่มารับเรื่อง และรับปากย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนออกไปโดยเร็วที่สุด จึงขอให้น้องๆ นักเรียนกลับไปเรียนตามปกติ พร้อมประกาศว่าคุณครูที่ขู่ว่าจะตัดเกรดนักเรียน ไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้น หรือตัดเงินนักเรียนที่จะไปแข่งขันโครงการวิทยาศาสตร์ต้องใช้เงินส่วนตัว ทั้งที่มีงบประมาณให้ส่วนนี้ทุกปี ไม่เข้าใจว่าหายไปไหน แต่เมื่อได้รางวัลให้นำงบเข้าโรงเรียน ถือว่าไม่ยุติธรรม ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่อาจจะยังไม่เข้าใจชัดเจน และยังไม่รวมการใช้ความรุนแรงและใช้คำก้าวร้าว ซึ่งเห็นว่าไม่เหมาะสมและนักเรียนรับไม่ได้

น.ส.นนทกานต์ยังกล่าวด้วยว่า สำคัญที่สุดคือ ไม่สนใจ ไม่เคารพวิถีวัฒโน (โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ) ที่เราเคยปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานตามธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติ ซึ่งเรารับไม่ได้จริงๆ แต่กลับใช้เงินไปซื้อปลาคาร์พมาเลี้ยง ทั้งที่ราคาแพงมากไม่สมควร ตัดไฟสปอร์ทไลท์ในสนามบาสโดยอ้างว่าเปลืองเงิน ทั้งที่เด็กๆ ใช้งานอยู่ทุกวัน และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย

อย่างไรก็ตาม มีรายงานระบุด้วยว่า ก่อนเกิดการชุมนุมประท้วงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ได้มีการแชร์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียของศิษย์เก่าชักชวนให้น้องๆ ออกมาประท้วงขับไล่ผู้อำนวยการ โดยมีข้อความระบุว่า มีพฤติกรรมฉ้อโกง อาทิ นำเงินไปเปลี่ยนเบาะรถ มอบหมายให้ครูคนอื่นไปซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดแทนครูประจำห้องสมุด และได้เครื่องชงกาแฟในราคา 40,000 บาทมาแทน แต่ไม่พอใจให้กลับไปเปลี่ยนเครื่องชงกาแฟราคา 60,000 มาแทน ใช้เงิน 500,000 บาท สั่งติดตั้งป้าย LED หน้าโรงเรียนแทนป้ายไวนิลปัจจุบัน ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตั้ง ตัดงบประมาณการไปแข่งขันโครงการวิทยาศาสตร์ ด่านักเรียนว่าโง่ ตัดไฟสปอร์ทไลท์สนามบาส เก็บค่าเสื้อผ้านักเรียนจากร้านค้า 22% เป็นต้น

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า นายนิคม ยังไม่ว่างและไม่อยากชี้แจงใดๆ ซึ่งก่อนหน้านี้นายนิคม เป็นผู้บริหารโรงเรียนที่เคยถูกนักเรียนชุมนุมประท้วงขับไล่มาแล้วขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยโรงเรียนนวมินทราชูทิศพายัพจังหวัดเชียงใหม่แต่กลับได้รับการต้อนรับอย่างดีจากโรงเรียนพร้าววิทยาคมโดยระบุว่านายนิคม เป็นนักบริหารรุ่นใหม่ที่มีหัวก้าวหน้าและพัฒนาการเรียนการสอนในระบบใหม่ แต่อาจทำให้ครูที่สอนอยู่เดิมในโรงเรียนอื่นๆ รับไม่ได้