ก่อนอื่น.. เรื่องนี้เกิดกับเพื่อนผมสองคนครับ เนื่องจากเพื่อนไม่มี user pantip ด้วยความคับแค้นใจ จึงเขียนเรื่องฝากมาลงยาวมาก ขอแปะทั้งข้อความจากคุณเพื่อนดังต่อไปนี้...
เรื่องร้องเรียน
========
พฤติกรรมคนขับรถตู้โดยสาร ทะเบียน 10-3319 ระยอง จงใจหลอกลวงผู้โดยสารและทิ้งผู้โดยสารกลางทาง .. รถคันนี้เป็นรถตู้ สายกรุงเทพ พัทยา สัตหีบ ระยอง
เหตุเกิดขึ้นหน้าโรบินสัน ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 20.15 น. เรากับเพื่อนข้ามเรือรอบหนึ่งทุ่มจากเกาะสีชังแล้วรีบมาต่อรถตู้หน้าโรบินสันเพื่อไปอนุสาวรีย์ชัยฯ เราสองคนก็ถามคนที่คิวรถว่ามีรถตู้คันไหนไปอนุสาวรีย์ไหม ตอนแรกเราเดินไปที่รถคันแรกสุดจะไปขึ้นรถคันนั้น แต่เด็กรถบอกว่าไม่ใช่ ให้ขึ้นคันที่ 2 บอกว่าคันนี้มาส่งอนุสาวรีย์ มีหลายคนที่จะมาอนุสาวรีย์ ก็ขึ้นมาพร้อมกัน ฝนก็ตกหนักมาตลอดทาง พอขับมาถึงตัวเมืองชลบุรีเราได้ยินคนขับคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเขา .. จะไปกินข้าวกับเพื่อน ไปทันแน่ๆ ให้รอกินข้าวด้วย .. ไอ้เราก็ดีใจว่าคนขับคงตั้งใจขับไปให้ทันเวลาเพราะเขาคงรีบไปกินข้าว
... ความซวยหรือจะเรียกว่าอะไรก็ไม่แน่ใจ เพราะปรากฏว่า พอมาถึงอุดมสุขคนขับรถตู้ก็ไล่ผู้โดยสารลง บอกว่าส่งแค่นี้ รถหมดแล้ว และให้ทุกคนจ่ายมา 120 บาท .. ตอนนั้นเวลาประมาณสามทุ่มครึ่งมีผู้โดยสาร 5 คน ต่างคนต่างไม่เข้าใจว่ารถหมดคืออะไร เพราะตอนขึ้นบอกว่าไปส่งอนุสาวรีย์และราคานี้ก็เป็นราคารถตู้จากศรีราชามาอนุสาวรีย์ .. ที่ถูกปล่อยลงอุดมสุขมีทั้งหมด 5 คน เป็นผช. 3 คน มีเรากะเพื่อนที่เป็นผญ. และทั้งที่ไม่ส่งที่ปลายทางอนุสาวรีย์ แต่เก็บค่าโดยสารเต็มราคาคนละ 120 บาท ผู้โดยสารที่เป็นผช. 2 คน เค้าไม่อยากยุ่งยาก ก็เลยยอมจ่าย เรา 3 คนยืนเถียงกะคนขับ .. ยังไงมันก็ไม่ยอมไปส่ง และยังไงก็จะเก็บ 120 เต็มราคา ขนาดเราพูดกับเค้าตรงๆ ว่าทำไมทำแบบนี้ เค้ายังไม่กล้าหันมาสบตาเราเลย เราก็ถามถึงความรับผิดชอบว่าทำแบบนี้แล้วผู้โดยสารเดือดร้อน เขาก็อ้างอย่างเดียวว่าเวลานี้รถหมดแล้ว (แล้วรถตู้ที่
ขับอยู่ตอนนี้นี่ไม่ใช่รถเหรอ รถหมดหมายความว่ายังไง
เก็บค่าโดยสารตรงอุดมสุขเต็มราคานะ ตอนเด็กเรียกพวกกรูขึ้นรถ มรุงก็ได้ยินว่าเด็กรถพูดว่าอะไร ปลายทางไปส่งที่ไหน ทำไมมรุงไม่ท้วงล่ะ ดีออก)
เถียงกันอยู่ตรงนั้นเกือบ 15 นาที ทำยังไงมันก็ไม่ยอมไปส่ง พูดซ้ำซากว่ารถหมดแล้วๆ เรา 2 คนกลัวว่ารถเมล์กลับบ้านจะหมด อันตรายกว่าเดิม ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี นี่ก็สามทุ่มสี่สิบห้าแล้ว ผู้ชายคนนั้นเค้าบอกเรา 2 คนว่าให้จำไว้เป็นบทเรียนก็แล้วกัน แล้วเค้าก็เดินไปที่ป้ายรถเมล์ตรงอุดมสุข เราสองคนไม่อยากจ่ายเงินเต็มราคา แต่ก็กลัวว่าคนขับมีอาวุธหรือเปล่า ตอนนี้มีแต่ผญ. ไม่รู้จะทำไง เลยต้องยอมจ่ายเต็มราคา แล้วนั่ง BTS คนละ 52 บาทเพื่อมาอนุสาวรีย์
ถามว่า .. เราเสียดายเงิน 120 บาท หรือ 52 บาท ที่ต้องจ่ายมั้ย .. นั่นมันไม่ใช่ประเด็นนะ
ประเด็นคือ กลับจากสีชังดึก ๆ ขึ้นรถตู้กลับจากศรีราชาแล้วเจอแบบนี้ ทางเราก็ไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วรถตู้วิ่งถึงอนุสาวรีย์จริง ๆ หรือไม่ แต่ในเมื่อเด็กรถบอกอย่างนั้น รมณ์คนเหนื่อย ๆ จะกลับบ้าน เห็นคำว่า กรุงเทพ กรูก็ขึ้นรถเลยสิวะ
เรื่องนี้ไม่ได้อยากด่าใครหรือโวยวายระบายอารมณ์แล้วก็จบๆ ไปนะ แต่รู้สึกไม่เป็นธรรม .. ควรหาวิธีแก้ไขที่ดีกว่าบ่นหรือเลิกใช้บริการ .. รถตู้ที่บริการดี คนขับนิสัยดี สุภาพก็มีเยอะ แต่รถตู้ที่ทำเชี่ยๆ กับผู้โดยสารก็เยอะ ถ้าเราปล่อยๆ ไป รถตู้นิสัยเลวๆ ก็จะได้ใจ เพราะไม่มีใครทำอะไรให้มันดีขึ้น .. ก็เหมือนเราเห็นตะปูตัวนึงหล่นบนพื้น เราไม่เหยียบ แต่เราก็ไม่เก็บ รอคนอื่นมาเหยียบ ... สังคมถ้าคิดว่าธุระไม่ใช่ เมื่อไหร่มันจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอ่ะ จริงมั้ย
พฤติกรรมที่คนขับรถทำแบบนี้ก็คือ “โกง” โกงมากโกงน้อย ก็คือ โกง
แม้แต่เรื่องผลประโยชน์ แค่นี้ยังไม่มีความซื่อสัตย์ หลอกลวง หากินกับความเดือดร้อนของชาวบ้าน .. ก็น่าจะต้องแก้ไข ไม่งั้นในที่สุดเราจะชินว่าเรื่องโกงเป็นเรื่องปกติ
หรือว่า .. เราควรชินกับมัน และยอมรับว่าเราซวยเองที่ขึ้นรถคันนี้
.. และปล่อยให้เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นต่อไปโดยไม่ทำอะไรเลย.
เมื่อสาวๆ กลับจาก 1-day trip โดนรถตู้ไล่ลงก่อนถึงที่หมาย ทิ้งผู้โดยสารกลางทาง
เรื่องร้องเรียน
========
พฤติกรรมคนขับรถตู้โดยสาร ทะเบียน 10-3319 ระยอง จงใจหลอกลวงผู้โดยสารและทิ้งผู้โดยสารกลางทาง .. รถคันนี้เป็นรถตู้ สายกรุงเทพ พัทยา สัตหีบ ระยอง
เหตุเกิดขึ้นหน้าโรบินสัน ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 20.15 น. เรากับเพื่อนข้ามเรือรอบหนึ่งทุ่มจากเกาะสีชังแล้วรีบมาต่อรถตู้หน้าโรบินสันเพื่อไปอนุสาวรีย์ชัยฯ เราสองคนก็ถามคนที่คิวรถว่ามีรถตู้คันไหนไปอนุสาวรีย์ไหม ตอนแรกเราเดินไปที่รถคันแรกสุดจะไปขึ้นรถคันนั้น แต่เด็กรถบอกว่าไม่ใช่ ให้ขึ้นคันที่ 2 บอกว่าคันนี้มาส่งอนุสาวรีย์ มีหลายคนที่จะมาอนุสาวรีย์ ก็ขึ้นมาพร้อมกัน ฝนก็ตกหนักมาตลอดทาง พอขับมาถึงตัวเมืองชลบุรีเราได้ยินคนขับคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเขา .. จะไปกินข้าวกับเพื่อน ไปทันแน่ๆ ให้รอกินข้าวด้วย .. ไอ้เราก็ดีใจว่าคนขับคงตั้งใจขับไปให้ทันเวลาเพราะเขาคงรีบไปกินข้าว
... ความซวยหรือจะเรียกว่าอะไรก็ไม่แน่ใจ เพราะปรากฏว่า พอมาถึงอุดมสุขคนขับรถตู้ก็ไล่ผู้โดยสารลง บอกว่าส่งแค่นี้ รถหมดแล้ว และให้ทุกคนจ่ายมา 120 บาท .. ตอนนั้นเวลาประมาณสามทุ่มครึ่งมีผู้โดยสาร 5 คน ต่างคนต่างไม่เข้าใจว่ารถหมดคืออะไร เพราะตอนขึ้นบอกว่าไปส่งอนุสาวรีย์และราคานี้ก็เป็นราคารถตู้จากศรีราชามาอนุสาวรีย์ .. ที่ถูกปล่อยลงอุดมสุขมีทั้งหมด 5 คน เป็นผช. 3 คน มีเรากะเพื่อนที่เป็นผญ. และทั้งที่ไม่ส่งที่ปลายทางอนุสาวรีย์ แต่เก็บค่าโดยสารเต็มราคาคนละ 120 บาท ผู้โดยสารที่เป็นผช. 2 คน เค้าไม่อยากยุ่งยาก ก็เลยยอมจ่าย เรา 3 คนยืนเถียงกะคนขับ .. ยังไงมันก็ไม่ยอมไปส่ง และยังไงก็จะเก็บ 120 เต็มราคา ขนาดเราพูดกับเค้าตรงๆ ว่าทำไมทำแบบนี้ เค้ายังไม่กล้าหันมาสบตาเราเลย เราก็ถามถึงความรับผิดชอบว่าทำแบบนี้แล้วผู้โดยสารเดือดร้อน เขาก็อ้างอย่างเดียวว่าเวลานี้รถหมดแล้ว (แล้วรถตู้ที่
เถียงกันอยู่ตรงนั้นเกือบ 15 นาที ทำยังไงมันก็ไม่ยอมไปส่ง พูดซ้ำซากว่ารถหมดแล้วๆ เรา 2 คนกลัวว่ารถเมล์กลับบ้านจะหมด อันตรายกว่าเดิม ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี นี่ก็สามทุ่มสี่สิบห้าแล้ว ผู้ชายคนนั้นเค้าบอกเรา 2 คนว่าให้จำไว้เป็นบทเรียนก็แล้วกัน แล้วเค้าก็เดินไปที่ป้ายรถเมล์ตรงอุดมสุข เราสองคนไม่อยากจ่ายเงินเต็มราคา แต่ก็กลัวว่าคนขับมีอาวุธหรือเปล่า ตอนนี้มีแต่ผญ. ไม่รู้จะทำไง เลยต้องยอมจ่ายเต็มราคา แล้วนั่ง BTS คนละ 52 บาทเพื่อมาอนุสาวรีย์
ถามว่า .. เราเสียดายเงิน 120 บาท หรือ 52 บาท ที่ต้องจ่ายมั้ย .. นั่นมันไม่ใช่ประเด็นนะ
ประเด็นคือ กลับจากสีชังดึก ๆ ขึ้นรถตู้กลับจากศรีราชาแล้วเจอแบบนี้ ทางเราก็ไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วรถตู้วิ่งถึงอนุสาวรีย์จริง ๆ หรือไม่ แต่ในเมื่อเด็กรถบอกอย่างนั้น รมณ์คนเหนื่อย ๆ จะกลับบ้าน เห็นคำว่า กรุงเทพ กรูก็ขึ้นรถเลยสิวะ
เรื่องนี้ไม่ได้อยากด่าใครหรือโวยวายระบายอารมณ์แล้วก็จบๆ ไปนะ แต่รู้สึกไม่เป็นธรรม .. ควรหาวิธีแก้ไขที่ดีกว่าบ่นหรือเลิกใช้บริการ .. รถตู้ที่บริการดี คนขับนิสัยดี สุภาพก็มีเยอะ แต่รถตู้ที่ทำเชี่ยๆ กับผู้โดยสารก็เยอะ ถ้าเราปล่อยๆ ไป รถตู้นิสัยเลวๆ ก็จะได้ใจ เพราะไม่มีใครทำอะไรให้มันดีขึ้น .. ก็เหมือนเราเห็นตะปูตัวนึงหล่นบนพื้น เราไม่เหยียบ แต่เราก็ไม่เก็บ รอคนอื่นมาเหยียบ ... สังคมถ้าคิดว่าธุระไม่ใช่ เมื่อไหร่มันจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอ่ะ จริงมั้ย
พฤติกรรมที่คนขับรถทำแบบนี้ก็คือ “โกง” โกงมากโกงน้อย ก็คือ โกง
แม้แต่เรื่องผลประโยชน์ แค่นี้ยังไม่มีความซื่อสัตย์ หลอกลวง หากินกับความเดือดร้อนของชาวบ้าน .. ก็น่าจะต้องแก้ไข ไม่งั้นในที่สุดเราจะชินว่าเรื่องโกงเป็นเรื่องปกติ
หรือว่า .. เราควรชินกับมัน และยอมรับว่าเราซวยเองที่ขึ้นรถคันนี้
.. และปล่อยให้เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นต่อไปโดยไม่ทำอะไรเลย.