ไม่ไหวจะทนแล้วค่ะ ! ถ้าเรียนดีคือหมายความว่าต้องสนใจหรือติดตามแค่มหาวิทยาลัยรัฐบาลเท่านั้นหรอคะ ??

ตามชื่อกระทู้เลยค่ะ

ตอนนี้เราเรียนอยู่ ม.6 แผนการเรียนศิลป์ - คำนวณ ได้เกรด 4 เทอมที่ผ่านมาเฉลี่ย 3.80 ค่ะ นี่ไม่ได้จะมาอวดเกรดนะคะ นี่คือการระบายค่ะ ระ บาย !!
เป็นเรื่องปกติที่นักเรียนชั้นม.6จะต้องถูกอาจารย์หลายๆท่านในโรงเรียนถามว่าประมาณว่า คิดรึยังว่าจะไปสอบที่ไหนบ้าง อยากเรียนคณะอะไร ดูมหาวิทยาลัยที่ไหนไว้บ้าง บลาๆๆ เราก็เป็นแบบนั้นแหละค่ะ ถูกถามบ่อยๆจนบางทีก็คิดว่าจะสกรีนไว้หลังเสื้อนักเรียนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย #อันนี้พูดเล่นนะ
ตั้งแต่ขึ้นม.ปลายมาเนี่ย ก็เริ่มคิดมาตลอดว่าจบม.6ไปจะแอดมิชชันหรือสอบตรงเข้าที่ไหน คณะอะไรดี ก็ดูอยู่เรื่อยๆ แต่ด้วยความที่ทางบ้านมีธุรกิจเป็นของตัวเองแม่เลยอยากจะให้เน้นไปทางการจัดการ บริหาร ไม่ก็บัญชี ที่ผ่านมาก็ดูโควตารับตรงของหลายๆมหาวิทยาลัยไว้ จะมีช่วงนึงที่เล็งม.แม่ฟ้าหลวง คณะบริหารธุรกิจ การจัดการธุรกิจการบิน (ธุรกิจโลจิสติกส์ทางการบิน) กะว่าจะสมัครแบบโควตาเรียนดีอะไรทำนองนั้น แต่พออ่านข้อมูลแบบละเอียดคือเรียนเป็นภาษาอังกฤษทุกวิชา อ้าว งึ้ดเลย คือรู้ตัวดีค่ะว่าไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษขนาดนั้น พออ่านเขียนพูดได้ แต่ถ้าให้เรียนเป็นภาษาอังกฤษล้วนก็กลัวจะเรียนไม่ไหว เลยตัดทิ้งไป แล้วคือมีวันนึงมหาวิทยาลัยกรุงเทพมาแนะแนวศึกษาต่อที่โรงเรียน ยอมรับเลยว่าตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะเข้าที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพเลย เหตุผลเดียวคือค่าใช้จ่ายเยอะ ไม่อยากให้แม่เหนื่อย แต่หลังจากนั่งฟังพี่ๆและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพอธิบายรายละเอียดในหลายๆเรื่อง คือก็เพิ่งรู้ว่ามี "ทุนประกายเพชร" ก็คือ ใช้เกรด 5 เทอมในการสมัคร ต้องไม่ต่ำกว่า 3.50 คือเราเกรดถึงไง แล้วถ้าเลือกเรียนคณะมนุษย์ศาสตร์ และการจัดการการท่องเที่ยว จะมีให้ออกทริปต่างประเทศสองครั้ง ประเด็นเลยคือถ้าเราสามารถสอบผ่านและได้รับทุนประการเพชรเนี่ย เราไม่ต้องเสียค่าหน่วยกิจและค่าบำรุงรักษาอะไรเลยค่ะ แถมยังมีค่าหนังสือกับค่าใช้จ่ายรายเดือนให้อีกเดือนละ 6500 บาทแน่ะ! ที่ต้องทำคือ สมัคร ยื่นเอกสาร หลักฐาน ผลการเรียน ฯลฯ ทำ portfolio ให้เข้าตาคณะกรรมการ แล้วก็สอบสัมภาษณ์ให้ผ่าน เมื่อเราสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้ว ก็แค่เรียนแล้วรักษาระดับเกรดให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3.00 เราก็จะได้เรียนฟรีไปทุกเทอมแล้ว ซึ่งตามความคิดเราคือ ถ้าเราสอบทุนนี้ได้ เราจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแม่ได้เยอะ เพราะมหาวิทยาลัยรัฐบาลบางที่ค่าเทอมค่าหน่วยกิตก็ไม่ใช่ว่าจะถูกๆสักหน่อย แล้วอีกอย่างคือเราเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมมากกว่าเรียนภาคทฤษฎี เราไม่ได้หมายความว่ามหาวิทยาลัยรัฐบาลไม่เน้นกิจกรรมนะ แค่เรารู้สึกว่าม.กรุงเทพมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากกว่าก็แค่นั้นเอง ถ้าถามว่าเราอยากเรียนมั้ย คืออยากเรียน พอครูถาม เราก็ตอบไปว่า
"หนูรอเกรดเทอมนี้อีกเทอม แล้วคิดว่าจะสมัครทุนประกายเพชรม.กรุงเทพค่ะ ถ้าหนูสอบได้นี่หนูได้เรียนฟรีเลยนะ~"
ครูก็มองหน้าเราแล้วก็พูดว่า "เสียดายความฉลาดเธอนะ ที่เรียนนี่เพราะเขาลดราคาหรอ?"
คือแบบ เห้ย เดี๋ยวๆ คนละประเด็นเปล่าคะ คือถามว่าถ้าไม่ได้มองค่าเทอมค่าหน่วยกิตของแต่ละมหาวิทยาลัย ม.กรุงเทพนี่อยู่ในตัวเลือกเรามั้ย อยู่ค่ะ ม.กรุงเทพอยู่ในตัวเลือกเราในส่วนของมหาวิทยาลัยเอกชนนะ ไม่ใช่ว่าเหตุผลที่เราอยากเข้าที่นี่เพราะถ้าได้ทุนก็ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยสักหน่อย แค่ที่ผ่านมาเราไม่ได้ให้ความสนใจกับที่นี่มากขนาดนี้ก็เท่านั้น ถามว่ามหาวิทยาลัยรัฐบาลล่ะ จะลองไปสมัครสอบมั้ย ? ก็ถ้ามีโครงการที่เราคุณสมบัติผ่าน แล้วก็ตรงกับคณะสาขาที่เราสนใจ เราก็สมัครอยู่แล้ว แต่นี่ที่ดูๆมายังไม่มีไง คือเราไม่เข้าใจอะ อยากเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนนี่ผิดตรงไหน ไม่ดีตรงไหนหรอ? ก็เข้าใจว่าครูหวังดีแล้วก็ถ้าหากว่าเราจบจากมหาวิทยาลัยรัฐบาลเนี่ย โอกาสได้งานมันสูงกว่าจบจากมหาวิทยาลัยเอกชน แต่ถ้าเกิดจบจากมหาวิทลัยรัฐบาลด้วยเกรดที่ไม่ดีเพราะเรียนตามคำแนะนำของคนอื่นไม่ได้คำนึงถึงศักยภาพความสามารถของตัวเอง จะยังมีโอกาสได้งานสูงกว่าอีกหรอ? จบจากมหาวิทยาลัยเอกชนก็พิสูจน์ตัวเองได้ไม่ใช่รึไง
แต่ยังไงๆ เราก็ไม่ได้หวังว่าจะต้องเข้าเอกชนอย่างเดียวปะ เราก็รอดูโครงการต่างๆของมหาวิทยาลัยรัฐบาลอยู่ตลอดอะ แค่ตอนนี้ยังไม่มาไงคะ หนูเลยตอบครูได้แค่นี้
คือเราไม่โอเคกับการที่ครูเขาใจแคบแบบนี้อะ

มีใครเป็นแบบเราบ้าง มาแชร์กันหน่อยดิ เศร้า

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
สมัยเราสอบเอ็นท์ คะแนนเราสูงมากพอที่จะเข้าม.นึงได้สบายๆ
แต่เราไปเลือกคณะเดียวกันแต่อีกม.นึง
ทุกคนก็แบบ ทำไมไม่เลือกม.นี้นั่นนี่บลาๆๆๆ
ปล่อยให้เค้าพูดไปค่ะ เพราะเราคิดเสมอว่า
เราเป็นคนเรียน คณะนี้สาขานี้เราเลือกเอง
และเราก็มีความสุขกับการเรียนมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่