จุดประสงค์การตั้งกระทู้ของเราคือมาขอบคุณน้องผู้ชายสองคนโดยเฉพาะและแชร์เรื่องราวความมีน้ำใจเล็กๆน้อยๆในสังคม
จากที่สังเกตทั้งสองเป็นนิสิตจุฬา(จขกท.มองจากเข็มขัด ขออภัยที่มองต่ำ
)
วันนี้เราไปทำเล็บแถวสยามซอย2 จอดรถเข้าซองตรงข้ามร้านทำเล็บนั่นแหละค่ะ
ด้วยความที่สยามเป็นทำเลทองไม่นานก็มีรถมาจอดซ้อนคันปิดท้ายรถเรา
ในใจคิดละอุ๊แม่เจ้าทำเล็บมาถ้าเข็นรถเล็บจะเป็นรอยไหม (ประสบการณ์เคยเละมาแล้ว)
เมื่อทำเล็บเสร็จออกมารถสองคันนั้นก็ยังปิดทางเป็นอมตะอยู่ที่เดิม
เรากำลังมองหาพี่ยามก็หาไม่เจอเอาวะคะเข็นเองเลยดีกว่า
ในขณะที่ชะนีน้อย(จขกท.)กำลังพยายามทำโมเมนตั้มโถมตัวเข็นรถสุดแรงอยู่นั้นมีน้องนิสิตสองคนเดินมา
น้องถามเราว่า ช่วยไหมครับ จากนั้นน้องสองคนก็ช่วยเข็นช่วยดันรถสองคันให้พ้นจากท้ายรถเรา
เราขอบคุณน้องเสร็จก็ขึ้นรถปรับกล้องค่อยๆถอยออกแต่ระยะมันชิดมากเลยเปิดกระจกดู
จังหวะนั้นเราเห็นน้องสองคนยืนห่างๆไปตรงทางม้าลายเหมือนน้องจะดูว่าเราถอยพ้นรึเปล่า (หรือเราจินตนาการไปเอง)
เราก็ถอยๆสุดท้ายพี่ยาม(ที่เพิ่งมีตัวตน)ก็วิ่งมาโบกให้ พออกมาได้เราชะลอรถมองหาน้องเพื่อจะขอบคุณอีกรอบ น้องไปละ
เราจำหน้าน้องไม่ได้เพราะเวลามันรวดเร็วแต่ด้วยการกระทำของน้องมันทำให้เราคิดว่า(ใจ)น้องหล่อมากกกกกและยกให้ทั้งคู่เป็นหนึ่งในCU Cuteboyในใจเรา น้องไม่ต้องพึ่งสปอตไลท์ ไม่ต้องพึ่ง คอนแทคเลนส์ บีบีครีม เบส แต่ความหล่อในใจน้องทำให้ ณ เวลานั้นตัวน้องมีออร่าเลยคะ อาจจะดูเวอร์นะคะ แต่เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ
กระทู้เราอาจจะรก หรือตัวหนังสือเยอะน่ารำคาญขี้เกียจอ่านสำหรับใครบางคน แต่เราอยากแบ่งปันให้คนในสังคมยังรู้สึกว่า ในสังคมเมืองที่ทุกคนคิดแต่เรื่องตัวเองยังมีคนดีดีแบบนี้อยู่คะ เรายกย่อง และ สนับสนุนคนทำดี
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงจุดนี้ ตัวหนังสืออาจจะเยอะ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
แท็กห้องเครื่องแป้งเพราะจุดเริ่มต้นคือการทำเล็บและสุดท้ายเข็นรถเล็บไม่เลอะด้วยT^Tดีใจมากจุดนี้
แท็กสยามสแควร์เพราะมีชื่อมหาวิทยาลัยน้องทั้ง2 และสยามสแควร์เป็นจุดเกิดเหตุ
แท็กศาลาประชาคม (จิตอาสา) เพราะน้องมีน้ำใจอาสาช่วยเรา
แท็กชานเรื่อน(การสอนลูก) เพราะเราเชื่อว่าการมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นของน้องเกิดมาจากการอบรมของครอบครัวและคนใกล้ชิด
ขอบคุณในน้ำใจหนุ่มแปลกหน้าสองคนที่สยาม
จากที่สังเกตทั้งสองเป็นนิสิตจุฬา(จขกท.มองจากเข็มขัด ขออภัยที่มองต่ำ)
วันนี้เราไปทำเล็บแถวสยามซอย2 จอดรถเข้าซองตรงข้ามร้านทำเล็บนั่นแหละค่ะ
ด้วยความที่สยามเป็นทำเลทองไม่นานก็มีรถมาจอดซ้อนคันปิดท้ายรถเรา
ในใจคิดละอุ๊แม่เจ้าทำเล็บมาถ้าเข็นรถเล็บจะเป็นรอยไหม (ประสบการณ์เคยเละมาแล้ว)
เมื่อทำเล็บเสร็จออกมารถสองคันนั้นก็ยังปิดทางเป็นอมตะอยู่ที่เดิม
เรากำลังมองหาพี่ยามก็หาไม่เจอเอาวะคะเข็นเองเลยดีกว่า
ในขณะที่ชะนีน้อย(จขกท.)กำลังพยายามทำโมเมนตั้มโถมตัวเข็นรถสุดแรงอยู่นั้นมีน้องนิสิตสองคนเดินมา
น้องถามเราว่า ช่วยไหมครับ จากนั้นน้องสองคนก็ช่วยเข็นช่วยดันรถสองคันให้พ้นจากท้ายรถเรา
เราขอบคุณน้องเสร็จก็ขึ้นรถปรับกล้องค่อยๆถอยออกแต่ระยะมันชิดมากเลยเปิดกระจกดู
จังหวะนั้นเราเห็นน้องสองคนยืนห่างๆไปตรงทางม้าลายเหมือนน้องจะดูว่าเราถอยพ้นรึเปล่า (หรือเราจินตนาการไปเอง)
เราก็ถอยๆสุดท้ายพี่ยาม(ที่เพิ่งมีตัวตน)ก็วิ่งมาโบกให้ พออกมาได้เราชะลอรถมองหาน้องเพื่อจะขอบคุณอีกรอบ น้องไปละ
เราจำหน้าน้องไม่ได้เพราะเวลามันรวดเร็วแต่ด้วยการกระทำของน้องมันทำให้เราคิดว่า(ใจ)น้องหล่อมากกกกกและยกให้ทั้งคู่เป็นหนึ่งในCU Cuteboyในใจเรา น้องไม่ต้องพึ่งสปอตไลท์ ไม่ต้องพึ่ง คอนแทคเลนส์ บีบีครีม เบส แต่ความหล่อในใจน้องทำให้ ณ เวลานั้นตัวน้องมีออร่าเลยคะ อาจจะดูเวอร์นะคะ แต่เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ
กระทู้เราอาจจะรก หรือตัวหนังสือเยอะน่ารำคาญขี้เกียจอ่านสำหรับใครบางคน แต่เราอยากแบ่งปันให้คนในสังคมยังรู้สึกว่า ในสังคมเมืองที่ทุกคนคิดแต่เรื่องตัวเองยังมีคนดีดีแบบนี้อยู่คะ เรายกย่อง และ สนับสนุนคนทำดี
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงจุดนี้ ตัวหนังสืออาจจะเยอะ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
แท็กห้องเครื่องแป้งเพราะจุดเริ่มต้นคือการทำเล็บและสุดท้ายเข็นรถเล็บไม่เลอะด้วยT^Tดีใจมากจุดนี้
แท็กสยามสแควร์เพราะมีชื่อมหาวิทยาลัยน้องทั้ง2 และสยามสแควร์เป็นจุดเกิดเหตุ
แท็กศาลาประชาคม (จิตอาสา) เพราะน้องมีน้ำใจอาสาช่วยเรา
แท็กชานเรื่อน(การสอนลูก) เพราะเราเชื่อว่าการมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นของน้องเกิดมาจากการอบรมของครอบครัวและคนใกล้ชิด