Taobao หรือในภาษาจีน คือ 淘宝网 เป็นเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของประเทศจีน คล้ายๆกับเว็ปไซต์ร้านค้าออนไลน์ของบ้านเราครับ ที่ทำหน้าที่เหมือนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่มีสินค้าครบวงจร มีสินค้าให้เลือกมากมายเกือบทุกชนิดเลยก็ว่าได้ และมีราคาที่ถูกกว่าบ้านเราถึง30-50%  เชื่อกันมั้ยว่า ชาวจีนที่นั่นนิยมสั่งซื้อสินค้ากันใน Taobao มากกว่าการที่จะออกไปเดินซื้อสินค้าที่ห้าง เพราะ Taobao ทั้งสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย และ มีบริการจัดส่งสินค้าถึงสถานที่ที่กำหนด จึงทำให้ Taobao เป็นขวัญใจชาวจีนและใครอีกหลายๆคนทั่วโลก

Taobao.com นั้นเป็นลูกของ Alibaba.com (1688.com) ที่ได้แตกตัวออกมา ซึ่งทั้ง 2 เว็บไซต์นั้นทำธุรกิจ E-Commerce เหมือนกันแต่ข้อแตกต่างที่ Taobao มีนั้นก็คือจะเน้นขายปลีกให้บุคคลทั่วไปซะมากกว่า ส่วน Alibaba.com (1688.com) จะเน้นขายส่งให้กับบริษัทหรือโรงงานต่างๆ ครับ

ถ้าเป็นคร่าวๆก็จะประมาณนี้เลย
แล้วอยากสั่งสินค้าจาก taobao หรือ alibaba ทำอย่างไรล่ะ  ในเมื่อเราอยู่เมืองไทย?
เป็นข้อสงสัยสำหรับหลายๆคนมากครับว่ามันต้องวุ่นวายมากทั้งในการโอนเงินและนำเข้ามา มันมีวิธีครับ

ผมจะแนะนำวิธีดังนี้
Taobao ก็จะเป็นเหมือนพื้นที่ให้ร้านต่างๆมาเปิดกัน  เมื่อเราชำระค่าสินค้าไปแล้ว ยอดเงินจะไม่ได้เข้าที่ผู้ขายทันที มันจะไปอยู่ที่ตัวกลาง คือ taobao นี่แหละ ยึดเงินเราไว้ ถ้าร้านส่งของ และไม่มีการ refund หรือมีปัญหาอะไร เงินถึงจะไปถึงมือผู้ขายครับ  ฟังดูเหมือนง่ายนะครับแต่การสมัครสมาชิกของ taobao เราจะต้องมีที่อยู่+สมัครalipay+เบอร์ติดต่อในจีนก่อน ซึ่งถ้าผมไม่มีคนรู้จักในจีนก็อาจจะสมัครไม่ได้ ไหนจะต้องคล่องในเรื่องการใช้ภาษาจีนอีก เพราะ ประมาณว่าเค้าสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะคนจีนครับ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่คนไทยที่อยู่ในไทยอย่างเราๆจะสมัครสมาชิก และทำการซื้อของเองครับ

และข้อดีการนำเข้าเอง>>>ถ้าติดต่อกับทางร้านค้าจีนเอง เราก็จะได้ราคาที่ถูกกว่าที่อื่น เพราะว่าสามารถต่อรองราคาได้ แต่ถ้าผ่านคนกลางเค้าก็อาจจะเอาส่วนลดนั้นเข้ากระเป๋าตัวเองครับ

ส่วนข้อเสียนำเข้าเอง >>>เสี่ยงถูกโกงครับ เพราะถ้าเราไม่คล่องเรื่องภาษา อาจมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร อาจผิดพลาดในการสั่งสินค้าได้ครับ และเรื่องที่น่าเป็นห่วงก็คือ เรื่องภาษี เพราะเรานำเข้าอย่างถูกต้อง100% อาจจะต้องคำนึงถึงการเสียภาษีว่าคุ้มมั้ย ต้องหาเส้นสายให้ดีครับ ในการเคลียร์ภาษี (ผมเหนื่อยมากกับเรื่องภาษีครับวิ่งเต้นกันหลายขั้นตอนกันเลยทีเดียว)


ที่กล่าวมาทางขั้นต้นก็เป็นเกี่ยวกับการนำเข้ามาเองนะครับ
เรามาดูกันต่อที่เข้ามาผ่านกับบริษัทนำเข้าสินค้าจากจีนกัน ที่เรียกกันติดปากว่า *ชิปปิ้ง*  ก็อยู่ที่เราเลือกเลยครับ
เพราะประเทศไทยมีอยู่หลายเจ้าด้วยกันทีเดียว

โดยส่วนตัวผมลองใช้อยู่หลายเจ้าครับ (กว่าจะเจอเจ้าที่ถูกใจก็หาอยู่นาน) เพราะว่าประสบการณ์ที่เคยนำเข้ามาเอง พบเจอปัญหามามากครับ ต้องพึ่งพาคนหลายขั้นตอนมากๆเลย แล้วภาษาจีนก็เป็นอุปสรรคในการติดต่อมากครับ ซึ่งผมไม่เก่งทั้งจีนและอังกฤษ จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชิปปิ้งจัดการเลยครับ ทางร้านชิปปิ้งของผมใช้งานง่ายครับ  

วิธีแบบดั้งเดิมหรือแบบที่เคยใช้บริการมา >>> ก็คือส่งไฟล์เป็นexcel ส่งรายละเอียดของสินค้าทำเป็นรายการขั้นตอน โดยที่ทางชิปปิ้งนั้นจะส่งใบเสนอราคามาให้เรากรอก และเวลาในการจัดส่ง ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรครับในการรอ ใบรายการครับ ข้อดีก็คือเราได้จัดเรียงแบบรายการสินค้าที่ต้องการด้วยตัวเอง ส่วนข้อเสียก็คงหนีไม่พ้นความยุ่งยากในการเรียงเองนี่ล่ะครับ กรอกผิดๆถูกๆอาจจะทำให้ผิดพลาดได้ครับ

ส่วนวิธีแบบใหม่>>>  เดี๋ยวนี้สะดวกกว่าแต่ก่อนครับ เพียงแค่เอาลิ้งค์จากร้านค้าไปวางไว้กับหน้าเพจของ บริษัทเค้า
หลังจากนั้นก็รอการตรวจสอบว่า สินค้าเป็นเงินเท่าไหร่ พอเราโอนเงินเข้าไป ทางบริษัทก็จะทำการยืนยันและสั่งซื้อของให้ผมเบ็ดเสร็จ  และไม่นานครับประมาณ12-15วันผมก็ได้รับสินค้าถึงมือผมครับ

ไปดูขั้นตอนของผมกันครับ

1.เอาลิ้งค์สินค้ามาวางไว้เลยครับ อันนี้ทำจากหน้าเว็ปของบริษัทเค้าเลยครับ



หรืออยากจะเลือกซื้อสินค้าผ่านทางเว็ปเค้าก็มีให้เลือกครับ



2.เมื่อระบุสินค้าว่าต้องการสีไหนแบบไหนได้แล้ว สินค้าก็จะมาอยู่ในหน้านี้ครับ


เราก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบออเดอร์ในรายการที่เราสั่งซื้อเข้าไปครับ แต่อีกออเดอร์ด้านล่างของผมได้รับการตรวจสอบออเดอร์เรียบร้อยแล้วครับ มาดูกันต่อครับ




ค่าสินค้าและค่าขนส่งทั้งหลายก็จะขึ้นยอดมาให้เราชำระเงินครับ อันนี้ผมยังไม่ได้ชำระครับ
ส่วนด้านล่างคือ ธนาคารต่างๆมีให้เลือกว่าเราสะดวกกับธนาคารไหนก็เลือกโอนได้ครับ


อันนี้คือรายการที่ผมเพิ่งทำไปนะครับ ใหม่ๆเลยครับ
บริษัทนี้จะแจ้งตลอดครับ ว่าสถานะถึงไหนแล้วและเมื่อสินค้ามาถึงก็จะขึ้นแบบนี้ครับ
(อันนี้คือออเดอร์เก่าของผมครับที่มาถึงแล้ว)


ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนในการสั่งซื้อสินค้านำเข้ามา ก็อยู่ที่ความสะดวกของแต่ละท่านนะครับ ว่าสะดวกกันแบบไหน ผมก็แค่แวะมาแชร์ความคิดเห็นครับ หวังว่ากระทู้ของผมจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ ไปล่ะครับ