ผมสงสัยอยู่อย่างนึง เป็นของ รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT คือผมเคยซื้อเหรียญแบบเที่ยวเดียว จากสุขุมวิท จะไปลงลุมพินี  แต่พอเข้าระบบไปแล้วเกิดเปลี่ยนใจเพราะเพื่อนโทรมาบอกให้ไปลงสีลมแทน แต่บัตรที่ซื้อมาซื้อไปลงแค่ลุมพินี

ด้วยความที่รู้อยู่แล้ว ว่ายังไงก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เพราะสีลมมันไกลกว่าลุมพินี พอผมไปถึงสถานีสีลม (ในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น) ก็เลยเดินตรงไปที่ห้องขายตั๋วทันที  พร้อมบอกจนท. ว่า ขอจ่ายค่าตั๋วเพิ่ม จนท. ก็ถามว่า "เอาเหรียญไปหยอดทางออก แล้วออกไม่ได้ใช่ไหมครับ" ผมเลยบอกว่า "ยังครับ ยังไม่ได้ไปหยอดครับ ผมเดินตรงมาที่นี่เลย"
จนท.เลยบอกว่าผมต้องเอาเหรียญเดินไปแตะที่ทางออกก่อน เพื่อให้ระบบร้องแจ้งเตือน แล้วถึงค่อยเดินกลับมา ถึงจะเอาเหรียญมาเปลี่ยนราคาใหม่ได้

ผมก็งง

เลยถามว่าทำไมต้องเอาไปแตะ เปลี่ยนราคาแล้วจ่ายเพิ่มเลยไม่ได้เหรอ เพราะตอนนั้นคือ คนที่สถานีสีลมเยอะมาก  ทาง จนท ก็ยืนยันว่า ไม่ได้ ถ้าไม่ไปแตะ ระบบก็จะคิดราคาใหม่ไม่ได้

สรุปผมก็ต้องเดินย้อนกลับไป ต่อคิวเหมือนจะเดินออก แตะเหรียญ ให้เครื่องร้อง "ตื๊ดดดด ตื๊ดดดด"  (เสียงดังมาก) รปภ.ตรงนั้น ทำงานดีมาก ก็รีบตรงเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ว่า ติดต่อ จนท.เลยครับ !!!  พร้อมคนข้างหลังก็ ถอนหายใจใส่ทีนึง (เหมือนโดนด่าฟรี ๆ - -")  แล้วผมก็เดินออกจากแถว กลับไปหา จนท คนเดิม เพื่อจ่ายเงินส่วนต่างเพิ่มอีก 1 สถานี - -"

คือ ทำไมระบบ MRT ถึงทำแบบ BTS ไม่ได้ เพราะ BTS ถ้าซื้อราคาถูกกว่ามา พอไปถึงสถานีที่จะลง ก็เดินเอาบัตรไปให้ จนท ที่ห้องขายตั๋วเปลี่ยนราคาตั๋วให้ได้เลย แล้วก็เดินไปเสียบบัตรออกทีเดียว ไม่ต้องทำอะไรซ้ำซ้อน

ผมก็เลยสงสัยว่า คอมพิวเตอร์ที่ห้องจำหน่ายตั๋วของ MRT ในแต่ละสถานี ไม่สามารถคำนวนหรือเปลี่ยนราคาตั๋วโดยสารได้เองเหรอครับ แล้วทำไมถึงวางระบบมาแบบนี้ เพราะอย่างในต่างประเทศ หลาย ๆ ประเทศที่ก็มีตู้ Adjust ค่าตั๋วที่ผู้โดยสารทำได้เองเลย

แบบนี้ถ้าเป็นนักท่องเที่ยว ซื้อตั๋วผิดสถานี ถ้ามา 4 คน ก็ต้องเดินกลับมาแตะใหม่ทั้ง 4 คนเลยเหรอครับ มันดูลำบาก ไม่สะดวกเลย
  

ปล. ผมมีบัตรเติมเงิน แต่หลาย ๆ ครั้งซื้อตั๋วเที่ยวเดียวเพราะต้องการแตกแบงค์ครับ บอกไว้ก่อน กลัวเจอคำตอบว่า บัตรเติมเงิน ดีที่สุด  - -