สักวา ทฤษฎี แมลงสาบ ท่านเคยทราบ เคยได้ฟัง บ้างไหมหนา
ทฤษฎี นี้โด่งดัง ได้ขึ้นมา จาก Sundar Pichai เล่าให้ฟัง
ร้านอาหาร ย่านคนรวย สวยสงบ จุดนัดพบ ของผู้ดี มีมนต์ขลัง
หญิงกลุ่มหนึ่ง ทานเงียบๆ เรียบร้อยจัง อยู่ดีๆ มีเสียงดัง ปึงปังมา
หญิงนางหนึ่ง ซึ่งอดรน ทนไม่ไหว ด้วยแมลงสาบ ตัวหยาบใหญ่ ไต่แขนขา
ร้องกรี๊ดกร๊าด วาดมือไม้ ปัดไปมา อนิจจา เหมือนคนบ้า ไม่น่าดู
แมลงสาบ ยังเกาะดี ไม่หนีหาย เธอปัดป่าย ปากวี้ดว้าย กระตู้วู้
ไม่อายใคร ตะโกนไล่ ไปจากกรู ยังโชคดี ที่โฉมตรู ปัดถูกมัน
มันกระเด็น กระดอนไป เกาะใครอื่น ก็แตกตื่น สติหาย ทำลายขวัญ
มีปฏิ- กิริยา มาเหมือนกัน ร้องทันควัน ขวัญกระเจิง เซิ้งกระจาย
ความตกใจ แพร่ไปทั่ว กลัวทั้งกลุ่ม ยากควบคุม reaction เมื่อขวัญหาย
เหตุการณ์แย่ panicหนัก ชักบานปลาย มีบ๋อยชาย รายหนึ่งมา หาพอดี
เผอิญว่า แมลงสาบ บินมาเกาะ ช่างเหมาะเจาะ เกาะที่บ๋อย ไม่ถอยหนี
ถึงตกใจ ไม่ไหวติง นิ่งทันที กลับไม่มี reaction แม้หวั่นใจ
บ๋อยระวัง สังเกตดู พฤติกรรม ดูมันทำ แล้วคำนวณ ความเคลื่อนไหว
จนรู้ว่า แมลงเดิน เหินอย่างไร แล้วเอาถุง ครอบลงไป ได้ตัวมัน
บ๋อยใช้หมอง ลองสังเกต responseดี แต่สาวนี้ นั้นมีแค่ reaction
สองอย่างนี้ มีอะไร ใกล้เคียงกัน ต่างกันที่ reaction ไร้ปัญญา
เจออะไร ตอบโต้ไป ในทันที นั่นคือมี reaction สร้างปัญหา
แปลง่ายง่าย คือปฏิ กิริยา อาจออกมา อย่างบ้าคลั่ง นั่งเสียใจ
แต่ response คือก่อนจะ ตอบสนอง ได้กลั่นกรอง โดยสมอง อันผ่องใส
คิดดูก่อน respond ดี จึงมีชัย Reaction พาบรรลัย นำภัยมา
แมงเม่าวุ่น เห็นหุ้นดิ่ง ก็ชิ่งหนี ก็คือมี reaction นั่นแหละหนา
คือ panic หรือปฏิ กิริยา จ้าว respond ช้อนหุ้นมา ร่าเริงเอย



Sundar Pichai คือคนที่ได้รับการวางตัวเป็น CEO คนต่อไปแห่ง Google Inc พื้นเพเป็นคนอินเดียนะครับ
เคยพูดเรื่อง Cockroach Theory เอาไว้ในปาฐกถาแห่งหนึ่ง ทำให้ทฤษฎีแมลงสาบนี้เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป
(ความจริงทฤษฎีนี้มีมาก่อนแล้ว แต่มาโด่งดังหลัง speech ของ Sundar Pichai ครับ)
ลองอ่านที่ผมคัดลอกมาแปะไว้ให้นี่เลยนะครับ เป็นภาษาอังกฤษนิดหน่อย แต่เข้าใจได้ไม่ยากเลยครับ
ผมไม่อยากแปล เพราะจะเสียอรรถรสของดั้งเดิมไปอะครับ
“It is not the cockroach, but the inability of the ladies to handle the disturbance caused by the cockroach that disturbed the ladies.
I realized that, it is not the shouting of my father or my boss or my wife that disturbs me, but it’s my inability to handle the disturbances caused by their shouting that disturbs me. It’s not the traffic jams on the road that disturbs me, but my inability to handle the disturbance caused by the traffic jam that disturbs me.
More than the problem, it’s my reaction to the problem that creates chaos in my life.
Lessons learnt from the story: “Do not react in life. Always respond.”
The women reacted, whereas the waiter responded.
Reactions are always instinctive whereas responses are always well thought of, just and right to save a situation from going out of hands, to avoid cracks in relationship, to avoid taking decisions in anger, anxiety, stress or hurry.”
ที่มา
http://bitsnapper.com/the-cockroach-theory-for-self-development-sundar-pichai/

ขอให้ทุกท่านโชคดี คิดดี มี response ต่อตลาดหุ้นมากกว่าที่จะเป็น reaction นะครับ

ปะป๋าว่ามีแมลงสาบอยู่ในบ้านเราเหรอฮัฟฟ? Nobby ช่วยหานะฮัฟฟ...กำลังหิวพอดีเยยย
<[^_^]> สักวา ทฤษฎี แมลงสาบ.....ท่านเคยทราบ เคยได้ฟัง บ้างไหมหนา
ทฤษฎี นี้โด่งดัง ได้ขึ้นมา จาก Sundar Pichai เล่าให้ฟัง
ร้านอาหาร ย่านคนรวย สวยสงบ จุดนัดพบ ของผู้ดี มีมนต์ขลัง
หญิงกลุ่มหนึ่ง ทานเงียบๆ เรียบร้อยจัง อยู่ดีๆ มีเสียงดัง ปึงปังมา
หญิงนางหนึ่ง ซึ่งอดรน ทนไม่ไหว ด้วยแมลงสาบ ตัวหยาบใหญ่ ไต่แขนขา
ร้องกรี๊ดกร๊าด วาดมือไม้ ปัดไปมา อนิจจา เหมือนคนบ้า ไม่น่าดู
แมลงสาบ ยังเกาะดี ไม่หนีหาย เธอปัดป่าย ปากวี้ดว้าย กระตู้วู้
ไม่อายใคร ตะโกนไล่ ไปจากกรู ยังโชคดี ที่โฉมตรู ปัดถูกมัน
มันกระเด็น กระดอนไป เกาะใครอื่น ก็แตกตื่น สติหาย ทำลายขวัญ
มีปฏิ- กิริยา มาเหมือนกัน ร้องทันควัน ขวัญกระเจิง เซิ้งกระจาย
ความตกใจ แพร่ไปทั่ว กลัวทั้งกลุ่ม ยากควบคุม reaction เมื่อขวัญหาย
เหตุการณ์แย่ panicหนัก ชักบานปลาย มีบ๋อยชาย รายหนึ่งมา หาพอดี
เผอิญว่า แมลงสาบ บินมาเกาะ ช่างเหมาะเจาะ เกาะที่บ๋อย ไม่ถอยหนี
ถึงตกใจ ไม่ไหวติง นิ่งทันที กลับไม่มี reaction แม้หวั่นใจ
บ๋อยระวัง สังเกตดู พฤติกรรม ดูมันทำ แล้วคำนวณ ความเคลื่อนไหว
จนรู้ว่า แมลงเดิน เหินอย่างไร แล้วเอาถุง ครอบลงไป ได้ตัวมัน
บ๋อยใช้หมอง ลองสังเกต responseดี แต่สาวนี้ นั้นมีแค่ reaction
สองอย่างนี้ มีอะไร ใกล้เคียงกัน ต่างกันที่ reaction ไร้ปัญญา
เจออะไร ตอบโต้ไป ในทันที นั่นคือมี reaction สร้างปัญหา
แปลง่ายง่าย คือปฏิ กิริยา อาจออกมา อย่างบ้าคลั่ง นั่งเสียใจ
แต่ response คือก่อนจะ ตอบสนอง ได้กลั่นกรอง โดยสมอง อันผ่องใส
คิดดูก่อน respond ดี จึงมีชัย Reaction พาบรรลัย นำภัยมา
แมงเม่าวุ่น เห็นหุ้นดิ่ง ก็ชิ่งหนี ก็คือมี reaction นั่นแหละหนา
คือ panic หรือปฏิ กิริยา จ้าว respond ช้อนหุ้นมา ร่าเริงเอย
Sundar Pichai คือคนที่ได้รับการวางตัวเป็น CEO คนต่อไปแห่ง Google Inc พื้นเพเป็นคนอินเดียนะครับ
เคยพูดเรื่อง Cockroach Theory เอาไว้ในปาฐกถาแห่งหนึ่ง ทำให้ทฤษฎีแมลงสาบนี้เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป
(ความจริงทฤษฎีนี้มีมาก่อนแล้ว แต่มาโด่งดังหลัง speech ของ Sundar Pichai ครับ)
ลองอ่านที่ผมคัดลอกมาแปะไว้ให้นี่เลยนะครับ เป็นภาษาอังกฤษนิดหน่อย แต่เข้าใจได้ไม่ยากเลยครับ
ผมไม่อยากแปล เพราะจะเสียอรรถรสของดั้งเดิมไปอะครับ
“It is not the cockroach, but the inability of the ladies to handle the disturbance caused by the cockroach that disturbed the ladies.
I realized that, it is not the shouting of my father or my boss or my wife that disturbs me, but it’s my inability to handle the disturbances caused by their shouting that disturbs me. It’s not the traffic jams on the road that disturbs me, but my inability to handle the disturbance caused by the traffic jam that disturbs me.
More than the problem, it’s my reaction to the problem that creates chaos in my life.
Lessons learnt from the story: “Do not react in life. Always respond.”
The women reacted, whereas the waiter responded.
Reactions are always instinctive whereas responses are always well thought of, just and right to save a situation from going out of hands, to avoid cracks in relationship, to avoid taking decisions in anger, anxiety, stress or hurry.”
ที่มา http://bitsnapper.com/the-cockroach-theory-for-self-development-sundar-pichai/
ปะป๋าว่ามีแมลงสาบอยู่ในบ้านเราเหรอฮัฟฟ? Nobby ช่วยหานะฮัฟฟ...กำลังหิวพอดีเยยย