มีกลุ้มใจมาโดยตลอดครับ ท้าวความก่อนนะครับ ผมเป้นนักกิจกรรมตัวยงของภาควิชาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งหลังจบกิจกรรมแล้วก็มักจะมีงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ นอกเวลากับรุ่นพี่ หรือแม้กระทั่งเพื่อนๆ เอย ผมซึ่งแน่นอนผมไม่เคยปฏิเสธครับ เพื่อนไปไหนไปกัน นัดที่ไหนไปหมด ก็สนุกอยู่หรอกครับตามประสาวัยรุ่น มีการร้องเพลงดีดกีตาร์ หยิบยกเกมส์ต่างๆนามาในวงเหล้า หารค่าเบียค่าเหล้าค่ากลับแกล้ม มีการเปิดอกคุยกันแบบลูกผู้ชายในยามดึก กว่าจะเสร็จก็ ตี 2-3 บางงานก็เกือบเช้าแหละครับ สิ่งที่ผมได้รับต่อจากนี้คือ ผมต้องทนตื่นเช้าเพื่อไปเข้าวิชาเรียน บางทีก็โดดเรียนบ้างเนื่องจากอาการแฮ้งจากการดื่มแอลกอฮอล์และพักผ่อนไม่เพียงพอ เจ็บบริเวณข้อและกระดูก อ้วก มึนหัว การเรียนก็เสียและไม่รู้เรื่อง โอเครเราได้มิตรภาพระหว่างเพื่อน พี่ แต่ผมก็กลับมาคิดได้ว่าบางทีมิตรภาพหมู่เพื่อนกับรุ่นพี่ก็ไม่เคยที่จะมาลงที่ขวดเหล้านะครับก็เลยพยายามลดๆ ปฏิเสธแต่ก้ไม่เป็นผล
ดังนั้น การมีแฟนจึงเป็นปัจจัยนึงที่จะเป็นสาเหตุเพื่อให้ผมได้กล่าวอ้างการหลุดพ้นจากวัฏจักรนี้ซักที เพราะช่วงเวลาปี 4 ก่อนจะจบนี้มีการเรียนที่เข้มข้นมากสำหรับภาควิชาของผมแปล paper เป็นว่าเล่น อีกทั้งมีการทำ thesis project ที่ยากมาก ผมเริ่มมีแฟนตอน ปี 3 ครับแล้วก็เลือกที่จะปฏิเสธเพื่อนๆและพี่ๆในการชวนกันไปกินเหล้าหลังๆ จนเพื่อนๆ ก้บอกว่าผมอะ "ติดเมีย" แต่ผมก้โอเครอะครับก็เรารักของเราแฟนเเรายังไงก็ไม่ไปอยู่แล้ว เพราะใจจริงแล้วเราก็ไม่อยากไป ซึ่งบางครั้งแฟนก็อยากให้เราไปแต่เราก็ไม่ไปนั่นแหละ
ถ้าถามว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน หลังจากนี้เลยครับ เพื่อนๆ เริ่มมองผมแบบแปลกๆ คุยกับผมน้อยลง ชวนไปสังสรรค์ก็พอชวนเป็นพิธี เห้ยมันไม่ไปหรอกวะ ปล่อยมันไปเหอะ บ้างก็มีมาถามว่า "มืงก็โกหกแฟนบ้างก็ได้ดิวะว่ามืงไปทำงานบ้านเพื่อนไรงี้ " ซึ่งก็บอกไปว่า "กุเปิดเผยมีไรก็พูดกับแฟนตรงๆ กุกลัวบาป" (โดยความจริงแล้วแฟนซิ่วไปเรียนพยาบาลที่มหาลัยแห่งนึง อยู่ไกลกันมาก จะพบทีก็เดือนละครั้ง)
ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นว่า ผมเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครเลยอยู่คนเดียวซะมากกว่าเพื่อนที่สนิทๆ ในวงเหล้าก็ห่างหาย ไหนจะเรื่อง เงิน สุขภาพ ความรัก การเรียน ผมผิดด้วยหรอครับที่ผมเป็นคนดีแล้วเพื่อนไม่คบ เห้ออออ แค่อยากให้เข้าใจกันบ้างก็เท่านั้นไม่ใช่ว่าไปไม่ได้แต่แบบพาไปกินอย่างอื่นก็ได้ที่ไม่ใช่เหล้าจะบุฟเฟ่อะไรก็ว่าไป หรือมันไม่แมนที่ไม่กินเหล้า เพียงแค่เราไม่เห็นประโยชน์ของมันก็เท่านั่นเอง T T
ผมผิดใช่ไหมที่ไม่ไปสังสรรค์กับเพื่อนเพื่อมาอยู่กับแฟน
ดังนั้น การมีแฟนจึงเป็นปัจจัยนึงที่จะเป็นสาเหตุเพื่อให้ผมได้กล่าวอ้างการหลุดพ้นจากวัฏจักรนี้ซักที เพราะช่วงเวลาปี 4 ก่อนจะจบนี้มีการเรียนที่เข้มข้นมากสำหรับภาควิชาของผมแปล paper เป็นว่าเล่น อีกทั้งมีการทำ thesis project ที่ยากมาก ผมเริ่มมีแฟนตอน ปี 3 ครับแล้วก็เลือกที่จะปฏิเสธเพื่อนๆและพี่ๆในการชวนกันไปกินเหล้าหลังๆ จนเพื่อนๆ ก้บอกว่าผมอะ "ติดเมีย" แต่ผมก้โอเครอะครับก็เรารักของเราแฟนเเรายังไงก็ไม่ไปอยู่แล้ว เพราะใจจริงแล้วเราก็ไม่อยากไป ซึ่งบางครั้งแฟนก็อยากให้เราไปแต่เราก็ไม่ไปนั่นแหละ
ถ้าถามว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน หลังจากนี้เลยครับ เพื่อนๆ เริ่มมองผมแบบแปลกๆ คุยกับผมน้อยลง ชวนไปสังสรรค์ก็พอชวนเป็นพิธี เห้ยมันไม่ไปหรอกวะ ปล่อยมันไปเหอะ บ้างก็มีมาถามว่า "มืงก็โกหกแฟนบ้างก็ได้ดิวะว่ามืงไปทำงานบ้านเพื่อนไรงี้ " ซึ่งก็บอกไปว่า "กุเปิดเผยมีไรก็พูดกับแฟนตรงๆ กุกลัวบาป" (โดยความจริงแล้วแฟนซิ่วไปเรียนพยาบาลที่มหาลัยแห่งนึง อยู่ไกลกันมาก จะพบทีก็เดือนละครั้ง)
ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นว่า ผมเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครเลยอยู่คนเดียวซะมากกว่าเพื่อนที่สนิทๆ ในวงเหล้าก็ห่างหาย ไหนจะเรื่อง เงิน สุขภาพ ความรัก การเรียน ผมผิดด้วยหรอครับที่ผมเป็นคนดีแล้วเพื่อนไม่คบ เห้ออออ แค่อยากให้เข้าใจกันบ้างก็เท่านั้นไม่ใช่ว่าไปไม่ได้แต่แบบพาไปกินอย่างอื่นก็ได้ที่ไม่ใช่เหล้าจะบุฟเฟ่อะไรก็ว่าไป หรือมันไม่แมนที่ไม่กินเหล้า เพียงแค่เราไม่เห็นประโยชน์ของมันก็เท่านั่นเอง T T