ผมมีหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลหลายธนาคารด้วยกันครับ ก่อนหน้านี้ก็ผ่อนหนี้ได้ตลอดมาเป็นปี จนกระทั่งตกงานก็เริ่มจ่ายไม่ได้ก็เลยหยุดจ่ายทุกหนี้ ก็เป็นธรรมดาที่ถูกโทรศัพท์ทวงหนี้จนแทบจะเป็นโรคประสาท ช่วงตกงานอยู่นั้นก็ได้ไปทำธุรกิจ MLM เพราะคิดว่าจะได้เงินเยอะๆ เร็วๆ แต่ก็ไปไม่รอดทำได้อยู่ เกือบปีสุดท้ายก็ไปไม่รอด เพราะค่าใช้จ่ายเยอะมาก ไหนจะค่าเดินทาง ที่พัก กินข้าวนอกบ้าน ค่าประชุม ไป-กลับ กรุงเทพฯต่างจังหวัดเป็นว่าเล่น แต่ก็พอขายสินค้าได้ ทำให้พอมีเงินปะทังชีวิตอยู่ได้ ระหว่างนั้นก็ได้สมัครหางานประจำทำไปด้วย แต่ก็ไม่ได้งานซักที่ สมัครไปหลาย 10 บริษัทฯ ทั้งในอินเตอร์เน็ตและ walk in ผ่านไปหลายเดือน ก็ยังไม่ได้งาน  ช่วงนั้นผมเครียดมาก จนล้มป่วยในที่สุด รักษาตัวอยู่เกือบ 3 เดือน กว่าจะหาย ไม่ได้ไปหาหมอเพราะไม่มีเงินเลย ประกันสังคมก็ขาด นอนโทรมอยู่บ้าน เมื่ออาการดีขึ้นก็เริ่มหางานใหม่ จำได้ว่า ไปเป็นลมขณะสัมภาษณ์งาน เพราะตอนนั้นยังไม่หายดี แต่โชคดีที่เขารับเข้าทำงาน แต่ก็ทำงานไม่ไหว เพราะโรงงานที่ทำมีสารพิษเยอะมาก จะต้องปิดผ้าปิดจมูก สุดท้ายก็ออกเพียง 4 เดือนแล้วหางานใหม่ ช่วงนั้นผมสามารถปิดบัญชี เทสโก้ พรีเมียร์ได้ จากวงเงิน 27,000 บาทไม่รวมดอกเบี้ย ปิดได้ที่ 21,000 บาท เป็นเวลา 2 งวด ซึงเขาลดให้และพูดจาไพเราะมาก ระหว่างนั้นก็มีหมายศาลมาที่บ้าน เป็นของ ธนาคารกรุงไทย มีบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ศาลได้ตัดสินให้ผมผ่อนชำระ เดือนละ 2 พันบาทเป็นเวลา 35 เดือน ตอนนี้ผ่อนมา 10 เดือนแล้ว หนี้ประมาณ 65,000 บาทก็ผ่อนมาเรื่อย ๆไม่มีปัญหาอะไร จนในที่สุดผมก็ได้งานทำเมื่อปี 2558 เริ่มต้นปีใหม่ ก็ยังคงถูกทวงหนี้มาโดยตลอด มีของบัตรเครดิตทหารไทย ซิตี้แบงค์ ธนชาติ ซิตี้แอดวานซ์ ผมจึงตกลงผ่อนจ่ายของ บัตรเครดิตทหารไทยเดือนละ 2,000 บาท ของ ซิตี้แบงค์  1,000 บาทและแล้วหมายศาลฉบับที่ 2 ก็มาเป็นของ City Advance ไปขึ้นศาลมาเรียบร้อย แต่ครั้งนี้ไม่เจอผู้พิพากษา เจอแต่เจ้าหน้าที่หรือทนายของ City Advance ก็คุยกันอยู่ข้างล่างไม่ได้ขึ้นข้างบน ผมกู้สินเชื่อ City Advance มา 130,000 บาท จ่ายเดือนละ 4,3xx บาทเป็นเวลา 48 เดือน ผมจ่ายไปแล้วเป็นเวลาน่าจะ 15 เดือน ยอดเงินราว 6 หมื่นกว่าๆ หลังจากตกงานก็หยุดจ่าย ไปไกล่เกลี่ยที่ศาลที่ยอดฟ้องที่ 128,500 บาท เขาให้ผมทำยอมจ่ายเดือนละ 3,500 บาทเป็นเวลา 24 เดือนแล้วเดือนสุดท้ายให้จ่ายที่เหลือ แต่ผมจ่ายไม่ไหวตอนนั้นจึงทำยอมที่ 3,000 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 24 เดือน แล้วจ่ายส่วนต่างทั้งหมดในเดือนที่ 25 นั้นหมายความว่าเดือนที่ 25 ผมจะต้องจ่าย 56,500 บาทถ้าจ่ายไม่ได้จะคิดดอกเบี้ยอีก 15% ของเงินต้นที่ค้าง ตอนนี้ผมจ่ายละเดือนละ 3,000 มาแล้ว 3 เดือน และเดือนนี้ผมตั้งใจจะปิดบัญชี จึงขอให้เขาลดราคาให้ เขาบอกว่าจะปิดบัญชี ก็ปิดได้ที่ 98,000 บาท ผมจ่ายไม่ไหว ซึ่งผมคาดการณ์ไว้ว่า ไม่น่าจะเกิน 5 หมื่นบาทน่าจะปิดบัญชีได้  ความรู้สึกผมตอนนี้แย่มากๆ กู้เงินมา 130,000 บาท จ่ายไปแล้ว 7 หมื่นกว่า หนี้ยังเหลืออีกประมาณ 120,000 บาท ผมไม่รู้ว่าเขาคิดดอกเบี้ยยังไง ตอนเสนอขายบอกว่า ร้อยละ 15 ต่อปีลดต้นลดดอก ไม่เคยพูดถึงค่าธรรมเนียมอะไรเลย พอมารู้ที่หลังผมบอกว่าจะคืนเงินให้เขาบอกว่าคืนได้ แต่คิดดอกเบี้ย 3% ช่วงนั้นผมมีปัญหาต้องใช้เงินพอดีเอาไปซ่อมรถเปลี่ยนยางจ่ายประกัน ถึงตอนนี้ผมจะผ่อนหนี้ยังไงไหวเนี่ย เงินเดือนออกมา ก็จ่ายหนี้หมด ไม่รู้จะทำงานไปทำไมแล้ว รวมหนี้แล้วเดือนละ 13,000 บาท ยังมีค่าที่พักอีก 3,000 บาท เงินเดือนแค่ 18,000 บาทและตอนนี้บริษัทก็มีปัญหา ให้หยุดงานจ่าย 50% อีก เมื่อไหร่จะใช้หนี้หมด เจอ City Advance ไปทีเดียวเงิบสนิท เพราะหลายบริษัทลดหนี้ให้ ไม่มีใครคิดดอกเบี้ยอะไรเยอะขนาดนี้  ใครพอมีวิธีให้ผมจ่ายหนี้ City Advance ไม่เกิน 5 หมื่นบาทบ้าง ผมอยากปิดบัญชีนี้จริง ขอคำแนะนำหน่อยครับ..? มันเครียดมาก เพราะโดนทวงหนี้ตลอด    อยากจะลบบริษัทนี้ออกจากหัวไปเสียที..ผวาทุกครั้งที่โทรศัพท์ดัง...แต่ผมชอบ TMB มากเลย กู้สินเชื่อก่อน City Advance  เสียอีก  เขาคิดดอกเบี้ย 15% ไม่มีอะไรแอบแฝงเลยใส่สูตร EXCEL ออกมาเท่ากันเป๊ะๆ จนบัดนี้ยังไม่ทวงหนี้ผมเลย เคยโทรมาไม่กี่ครั้ง ผมบอกสถานการณ์ชีวิตเขาไป เขารับฟังและไม่ติดตามทวงหนี้ผมอีกเลยให้โอกาสเราได้หาเงินใช้หนี้ ถ้าผมมีเงินก้อน  หนี้แรกที่ผมจะปิดคือ TMB และขอบคุณเค้ามากๆด้วยครับ สุดท้ายนี้ อยากจะเตือนทุกคนที่คิดจะเป็นหนี้ขอให้คิดให้ดีก่อนที่จะเป็นนะครับ ตอนนั้นผมสร้างหนี้เงินเดือนเยอะมากโบนัสก็เป็นแสน คิดว่าหนี้แค่แสน 2 แสน โบนัสออกก็ใช้หมดละ แต่ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนใครจะรู้ว่าอยู่ๆเราจะตกงาน ใครจะรู้ว่าเงินทองจะหายากขึ้นขนาดนี้ เพราะฉะนั้นอย่าประมาท