เนื่องจากอีเว้นท์ (จี้)ชิพ(คลาสเอ)หาย ปัจจุบันสุดแสนจะน่าสนใจมาก(ประชด) ทำให้ข้าพเจ้าไม่ค่อยเข้าไปทอยหรือสุ่มชิพ(หาย) จึงมีเวลาใคร่ครวญ ไตร่ตรองถึงปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยในเกมเศรษฐีเซิร์ฟไทย... นั่นคือปรากฏการณ์ส่งอีโมแลบลิ้น
ข้าพเจ้าก็สงสัยเหมือนที่หลายคนสงสัยว่า... พวกเขาทำไปเพื่ออะไร? เขาต้องการจะสื่อสารสิ่งใดกับเราหรือเปล่า? คู่แข่งหลายคนก็แปลก เล่นเงียบๆมาทั้งเกมแต่จะแลบลิ้นให้เราดูตอนจบเกมเมื่อรู้ว่าเขาชนะเราแน่นอน บางคนก็แลบทั้งที่ตัวเองแพ้แน่นอน บางคนก็แลบทั้งเกม แลบทุกสถานการณ์
ครั้นจะคิดว่าเขาเหล่านั้นแลบลิ้นเพื่อเยาะเย้ย...ถากถาง...ทับถม ที่ชนะเราได้ ก็ดูจะขัดกับสิ่งที่ผู้ใหญ่แทบทุกคนพร่ำสอนเรามาตั้งแต่เด็กๆว่า เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ เป็นสยามเมืองยิ้ม คนไทยกิริยามารยาทดี มีน้ำใจ รู้แพ้รู้ชนะ เพราะได้รับการอบรมสั่งสอนที่ดีมาจากพ่อแม่ มันไม่น่าจะใช่นะ
ข้าพเจ้าที่ปกติจะเล่นทอยเต๋าไปเงียบๆไม่เคยส่งอะไรให้ใครก่อน ได้แต่เก็บงำความสงสัยในพฤติกรรมของพวกเขาไว้ในใจอยู่นานหลายเดือน จนเมื่อคืนได้บังเกิดไอเดียหนึ่งขึ้น คิดว่าน่าจะไขปริศนาของการแลบลิ้นได้ ว่าพวกเขาต้องการสื่อสิ่งใดให้เรา มันคงต้องเป็นเรื่องที่สำคัญกับชีวิตเขาแน่ๆ หลายคนจึงตั้งอกตั้งใจแลบลิ้นรัวๆขนาดนั้น...
ข้าพเจ้าจึงเปลี่ยนคำทักทายในเกมเป็นคำถามว่า "หากบิดาใครเสียชีวิตก็แลบลิ้นออกมาเถิด" แล้วลองเข้าไปทอยเล่นเมื่อคืนหลายตา...
โอ้โฮไม่น่าเชื่อ!!! ปรากฏว่าแบบสำรวจประชากรผ่านคำทักทายของข้าพเจ้าได้ผลเป็นอย่างดี มีคู่แข่งชาวไทยหลายคนตอบรับด้วยการแลบลิ้นส่งสัญญาณให้รู้ว่าบิดาของพวกเขาได้เสียชีวิตลงแล้ว ทั้งแลบตอนจบเกมและระหว่างเกม
ด้วยความเห็นใจระคนสงสาร ข้าพเจ้าทำได้เพียงส่งคำว่า "ขอบคุณ" (ที่ตอบแบบสอบถาม) และหน้าร้องไห้(ร่วมแสดงความเสียใจที่บิดาเขาเสียชีวิต) กลับไปให้
เรื่องนี้ทำให้ข้าพเจ้าได้รู้ว่ามีเด็กไทยกำพร้าพ่ออยู่ไม่น้อยที่เข้ามาเล่นเกมนี้ คิดๆไปก็น่าสงสารพวกเขา ที่คงไม่มีบิดาคอยเป็นตัวอย่างที่ดีและอบรมสั่งสอนเรื่องมารยาทและน้ำใจนักกีฬาให้ตั้งแต่เล็กแต่น้อย ก็ไม่รู้ว่าชีวิตจริงพวกเขาจะกล้าแลบลิ้นปลิ้นตาเวลาเล่นหมากเก็บหรือตีแบตชนะคู่แข่งจริงๆบ้างไหม หรือกล้าหาญแค่ในเกมออนไลน์เท่านั้น
ก็นับเป็นมุมมองใหม่ๆที่เกมเศรษฐีช่วยให้เราเห็นแง่มุมหนึ่งที่น่าเวทนาของเด็กกำพร้าพ่อในไทย ข้าพเจ้าจึงนำมาเล่าสู่กันฟังเป็นวิทยาทาน หากผู้อ่านกระทู้ท่านใดจะนำไอเดียไปต่อยอด เพื่อสำรวจประชากรนักเล่นเกมผู้กำพร้ามารดา หรือลองถามเพื่อนบ้านชาวอินโดเป็นภาษาอังกฤษว่าพวกเขากำพร้าบุพการีด้วยหรือไม่ เห็นว่าชาตินี้ก็นิยมชมชอบการแลบเลียเช่นกัน ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่ประการใด
ขอบคุณเกมเศรษฐีที่ช่วยสำรวจประชากรเด็กกำพร้าในไทย
ข้าพเจ้าก็สงสัยเหมือนที่หลายคนสงสัยว่า... พวกเขาทำไปเพื่ออะไร? เขาต้องการจะสื่อสารสิ่งใดกับเราหรือเปล่า? คู่แข่งหลายคนก็แปลก เล่นเงียบๆมาทั้งเกมแต่จะแลบลิ้นให้เราดูตอนจบเกมเมื่อรู้ว่าเขาชนะเราแน่นอน บางคนก็แลบทั้งที่ตัวเองแพ้แน่นอน บางคนก็แลบทั้งเกม แลบทุกสถานการณ์
ครั้นจะคิดว่าเขาเหล่านั้นแลบลิ้นเพื่อเยาะเย้ย...ถากถาง...ทับถม ที่ชนะเราได้ ก็ดูจะขัดกับสิ่งที่ผู้ใหญ่แทบทุกคนพร่ำสอนเรามาตั้งแต่เด็กๆว่า เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ เป็นสยามเมืองยิ้ม คนไทยกิริยามารยาทดี มีน้ำใจ รู้แพ้รู้ชนะ เพราะได้รับการอบรมสั่งสอนที่ดีมาจากพ่อแม่ มันไม่น่าจะใช่นะ
ข้าพเจ้าที่ปกติจะเล่นทอยเต๋าไปเงียบๆไม่เคยส่งอะไรให้ใครก่อน ได้แต่เก็บงำความสงสัยในพฤติกรรมของพวกเขาไว้ในใจอยู่นานหลายเดือน จนเมื่อคืนได้บังเกิดไอเดียหนึ่งขึ้น คิดว่าน่าจะไขปริศนาของการแลบลิ้นได้ ว่าพวกเขาต้องการสื่อสิ่งใดให้เรา มันคงต้องเป็นเรื่องที่สำคัญกับชีวิตเขาแน่ๆ หลายคนจึงตั้งอกตั้งใจแลบลิ้นรัวๆขนาดนั้น...
ข้าพเจ้าจึงเปลี่ยนคำทักทายในเกมเป็นคำถามว่า "หากบิดาใครเสียชีวิตก็แลบลิ้นออกมาเถิด" แล้วลองเข้าไปทอยเล่นเมื่อคืนหลายตา...
โอ้โฮไม่น่าเชื่อ!!! ปรากฏว่าแบบสำรวจประชากรผ่านคำทักทายของข้าพเจ้าได้ผลเป็นอย่างดี มีคู่แข่งชาวไทยหลายคนตอบรับด้วยการแลบลิ้นส่งสัญญาณให้รู้ว่าบิดาของพวกเขาได้เสียชีวิตลงแล้ว ทั้งแลบตอนจบเกมและระหว่างเกม
ด้วยความเห็นใจระคนสงสาร ข้าพเจ้าทำได้เพียงส่งคำว่า "ขอบคุณ" (ที่ตอบแบบสอบถาม) และหน้าร้องไห้(ร่วมแสดงความเสียใจที่บิดาเขาเสียชีวิต) กลับไปให้
เรื่องนี้ทำให้ข้าพเจ้าได้รู้ว่ามีเด็กไทยกำพร้าพ่ออยู่ไม่น้อยที่เข้ามาเล่นเกมนี้ คิดๆไปก็น่าสงสารพวกเขา ที่คงไม่มีบิดาคอยเป็นตัวอย่างที่ดีและอบรมสั่งสอนเรื่องมารยาทและน้ำใจนักกีฬาให้ตั้งแต่เล็กแต่น้อย ก็ไม่รู้ว่าชีวิตจริงพวกเขาจะกล้าแลบลิ้นปลิ้นตาเวลาเล่นหมากเก็บหรือตีแบตชนะคู่แข่งจริงๆบ้างไหม หรือกล้าหาญแค่ในเกมออนไลน์เท่านั้น
ก็นับเป็นมุมมองใหม่ๆที่เกมเศรษฐีช่วยให้เราเห็นแง่มุมหนึ่งที่น่าเวทนาของเด็กกำพร้าพ่อในไทย ข้าพเจ้าจึงนำมาเล่าสู่กันฟังเป็นวิทยาทาน หากผู้อ่านกระทู้ท่านใดจะนำไอเดียไปต่อยอด เพื่อสำรวจประชากรนักเล่นเกมผู้กำพร้ามารดา หรือลองถามเพื่อนบ้านชาวอินโดเป็นภาษาอังกฤษว่าพวกเขากำพร้าบุพการีด้วยหรือไม่ เห็นว่าชาตินี้ก็นิยมชมชอบการแลบเลียเช่นกัน ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่ประการใด