[CR] [Review] Love Sick Season 2 Half Past 6-7 : Back To Basic

กระทู้รีวิว


แปปๆ Love Sick The Series Season 2 ก็ดำเนินเรื่องผ่านมาถึงครึ่งทางของครึ่งหลังแล้ว นับว่าไวเหมือนกันหากนับว่าอีกไม่กี่สัปดาห์ตัวละครที่เรารักกำลังจะลาจอปิดตำนาน Love Sick The Series ไปในที่สุด แต่จะปิดตำนานไปในรูปแบบไหนนั้น นั่นแหล่ะที่น่าเป็นห่วง เพราะถ้านับรวม season 2.1 แล้วนี่ก็ผ่านมาหลายตอนเหมือนกัน แต่เหมือนทีมงานและผู้เกี่ยวข้องจะขยันมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ให้ผู้ชมใจตุ้มๆ ต้อมๆ หน้าจออยู่เสมอ ดูไปบ่นไป กุมขมับไป ได้ขยับมือขยับปากวิพากษ์วิจารณ์กันไม่เว้นแต่ละอาทิตย์

และครั้งนี้ก็เช่นกัน

EP 28-29 : Please Tell Me What Do You Want



ตอนท้ายของ EP 27 เมื่อสัปดาห์ก่อนทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้คนดู เมื่อเสด็จพ่อของคุณชายปุณณ์บังเอิญนั่งรถกลับมาเห็นลูกชายตัวเองกอดกันแมนๆ กับพื่อนผู้ชายด้วยกัน (ความจริงก็กอดแฟนนั่นแหล่ะ) อยู่หน้าบ้าน นับเป็นการทิ้งท้ายที่ชวนให้คนดูในสัปดาห์นั้นขบคิดและคาดเดาไปต่างๆ นาๆ ว่าคราวนี้ผู้กำกับและคนเขียนบทจะมาไม้ไหนอีก จะพลิกแพลงอะไรในนิยายเรื่องนี้อีกไหม (ซึ่งส่วนใหญ่ก็คงทำใจและปลงแล้วล่ะกับการเปลี่ยนนู่นนี่นั่นเพียงแต่จะเปลี่ยนทั้งทีขอให้มันดีๆ มีเหตุมีผลหน่อย) เสียงส่วนใหญ่ที่ได้เห็นฉากทิ้งท้ายนั้นออกตัวมาก่อนเลยว่า "ไม่โอเค" ที่ให้พ่อปุณณ์มาเห็นปุณณ์กับโน่กอดกันในสภาพแบบนั้น เหมือนกับจงใจยัดดราม่าพ่อลูก (และคนรักของลูก ..... เกย์??) เข้ามาแบบโจ่งแจ้งเกินไป ทั้งๆ ที่ตัวนิยายเองกลับไม่ได้เอาตรงนี้มาเล่นด้วยซ้ำ แต่ไปเน้นเรื่องสถานะทางสังคมของตัวพ่อ ชื่อเสียง และความคาดหวังที่มีต่อตัวปุณณ์มากกว่าแทน



อย่างไรก็ดีเมื่อ EP28 ของวันเสาร์เปิดฉากขึ้นมา ฉากกอดที่ปล่อยทิ้งไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วกลับปลิวหายไปและไม่ได้รับการกล่าวถึงอีกราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ..... อ้าววววว ก็เห็นเล่นบิ๊วท์แววดราม่ามาแต่ไกลเลยแต่มาสัปดาห์นี้กลับไม่มีอะไรซะงั้น ผมนี่งงกับทีมงานมากๆ ว่าสรุปแล้วไอ้ฉากพ่อมาเห็นลูกชายกอดกันนั้นตกลงมันจะสร้างประเด็นอะไรให้เกิดขึ้นระหว่างพ่อกับลูกหรือเปล่า (เพราะถ้ามันจะไม่เกี่ยวอะไรกับประเด็นพ่อลูกทะเลาะกันหลังจากนี้จริงๆ ก็ไม่ต้องใส่มาก็ได้ หรือถ้าจะเปลี่ยนมาเป็นพ่อลูกทะเลาะกันเพราะกลัวลูกชายจะเป็นเกย์ก็ควรเล่าฉากนั้นต่อ) แต่นี่ผู้กำกับกลับทิ้งเรื่องราวตรงนั้นไปซะงั้น โดยหวังให้คนดูไปเดาต่อเองว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น (งั้นสินะ)




ปุณณ์ - โน่ - พ่อและแม่



หากติดตามเรื่องราวในนิยายฉบับเต็มของ Love Sick มาจะพบว่าพัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่างปุณณ์และโน่นั้นจะเป็นไปในลักษณะ "ฉาบฉวยแต่ค่อยๆ เติบโตไปอย่างช้าๆ" เห็นได้จากใน season แรกที่ตีมและโทนหลักของความสัมพันธ์จะวนเวียนอยู่ที่ตัวปุณณ์และโน่กับการค้นหาและยอมรับในความรู้สึกของตัวเอง นั่นจึงเป็นสาเหตุให้คนที่ดู Love Sick ในฉบับซีรีส์มาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันจะชื่นชอบ season แรกเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพราะองค์ประกอบศิลป์ที่ยอดเยี่ยมหรือการแสดงที่ดีงาม หากแต่เป็นการที่ซีรีส์พาคนดูไปทำความรู้จักและสำรวจจิตใจกับความรู้สึกของตัวละครปุณณ์-โน่โดยไม่ได้เน้นไปที่ตัวละครแวดล้อมอื่นมากจนเกินไปนัก ซึ่งผลที่ได้คือความสำเร็จในการสร้างความรู้สึกผูกพันระหว่างคนดูกับตัวละครสองตัวเมื่อจบซีซั่นหนึ่ง

ต่อมาในซีซั่นสองครึ่งแรกที่โดนด่ายับว่าทำลายความดีงามและความเรียบง่ายของซีซั่นแรกไปจนหมดสิ้น แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วรูปแบบการเล่าเรื่องและพล๊อตหลักที่ดึงมาจากนิยายนั้นก็ไม่ได้เน้นไปที่การสำรวจความรู้สึกที่แท้จริงของตัวละครหลักแล้ว หากแต่เน้นไปที่การเก็บความรู้สึกที่มีไว้ให้ลึกที่สุดท่ามกลางผู้คนรอบข้างและเรื่องราวต่างๆ มากมาย (ที่พากันมาทดสอบอาการสาวแตกของโน่เป็นระยะๆ) พูดกันง่ายๆ คือซีซั่นหนึ่งเน้นไปที่เรื่องการยอมรับตัวเอง แต่ซีซั่นสองจุดหนึ่งจะเน้นไปที่คนรอบข้าง (มากไปหน่อย โดยเฉพาะคอนแวนต์) และการค่อยๆ เปิดเผยตัวเองต่อคนรอบข้างนั่นเอง

และมาในสองจุดสองนั้น การก้าวขึ้นมาเล่นประเด็นที่ใหญ่กว่าอย่าง "ครอบครัวและสังคม" จึงนับเป็น key point หลักที่เลี่ยงไม่ได้ที่ตัวนิยายดั้งเดิมปูเอาไว้ก่อนจะพาเรื่องราวทั้งหมดไปสู่บทสรุปในตอนสุดท้าย




พ่อ



ในนิยายเรารู้เกี่ยวกับพ่อของปุณณ์น้อยมาก รู้เพียงแต่ว่าเป็นนักการเมืองที่มีหน้ามีตาในสังคม รักลูกมากแต่ไม่มีเวลาให้กับลูก ต้องการให้ปุณณ์ได้มีแฟนที่ดีมีหน้ามีตาจนกลายเป็นต้นเหตุให้ปุณณ์ต้องขอคบโน่เป็นแฟนกลายมาเป็นที่มาของเรื่องราวทั้งหมด นี่คือสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับพ่อของปุณณ์ฉบับนิยาย แต่มาในฉบับซีรีส์ดูเหมือนว่าผู้สร้างจะดึงเอาตัวละครพ่อออกมาขยายให้ดูน่าสนใจมากขึ้น (ซึ่งก็ควรต้องเป็นอย่างนั้นเพราะพ่อนี่แหล่ะต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ออกมาทั้งทีมันต้องมีมิติหน่อย) อย่างไรก็ตามจากฉากพูดฉากแรกที่ออกมานั้นดูเหมือนว่าทีมผู้สร้างจะตีความตัวละครพ่อออกมาในมุมที่กราดเกรี้ยวและขี้เหวี่ยงมากซะเกินไปหน่อยจนอดคิดไม่ได้ว่าพ่อปุณณ์กับพ่อมาวินนี่รู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า อันที่จริงก็ไม่ผิดหากจะซีรีส์จะเพิ่มสีสันด้วยการใส่ตัวละครมาดดุแบบนี้ลงไปเพียงแต่บทเรียนที่เราได้รับจากตัวละครลักษณะนี้คือความ "โอเวอร์" ในบทและไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไรนัด ดูได้จากตัวละครพ่อของมาวินที่โอเค เราเข้าใจในเหตุและผลของนิสัยนั้นเพียงแต่แอ็คติ้งและที่มาที่ไปของตัวละครมันเลื่อนลอยไปมา ไม่สมจริงจนทำให้คนดูไม่รู้สึกอินในความดุของตัวละครพ่อแต่อย่างใด




แม่



ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกที่คิดไปเองคนเดียวหรือเปล่าแต่โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าตัวละครที่รับบทเป็นแม่ในซีรีส์นี้ ทั้งแม่ของโน่ ของมิกและล่าสุดก็ของปุณณ์นั้นแผ่รังสีประหลาดออกมาและเป็นรังสีที่มาในแนวเดียวกันเลยว่า "ฉันเป็นสาววายที่รู้สึกฟินและเต็มใจให้ลูกชายตัวเองไปมีแฟนเป็นลูกชาย" คนที่นำเทรนด์นี้มาแต่ไกลเลยก็คือแม่ของมิกที่เลี้ยงลูกออกมาซะสาวแตกประหนึ่งว่าลูกตัวเองเป็นหญิงงามดาวโรงเรียน (ให้พกสเปรย์พริกไทย .... โอ้จอร์จ!!) ตามมาอีกคนกับพิธีกรไนน์เอ็นเตอร์เทน เอ้ย! แม่ของโน่จากตอนล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากับฉากเอาขนมที่ปุณณ์ฝากไว้ขึ้นมาให้ลูก บวกกับประโยคและหน้าตาสุดฟินราวกับว่า "ฉันพบแล้ว น้องปุณณ์นี่แหล่ะลูกเขยฉัน" เอวัง! และสุดท้าย แม่ของปุณณ์กับฉากคุยกันกลางดึกในห้องครัวที่แม้จะไม่มีอะไรแสดงออกมาว่าแม่จับได้ว่าน้องโน่เป็นแฟนน้องปุณณ์แต่สายตากับคำพูดคุณแม่นี่ "แม่ฝากน้องปุณณ์ด้วยนะ" มันก็นะ ..... แหม่!!!! นี่ซ้อมไว้พูดตอนรดน้ำสังค์หรือครับ ก็เตรียมกรอกใบสมัครเข้าชมรมสาววายวัยกลางคนไปอีกคนแล้วกันนะครับ คุณแม่

แซวขำๆ นะครับ




แป้ง



กาวใจชั้นดีสำหรับคนในครอบครัวแต่มาคราวนี้กลับไม่มีความสำคัญอะไรเลยกับการดีเบตระหว่างพ่อและลูกชาย ตัวละครแป้งโดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าเวลาเธอมาอยู่ในเส้นเรื่องหลักร่วมกับปุณณ์และโน่ทีไรกลายเป็นว่าการแสดงของเธอนั้นหน่อมแน้ม เวิ่นเว้อและเด็กน้อยเกิน ต่างจากตอนไปอยู่ในเส้นเรื่องของตัวเองแบบ stand alone เป็นอย่างมาก อันที่จริงตัวละครน้องแป้ง (เพื่อน) ต้องบอกเลยว่ายิ่งนับวันยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆ แม้บทในนิยายจะไม่มีอะไรมากแต่ในซีรีส์นี่จัดเส้นเรื่องให้เธอเต็มๆ เลยและสมหวังมีคู่ไปแล้วด้วย (แม้จะแอบดราานิดๆ) นับเป็นการดีที่ทีมงานยังไม่ลืมตัวละครตัวนี้ ยังส่งบทดีๆ คำโดนๆ ให้ผ่านปากเธอบ้าง (แม้ EP ล่าสุดในฉากร้องไห้จะดูเป็นอะไรที่เมายาไปหน่อยก็ตาม)




ปุณณ์



พระเอกของเราในสัปดาห์นี้กลายร่างเป็นเด็กใจแตกที่หนีตามเมียไปหนึ่งอาทิตย์ สำหรับยอดชายนายปุณณ์ ภูมิพัฒน์ (สรุปว่าชื่อ-นามสกุลที่แท้จริงนี่คืออะไร เริ่มงง) 2EP ล่าสุดเรียกได้ว่า “ควรจะ” เป็น EP ที่ให้ปุณณ์ได้โชว์ดราม่ารวมถึงให้ไวท์ได้โชว์ทักษะการแสดงมากกว่านี้ อนิจจาทุกอย่างกลับตรงกันข้าม นอกจากประเด็นพ่อทะเลาะกับลูกจะไม่ได้รับการขับเน้นให้เข้มข้นอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว ยังออกมาอ่อนปวกเปียกไม่สมจริงอย่างยิ่งด้วยประการทั้งปวงทั้งๆ ที่สถานการณ์มันควรจะดูซีเรียสกว่านี้แต่ทำไมผมกลับรู้สึกว่าตัวละครไม่ได้มีความรู้สึกแคร์อะไรเลยกับการมีปากเสียงกับพ่อ เหมือนผู้กำกับแค่ใส่ๆ มาเพื่อให้มันตรงตามนิยายแค่นั้นแต่ไม่ขยี้เรื่องราวให้มันดูลึก และมีมิติกว่านี้ จึงนับว่าน่าเสียดายและต้องพูดกันตรงๆ หากจะบอกว่าการแสดงของไวท์ (ปุณณ์) ในสัปดาห์นี้ยังดูไม่ค่อยน่าประทับใจนัก

อย่างไรก็ตามที่ดีงามที่สุดของไวท์ในสัปดาห์นี้คือฉากนอนครับ หน้าสดๆ ของไวท์เหมาะกับอารมณ์คนงัวเงียจริงๆ




โน่



เพราะบทของโน่ในสัปดาห์นี้ขับเคลื่อนได้ด้วยแรงส่งจากเรื่องดราม่าครอบครัวของปุณณ์เป็นหลัก ดังนั้นเมื่อซีรีส์ตีโจทย์ดราม่าพ่อลูกของปุณณ์ไม่แตก ส่วนปุณณ์ (ไวท์) ก็ส่งต่ออารมณ์มาได้ไม่ดีเท่าที่ควรนัก จึงเป็นเหตุให้โน่ (กัปตัน) ของเราในสัปดาห์นี้ไร้พลังการแสดงไปด้วยอย่างน่าเสียดาย จริงๆ แล้วต้องบอกว่ากัปตันก็ทำได้ดีตามมาตรฐานแหล่ะกับบทของโน่ เพียงแต่ดราม่าในสัปดาห์นี้มันไม่ใช่สิ่งที่กัปตันจะแสดงดีคนเดียวแล้วจะพาเรื่องให้ออกมาดูดีและสมจริงได้ หากแต่ต้องอาศัยอารมณ์รับส่งจากตัวละครอื่นด้วยต่างหากจึงจะออกมาดีเยี่ยม ต้องโทษทีมงานที่ขยี้ประเด็นดราม่าพ่อลูกได้ไม่ดีเลย ทุกสิ่งอย่างโดยรอบเลยล้มตึงราวกับโดมิโน่เอฟเฟคแบบนี้



แต่เหมือนว่าทีมงานจะยังพอไถ่โทษให้คนดูได้มั่งด้วยฉากกุ๊กกิ๊กน่ารักสองต่อสองของปุณณ์และโน่ที่ใส่มาให้ฟินดูแล้วก็ยิ้มตามให้กับความน่ารักของไวท์โวและกัปตัน




โอม-มิก-ครูอาร์ม-เจมส์



กลุ่มตัวละครรองกลุ่มสุดท้ายที่ได้อภิสิทธิ์พิเศษมีในการมีเวลาเล่าเรื่องรักปนดราม่าของตัวเอง (แม้จะเวิ่นเว้อไปบ้าง) ได้นานหลายตอนในฐานะที่เป็นตัวละครเพื่อนพระเอก (โอม) อันที่จริงบทสรุปของตัวละครกลุ่มนี้ควรจะรีบๆ จบรีบๆ เคลียร์ไปได้ตั้งนานแล้วด้วยซ้ำถ้าไม่มัวแต่มาเล่นประเด็นอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของโอมกับบุคลิกปากแข็งตัวพ่อแบบนี้



อย่างไรก็ตาม ถ้าดูที่อารมณ์ตัวละครโดยทั่วๆ ไปแล้วต้องบอกเลยว่า "สะใจ" และ "ทำออกมาได้ค่อนข้างดี" ผมชอบตรงที่ระหว่างโอมกับมิกเส้นความสัมพันธ์มันดูเป็นวัยรุ่นวัยเรียนมากที่สุด (เพราะขณะที่คู่ปุณณ์โน่ก็ดูวุ่นวายมีปัญหาให้คิดแบบผู้ใหญ่เกินไป ส่วนเป้อมาวินก็เอียงไปในทางรูปแบบชายหญิง ..... ในความรู้สึกส่วนตัวผมนะ) มีซีนกุ๊กกิ๊กแบบเด็กวัยเรียน มีแอบหึง แอบหวง จนมาตอนล่าสุดที่ยกระดับเส้นเรื่องมาจริงจังเหมือนกับคู่อื่นๆ ด้วยการให้มาทะเลาะกันและตบท้ายด้วยต่างคนต่างพูดจาทำร้ายจิตใจกัน ..... เอวัง ซีรีส์นี้มันโหดร้าย



<มีต่อด้านล่างครับ ..... สัปดาห์นี้เขียนเยอะหน่อย>
ชื่อสินค้า:   Love Sick The Series Season 2
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่