งานปั่นจักรยานทางไกลที่ฝรั่งเศสงาน PBP Paris-Brest-Paris 1200 กิโลเมตรภายในเวลา 90 ชั่วโมงในปีนี้ นับเป็นครั้งแรกที่มีคนไทยไปร่วมปั่นและทำให้นานาประเทศรู้จักกับประเทศไทยมากขึ้น มีคนไทยไปปั่นในงานครั้งนี้มากถึง  74 คน และผ่านการแข่งขันโดยใช้เวลาน้อยกว่าที่กำหนดเป็นจำนวน 20 กว่าคน แม้ว่าหลาย ๆ คนจะไม่ผ่านด้วยเพราะสภาพอากาศอันโหดร้าย ทางที่เป็นเนินที่ดูจะไม่มีที่สิ้นสุด อาหารการกินที่ไม่เหมือนบ้านเรา  แต่ทุกคนได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย ไม่ว่าจะรอยยิ้ม ความเป็นระเบียบ การทำตามกฏกติกาที่วางไว้ ผมต้องขอขอบคุณที่ทุกคนได้สร้างชื่อเสียง และทำให้นานาประเทศรู้จักประเทศไทยเรื่องการปั่นจักรยานทางไกล อีกสองปีข้างหน้าประเทศไทยจะมีตัวแทนไปปั่นที่งาน LEL (London-Edinburgh-London) ที่ประเทศอังกฤษ ระยะทางกว่า 1400 กิโลเมตร ภายในเวลา 100 ชั่วโมง  โดยมีโควต้ามาก 5-10 ที่เลยทีเดียว ได้มีเทียบเชิญผ่านมาทางคุณ Bob Usher หรือลุงบ็อบ นักปั่นจักรยานทางไกลอาวุโสชาวอังกฤษที่นำทีมคนไทยบางส่วนไปปั่นในงาน PBP ที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันสนับสนุนให้เกิดโครงการดีดีแบบนี้ขึ้น ขอบคุณซันโวที่ได้มีการจัด Legs of Steel ให้นักปั่นได้มีการฝึกซ้อมก่อนไปเจอสนามจริงที่ PBP ผมได้มีประสบการณ์พูดคุยกับคนที่ไปปั่นในโครงการ PBP Paris-Brest-Paris และอยากให้ทุกท่านได้รับรู้ถึงประสบการณ์ความหฤโหด การเตรียมตัวการเตรียมพร้อมในครั้งหน้า ซึ่งผมมั่นใจว่าต้องมีบางคนที่อ่านแล้วตั้งใจแน่ว่าจะไปปั่นงาน PBP หรือ LEL อย่างแน่นอน
คุณวิเชียร งามแสง ปั่นจบด้วยเวลา 68 ชั่วโมง 49 นาที “ก่อนที่เราจะมาปั่นที่ฝรั่งเศสเราต้องผ่านการปั่นระยะ 200 300 400 และ 600 กิโลเมตร เราต้องวางแผนว่าเราจะปั่นยังไงจะโหลดอาหารยังไง ระยะไกลสุดที่เคยทำได้ก็คือจากไร่สิงห์ปาร์คเชียงราย-นครสวรรค์-เชียงราย อากาศของไทยจะร้อน มีฝนตก ฝนตกที่ไทยจะตกแรงมาก เราซ้อมแต่อากาศร้อน ๆ ฝนตก ๆ เราไม่ค่อยเจออากาศหนาว ที่เราเคยปั่นก็ 18-20 องศาก็จะเย็นสบาย ๆ แต่ที่ฝรั่งเศสเนี่ยอากาศหนาวขนาดเลขหลักเดียวในตอนค่ำ ๆ ดึก ๆ แล้วสภาพการขึ้นเขาลงเขา ช่วงก่อนที่จะเข้า Brest  ที่ 600 กิโลเมตร ผมจะปั่นตอนกลางคืนช่วงนั้นอากาศหนาวมากประมาณ 6 องศาเท่านั้นเอง  สำหรับความประทับใจก็คือ ผู้คนที่นู่นจะให้การต้อนรับนักปั่นมาก เวลาปั่นผ่านเค้าจะปรบมือ แม้ว่าดึก ๆ เที่ยงคืนก็ยังมีคนออกมาปรบมือ เค้าให้เกียรตินักกีฬามาก ๆ”

คุณวินัย ทรรทุรานนท์ ปั่นจบด้วยเวลา 86 ชั่วโมง 15 นาที “ตอนแรกเราก็วางแผนไว้ว่าเราจะปั่นไปพร้อมกันเป็นกลุ่ม แต่พอผ่านไป 50 กิโลเมตรแรกผ่านไป ความคิดก็เริ่มเปลี่ยนเพราะว่าเราเจอเนินซึม ๆ ไปเรื่อย ๆ เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด เรื่องการขี่จักรยานเวลาขึ้นเนินเราไม่สามารถจะขึ่ต่อ ๆ กันเป็นแถวได้ พอ 60 กิโลผ่านไปกลุ่มก็เริ่มแตก คนที่มีแรงน้อยก็เริ่มอยู่ด้านหลังไปเรื่อย ๆ หลังผ่านไป 4 ชั่วโมงก็เกิดอาการง่วงนอนขึ้นกับพวกเรา เราเริ่มมีตกไปข้างทางบ้าง เซไปอีกเลนก็มี ก็เลยคุยกันตัดสินใจจอดรถเพื่อที่จะนอน ตอนนั้นอุณหภูมิ 8 องศา ก็หาที่นอนก็ไปนอนกันที่ป้ายรถเมล์ นอนแผ่หรากันเลยนอนไปชั่วโมงกว่า ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีใครมาปลุกแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เพราะอากาศมันหนาวเกินไปเลยตื่นเอง ก็เลยบอกพี่ ๆ ว่าถ้าเรานอนตรงนี้เราอาจจะป่วยก็เลยปั่นกันต่อแล้วก็แยก ๆ กันไป ”

คุณ ณัฐภพ กิจวัฒนกุล ปั่นจบด้วยเวลา 83 ชั่วโมง 46 นาที “ส่วนที่โหดคือสภาพอากาศ มีเจอ 6 องศาเซลเซียส มีฝนตก ขนาดใส่เสื้อ4-5 ตัวแล้วก็ยังหนาวอยู่ ขนาดว่าผมมีเสื้อ เสื้อจักรยาน เสื้อกันลม เสื้อสะท้อนแสง เสื้อกันฝนก็ยังหนาวอยู่ ต้องยัดฟอยล์เข้าไป ฟอยล์ที่เอาไว้ห่มก็ช่วยให้อุ่นได้ อากาศที่ยุโรปก็แปรปรวนมากก็เลยได้เจอสภาพอากาศที่หลากหลาย ตอนเที่ยง ๆ อุณหภูมิแค่ 15 องศาแต่ก็กำลังสบาย ๆ แต่ตอนดึก ๆ นี่หนาวมาก และช่วงระยะ 141 กิโลเมตรสุดท้ายถือว่าเป็นเส้นทางที่ยากที่สุด เพราะเป็นการขึ้นเขามากกว่าที่ปั่นมากว่าพันกิโล แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ ”

คุณธงชัย พิศาภาค ปั่นจบด้วยเวลา 87 ชั่วโมง 54 นาที  “ตอนที่ซ้อมอยู่ที่สิงห์ปาร์ค มีจักรยานหนักแค่ 8 กิโล ก็มีพาดเฟรม เสื้อกันลม พอไปถึงนู่นก็ตั้งใจว่าจะมีแต่กระเป๋าหน้ากระเป๋าหลัง ใส่ power bank power bar แต่อุณหภูมิมันไม่ใช่เลยต้องแบกเป้ หนักอีกกว่า 5 กิโล เราก็กังวลเรื่องน้ำ ก็พกน้ำ2 ขวด ช่วงแรกคิดว่า 140 กิโลเมตรแรก น้ำ 2 ขวดจะพอมั้ย เพราะตอนอยู่ไทย แค่ 50 กิโลเมตรน้ำก็หมดแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงน้ำหมดไม่ถึงขวดเลย เพราะจิบได้นิดเดียวกินไม่ลง มือก็แห้งปากก็แตก ในตัวผมมีทั้งเสื้อ เสื้อรัดกล้ามเนื้อ ฟอยล์ แล้วก็ใส่เสื้อทับอีก เสื้อกันลม เสื้อกันหนาว รวมก็ 4 ตัว แต่พอขึ้นเขาช่วงที่มันชัน ๆ มาก ๆ ก็จะร้อนผมก็จะรูดซิบออก แต่พอเจอลมทางลงผมก็จะรูดซิบขึ้นเพื่อเก็บความร้อน จากถุงมือสั้นก็ใช้ถุงมือยาวแทน   สิ่งที่ 4 ปีข้างหน้าอยากจะแนะนำเลยคือ เราไม่ต้องแบกเยอะ เราเตรียมเงินยูโรไว้ไปตามจุด check point"

คุณจือ วิภาดา กิรานุชิตพงศ์  “เราเพิ่งได้ไป PBP Paris-Brest-Paris ครั้งแรก ตอนนี้ทาง LEL (London-Edinburgh-London) ซึ่งเป็นรายการใหญ่อีกรายการ ก็ส่งเทียบเชิญให้คุณบ็อบแล้ว ให้โควต้ามาเยอะ  5-10 คน ต้องขอบคุณนักกีฬาทุกคนรายการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จระดับนึง แต่ก็ยังต้องพัฒนาเรื่องการ service ด้วย อยากให้มีรถ service  มีการร่วมมือกับกับวิทยาศาสตร์การกีฬาเรื่องการปั่นจักรยานทางไกล แล้วตอนนี้ทางเราก็จะจัด 1000 BRM เราได้รับอนุญาติให้จัดได้ คงจัดได้เร็ว ๆ นี้ประมาณเดือนพฤศจิกายน เราต้องรีบเพราะเราต้องรีบสมัคร LEL ไม่งั้นจะเต็ม PBP รับสมัครถึง 7000 คน แต่ LEL รับแค่ 1500 คน LEL ระยะทาง 1,400 กิโลเมตร  ปี 2017 ที่ประเทศอังกฤษ