ผมชื่นชมคุณ จขกท ที่มาสอบถามเรื่องการใช้งาน เพราะหลายคนนอกจากจะไม่หาข้อมูลก่อน
แล้วยังไปแนะนำวิธีการใช้แบบผิดๆ ให้กับคนอื่นอีกด้วย โดยเฉพาะพวกเจ้าหน้าที่ขายสินค้า
อิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบันนี้แหละตัวดี

ความคิดเรื่องชาร์จเพื่อกระตุ้นแบตเตอรี 8-16 ชั่วโมงอะไรนี่น่าจะหายไปจากสังคมไทยได้แล้ว
เพราะมันเป็นเทคโนโลยีเกือบ 20 ปีมาแล้ว สมัยครั้งที่โทรศัพท์มือถือยังคงใช้แบตเตอรีแบบ
Ni-MH หรือ Ni-Cd อยู่ ซึ่งปัจจุบันแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดที่ถ้าเป็นเด็กมันก็มีลูกมีเมีย
เรียนจบปริญญาแล้วความคิดแบบนี้ก็ยังไม่หายไปสักที ผมเจอกับตัวเองทุกครั้งที่ไปเดินตาม
งานแสดงทางเทคโนโลยีต่างๆ เช่น คอมมาร์ทหรือไทยโมบายเอ็กซ์โป พนักงานขายยังคงพูด
คำพูดเดียวกับเมื่อ 20 ปีที่แล้วตอนไปผมไปซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกว่า "คุณลูกค้าอย่า
ลืมชาร์จเพื่อกระตุ้นแบตก่อน 12 ชั่วโมงนะครับบบบ"

อุแหม่...ไอ้ลูกหมา หนุ่มน้อยหน้าละอ่อนอายุน้อยกว่าผมสักสองเท่ามันไปเอาความคิดโบราณ
ขนาดนี้มาจากไหน ผมนี้ถึงขนาดหัวดำปนหัวหงอกยังทันสมัยกว่ามันเลย โทรศัพท์ที่มันขายนี่
มันสมัยยุคจรวดไปดาวพลูโตกันแล้วแต่ข้อมูลทางเทคนิคอย่างกับเทคโนโลยีสมัยสหภาพ
โซเวียตส่งกระสวยอวกาศ



แบตเตอรีสมัยนี้เขาทัยสมัยกันหมดแล้วใช้ Li-on จะชาร์จเมื่อไหร่ก็ชาร์จได้ ไม่เต็มก็เอาออกได้
อย่าปล่อยให้แบตหมดเกลี้ยงก็พอ

การเล่นไปชาร์จไปหลายคนบอกว่าเกิดความร้อนสะสมทำให้แบตเตอรีหมดอายุเร็วกว่าปกติ ถ้า
ดูข้อเท็จจริงมันก็ใช่อย่างว่าแต่ถามว่าจะมีสักกี่คนที่ทนใช้โทรศัพท์ได้จนถึงอายุเสื่อมสภาพเด็ก
สมัยนี้พอรุ่นใหม่ออกมาก็พร้อมหน้าพร้อมตาไปรูดบัตรเป็นหนี้เพื่อเอาเครื่องใหม่มาประดับบารมี
เสริมฐานะทางสังคมกันทั้งนั้นเดี๋ยวไม่ได้รับการยมอรับใหม่หมู่เพื่อนฝูง

การชาร์จทิ้งไว้นานๆ มันไม่มีปัญหาใดดอกเพราะแบตเตอรีเต็มระบบมันก็ตัดไฟก็เท่านั้น ยกเว้น
เสียแต่ว่า ท่านจะกลัวไฟฟ้าลัดวงจรระหว่างท่านนอนหลับ หากระบบมันเกิดความบกพร่อง นั่น
ก็เป็นวิจารณญาณของท่าน

เอาเป็นว่าอุปกรณ์สมัยนี้อย่าปล่อยให้แบตเตอรีหมดเกลี้ยงก็พอ

"ชาร์จเต็มแล้วถอดสาย ใช้จนแบตใกล้หมดค่อยเสียบสายชาร์จอีกที"

สุดยอดแห่งความเข้าใจผิดของมนุษย์คนไทยที่เอาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้
แบตเตอรีแบบนิกเกิลแมทเทิลไฮดราย (Ni-MH) ที่ใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาด
เล็กเมื่อกว่า 20 กว่าปีที่แล้วเอามาใช้กับอุปกรณ์ในยุคปัจจุบันนี้ที่เป็นแบตเตอรีแบบ
ลิเธียมไอออน (Li-on) กันหมดแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเครื่องใช้ไฟฟ้าของหลาย
คนจึงพังหรือแบตเตอรีเสื่อมก่อนเวลาอันสมควร เพราะความเชื่อแบบผิดๆ นี้ไม่หาย
ไปจากสังคมสักที

ไอ้พวกชาร์จกระตุ้นแบต 15, 16, 18 หรือ 24 ชั่วโมงนั่นอีก ไร้สาระมาก เทคโนโลยี
มันพัฒนาไปถึงไหนแล้ว

แบตเตอรีแบบปัจจุบันมีอายุตามไซเคิล (Cycle) ของการชาร์จ สมมติว่าวันนี้คุณใช้ไป
20% ก็เท่ากับว่าต้องชาร์จกลับเข้าไป 80% ก็นับว่าชาร์จไปแล้ว 80 พรุ่งนี้ใช้ไปเหลือ
80% ก็ชาร์จกลับเข้าไปอีก 20% รวมกับของเดิม 80 เป็น 100 พอดี แบบนี้นับว่าเป็น
1 รอบ หรือ 1 ไซเคิล

ยิ่งไซเคิลมาก ยิ่งเสื่อมมาก ฉะนั้นเหตุแห่งการแบตเตอรีเสื่อม คือ
1. ปล่อยให้แบตเตอรีหมดเกลี้ยงเป็นประจำ
2. พวกชาร์จเต็มแล้วใช้หมดแล้วชาร์จใหม่ พวกนี้ได้แบตเตอรีเสื่อมก่อนใคร เพราะใช้
แบบผิดๆ

วิธีการใช้ที่ถูกต้องคือ
1. เสียบชาร์จสม่ำเสมอเท่าที่เป็นไปได้ แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดที่ว่าไม่ยอมยกเอาไปใช้ข้าง
นอกเลยเพราะกลัวแบตเตอรีเสื่อม แบบนั้นก็ซื้อ Desktop เถิด
2. อย่าปล่อยให้แบตเตอรีหมดเกลี้ยง