อึ้ง! ครูสาวแฉนมบูดโดนกดดันหนัก ถึงขั้นอยู่ไม่ได้ต้องขอย้าย หรือลาออก !
( มาจาก
http://m.manager.co.th/Local/detail/9580000103285 เพื่อความเป็นกลางแด่สลิ่มศรี นะคะ )
น.ส.วิไลวรรณ กองนันท์ คุณครูประจำโรงเรียนบ้านน้ำลี อ.นาหมื่น จ.น่าน ซึ่งได้ขอทำเรื่องย้ายออกจากพื้นที่ หลังถูกแรงกดดัน และกระแสต่อว่าจากกลุ่มบุคคลหลายฝ่ายว่า สร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ ทำให้ทุกฝ่ายต้องวุ่นวายทำเอกสาร ชี้แจงหน่วยงานต่างๆ กันทุกวัน
โดย น.ส.วิไลวรรณ ระบุถึงขั้นที่ว่าหากโยกย้ายไม่ได้ ก็จะขอลาออก เนื่องจากเห็นการทำงานต่อไปในอนาคตคงยากที่จะได้รับความร่วมมือ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตการศึกษาน่าน เขต 1 บอกว่า จะเข้าพื้นที่สอบถามข้อมูล และประเมินสถานการณ์ หากรุนแรงก็จะทำการโยกย้ายเพื่อลดกระแสก่อน แต่หากยังพอประนีประนอมได้ก็จะพิจารณาช่วยเหลือให้มาอยู่ในพื้นที่เหมาะสมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางเขตพื้นที่การศึกษาน่านเขต 1 ขอชื่นชมคุณครูที่นำเรื่องนมบูดดังกล่าวออกมาเปิดเผยสู่สังคม เป็นเสียงสะท้อนจากครูโรงเรียนเล็กๆ จนนำไปสู่การแก้ไขที่ดีขึ้นในระดับประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นผลดีต่อเด็กนักเรียนทุกคน และเตรียมมอบใบประกาศเป็นครูดีเด่น
...................................................... เชิญอ่านใจความได้ในลิงค์ที่แนบมานะคะ ................................................................
น่าสงสารคุณครูใจกล้าท่านนี้มากๆเลยค่ะ ที่กล้านำความจริงมาเปิดเผย
แต่ก็เหมือนกับเวลา นี้ห้ามพูดเรื่องจริงมากไป
ขนาดในห้องราชดำเนินเอง การพูดความจริงยังอยู่ยาก
ระบบข้าราชการไทย นั้นเรื่องแบบนี้ถ้าไม่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แล้วก็จะโดนกดดันจนอยู่ไม่ได้เป็นประจำ
ปอลอ. อ่าน คห. ด้านล่างๆในลิงค์ ชอบอันที่บอกว่า ควรใช้ ม.44
เรื่องนมโรงเรียนบูด ผิดที่ระบบข้าราชการไทยไหมคะ???byน้องมุก( ไม่มีกี้ ) ค่ะ
( มาจาก http://m.manager.co.th/Local/detail/9580000103285 เพื่อความเป็นกลางแด่สลิ่มศรี นะคะ )
น.ส.วิไลวรรณ กองนันท์ คุณครูประจำโรงเรียนบ้านน้ำลี อ.นาหมื่น จ.น่าน ซึ่งได้ขอทำเรื่องย้ายออกจากพื้นที่ หลังถูกแรงกดดัน และกระแสต่อว่าจากกลุ่มบุคคลหลายฝ่ายว่า สร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ ทำให้ทุกฝ่ายต้องวุ่นวายทำเอกสาร ชี้แจงหน่วยงานต่างๆ กันทุกวัน
โดย น.ส.วิไลวรรณ ระบุถึงขั้นที่ว่าหากโยกย้ายไม่ได้ ก็จะขอลาออก เนื่องจากเห็นการทำงานต่อไปในอนาคตคงยากที่จะได้รับความร่วมมือ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตการศึกษาน่าน เขต 1 บอกว่า จะเข้าพื้นที่สอบถามข้อมูล และประเมินสถานการณ์ หากรุนแรงก็จะทำการโยกย้ายเพื่อลดกระแสก่อน แต่หากยังพอประนีประนอมได้ก็จะพิจารณาช่วยเหลือให้มาอยู่ในพื้นที่เหมาะสมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางเขตพื้นที่การศึกษาน่านเขต 1 ขอชื่นชมคุณครูที่นำเรื่องนมบูดดังกล่าวออกมาเปิดเผยสู่สังคม เป็นเสียงสะท้อนจากครูโรงเรียนเล็กๆ จนนำไปสู่การแก้ไขที่ดีขึ้นในระดับประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นผลดีต่อเด็กนักเรียนทุกคน และเตรียมมอบใบประกาศเป็นครูดีเด่น
...................................................... เชิญอ่านใจความได้ในลิงค์ที่แนบมานะคะ ................................................................
น่าสงสารคุณครูใจกล้าท่านนี้มากๆเลยค่ะ ที่กล้านำความจริงมาเปิดเผย
แต่ก็เหมือนกับเวลา นี้ห้ามพูดเรื่องจริงมากไป
ขนาดในห้องราชดำเนินเอง การพูดความจริงยังอยู่ยาก
ระบบข้าราชการไทย นั้นเรื่องแบบนี้ถ้าไม่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แล้วก็จะโดนกดดันจนอยู่ไม่ได้เป็นประจำ
ปอลอ. อ่าน คห. ด้านล่างๆในลิงค์ ชอบอันที่บอกว่า ควรใช้ ม.44